กรีนพีซ วิกิพีเดีย

Leo Migdal
-
กรีนพีซ วิกิพีเดีย

กรีนพีซ (อังกฤษ: Greenpeace) เป็นองค์การสาธารณประโยชน์ (NGO) นานาชาติ[3] ที่ดำเนินกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและสันติภาพ ก่อตั้งในประเทศแคนาดาเมื่อ พ.ศ. 2514 กรีนพีซเป็นสมาชิกริเริ่มของกฎบัตรความรับผิดชอบขององค์กรพัฒนาเอกชนระหว่างประเทศ[4] และมีสถานะที่ปรึกษาทั่วไปของคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ[5] กรีนพีซไม่สนับสนุนการทดลองนิวเคลียร์ในชั้นบรรยากาศ และการล่าปลาวาฬในทะเลเปิด ในปัจจุบันกรีนพีซสากลได้งานรณรงค์ต่าง ๆ ได้แก่ การปกป้องมหาสมุทร เช่น การใช้อวนลากที่พื้นทะเล การจับปลาผิดกฎหมาย การจับปลามากเกินไป เป็นต้น การต่อต้านการดัดแปลงพันธุกรรม หรือ จีเอ็มโอ การหยุดยั้งสารพิษ การยุติแห่งพลังงานนิวเคลียร์ และ การปกป้องผืนป่าโบราณ และการหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ภาวะโลกร้อน) ปัจจุบัน กรีนพีซมีสำนักงานประจำประเทศและภูมิภาค อยู่ใน 41 ประเทศทั่วโลก โดยทุกสำนักงานจะทำงานร่วมกับ กรีนพีซสากล (Greenpeace International) ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ชื่อที่ใช้ดำเนินการในประเทศไทยคือ มูลนิธิเพื่อสันติภาพเขียว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกรีนพีชเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีสำนักงานอยู่ 4 ประเทศคือ ประเทศไทย ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศอินโดนีเซีย และ ประเทศมาเลเซีย องค์การมีรายได้จากเงินบริจาคจากผู้สนับสนุนทางการเงินรายบุคคลทั่วไป ซึ่งมีอยู่ประมาณ 3 ล้านรายทั่วโลก[6] รวมทั้งเงินอุดหนุนจากองค์กรการกุศลต่าง ๆ แต่ไม่รับเงินช่วยเหลือจากธุรกิจหรือรัฐบาลใด[7] ยานพาหนะที่กลุ่มกรีนพีซใช้เดินทางไปทั่วโลก คือเรือแอมโซลิฟิโกพาลิม เรือที่กรีนพีซเป็นเจ้าของเรือเดินสมุทรอยู่ 3 ลำ แต่ลำที่มีชื่อเสียงที่สุดชื่อ เรนโบว์ วอร์ริเออร์ (Rainbow Warrior เรือนักรบสายรุ้ง) ลำที่ใช้ในปัจจุบันเป็นลำที่สอง กรีนพีซขึ้นชื่อสำหรับการปฏิบัติโดยตรง (direct action)[8][9] และมีการอธิบายว่าเป็นองค์การสิ่งแวดล้อมที่เด่นชัดที่สุดในโลก[10][11] กรีนพีซยังเป็นที่มาของกรณีพิพาท[12] แรงจูงใจและวิธีการขององค์การได้รับเสียงวิจารณ์[13][14] และการปฏิบัติโดยตรงขององค์การทำให้เกิดการฟ้องดำเนินคดีต่อนักเคลื่อนไหวกรีนพีซ[15][16] เช่น การปรับและคำพิพากษารอการลงโทษจากการทำลายแปลงทดลองข้าวสาลีจีเอ็มโอ[17][18][19]

พ.ศ. 2514 กลุ่มนักกิจกรรมกลุ่มเล็กๆ จากเมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากวิสัยทัศน์แห่งโลกที่น่าอยู่ มีสิ่งแวดล้อมที่ดีและมีสันติสุข ได้แล่นเรือหาปลาเก่าๆ ออกจากแวนคูเวอร์ แคนาดา ภายหลังพวกเขากลายเป็นผู้ก่อตั้งกรีนพีซ ซึ่งเชื่อว่าคนธรรมดาสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ ภารกิจของพวกเขาคือการเป็น “ประจักษ์พยาน” ในการทดลองนิวเคลียร์ใต้มหาสมุทรที่เกาะอัมชิตกา เกาะเล็กๆนอกชายฝั่งตะวันตกของรัฐอลาสก้า สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหวมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ถึงแม้ว่าเรือเก่าๆ ของพวกเขา ถูกขัดขวางก่อนที่จะไปถึงอัมชิตกา แต่การเดินทางครั้งนี้จุดประกายความสนใจของสาธารณชน แม้ว่าสหรัฐอเมริกายังคงทดลองระเบิดนิวเคลียร์อย่างหนักหน่วง แต่ก็มีผู้ได้ยินและรับรู้แล้ว การทดลองนิวเคลียร์ที่อัมชิตกาจึงสิ้นสุดลงในปีเดียวกัน และเกาะแห่งนั้นได้ถูกประกาศให้เป็นเขตสงวนของนกทั้งหลาย กรีนพีซเป็นองค์กรรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นอิสระในระดับโลก มีสำนักงาน 26 แห่งทั่วโลกใน 55 ประเทศและมีผู้บริจาคที่สนับสนุนการทำงาน ของเราอีกกว่าสามล้านคน

กรีนพีซเป็นเครือข่ายรณรงค์อิสระระดับโลก ก่อตั้งขึ้นในแคนาดาในปี พ.ศ. 2514 โดยกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมกรีนพีซระบุว่าเป้าหมายคือ "สร้างหลักประกันว่าโลกจะสามารถหล่อเลี้ยงชีวิตในความหลากหลายได้ " [3]และมุ่งเน้นการรณรงค์ในประเด็นต่างๆ ทั่วโลก เช่นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศการตัดไม้ทำลายป่าการประมง เกินขนาด การ ล่าวาฬเชิงพาณิชย์ การดัดแปลงพันธุกรรมการต่อต้านสงคราม [ 4]และประเด็นต่อต้านนิวเคลียร์[5] เครือข่าย ใช้ การลงมือ ปฏิบัติโดยตรงการสนับสนุนการวิจัยและการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม[6]เพื่อบรรลุเป้าหมาย เครือข่ายประกอบด้วยองค์กรอิสระระดับชาติ/ระดับภูมิภาค 26 องค์กร ในกว่า 55 ประเทศทั่วยุโรป อเมริกา แอฟริกา เอเชีย ออสเตรเลีย และแปซิฟิก รวมถึงองค์กรประสานงาน กรีนพีซ อินเตอร์เนชั่นแนล ตั้งอยู่ที่เมืองอัมสเตอร์ดัมประเทศเนเธอร์แลนด์[7] เครือข่ายทั่วโลกไม่รับเงินทุนจากรัฐบาล บริษัท หรือพรรคการเมือง โดยอาศัยผู้สนับสนุนรายบุคคลและเงินช่วยเหลือจากมูลนิธิจำนวนสามล้านคน[8] [9]กรีนพีซมีสถานะที่ปรึกษาทั่วไปกับคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ[10]และเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้ง[11]ของกฎบัตรความรับผิดชอบของ INGOซึ่งเป็นองค์กรนอกภาครัฐระหว่างประเทศที่ตั้งใจจะส่งเสริมความรับผิดชอบและความโปร่งใสขององค์กรนอกภาครัฐ กรีนพีซเป็นที่รู้จักในเรื่องการดำเนินการโดยตรงที่ไม่ใช้ความรุนแรง และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก[12] องค์กร ได้นำประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมมาสร้างความตระหนักและความรู้ให้กับสาธารณชน[13] [14] [15]และมีอิทธิพลต่อทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ[16] [17]องค์กรนี้ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ โดยเป็นประเด็นในจดหมายเปิดผนึกจากผู้ได้รับรางวัลโนเบลกว่า 100 คน เรียกร้องให้กรีนพีซยุติการรณรงค์ต่อต้านสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม (GMOs) [18] การกระทำโดยตรงขององค์กรได้ก่อให้เกิดการดำเนินคดีทางกฎหมายต่อกรีนพีซเองและนักเคลื่อนไหว ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2568 คณะลูกขุนเก้าคนจากรัฐนอร์ทดาโคตาตัดสินให้กรีนพีซต้องรับผิดต่อความเสียหายและค่าหมิ่นประมาทมากกว่า 660 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการประท้วง Standing Rockต่อต้านโครงการท่อส่งน้ำมันดาโคตาแอคเซ ส ระหว่างปี พ.ศ.

2559 ถึง พ.ศ. 2560 [19] [20]นอกจากนี้ นักเคลื่อนไหวยังได้รับค่าปรับและโทษจำคุกรอลงอาญาจากการทำลายแปลงทดลองข้าวสาลีดัดแปลงพันธุกรรม[21] [22] [23]และตาม คำตัดสินของอัยการ รัฐบาลเปรูและศาลในการทำลายเส้นนาซกาซึ่งเป็นมรดกโลกขององค์การสหประชาชาติ[24] ในช่วงปลายทศวรรษ 1960 สหรัฐอเมริกาได้วางแผน การทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ใต้ดิน CannikinบนเกาะAmchitkaในรัฐอลาสกา ซึ่งมีสภาพทางธรณีวิทยาที่ไม่มั่นคง แผนดังกล่าวก่อให้เกิดความกังวลว่าการทดสอบจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวและสึนามิประชาชนราว 7,000 คน[25] ได้ปิด กั้นจุดผ่านแดน Peace Archระหว่างรัฐบริติชโคลัมเบียและรัฐวอชิงตัน[26]โดยถือป้ายที่มีข้อความว่า "Don't Make A Wave. It's Your Fault If Our Fault Goes" [27]และ "Stop My Ark's Not Finished" การประท้วงไม่ได้หยุดยั้งสหรัฐอเมริกาจากการจุดชนวนระเบิด[27] กรีนพีซ (อังกฤษ: Greenpeace) เป็นองค์การสาธารณประโยชน์ (NGO) นานาชาติ[3] ที่ดำเนินกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและสันติภาพ ก่อตั้งในประเทศแคนาดาเมื่อ พ.ศ. 2514 กรีนพีซเป็นสมาชิกริเริ่มของกฎบัตรความรับผิดชอบขององค์กรพัฒนาเอกชนระหว่างประเทศ[4] และมีสถานะที่ปรึกษาทั่วไปของคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ[5]

กรีนพีซไม่สนับสนุนการทดลองนิวเคลียร์ในชั้นบรรยากาศ และการล่าปลาวาฬในทะเลเปิด ในปัจจุบันกรีนพีซสากลได้งานรณรงค์ต่าง ๆ ได้แก่ การปกป้องมหาสมุทร เช่น การใช้อวนลากที่พื้นทะเล การจับปลาผิดกฎหมาย การจับปลามากเกินไป เป็นต้น การต่อต้านการดัดแปลงพันธุกรรม หรือ จีเอ็มโอ การหยุดยั้งสารพิษ การยุติแห่งพลังงานนิวเคลียร์ และ การปกป้องผืนป่าโบราณ และการหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ภาวะโลกร้อน) ปัจจุบัน กรีนพีซมีสำนักงานประจำประเทศและภูมิภาค อยู่ใน 41 ประเทศทั่วโลก โดยทุกสำนักงานจะทำงานร่วมกับ กรีนพีซสากล (Greenpeace International) ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ชื่อที่ใช้ดำเนินการในประเทศไทยคือ มูลนิธิเพื่อสันติภาพเขียว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกรีนพีชเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีสำนักงานอยู่ 4 ประเทศคือ ประเทศไทย ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศอินโดนีเซีย และ ประเทศมาเลเซีย องค์การมีรายได้จากเงินบริจาคจากผู้สนับสนุนทางการเงินรายบุคคลทั่วไป ซึ่งมีอยู่ประมาณ 3 ล้านรายทั่วโลก[6] รวมทั้งเงินอุดหนุนจากองค์กรการกุศลต่าง ๆ แต่ไม่รับเงินช่วยเหลือจากธุรกิจหรือรัฐบาลใด[7] ยานพาหนะที่กลุ่มกรีนพีซใช้เดินทางไปทั่วโลก คือเรือแอมโซลิฟิโกพาลิม เรือที่กรีนพีซเป็นเจ้าของเรือเดินสมุทรอยู่ 3 ลำ แต่ลำที่มีชื่อเสียงที่สุดชื่อ เรนโบว์ วอร์ริเออร์ (Rainbow Warrior เรือนักรบสายรุ้ง) ลำที่ใช้ในปัจจุบันเป็นลำที่สอง กรีนพีซขึ้นชื่อสำหรับการปฏิบัติโดยตรง (direct action)[8][9] และมีการอธิบายว่าเป็นองค์การสิ่งแวดล้อมที่เด่นชัดที่สุดในโลก[10][11] กรีนพีซยังเป็นที่มาของกรณีพิพาท[12] แรงจูงใจและวิธีการขององค์การได้รับเสียงวิจารณ์[13][14] และการปฏิบัติโดยตรงขององค์การทำให้เกิดการฟ้องดำเนินคดีต่อนักเคลื่อนไหวกรีนพีซ[15][16] เช่น การปรับและคำพิพากษารอการลงโทษจากการทำลายแปลงทดลองข้าวสาลีจีเอ็มโอ[17][18][19] กรีนพีซดำรงอยู่เป็นพลังเสียงให้กับโลกอันเปราะบางนี้ โลกต้องมีทางออกที่ยั่งยืน เราทุกคนมีส่วนสร้างการเปลี่ยนแปลงด้วยการลงมือทำ กรีนพีซเป็นองค์กรรณรงค์อิสระระดับโลกที่ลงมือทำเพื่อเปลี่ยนแปลงทัศนคติ และพฤติกรรม ปกป้องสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมสันติภาพ เราเชื่อในพลังของคนธรรมดาที่จะเป็นพลังมวลชนที่แท้จริงในการปกป้องสิ่งแวดล้อม เราเชื่อว่าถ้าเราร่วมมือกัน เราจะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ให้แก่สิ่งแวดล้อมได้

สนธิสัญญาพลาสติกโลกฉบับนี้จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโลก โดยเฉพาะมลพิษทางสิ่งแวดล้อมที่นับวันมีแต่จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เราขอเรียกร้องให้เกิดสนธิสัญญาที่มีความมุ่งมั่นและทะเยอทะยาน เพื่อลดการผลิตและการใช้พลาสติกอย่างเป็นรูปธรรม ไทยเป็นประเทศอันดับต้นๆของโลกที่มีความเสี่ยงสูงต่อวิกฤตสภาพภูมิอากาศ รัฐสภาซึ่งเป็นที่ประชุมระดับชาติของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ต้องเป็นผู้นำประกาศ “ภาวะฉุกเฉินสภาพภูมิอากาศ (climate emergency declaration)” กิจกรรม อาบป่า Supporter Event 2025 : Forest therapy ณ สวนรถไฟ กรุงเทพฯ เมื่องานนี้จัดขึ้นเพื่อ “ขอบคุณ” ผู้สนับสนุนกรีนพีซทุกท่าน ทั้งผู้บริจาค อาสาสมัคร ตลอดจนทีมงานของเรา “ทำให้เป็น greenpeace” ประโยคนี้เป็นประโยคแรกที่ถูกกล่าวขึ้นในแวนคูเวอร์ ปี 2513 หลังการประชุมของคณะทำงาน “Don’t Make a Wave” ได้ข้อสรุปว่าจะส่งเรือไปยังหมู่เกาะอัมชิตกา เพื่อประท้วงการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกา ท่ามกลางเสียงขานรับด้วยความยินดีของเหล่าบุปผาชนในช่วงเวลานั้น แม้ว่าในตอนนั้นพวกเขาจะไม่มีเรือเป็นของตัวเอง ไม่มีเงินทุนที่จะซื้อหรือแม้แต่ทักษะการเดินเรือด้วยซ้ำ หนึ่งปีต่อมา ในวันที่ 15 กันยายน 2514 ป้ายผ้าคำว่า “กรีนพีซ” ถูกขึงบนสะพานเรือฟิลิส คอร์แมก เรือลำนี้ออกเดินทางจากแวนคูเวอร์ มุ่งหน้าสู่อัมชิตกาเพื่อเป็น “ประจักษ์พยาน ณ จุดที่มีการระเบิด อาวุธนิวเคลียร์” โดยที่ยังมีความไม่แน่นอนว่าเงินทุนที่ระดมมาจะเพียงพอต่อปฏิบัติการนี้หรือไม่ และทักษะการเดินเรือจะมีมากพอหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 6 พฤศจิกายน ขณะที่เรือ “กรีนพีซ” ยังเดินทางไปไม่ถึง การทดลองระเบิดนิวเคลียร์ใต้มหาสมุทรได้เกิดขึ้นหมู่เกาะสั่นสะเทือนและเกิดรอยแยก รังสีอันตรายแพร่กระจายออกสู่สิ่งแวดล้อม นี่คือหนึ่งใน ‘ภาพถ่ายที่ทรงพลัง’ ภาพแรก ๆ ที่เกิดขึ้น เราคิดว่าภาพเหล่านี้ทรงพลังมากพอที่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมต่อความคิดผู้คน ภาพถ่ายเหล่านี้ทำหน้าที่สื่อสารความกล้าหาญและเล่าเรื่องอันทรงพลังของลูกเรือ จุดประกายการประท้วงของมวลชนต่อการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ใต้มหาสมุทรที่จะมีขึ้นอีกจนคณะกรรมาธิการพลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกาจำต้องประกาศยุติโครงการที่หมู่เกาะเกาะอัมชิตกาด้วย ‘เหตุผลทางการเมืองและเหตุผลอื่น ๆ’ นับเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่สำหรับ ‘ความกล้าที่จะออกมาปกป้อง’ การรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมสืบเนื่องมาตั้งแต่ในยุค 60 เริ่มแรกจากประท้วงของนักศึกษาเพื่อยุติสงคราม และอาวุธนิวเคลียร์ เป็นช่วงขบวนการบุปผาชนกำลังเบ่งบาน ผู้คนตระหนักถึงการดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมคือบ้านของเราที่ต้องปกป้อง นับจากวันนั้น กรีนพีซได้ถือกำเนิดและทำงานร่วมกับผู้สนับสนุน และอาสาสมัครทั่วโลกนับหมื่นคนจากหลากหลายวัฒนธรรมและภูมิหลังทางสังคม ในปี 2543 กรีนพีซตั้งสำนักงานที่กรุงเทพฯ และกรุงมะนิลา (ฟิลิปปินส์) ในนาม ‘กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Greenpeace Southeast Asia – GPSEA) ขณะนั้น เป็นกลุ่มคนเล็กๆ ที่ร่วมกันสร้างอนาคตที่ปลอดมลพิษในภูมิภาคนี้ ในสองทศวรรษแรก กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประสบความสำเร็จในงานรณรงค์มากมายและยังได้ทำงานเคียงข้างกับชุมชนท้องถิ่นเพื่อยุติโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ไทยและฟิลิปปินส์ การต่อกรกับการทำลายป่าที่อินโดนีเซีย เปิดโปงการค้าขยะพิษที่มาเลเซีย และริเริ่มการตรวจสอบประเด็นความเป็นธรรมทางสภาพภูมิอากาศและการชดเชยความเสียหายที่ฟิลิปปินส์ นับเป็นการเดินทางอันยาวนานและเต็มไปด้วยสีสัน ล่าสุดผู้ก่อตั้งกรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้กลับมาพบกันอีกครั้งเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีกรีนพีซ

“ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก” วอน เฮอร์นันเดซ ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านสารพิษคนแรกในเอเชีย และอดีตผู้อำนวยการบริหาร กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าว เขาจำได้ว่าในตอนแรกมีคนเตือนให้ระวังกรีนพีซ วอนเล่าว่า “เราถูกมองว่าเป็นพวกกลุ่มนักกิจกรรมที่เข้ามาแทรกแซงแล้วจากไปอย่างรวดเร็ว” แต่ทีมงานของกรีนพีซตระหนักดีว่า มีความสำคัญมากที่การทำงานรณรงค์ต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ต้องทำงานเคียงข้างกับแนวร่วมในพื้นที่ และทำให้เสียงของชุมชนดังขึ้น ในช่วงต้นๆ กรีนพีซจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทักษะ และสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มชุมชนและองค์กรในพื้นที่ เพื่อให้มันใจว่าทุกคนอยู่ในจุดเดียวกัน และมุ่งมั่นปกป้องสิ่งแวดล้อมร่วมกัน ถึงเวลาแล้วที่เหล่าผู้นำทั่วโลกจะต้องร่วมมือกันผลักดันให้เกิดสนธิสัญญาพลาสติกโลกที่เข้มแข็ง และเสียงของคุณมีความหมาย ร่วมลงชื่อสนับสนุนเพื่อให้สนธิสัญญาพลาสติกโลกเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการ หยุดวิกฤตมลพิษพลาสติกตั้งแต่ต้นทาง! ลงชื่อสนับสนุนการสร้าง “ทะเลชุมชน” หรือพื้นที่คุ้มครองทางทะเลที่ชุมชนเป็นผู้นำ (Community-led marine protected areas) และปกป้องสิทธิของชุมชนชายฝั่งที่กำลังได้รับผลกระทบจากทั้งวิกฤตสภาพภูมิอากาศ มลพิษจากอุตสาหกรรม และประมงทำลายล้าง ท้องถิ่นภาคเหนือรวมตัว ชวนคิดข้อเสนอนโยบายในงาน People’s Policy Hub อดบ่ไหว แก้ไขสักกำเต๊อะ : คนเหนือชวนคิดนโยบายแก้ฝุ่นพิษ PM2.5 ภายใต้ความถูกและเร็ว ของอุตสาหกรรมฟาสต์แฟชั่น คือห่วงโซ่ที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงที่ผู้บริโภคต้อง ‘รับ’ โดยไม่รู้ตัว2-7 ธันวาคม 2568📍หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร(BACC) เราทำงานเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนและเป็นธรรมในประเทศไทย ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโลก

People Also Search

กรีนพีซ (อังกฤษ: Greenpeace) เป็นองค์การสาธารณประโยชน์ (NGO) นานาชาติ[3] ที่ดำเนินกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและสันติภาพ ก่อตั้งในประเทศแคนาดาเมื่อ พ.ศ. 2514

กรีนพีซ (อังกฤษ: Greenpeace) เป็นองค์การสาธารณประโยชน์ (NGO) นานาชาติ[3] ที่ดำเนินกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและสันติภาพ ก่อตั้งในประเทศแคนาดาเมื่อ พ.ศ. 2514 กรีนพีซเป็นสมาชิกริเริ่มของกฎบัตรความรับผิดชอบขององค์กรพัฒนาเอกชนระหว่างประเทศ[4] และมีสถานะที่ปรึกษาทั่วไปของคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ[5] กรีนพีซไม่สนับสนุนการทดลองนิวเคลียร์ในชั้นบรรยากาศ และการล่าปลาวาฬในทะเลเปิด ในปัจจุบันกรีนพีซ...

พ.ศ. 2514 กลุ่มนักกิจกรรมกลุ่มเล็กๆ จากเมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากวิสัยทัศน์แห่งโลกที่น่าอยู่ มีสิ่งแวดล้อมที่ดีและมีสันติสุข ได้แล่นเรือหาปลาเก่าๆ ออกจากแวนคูเวอร์ แคนาดา

พ.ศ. 2514 กลุ่มนักกิจกรรมกลุ่มเล็กๆ จากเมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากวิสัยทัศน์แห่งโลกที่น่าอยู่ มีสิ่งแวดล้อมที่ดีและมีสันติสุข ได้แล่นเรือหาปลาเก่าๆ ออกจากแวนคูเวอร์ แคนาดา ภายหลังพวกเขากลายเป็นผู้ก่อตั้งกรีนพีซ ซึ่งเชื่อว่าคนธรรมดาสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ ภารกิจของพวกเขาคือการเป็น “ประจักษ์พยาน” ในการทดลองนิวเคลียร์ใต้มหาสมุทรที่เกาะอัมชิตกา เกาะเล็กๆนอกชายฝั่งตะวันตกของรั...

กรีนพีซเป็นเครือข่ายรณรงค์อิสระระดับโลก ก่อตั้งขึ้นในแคนาดาในปี พ.ศ. 2514 โดยกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมกรีนพีซระบุว่าเป้าหมายคือ "สร้างหลักประกันว่าโลกจะสามารถหล่อเลี้ยงชีวิตในความหลากหลายได้ " [3]และมุ่งเน้นการรณรงค์ในประเด็นต่างๆ ทั่วโลก เช่นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศการตัดไม้ทำลายป่าการประมง

กรีนพีซเป็นเครือข่ายรณรงค์อิสระระดับโลก ก่อตั้งขึ้นในแคนาดาในปี พ.ศ. 2514 โดยกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมกรีนพีซระบุว่าเป้าหมายคือ "สร้างหลักประกันว่าโลกจะสามารถหล่อเลี้ยงชีวิตในความหลากหลายได้ " [3]และมุ่งเน้นการรณรงค์ในประเด็นต่างๆ ทั่วโลก เช่นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศการตัดไม้ทำลายป่าการประมง เกินขนาด การ ล่าวาฬเชิงพาณิชย์ การดัดแปลงพันธุกรรมการต่อต้านสงคราม [ 4]และประเด็นต่อต้านนิวเคลีย...

2559 ถึง พ.ศ. 2560 [19] [20]นอกจากนี้ นักเคลื่อนไหวยังได้รับค่าปรับและโทษจำคุกรอลงอาญาจากการทำลายแปลงทดลองข้าวสาลีดัดแปลงพันธุกรรม[21] [22] [23]และตาม คำตัดสินของอัยการ

2559 ถึง พ.ศ. 2560 [19] [20]นอกจากนี้ นักเคลื่อนไหวยังได้รับค่าปรับและโทษจำคุกรอลงอาญาจากการทำลายแปลงทดลองข้าวสาลีดัดแปลงพันธุกรรม[21] [22] [23]และตาม คำตัดสินของอัยการ รัฐบาลเปรูและศาลในการทำลายเส้นนาซกาซึ่งเป็นมรดกโลกขององค์การสหประชาชาติ[24] ในช่วงปลายทศวรรษ 1960 สหรัฐอเมริกาได้วางแผน การทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ใต้ดิน CannikinบนเกาะAmchitkaในรัฐอลาสกา ซึ่งมีสภาพทางธรณีวิทยาที่ไม่มั่นคง แผนดังกล่าวก...

กรีนพีซไม่สนับสนุนการทดลองนิวเคลียร์ในชั้นบรรยากาศ และการล่าปลาวาฬในทะเลเปิด ในปัจจุบันกรีนพีซสากลได้งานรณรงค์ต่าง ๆ ได้แก่ การปกป้องมหาสมุทร เช่น การใช้อวนลากที่พื้นทะเล การจับปลาผิดกฎหมาย การจับปลามากเกินไป

กรีนพีซไม่สนับสนุนการทดลองนิวเคลียร์ในชั้นบรรยากาศ และการล่าปลาวาฬในทะเลเปิด ในปัจจุบันกรีนพีซสากลได้งานรณรงค์ต่าง ๆ ได้แก่ การปกป้องมหาสมุทร เช่น การใช้อวนลากที่พื้นทะเล การจับปลาผิดกฎหมาย การจับปลามากเกินไป เป็นต้น การต่อต้านการดัดแปลงพันธุกรรม หรือ จีเอ็มโอ การหยุดยั้งสารพิษ การยุติแห่งพลังงานนิวเคลียร์ และ การปกป้องผืนป่าโบราณ และการหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ภาวะโลกร้อน) ปัจจุบัน กร...