ชายฝั่งในภาวะโลกรวน ชายฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปราะบางต่อโลกรวน
นอกจากบทความนี้แล้ว สามารถอ่านเพิ่มในแบบที่ไม่เป็นวิชาการมากนักได้ที่ https://beachlover.net/น้ำทะเลล้นฝั่ง-ภัยเนิบช/ การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล (SLR) เป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อพื้นที่ชายฝั่งทั่วโลก โดยมีผลกระทบที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศ การใช้ที่ดิน และปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคม การวิจัยระบุว่าเขตชายฝั่งที่ต่ำ เช่น Karasu ในตุรกี มีความเสี่ยงเป็นพิเศษ โดยมีระดับการคาดการณ์น้ำท่วม 1.40%, 6.02% และ 29.27% สำหรับสถานการณ์ SLR 1 ม., 2 ม. และ 3 ม. ภายในปี 2100 ตามลำดับ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเขตเมือง พื้นที่เพาะปลูก และป่าไม้ ในทำนองเดียวกัน ในโปรตุเกส การขยายตัวของเขตอันตราย SLR เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัด โดยมีอัตราการเพิ่มขึ้น 2.1 มม./ปี ระหว่างปี 1977 ถึง 2000 และการคาดการณ์ในอนาคตคาดว่าค่า SLR จะอยู่ระหว่าง 0.74 ม. ถึง 0.81 ม.
ภายในปี 2100 ภายใต้สถานการณ์ SSP5 ที่ราบชายฝั่ง Tavoliere delle Puglie ในอิตาลีต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่ซับซ้อนจาก SLR และการทรุดตัวของแผ่นดิน โดยมีการคาดการณ์ว่าจะมีพื้นที่จมอยู่ใต้น้ำชายฝั่งถึง 147.7 ตารางกิโลเมตร ภายในปี 2150 ภายใต้สถานการณ์ความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกสูง ในแคลิฟอร์เนีย คาดว่า SLR จะเพิ่มระดับน้ำใต้ดินชายฝั่ง ซึ่งนำไปสู่อันตรายต่อน้ำใต้ดินและน้ำท่วมในแผ่นดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำเช่นอ่าวซานฟรานซิสโก ซึ่งน้ำท่วมจากด้านล่างสามารถขยายออกไป 50–130 ม. ในแผ่นดินที่มี SLR 1 ม. ประเทศไทยปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงเป็นอันดับ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้[1] และมีความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระยะยาว ในช่วงปี พ.ศ. 2543-2562 สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก[2] ถึงแม้ว่าจะลดก๊าซเรือนกระจกได้ร้อยละ 15.4 จากการคาดการณ์ปริมาณการปล่อยในกรณีปกติในปี พ.ศ.
2563[3] แต่เรายังจำเป็นต้องเร่งเสริมสร้างศักยภาพการดำเนินงานและฐานข้อมูลในหลายสาขาเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2608 ประเทศไทยมีชายฝั่งทะเลรวมเป็นระยะทางถึง 3,100 กิโลเมตร ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่มีความเปราะบางและมีความเสี่ยงสูงต่อการประสบภัยจากคลื่นพายุ การกัดเซาะชายฝั่ง และการเพิ่มสูงขึ้นของระดับน้ำทะเล เมื่อพิจารณาถึงความเปราะบางต่อสภาพภูมิอากาศร่วมกับการเร่งใช้ประโยชน์จากทรัพยากรพื้นที่ชายฝั่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบอย่างสูงต่อระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง อีกทั้งเป็นภัยคุกคามต่อความหลากหลายทางชีวภาพ ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งสร้างรายได้คิดเป็นมูลค่าสูงถึงร้อยละ 46 ของรายได้จากการท่องเที่ยวในปี พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ รายได้จากภาคท่องเที่ยวคิดเป็นมูลค่าร้อยละ 12ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ รัฐบาลไทยเห็นความสำคัญ จึงได้กำหนดเป้าหมายการดำเนินงานที่ท้าทาย ทั้งด้านสภาพภูมิอากาศและความหลากหลายทางชีวภาพ โดยด้านสภาพภูมิอากาศได้กำหนดเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ.
2593 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2608 ในด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ไทยได้เห็นชอบเป้าหมายตามกรอบการดำเนินงานด้านความหลากหลายทางชีวภาพระดับโลกและประกาศเข้าร่วมในการกำหนดเป้าหมายที่ท้าทายในการเพิ่มพื้นที่อนุรักษ์ให้ได้ร้อยละ 30 ภายในปี พ.ศ. 2573 โครงการ CCMB จึงกำหนดกรอบการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนความพยายามของไทยในการบรรลุเป้าหมายระดับโลกนี้ เพื่อสนับสนุนประเทศไทยให้มีความก้าวหน้าในการสร้างภูมิต้านทานและความสามารถในการฟื้นตัวจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาแบบปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ รวมทั้งทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้รับการคุ้มครองและมีการบริหารจัดการที่ดีขึ้นเพื่อความยั่งยืนด้านการท่องเที่ยวและคุณภาพชีวิตของชุมชนชายฝั่งและการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว โครงการ CCMB มุ่งเน้นการดำเนินงานด้านนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเงินเพื่อสภาพภูมิอากาศ การอนุรักษ์ความหลากหลายชีวภาพทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ทำงานผ่านเครื่องมือเชิงพื้นที่ที่หลากหลาย เช่น พื้นที่คุ้มครองทางทะเล พื้นที่ที่มีมาตรการคุ้มครองอื่นที่มีประสิทธิภาพ พื้นที่ที่มีความสำคัญเชิงนิเวศหรือชีววิทยา และอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของประเทศสู่การเติบโตแบบปล่อยคาร์บอนต่ำ มีภูมิต้านทานและสามารถฟื้นตัวจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และมีรูปแบบการพัฒนาที่ส่งผลเชิงบวกต่อธรรมชาติ โครงการ CCMB จึงกำหนดกรอบการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนประเทศไทยใน 3 ด้านหลัก ๆ ดังนี้ “วิกฤติสภาพภูมิอากาศ” เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ธารน้ำแข็งละลายอย่างรุนแรง โดยเฉพาะแผ่นน้ำแข็งในกรีนแลนด์และแอนตาร์กติกา ที่ละลายจากเพิ่มขึ้น 4 เท่าตั้งแต่ทศวรรษ 1990 ส่งผลให้ “ระดับน้ำทะเล” สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ดูเหมือนว่าการรักษาอุณหภูมิโลกให้ไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส จะเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่ดูเลือนรางเต็มที่ แต่ต่อให้ทั่วทั้งโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากเชื้อเพลิงฟอสซิลในตอนนี้ การวิเคราะห์ใหม่พบว่าระดับน้ำทะเลก็จะสูงขึ้นปีละ 1 ซม. ภายในสิ้นศตวรรษนี้ ซึ่งเร็วกว่าความเร็วที่ประเทศต่าง ๆ จะสามารถสร้างแนวป้องกันชายฝั่งได้ การศึกษาใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Communications Earth and Environment ได้นำข้อมูลจากการศึกษาในช่วงที่อากาศอบอุ่นเมื่อ 3 ล้านปีก่อน จากการสังเกตการละลายของน้ำแข็งและระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา และแบบจำลองสภาพอากาศมาผสมผสานกัน พบว่าการสูญเสียมวลน้ำแข็งอย่างต่อเนื่องจากแผ่นน้ำแข็งเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อประชากรที่อาศัยอยู่ตามแนวชายฝั่งทั่วโลก โลกกำลังมุ่งหน้าสู่ภาวะโลกร้อนที่ 2.5-2.9 องศาเซลเซียส ซึ่งจะถึงจุดที่แผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์และแอนตาร์กติกาตะวันตกจะพังทลายลง และจะทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นประมาณ 12 เมตร ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากไม่มีที่อยู่อาศัย ในตอนนี้ผู้คนราว 230 ล้านคนอาศัยอยู่ภายในระดับความสูงเหนือน้ำทะเลปัจจุบัน 1 เมตร และอีก 1,000 ล้านคนอาศัยอยู่ภายในระดับความสูงเหนือน้ำทะเล 10 เมตร การวิจัยชายฝั่งทะเลไทยจะเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลและผู้กำหนดนโยบาย ซึ่งจำเป็นต้องมีการวางแผนสำหรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเป็นไปเพื่อการพัฒนากลยุทธ์ที่มีความยืดหยุ่นเพื่อจัดการกับผลกระทบต่อระบบธรรมชาติและสังคม
ในประเทศไทย ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งและอุทกภัยจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วน เนื่องจากปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อผู้คนกว่า 11 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในเขตชายฝั่งทะเล (17% ของประชากรทั้งประเทศ) กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของรัฐบาลไทย ได้คำนวณว่าการกัดเซาะในแต่ละปีทำให้ประเทศไทยสูญเสียพื้นที่ชายฝั่งราว ๆ 30 ตารางกิโลเมตร ขณะที่สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมคาดการณ์ว่าระดับน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้นอีก 1 เมตรในอีก 40-100 ปีข้างหน้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชายฝั่งอย่างน้อย 3,200 ตารางกิโลเมตรจากการกัดเซาะและอุทกภัย ซึ่งอาจทำให้ประเทศไทยต้องสูญเงินกว่า 3 พันล้านบาท (หรือเกือบ 70 ล้านปอนด์) ในระยะเวลาดังกล่าว โครงการชายฝั่งทะเลไทยนั้นตอบสนองต่อความต้องการเร่งด่วนในการเพิ่มความยืดหยุ่นและศักยภาพในการปรับตัวของชุมชนชายฝั่ง ผ่านการดำเนินงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากขึ้นจากหน่วยงานภาครัฐและองค์กรต่าง ๆ - สร้างความเชื่อมโยงเชิงสาเหตุระหว่างการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การกัดเซาะชายฝั่ง และอุทกภัย
People Also Search
- ภาวะโลกรวน (Climate Change) ส่งผลต่อมหาสมุทรและชายฝั่งอย่างไร?
- ชายฝั่งในภาวะโลกรวน : ชายฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปราะบางต่อโลกรวน ...
- โลกรวน ส่งผลต่อมหาสมุทรและชายฝั่งอย่างไร?
- โลกรวน... - กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม | Facebook
- พื้นที่ชายฝั่งทะเล อาจเสี่ยงภัยต่อสิ่งใดบ้างภายใต้สถานการณ์โลกรวน
- โครงการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายชีวภาพทางทะเลและชายฝั่ง ...
- ทะเลไทยในมือเรา : เทคโนโลยีเพื่อฟื้นฟูและยกระดับชีวิตทะเล และชายฝั่ง
- โลกเดือด ทะเลรวน เราจะจัดการทรัพยากรอย่างไร
- 'น้ำทะเล' ขึ้นสูง เมืองชายฝั่งจม เกิด 'การอพยพ' ครั้งใหญ่ หากลดโลกร้อน ...
- ชายฝั่งทะเลไทย: ความเปราะบาง ความยืดหยุ่น และการปรับตัวของบริเวณชายฝั่ง ...
นอกจากบทความนี้แล้ว สามารถอ่านเพิ่มในแบบที่ไม่เป็นวิชาการมากนักได้ที่ Https://beachlover.net/น้ำทะเลล้นฝั่ง-ภัยเนิบช/ การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล (SLR) เป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อพื้นที่ชายฝั่งทั่วโลก โดยมีผลกระทบที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศ การใช้ที่ดิน และปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคม การวิจัยระบุว่าเขตชายฝั่งที่ต่ำ
นอกจากบทความนี้แล้ว สามารถอ่านเพิ่มในแบบที่ไม่เป็นวิชาการมากนักได้ที่ https://beachlover.net/น้ำทะเลล้นฝั่ง-ภัยเนิบช/ การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล (SLR) เป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อพื้นที่ชายฝั่งทั่วโลก โดยมีผลกระทบที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศ การใช้ที่ดิน และปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคม การวิจัยระบุว่าเขตชายฝั่งที่ต่ำ เช่น Karasu ในตุรกี มีความเสี่ยงเป็นพิเศษ โดยมีระดับการคาดการณ์น้ำท่วม 1....
ภายในปี 2100 ภายใต้สถานการณ์ SSP5 ที่ราบชายฝั่ง Tavoliere Delle Puglie ในอิตาลีต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่ซับซ้อนจาก SLR
ภายในปี 2100 ภายใต้สถานการณ์ SSP5 ที่ราบชายฝั่ง Tavoliere delle Puglie ในอิตาลีต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่ซับซ้อนจาก SLR และการทรุดตัวของแผ่นดิน โดยมีการคาดการณ์ว่าจะมีพื้นที่จมอยู่ใต้น้ำชายฝั่งถึง 147.7 ตารางกิโลเมตร ภายในปี 2150 ภายใต้สถานการณ์ความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกสูง ในแคลิฟอร์เนีย คาดว่า SLR จะเพิ่มระดับน้ำใต้ดินชายฝั่ง ซึ่งนำไปสู่อันตรายต่อน้ำใต้ดินและน้ำท่วมในแผ่นดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน...
2563[3] แต่เรายังจำเป็นต้องเร่งเสริมสร้างศักยภาพการดำเนินงานและฐานข้อมูลในหลายสาขาเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2608 ประเทศไทยมีชายฝั่งทะเลรวมเป็นระยะทางถึง 3,100 กิโลเมตร
2563[3] แต่เรายังจำเป็นต้องเร่งเสริมสร้างศักยภาพการดำเนินงานและฐานข้อมูลในหลายสาขาเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2608 ประเทศไทยมีชายฝั่งทะเลรวมเป็นระยะทางถึง 3,100 กิโลเมตร ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่มีความเปราะบางและมีความเสี่ยงสูงต่อการประสบภัยจากคลื่นพายุ การกัดเซาะชาย...
2593 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2608 ในด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ไทยได้เห็นชอบเป้าหมายตามกรอบการดำเนินงานด้านความหลากหลายทางชีวภาพระดับโลกและประกาศเข้าร่วมในการกำหนดเป้าหมายที่ท้าทายในการเพิ่มพื้นที่อนุรักษ์ให้ได้ร้อยละ 30 ภายในปี พ.ศ. 2573
2593 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2608 ในด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ไทยได้เห็นชอบเป้าหมายตามกรอบการดำเนินงานด้านความหลากหลายทางชีวภาพระดับโลกและประกาศเข้าร่วมในการกำหนดเป้าหมายที่ท้าทายในการเพิ่มพื้นที่อนุรักษ์ให้ได้ร้อยละ 30 ภายในปี พ.ศ. 2573 โครงการ CCMB จึงกำหนดกรอบการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนความพยายามของไทยในการบรรลุเป้าหมายระดับโลกนี้ เพื่อสนับสนุนประเทศไทยให้มีควา...
ดูเหมือนว่าการรักษาอุณหภูมิโลกให้ไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส จะเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่ดูเลือนรางเต็มที่ แต่ต่อให้ทั่วทั้งโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากเชื้อเพลิงฟอสซิลในตอนนี้ การวิเคราะห์ใหม่พบว่าระดับน้ำทะเลก็จะสูงขึ้นปีละ 1 ซม. ภายในสิ้นศตวรรษนี้ ซึ่งเร็วกว่าความเร็วที่ประเทศต่าง
ดูเหมือนว่าการรักษาอุณหภูมิโลกให้ไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส จะเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่ดูเลือนรางเต็มที่ แต่ต่อให้ทั่วทั้งโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากเชื้อเพลิงฟอสซิลในตอนนี้ การวิเคราะห์ใหม่พบว่าระดับน้ำทะเลก็จะสูงขึ้นปีละ 1 ซม. ภายในสิ้นศตวรรษนี้ ซึ่งเร็วกว่าความเร็วที่ประเทศต่าง ๆ จะสามารถสร้างแนวป้องกันชายฝั่งได้ การศึกษาใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Communications Earth and Environment ได้นำข้อมูลจากก...