ข่าวปลอมในไทย คุณควรกังวลแค่ไหน Bbc News ไทย
การผลิตข้อมูลเท็จเพื่อสร้างความปั่นป่วนหรือมุ่งหมายทรัพย์ เป็นเรื่องที่ทั้งผู้บริโภคและสื่อมวลชนต้องรับมือเสมอมา ในยุคที่คนอ่านข่าวผ่านสื่อโซเชียล ข่าวปลอมได้ถูกพัฒนาให้ส่งต่อได้ง่ายและตรวจสอบได้ยากขึ้น ผู้ที่คลุกคลีกับการตรวจสอบข่าวปลอมในไทยเตือนว่าข่าวปลอมมีจำนวนเพิ่มขึ้นในแต่ละปี ขณะที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกกังวลเกี่ยวกับข่าวปลอมบนโลกออนไลน์ จากผลสำรวจล่าสุดโดยบีบีซี "เรื่องอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับมะเร็ง คนจะแชร์เยอะ รองจากมะเร็งก็คือเบาหวาน รองลงมาก็จะเป็นเกี่ยวกับโรคไตหรือความดัน" พีรพล อนุตรโสตถิ์ ผู้รับผิดชอบงาน ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท. กล่าว ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ เริ่มตรวจสอบข้อเท็จจริงบนโลกออนไลน์ตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2558 เพื่อแก้ปัญหาการแพร่กระจายของข้อมูลไม่ถูกต้อง และได้ช่วยทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลเท็จมาแล้วกว่า 500 ตอนทางโทรทัศน์ ปัจจุบันทีมงานที่มี 8 คนยังทำหน้าที่ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลเท็จบนโลกออนไลน์ที่ประชาชนสอบถามมา ซึ่งส่วนมากเป็นเรื่องสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
คนจากหลากหลายวงการของไทยถูกกล่าวหาว่าเผยแพร่ 'ข่าวปลอม' ทำให้ถูกขู่หรือถูกตั้งข้อหาด้วยมาตรา 14 ของพรบ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หรือที่เรียกว่ากฎหมาย 'ข่าวปลอม' เผชิญโทษจำคุก 5 ปี จากการ'ปลอมแปลง' หรือ 'บิดเบือน' ข้อมูล จริง ๆ แล้วคนเหล่านี้เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติหรือไม่? ศาสตราจารย์พิเศษ: "ผมแชร์ข้อมูลทางเฟซบุ๊กเกี่ยวกับภริยาของนายกรัฐมนตรี" แรปเปอร์: "เราก็ไม่ได้คิดขนาดว่า ทำเพลงออกมาเพลงหนึ่งในการพูดสิ่งที่เราอยากเล่า อะไรอย่างนี้ ในตัวเนื้อเพลง มันจะไปผิดกฎหมายขนาดจะต้องติดคุกอะ อันนี้เราก็ไม่เคยคิดถึงตรงนั้นนะครับ" นักการเมือง: "สิ่งที่ผมพูดผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์วันนั้น ไม่ได้เป็นเรื่องเท็จ แล้วก็ไม่ได้บิดเบือน นักเคลื่อนไหว: "การแสดงความคิดเห็นของเราเนี่ย มันเหมือนเป็นการสร้างความปั่นป่วน แตกแยก"
การผลิตข้อมูลเท็จเพื่อสร้างความปั่นป่วนหรือมุ่งหมายทรัพย์ เป็นเรื่องที่ทั้งผู้บริโภคและสื่อมวลชนต้องรับมือเสมอมา ในยุคที่คนอ่านข่าวผ่านสื่อโซเชียล ข่าวปลอมได้ถูกพัฒนาให้ส่งต่อได้ง่ายและตรวจสอบได้ยากขึ้น ผู้ที่คลุกคลีกับการตรวจสอบข่าวปลอมในไทยเตือนว่าข่าวปลอมมีจำนวนเพิ่มขึ้นในแต่ละปี ขณะที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกกังวลเกี่ยวกับข่าวปลอมบนโลกออนไลน์ จากผลสำรวจล่าสุดโดยบีบีซี “เรื่องอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับมะเร็ง คนจะแชร์เยอะ รองจากมะเร็งก็คือเบาหวาน รองลงมาก็จะเป็นเกี่ยวกับโรคไตหรือความดัน” พีรพล อนุตรโสตถิ์ ผู้รับผิดชอบงาน ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท. กล่าว ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ เริ่มตรวจสอบข้อเท็จจริงบนโลกออนไลน์ตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2558 เพื่อแก้ปัญหาการแพร่กระจายของข้อมูลไม่ถูกต้อง และได้ช่วยทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลเท็จมาแล้วกว่า 500 ตอนทางโทรทัศน์ ปัจจุบันทีมงานที่มี 8 คนยังทำหน้าที่ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลเท็จบนโลกออนไลน์ที่ประชาชนสอบถามมา ซึ่งส่วนมากเป็นเรื่องสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
ที่มาของภาพ, ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ที่ผ่านความเห็นขอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปเมื่อวันที่ 1 ก.พ. กำลังสร้างความกังวลให้แก่นักวิชาการจำนวนหนึ่งที่มองว่าระเบียบนี้เป็นความพยายามครั้งล่าสุดของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการปิดกั้นข้อมูลและความคิดเห็นที่เป็นลบต่อรัฐบาล การที่ ครม. เห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกฯ ฉบับนี้ในช่วงที่การเมืองไทยเริ่มเข้าสู่ "ฤดูกาลเลือกตั้ง" ยิ่งทำให้เกิดข้อกังขาว่า "ศูนย์ประสานงานการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์" หรืออาจเรียกง่าย ๆ ว่าศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมที่จะจัดตั้งขึ้นในทุกกระทรวงและทุกจังหวัดตามร่างระเบียบนี้ มีวาระซ่อนเร้นในการกลบเสียงวิจารณ์และเป็นฝ่าย "พีอาร์อำพราง" ของรัฐบาลหรือไม่ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงวัตถุประสงค์ของร่างระเบียบสำนักนายกฯ ที่เสนอโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) ว่ามีขึ้นเพื่อวางแนวทางและหลักเกณฑ์ในการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ร่วมกันของหน่วยงานของรัฐ เพื่อคุ้มครองประชาชนให้ได้รับความปลอดภัยและได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์
ด้านนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการ ดศ. กล่าวว่าร่างระเบียบฯ ฉบับนี้ จะส่งเสริมการประสานงาน และทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนในการเร่งแก้ไขปัญหาข่าวปลอม และช่วยให้ก้าวทันสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ สื่อสังคมออนไลน์ และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางเผยแพร่กระจายข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ ส่งผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง สำรวจเส้นทางการแปลงสารจากคดีฆาตกรรมสยองที่กลายเป็นคดีสะอิดสะเอียนเขย่าขวัญผู้อ่านในเอเชีย ออสเตรเลีย ยุโรป และอเมริกา เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาสื่อออนไลน์ภาษาอังกฤษของสิงคโปร์ที่เสนอข่าวแนวสีสันของโลก AsiaOne อ้างว่าลูกค้าร้านอาหารเจต่อว่า เจ้าของร้านว่าเอาเนื้อคนผสมทำอาหารเจ ทำให้สื่อหัวสีอื่น ๆ ใน มาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน ออสเตรเลีย อังกฤษ และ อเมริกา ต่างอ้างข่าวนี้ไปเผยแพร่ต่อ คดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้น คือ การฆ่ายัดบ่อเกรอะ ที่เป็นข่าวเมื่อวันที่ 23 ต.ค. ภายหลังตำรวจ สน.
ลาดกระบัง ได้รับแจ้งพบเศษชิ้นส่วนมนุษย์ หนังศีรษะกระจายอยู่ในบริเวณห้องครัวของร้านอาหารเจแห่งหนึ่ง ริมถนนร่มเกล้า เมื่อรุดไปตรวจสอบ จึงพบศพผู้เสียชีวิตในบ่อเกรอะ ซึ่งเชื่อว่าเป็นความพยายามอำพรางคดี ข่าวสดออนไลน์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ต.ค. มีผู้พบเศษชิ้นเนื้อมนุษย์ ในร้านอาหารเจ-ร่มเกล้า ในซอยร่มเกล้า 25/6 ถนนร่มเกล้า แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กทม. โดยการตรวจสอบภายในร้าน พบเลือดกระจายเต็มพื้นห้องครัวและพบเศษเนื้อมนุษย์ตกอยู่ นอกจากนี้ยังพบศพ นายประสิทธิ์ อินปฐม อายุ 61 ปี ถูกมีดฟันจนหัวเละ จำใบหน้าไม่ได้ทิ้งไว้ในบ่อเกรอะ ซึ่งตำรวจเชื่อว่า นายบุญยืน ขำทวี อายุ 68 ปี น้องชายเจ้าของร้านอาหารที่มาเฝ้าร้านเป็นผู้ลงมือ หลังหายตัวไปจากที่เกิดเหตุ ต่อมา วันที่ 27 ต.ค. นายุญยืนได้เข้ามอบตัวที่ สภ.
อ่าวน้อย จ. ประจวบคีรีขันธ์ ด้วยคำให้การว่า คิดว่าผู้ตายเป็นโจร จึงใช้มีดพร้าหัวตัด ฟันจนเสียชีวิต ก่อนลากศพไปทิ้งที่บ่อเกรอะ ส่วนตนเองนั้น หนีไปบ้านญาติที่ จ. ประจวบคีรีขันธ์ ตำรวจอ้างว่า เบื้องต้นนายบุญยืนให้การรับสารภาพว่า เป็นบุคคลตามหมายจับจริง แต่ได้ให้การปฏิเสธไม่ขอให้การใด ๆ ในชั้นพนักงานสอบสวน โดยขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ซึ่งการให้การนั้นเป็นสิทธิของผู้ต้องหา “คลิปหญิงต่อว่าเจ้าหน้าที่” กลายเป็นไวรัลไปทั่วสังคมออนไลน์ ไม่ต่างจาก “คลิปชายแบกช้างกลางถนน” ที่ถูกส่งต่อทั้งในโซเชียลไปจนถึงการนำเสนอข่าว กลายเป็นภาพสะท้อนการสร้างข่าวปลอมด้วย AI ที่อยู่ใกล้ตัวทุกคนเพียงหน้าจอโทรศัพท์และปลายนิ้ว มหาวิทยาลัยขอนแก่น ชวนมองปรากฏการณ์ข่าวปลอมจาก AI ที่กำลังระบาดกับ ดร.วันวิสาข์ วรรณพิพัฒน์ อาจารย์ประจำหลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีสื่อสร้างสรรค์(Creative Media Technology: CMT) วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยขอนแก่น “ข้อมูลจากงานวิจัยพบว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้มีการเกิดข่าวปลอมเพิ่มขึ้นถึง 400% ซึ่ง AI ถือเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้น ด้วย 3 ปัจจัย คือ 1.เทคโนโลยีที่เข้าถึงและใช้งานได้ง่ายมากขึ้น 2.เทคโนโลยี AI มีการพัฒนาคุณภาพให้สมจริงมากยิ่งขึ้น และ 3.การเปลี่ยนยุคจากสื่อเก่าสู่สื่อใหม่ที่ผู้รับสารเป็นผู้ส่งสารได้จนนำไปสู่การแพร่กระจายของข่าวปลอมเป็นวงกว้าง”
ดร.วันวิสาข์ มองว่า ปัจจุบันข่าวปลอมไม่ได้เป็นเพียงข้อความ แต่กลับเป็นกระบวนการเคลื่อนไหลของข้อมูลที่ส่งผลกระทบต่อผู้รับสาร โดยเฉพาะการสร้างภาพด้วย AI ที่ใช้เวลาเพียงไม่ถึงนาทีก็สามารถสร้างภาพที่ปรับแต่งรูปแบบได้มากมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากังวลมาก เพราะเป็นปัจจัยที่ทำให้ข่าวปลอมสมจริงมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันใคร ๆ ก็สามารถสร้างคลิปวิดีโอจาก AI ได้ ทำให้ผู้รับสารมีความรู้สึกร่วมมากขึ้น (Personalized AI) และกำลังพัฒนาไปสู่การหลอกประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของมนุษย์ได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งข่าวปลอมประเภทนี้ยังสามารถผลิตออกมาได้เป็นจำนวนมาก (Mass Production) เมื่อมีผู้ส่งสารเพียง 1 คน กลับสามารถกระจายไปได้เป็นร้อยเป็นพันอย่างไม่จำกัด "ไม่มีใครจับคนโกหกได้หรอก หากมีคนทำได้นั่นหมายความว่า อย่างน้อยจะต้องสังเกตเห็นการพลั้งปาก หรือความไม่สมเหตุสมผลบางอย่าง แต่ไม่ใช่ด้วยการใช้ 'สัญชาตญาณ' ของตัวเอง อย่างที่คนเรามักจะให้ค่ากันมากเกินจริง" คำพูดข้างต้นเป็นของเซอร์ สตีเฟน ฟราย ผู้ถือบัตรสมาชิกของสมาคมอัจฉริยะระดับโลก "เมนซา" (Mensa International) เขาผู้นี้มีระดับสติปัญญาหรือไอคิวสูงถึง 170 แต่ก็ถูกโหวตให้แพ้และออกจากเกมจับโกหก The Celebrity Traitors ทางสถานีโทรทัศน์บีบีซีวัน (BBC One) ไปเรียบร้อยแล้ว การเล่นเกมจับโกหกที่เกิดขึ้นในรายการดังกล่าว ดูเหมือนจะพิสูจน์ว่าคำพูดของเซอร์ฟรายนั้นถูกต้องโดยแท้ เพราะผู้เข้าแข่งขัน 16 คน ที่เป็นฝ่าย "คนซื่อสัตย์" และพูดความจริงเสมอ ต้องใช้เวลาเล่นเกมนานถึง 7 ตอนของรายการที่ออกอากาศ ก่อนจะจับได้ว่าใครคือ "คนทรยศ" หรือคนที่พูดโกหกสามคนแรกในหมู่ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด แนวคิดของเซอร์ฟรายนั้น ออกจะขัดแย้งกับภูมิปัญญาดั้งเดิมที่ถ่ายทอดกันมายาวนานหลายศตวรรษ ซึ่งผู้คนมักจะเชื่อกันว่า มีวิธีอ่านสีหน้าหรือมีศาสตร์ในการดูลักษณะทางกายภาพบนใบหน้า (physiognomy) เพื่อทำนายนิสัยหรือคุณสมบัติต่าง ๆ ของแต่ละคน ซึ่งชาวจีนเรียกว่าการดูโหงวเฮ้งนั่นเอง
ศาสตร์ดังกล่าวถูกนำมาใช้ในช่วงศตวรรษที่ 19 เพื่อชี้ตัวอาชญากร โดยถือกันว่าคนที่มีโครงสร้างใบหน้าซึ่งรวมเอาลักษณะของ "มนุษย์ที่ยังไม่เจริญ" เอาไว้มาก เช่นมีขากรรไกรและโหนกแก้มใหญ่, รูปหน้าไม่สมมาตร, สันคิ้วสูงเด่น, หรือมีจมูกใหญ่และแบน มีโอกาสสูงที่จะเป็นคนไร้ศีลธรรมประจำใจและคดโกงไม่ซื่อสัตย์ได้ Thai PBS Verify ตรวจสอบพบคลิปไวรัลที่อ้างภาพของผู้นำ “สีจิ้นผิง” และ ”อีแจมยอง” ผู้นำจีน–เกาหลีใต้ ขณะร่วมกันดื่มมักกอลลีในงาน APEC 2025 พบว่ามีท่าทางผิดธรรมชาติและมีสัญญาณการดัดแปลงด้วย AI เมื่อเทียบกับคลิปเหตุการณ์จริง Thai PBS Verify ตรวจสอบพบคลิปหญิงสูงอายุตำหนิการบริการของพยาบาล ที่แท้สร้างเป็นคลิปที่สร้างจาก AI พบคนหลงเชื่อนับร้อย Thai PBS Verify ตรวจสอบโพสต์ชาวกัมพูชาอ้างภาพทหารไทยเสียชีวิต จนทำให้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นนับพันครั้ง รวมถึงแชร์โพสต์อีกกว่า 200 ครั้ง แต่จากการตรวจสอบพบเป็นเพียงภาพเหตุการณ์ผู้ก่อความไม่สงบใน จ.นราธิวาส เมื่อปี 2556 ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ไทย-กัมพูชา แต่อย่างใด โพสต์ที่อ้างว่า รศ.ปณิธาน วัฒนายากร ระบุว่านายกรัฐมนตรีมาเลเซีย “ไม่เป็นกลางเข้าข้างกัมพูชา” และ “อยากได้ 3 จังหวัดชายแดนใต้” เจ้าตัวยืนยันว่าเป็นการนำคำพูดไปแต่งเติมและคลาดเคลื่อนจากบริบทจริง ไม่ได้กล่าวในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด ตรวจสอบพบ คลิปอ้างว่าเป็นเหตุการณ์จับกุมผู้ประท้วงขับไล่ “ฮุน เซน” พบว่าเป็นข้อมูลเท็จ แท้จริงตรงกับรายงานของสื่อกัมพูชาเมื่อปี 2022 ซึ่งเป็นเหตุแรงงานที่ถูกเลิกจ้างจากคาสิโน NagaWorld ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุม ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือการขับไล่รัฐบาลแต่อย่างใด
People Also Search
- ข่าวปลอมในไทย: คุณควรกังวลแค่ไหน? - BBC News ไทย
- ข่าวปลอม: คนเหล่านี้เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติหรือไม่? - BBC News ไทย
- ข่าวปลอม: ร่างระเบียบ ... - Bbc
- ข่าวปลอม: สื่อต่างชาติ ... - Bbc
- ข่าวลวง / ข่าวเท็จ - BBC News ไทย
- นักวิชาการ มข.ชวนมองปรากฏการณ์เฟกนิวส์จาก Ai แนะเทคนิครู้เท่าทัน
- รับมือให้ทัน "ข่าวปลอม" ภัยคุกคามสมัยใหม่ ภายใต้สถานการณ์ความขัดแย้ง
- "วิทยาศาสตร์แห่งการหลอกลวง" ใบหน้าแบบไหนดูเหมือนจริงใจซื่อสัตย์ และ ...
- Thai PBS verify | ตรวจสอบข่าวปลอม คัดกรองข่าวจริง
การผลิตข้อมูลเท็จเพื่อสร้างความปั่นป่วนหรือมุ่งหมายทรัพย์ เป็นเรื่องที่ทั้งผู้บริโภคและสื่อมวลชนต้องรับมือเสมอมา ในยุคที่คนอ่านข่าวผ่านสื่อโซเชียล ข่าวปลอมได้ถูกพัฒนาให้ส่งต่อได้ง่ายและตรวจสอบได้ยากขึ้น ผู้ที่คลุกคลีกับการตรวจสอบข่าวปลอมในไทยเตือนว่าข่าวปลอมมีจำนวนเพิ่มขึ้นในแต่ละปี ขณะที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกกังวลเกี่ยวกับข่าวปลอมบนโลกออนไลน์ จากผลสำรวจล่าสุดโดยบีบีซี "เรื่องอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับมะเร็ง คนจะแชร์เยอะ รองจากมะเร็งก็คือเบาหวาน
การผลิตข้อมูลเท็จเพื่อสร้างความปั่นป่วนหรือมุ่งหมายทรัพย์ เป็นเรื่องที่ทั้งผู้บริโภคและสื่อมวลชนต้องรับมือเสมอมา ในยุคที่คนอ่านข่าวผ่านสื่อโซเชียล ข่าวปลอมได้ถูกพัฒนาให้ส่งต่อได้ง่ายและตรวจสอบได้ยากขึ้น ผู้ที่คลุกคลีกับการตรวจสอบข่าวปลอมในไทยเตือนว่าข่าวปลอมมีจำนวนเพิ่มขึ้นในแต่ละปี ขณะที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกกังวลเกี่ยวกับข่าวปลอมบนโลกออนไลน์ จากผลสำรวจล่าสุดโดยบีบีซี "เรื่องอะไรก็ได้ที่เกี่ย...
คนจากหลากหลายวงการของไทยถูกกล่าวหาว่าเผยแพร่ 'ข่าวปลอม' ทำให้ถูกขู่หรือถูกตั้งข้อหาด้วยมาตรา 14 ของพรบ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หรือที่เรียกว่ากฎหมาย 'ข่าวปลอม' เผชิญโทษจำคุก 5
คนจากหลากหลายวงการของไทยถูกกล่าวหาว่าเผยแพร่ 'ข่าวปลอม' ทำให้ถูกขู่หรือถูกตั้งข้อหาด้วยมาตรา 14 ของพรบ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หรือที่เรียกว่ากฎหมาย 'ข่าวปลอม' เผชิญโทษจำคุก 5 ปี จากการ'ปลอมแปลง' หรือ 'บิดเบือน' ข้อมูล จริง ๆ แล้วคนเหล่านี้เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติหรือไม่? ศาสตราจารย์พิเศษ: "ผมแชร์ข้อมูลทางเฟซบุ๊กเกี่ยวกับภริยาของนายกรัฐมนตรี" แรปเปอร์: "เราก็ไม่ได้คิดขนาดว่า...
การผลิตข้อมูลเท็จเพื่อสร้างความปั่นป่วนหรือมุ่งหมายทรัพย์ เป็นเรื่องที่ทั้งผู้บริโภคและสื่อมวลชนต้องรับมือเสมอมา ในยุคที่คนอ่านข่าวผ่านสื่อโซเชียล ข่าวปลอมได้ถูกพัฒนาให้ส่งต่อได้ง่ายและตรวจสอบได้ยากขึ้น ผู้ที่คลุกคลีกับการตรวจสอบข่าวปลอมในไทยเตือนว่าข่าวปลอมมีจำนวนเพิ่มขึ้นในแต่ละปี ขณะที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกกังวลเกี่ยวกับข่าวปลอมบนโลกออนไลน์ จากผลสำรวจล่าสุดโดยบีบีซี “เรื่องอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับมะเร็ง คนจะแชร์เยอะ รองจากมะเร็งก็คือเบาหวาน
การผลิตข้อมูลเท็จเพื่อสร้างความปั่นป่วนหรือมุ่งหมายทรัพย์ เป็นเรื่องที่ทั้งผู้บริโภคและสื่อมวลชนต้องรับมือเสมอมา ในยุคที่คนอ่านข่าวผ่านสื่อโซเชียล ข่าวปลอมได้ถูกพัฒนาให้ส่งต่อได้ง่ายและตรวจสอบได้ยากขึ้น ผู้ที่คลุกคลีกับการตรวจสอบข่าวปลอมในไทยเตือนว่าข่าวปลอมมีจำนวนเพิ่มขึ้นในแต่ละปี ขณะที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกกังวลเกี่ยวกับข่าวปลอมบนโลกออนไลน์ จากผลสำรวจล่าสุดโดยบีบีซี “เรื่องอะไรก็ได้ที่เกี่ย...
ที่มาของภาพ, ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ที่ผ่านความเห็นขอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปเมื่อวันที่ 1 ก.พ.
ที่มาของภาพ, ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ที่ผ่านความเห็นขอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปเมื่อวันที่ 1 ก.พ. กำลังสร้างความกังวลให้แก่นักวิชาการจำนวนหนึ่งที่มองว่าระเบียบนี้เป็นความพยายามครั้งล่าสุดของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการปิดกั้นข้อมูลและความคิดเห็นที่เป็นลบต่อรัฐบาล การที่ ครม. เ...
ด้านนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการ ดศ. กล่าวว่าร่างระเบียบฯ ฉบับนี้ จะส่งเสริมการประสานงาน และทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนในการเร่งแก้ไขปัญหาข่าวปลอม และช่วยให้ก้าวทันสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ สื่อสังคมออนไลน์
ด้านนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการ ดศ. กล่าวว่าร่างระเบียบฯ ฉบับนี้ จะส่งเสริมการประสานงาน และทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนในการเร่งแก้ไขปัญหาข่าวปลอม และช่วยให้ก้าวทันสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ สื่อสังคมออนไลน์ และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางเผยแพร่กระจายข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ ส่งผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง สำรวจเส้นทางการแปลงสารจากคดีฆาตกรรมสยองที่กลายเป็นคดีสะอิดสะเอียนเ...