กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้อนรับ ลีโอ ฮอร์น พัธโนทัย ผู้นําด้านก

Leo Migdal
-
กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้อนรับ ลีโอ ฮอร์น พัธโนทัย ผู้นําด้านก

กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย – กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้อนรับ ลีโอ ฮอร์น พัธโนทัย สู่คณะกรรมการบริหารขององค์กร โดยลีโอเป็นผู้นำที่ได้รับการยอมรับในด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนและธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ มีประสบการณ์กว่า 20 ปี ในการทำงานร่วมกับภาครัฐ ภาคประชาสังคม และองค์กรระดับโลก เพื่อขับเคลื่อนแนวทางแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาอย่างเท่าเทียม “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมทำงานกับกรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงเวลาที่ภูมิภาคของเรากำลังเผชิญกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศโดยตรง” ลีโอ ฮอร์น พัธโนทัย กล่าว “ความท้าทายที่อยู่ตรงหน้า ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไปจนถึงการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ล้วนต้องอาศัยความกล้าหาญ ความคิดสร้างสรรค์ และความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของสังคม ผมพร้อมที่จะสนับสนุนและผลักดันการทำงานของกรีนพีซในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ และสร้างความเป็นธรรมทางสภาพภูมิอากาศให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง” ล่าสุด ลีโอเป็นผู้นำในการจัดงาน Bangkok Climate Week (BKKCAW) ครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นเวทีระดับภูมิภาคที่รวบรวมภาคกลุ่มผู้กำหนดนโยบาย ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคมมาร่วมกันเพื่อเร่งขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนหน้านั้น เขาดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการอาวุโสที่สถาบันทรัพยากรโลก (World Resources Institute: WRI) เป็นเวลากว่า 10 ปี โดยมีบทบาทสำคัญในการสร้างความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ และระดมทุนกว่า 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อผลักดันความก้าวหน้าระดับโลกด้านความยั่งยืนและความเท่าเทียม ลีโอยังเคยดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่อาวุโสในองค์การสหประชาชาติ ธนาคารโลก (World Bank) และกระทรวงการพัฒนาระหว่างประเทศของสหราชอาณาจักร ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งประธานด้านนวัตกรรมและความยั่งยืนที่บริษัท Strategy613 นอกจากนี้ ลีโอยังเป็น ศาสตราจารย์ด้านการปฏิบัติการ (Professor of Practice) ที่ School of Oriental and African Studies (SOAS) ในเครือของมหาวิทยาลัยลอนดอน เป็นที่ปรึกษาอาวุโสของบริษัท Systemiq และ นักวิจัยสมทบของสถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสถาบันสิ่งแวดล้อมสตอกโฮล์ม เอเชีย (Stockholm Environment Institute... ถึงเวลาแล้วที่เหล่าผู้นำทั่วโลกจะต้องร่วมมือกันผลักดันให้เกิดสนธิสัญญาพลาสติกโลกที่เข้มแข็ง และเสียงของคุณมีความหมาย ร่วมลงชื่อสนับสนุนเพื่อให้สนธิสัญญาพลาสติกโลกเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการ หยุดวิกฤตมลพิษพลาสติกตั้งแต่ต้นทาง!

ลงชื่อสนับสนุนการสร้าง “ทะเลชุมชน” หรือพื้นที่คุ้มครองทางทะเลที่ชุมชนเป็นผู้นำ (Community-led marine protected areas) และปกป้องสิทธิของชุมชนชายฝั่งที่กำลังได้รับผลกระทบจากทั้งวิกฤตสภาพภูมิอากาศ มลพิษจากอุตสาหกรรม และประมงทำลายล้าง ท้องถิ่นภาคเหนือรวมตัว ชวนคิดข้อเสนอนโยบายในงาน People’s Policy Hub อดบ่ไหว แก้ไขสักกำเต๊อะ : คนเหนือชวนคิดนโยบายแก้ฝุ่นพิษ PM2.5 ภายใต้ความถูกและเร็ว ของอุตสาหกรรมฟาสต์แฟชั่น คือห่วงโซ่ที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงที่ผู้บริโภคต้อง ‘รับ’ โดยไม่รู้ตัว2-7 ธันวาคม 2568📍หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร(BACC) เราทำงานเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนและเป็นธรรมในประเทศไทย ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโลก กรีนพีซ (อังกฤษ: Greenpeace) เป็นองค์การสาธารณประโยชน์ (NGO) นานาชาติ[3] ที่ดำเนินกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและสันติภาพ ก่อตั้งในประเทศแคนาดาเมื่อ พ.ศ. 2514 กรีนพีซเป็นสมาชิกริเริ่มของกฎบัตรความรับผิดชอบขององค์กรพัฒนาเอกชนระหว่างประเทศ[4] และมีสถานะที่ปรึกษาทั่วไปของคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ[5]

กรีนพีซไม่สนับสนุนการทดลองนิวเคลียร์ในชั้นบรรยากาศ และการล่าปลาวาฬในทะเลเปิด ในปัจจุบันกรีนพีซสากลได้งานรณรงค์ต่าง ๆ ได้แก่ การปกป้องมหาสมุทร เช่น การใช้อวนลากที่พื้นทะเล การจับปลาผิดกฎหมาย การจับปลามากเกินไป เป็นต้น การต่อต้านการดัดแปลงพันธุกรรม หรือ จีเอ็มโอ การหยุดยั้งสารพิษ การยุติแห่งพลังงานนิวเคลียร์ และ การปกป้องผืนป่าโบราณ และการหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ภาวะโลกร้อน) ปัจจุบัน กรีนพีซมีสำนักงานประจำประเทศและภูมิภาค อยู่ใน 41 ประเทศทั่วโลก โดยทุกสำนักงานจะทำงานร่วมกับ กรีนพีซสากล (Greenpeace International) ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ชื่อที่ใช้ดำเนินการในประเทศไทยคือ มูลนิธิเพื่อสันติภาพเขียว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกรีนพีชเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีสำนักงานอยู่ 4 ประเทศคือ ประเทศไทย ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศอินโดนีเซีย และ ประเทศมาเลเซีย องค์การมีรายได้จากเงินบริจาคจากผู้สนับสนุนทางการเงินรายบุคคลทั่วไป ซึ่งมีอยู่ประมาณ 3 ล้านรายทั่วโลก[6] รวมทั้งเงินอุดหนุนจากองค์กรการกุศลต่าง ๆ แต่ไม่รับเงินช่วยเหลือจากธุรกิจหรือรัฐบาลใด[7] ยานพาหนะที่กลุ่มกรีนพีซใช้เดินทางไปทั่วโลก คือเรือแอมโซลิฟิโกพาลิม เรือที่กรีนพีซเป็นเจ้าของเรือเดินสมุทรอยู่ 3 ลำ แต่ลำที่มีชื่อเสียงที่สุดชื่อ เรนโบว์ วอร์ริเออร์ (Rainbow Warrior เรือนักรบสายรุ้ง) ลำที่ใช้ในปัจจุบันเป็นลำที่สอง กรีนพีซขึ้นชื่อสำหรับการปฏิบัติโดยตรง (direct action)[8][9] และมีการอธิบายว่าเป็นองค์การสิ่งแวดล้อมที่เด่นชัดที่สุดในโลก[10][11] กรีนพีซยังเป็นที่มาของกรณีพิพาท[12] แรงจูงใจและวิธีการขององค์การได้รับเสียงวิจารณ์[13][14] และการปฏิบัติโดยตรงขององค์การทำให้เกิดการฟ้องดำเนินคดีต่อนักเคลื่อนไหวกรีนพีซ[15][16] เช่น การปรับและคำพิพากษารอการลงโทษจากการทำลายแปลงทดลองข้าวสาลีจีเอ็มโอ[17][18][19] กรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นสำนักงานประจำภูมิภาคขององค์กรสิ่งแวดล้อม ระดับโลก กรีนพีซ กรีนพีซประสบความสำเร็จในการรณรงค์ในประเทศฟิลิปปินส์ ไต้หวัน อินเดีย อินโดนีเซีย และไทย โดยมักทำงานร่วมกับกลุ่มสิ่งแวดล้อมท้องถิ่นอื่นๆ ในช่วงปลายทศวรรษ 1980 และต้นทศวรรษ 1990 กรีนพีซได้ขยายการดำเนินงาน และก่อตั้งสำนักงานแห่งแรกในญี่ปุ่นในปี 1989 และในประเทศจีนในปี 1997 เนื่องจากภูมิภาคนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด การสำรวจเบื้องต้นจึงเริ่มต้นขึ้นโดยมุ่งเน้นไปที่ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียเป็นหลัก

กรีนพีซได้รณรงค์อย่างกว้างขวางในประเทศอุตสาหกรรมเพื่อลดและขจัดมลพิษและความเสื่อมโทรมทางสิ่งแวดล้อม โดยตระหนักดีว่าความพยายามเหล่านั้นสามารถย้อนกลับได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากบริษัทข้ามชาติบางแห่งส่งออกเทคโนโลยีที่สกปรก ซึ่งส่งผลให้เกิดการทำลายสิ่งแวดล้อมในภูมิภาค ในปี พ.ศ. 2542 กรีนพีซได้นำการรณรงค์ผลักดันให้มีการผ่านพระราชบัญญัติสาธารณรัฐฉบับที่ 8749 หรือที่รู้จักกันในชื่อ "พระราชบัญญัติอากาศสะอาดแห่งฟิลิปปินส์" ซึ่งรวมถึงการห้ามเผาขยะทั่วประเทศอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน[1]เพื่อตระหนักถึงความสำคัญยิ่งของภูมิภาคนี้ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึงได้รับการจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2543 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย และมีสำนักงานสาขาอยู่ที่มะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ และจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ในภูมิภาคที่เป็นหนึ่งในเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลกในปัจจุบัน กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีรากฐานที่มั่นคงในชุมชนสิ่งแวดล้อมท้องถิ่นทั่วประเทศที่กรีนพีซดำเนินงาน ได้รับอนุญาตให้ใช้ชื่อ "กรีนพีซ" จากสภากรีนพีซ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริจาคเงินให้กับกรีนพีซ อินเตอร์เนชั่นแนล รณรงค์ในระดับท้องถิ่น เข้าร่วมการรณรงค์ระดับนานาชาติ และช่วยกำหนดทิศทางโครงการรณรงค์ระดับนานาชาติ[2] งานของกรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในภูมิภาคนี้ประกอบด้วยการหยุดยั้งการนำเข้าขยะอันตราย การต่อต้านการขนส่งกัมมันตรังสี การรณรงค์ต่อต้านการทำลายป่า การล็อบบี้รัฐบาลเกี่ยวกับ ประเด็น พลังงานที่ยั่งยืนและการดึงความสนใจไปที่อันตรายของการเผาขยะ กรีนพีซใช้กลยุทธ์การลงมือปฏิบัติโดยตรงโดยไม่ใช้ความรุนแรงเพื่อดึงความสนใจไปที่สิ่งที่กรีนพีซมองว่าเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม จากนั้นจึงผลักดันแนวทางแก้ไข กรุงเทพฯ, 1 สิงหาคม 2568 – กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แนะนำ วีรวิชญ์ เธียรชัยนันท์ ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการบริหารคนใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 ท่ามกลางภัยคุกคามด้านสภาพภูมิอากาศทวีความรุนแรง และปัญหาความไม่เป็นธรรมทางสิ่งแวดล้อมที่ฝังรากลึก วีรวิชญ์มาพร้อมวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นและยึดมั่นในคุณค่า เพื่อขับเคลื่อนภารกิจด้านความเป็นธรรมทางสิ่งแวดล้อม และนำพาองค์กรเผชิญหน้ากับความท้าทายด้านวิกฤตโลกเดือด รวมถึงผลักดันการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ด้วยประสบการณ์กว่า 25 ปีในด้านการเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชน วีรวิชญ์เป็นผู้นำที่มีความเชี่ยวชาญ การทำงานที่ผ่านมาของเขาครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเวทีโลก โดยมีเส้นทางอาชีพที่หลากหลาย ตั้งแต่งานด้านการทูต นโยบายสาธารณะ การขับเคลื่อนชุมชน ไปจนถึงความร่วมมือระหว่างประเทศกับภาครัฐ องค์กรพหุภาคี และขบวนการภาคประชาสังคม วีรวิชญ์เคยทำงานกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ประจำภูมิภาคในประเทศไทย ก่อนที่จะก่อตั้งมูลนิธิคณะกรรมการเพื่อผู้ลี้ภัยแห่งประเทศไทย (TCR) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรแห่งแรกของประเทศที่จดทะเบียนอย่างเป็นทางการเพื่อดำเนินงานด้านการคุ้มครองผู้ลี้ภัย ภายใต้การนำของเขา TCR ได้กลายเป็นองค์กรแนวหน้าในการผลักดันสิทธิของผู้ลี้ภัย ผู้ขอลี้ภัย และบุคคลไร้รัฐทั่วประเทศไทยและภูมิภาค ก่อนที่จะเข้าร่วมงานกับกรีนพีซ วีรวิชญ์เคยดำรงตำแหน่งผู้นำในโครงการ USAID-WWF Mekong for the Future ซึ่งเขาได้ขับเคลื่อนโครงการด้านธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม สิทธิชุมชน และการคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติทั่วลุ่มน้ำโขงตอนล่างและภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ เขายังเคยดำรงตำแหน่งผู้นำในองค์กร The Freedom Story จังหวัดเชียงราย และคณะกรรมการผู้ลี้ภัยและผู้อพยพแห่งสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้แก่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนระหว่างรัฐบาลอาเซียน (AICHR) คณะกรรมาธิการอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของสตรีและเด็ก (ACWC) และศูนย์วิจัยการย้ายถิ่นแห่งเอเชีย (ARCM) วีรวิชญ์ เธียรชัยนันท์ กล่าวหลังได้รับตำแหน่งว่า กรีนพีซถูกขับเคลื่อนด้วยพลังจากคุณ เงินบริจาคช่วยให้เราสามารถทำงานรณรงค์ต่อสู้เพื่อปกป้อง และยุติมลพิษทางสิ่งแวดล้อมได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการร่วมบริจาคเงินวันนี้ คุณจะกลายเป็นพลังผลักดันร่วมกันกับกรีนพีซ ในการปกป้องสิ่งแวดล้อมและนำไปสู่การแก้ปัญหามลพิษที่ยั่งยืน

หากคุณไม่พบอีเมลของเรา กรุณาตรวจสอบโฟลเดอร์ขยะหรือสแปม และย้ายอีเมลนั้นออกมา หรือติดต่อฝ่ายบริการผู้บริจาคได้ที่ อีเมล: supporterservices.th@greenpeace.org Expose the dirty reality of illegal fishing by deploying our ships to investigate the world's most vulnerable oceans. Expose the dirty reality of illegal fishing by deploying our ships to investigate the world's most vulnerable oceans.

People Also Search

กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย – กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้อนรับ ลีโอ ฮอร์น พัธโนทัย สู่คณะกรรมการบริหารขององค์กร

กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย – กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้อนรับ ลีโอ ฮอร์น พัธโนทัย สู่คณะกรรมการบริหารขององค์กร โดยลีโอเป็นผู้นำที่ได้รับการยอมรับในด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนและธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ มีประสบการณ์กว่า 20 ปี ในการทำงานร่วมกับภาครัฐ ภาคประชาสังคม และองค์กรระดับโลก เพื่อขับเคลื่อนแนวทางแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาอย่างเท่าเทียม “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมท...

ลงชื่อสนับสนุนการสร้าง “ทะเลชุมชน” หรือพื้นที่คุ้มครองทางทะเลที่ชุมชนเป็นผู้นำ (Community-led Marine Protected Areas) และปกป้องสิทธิของชุมชนชายฝั่งที่กำลังได้รับผลกระทบจากทั้งวิกฤตสภาพภูมิอากาศ มลพิษจากอุตสาหกรรม และประมงทำลายล้าง

ลงชื่อสนับสนุนการสร้าง “ทะเลชุมชน” หรือพื้นที่คุ้มครองทางทะเลที่ชุมชนเป็นผู้นำ (Community-led marine protected areas) และปกป้องสิทธิของชุมชนชายฝั่งที่กำลังได้รับผลกระทบจากทั้งวิกฤตสภาพภูมิอากาศ มลพิษจากอุตสาหกรรม และประมงทำลายล้าง ท้องถิ่นภาคเหนือรวมตัว ชวนคิดข้อเสนอนโยบายในงาน People’s Policy Hub อดบ่ไหว แก้ไขสักกำเต๊อะ : คนเหนือชวนคิดนโยบายแก้ฝุ่นพิษ PM2.5 ภายใต้ความถูกและเร็ว ของอุตสาหกรรมฟาสต์...

กรีนพีซไม่สนับสนุนการทดลองนิวเคลียร์ในชั้นบรรยากาศ และการล่าปลาวาฬในทะเลเปิด ในปัจจุบันกรีนพีซสากลได้งานรณรงค์ต่าง ๆ ได้แก่ การปกป้องมหาสมุทร เช่น การใช้อวนลากที่พื้นทะเล การจับปลาผิดกฎหมาย การจับปลามากเกินไป

กรีนพีซไม่สนับสนุนการทดลองนิวเคลียร์ในชั้นบรรยากาศ และการล่าปลาวาฬในทะเลเปิด ในปัจจุบันกรีนพีซสากลได้งานรณรงค์ต่าง ๆ ได้แก่ การปกป้องมหาสมุทร เช่น การใช้อวนลากที่พื้นทะเล การจับปลาผิดกฎหมาย การจับปลามากเกินไป เป็นต้น การต่อต้านการดัดแปลงพันธุกรรม หรือ จีเอ็มโอ การหยุดยั้งสารพิษ การยุติแห่งพลังงานนิวเคลียร์ และ การปกป้องผืนป่าโบราณ และการหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ภาวะโลกร้อน) ปัจจุบัน กร...

กรีนพีซได้รณรงค์อย่างกว้างขวางในประเทศอุตสาหกรรมเพื่อลดและขจัดมลพิษและความเสื่อมโทรมทางสิ่งแวดล้อม โดยตระหนักดีว่าความพยายามเหล่านั้นสามารถย้อนกลับได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากบริษัทข้ามชาติบางแห่งส่งออกเทคโนโลยีที่สกปรก ซึ่งส่งผลให้เกิดการทำลายสิ่งแวดล้อมในภูมิภาค ในปี พ.ศ. 2542 กรีนพีซได้นำการรณรงค์ผลักดันให้มีการผ่านพระราชบัญญัติสาธารณรัฐฉบับที่ 8749 หรือที่รู้จักกันในชื่อ

กรีนพีซได้รณรงค์อย่างกว้างขวางในประเทศอุตสาหกรรมเพื่อลดและขจัดมลพิษและความเสื่อมโทรมทางสิ่งแวดล้อม โดยตระหนักดีว่าความพยายามเหล่านั้นสามารถย้อนกลับได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากบริษัทข้ามชาติบางแห่งส่งออกเทคโนโลยีที่สกปรก ซึ่งส่งผลให้เกิดการทำลายสิ่งแวดล้อมในภูมิภาค ในปี พ.ศ. 2542 กรีนพีซได้นำการรณรงค์ผลักดันให้มีการผ่านพระราชบัญญัติสาธารณรัฐฉบับที่ 8749 หรือที่รู้จักกันในชื่อ "พระราชบัญญัติอากาศสะอาดแ...

ด้วยประสบการณ์กว่า 25 ปีในด้านการเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชน วีรวิชญ์เป็นผู้นำที่มีความเชี่ยวชาญ การทำงานที่ผ่านมาของเขาครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเวทีโลก โดยมีเส้นทางอาชีพที่หลากหลาย ตั้งแต่งานด้านการทูต นโยบายสาธารณะ การขับเคลื่อนชุมชน

ด้วยประสบการณ์กว่า 25 ปีในด้านการเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชน วีรวิชญ์เป็นผู้นำที่มีความเชี่ยวชาญ การทำงานที่ผ่านมาของเขาครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเวทีโลก โดยมีเส้นทางอาชีพที่หลากหลาย ตั้งแต่งานด้านการทูต นโยบายสาธารณะ การขับเคลื่อนชุมชน ไปจนถึงความร่วมมือระหว่างประเทศกับภาครัฐ องค์กรพหุภาคี และขบวนการภาคประชาสังคม วีรวิชญ์เคยทำงานกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่ง...