ตั้งเข็มทิศใหม่กับแผน Ai แห่งชาติฉบับสอง 3 ความท้าทายใหญ่ที่ต้องก้าวเด

Leo Migdal
-
ตั้งเข็มทิศใหม่กับแผน ai แห่งชาติฉบับสอง 3 ความท้าทายใหญ่ที่ต้องก้าวเด

AI ได้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงที่ทุกประเทศทั่วโลกต่างให้ความสนใจ สำหรับประเทศไทย คณะกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อพัฒนาประเทศไทย หรือ “บอร์ด AI แห่งชาติ” ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน คือผู้กำหนดทิศทาง ขับเคลื่อน และกำกับดูแลแผนปฏิบัติการด้าน AI แห่งชาติ พ.ศ. 2565–2570 ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ คำถามสำคัญที่หลายฝ่ายยังเฝ้าจับตามองคือ บอร์ดฯ สามารถแสดงบทบาทความเป็นผู้นำ วางวิสัยทัศน์ระยะยาว และออกแบบกลไกที่ทำให้ AI ตอบโจทย์เชิงยุทธศาสตร์ของประเทศได้เพียงใด โดยเฉพาะเมื่อแผนปฏิบัติการด้าน AI พ.ศ. 2565–2570 ถูกใช้มามากกว่าครึ่งทางแล้ว การทบทวนและเตรียมวางรากฐานสำหรับแผนฉบับใหม่จึงเป็นสิ่งจำเป็น บทความนี้นำเสนอ “3 สิ่งสำคัญที่อยากเห็นจากบอร์ด AI แห่งชาติ” พร้อมข้อเสนอเบื้องต้นต่อแผนฉบับถัดไป เพื่อให้ AI ไม่ใช่เพียงโอกาสเชิงเศรษฐกิจ แต่เป็นพลังเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่ช่วยยกระดับสังคมไทยทั้งในมิติความสามารถในการแข่งขัน ความยั่งยืน และความเท่าเทียม แม้ “บอร์ดAI” จะเป็น “หัวเรือ” ของการวางกรอบยุทธศาสตร์ แต่ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมา ได้มีการประชุมไปเพียง 2 ครั้ง ได้แก่ การประชุมครั้งแรกในวันที่ 8 ธันวาคม 2565 โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน [1] และครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร [2]

การห่างหายเป็นเวลานานเช่นนี้สะท้อนถึงการขาดความต่อเนื่องในการกำกับและติดตามนโยบายด้าน AI ของประเทศ แม้บอร์ดจะมีคณะอนุกรรมการและหน่วยงานที่รับผิดชอบเฉพาะทาง แต่บทบาทของบอร์ดในฐานะผู้กำหนดวาระระดับยุทธศาสตร์ยังจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในประเด็นสำคัญที่แม้อยู่นอกกรอบแผนปัจจุบัน แต่ส่งผลต่อการสร้างอุตสาหกรรม AI และคุณภาพชีวิตของประชากรไทย ไม่ว่าจะเป็น ในขณะที่โลกกำลังตื่นตัวกับศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เปลี่ยนแปลงอนาคต ประเทศไทยกำลังวางรากฐานอย่างเงียบ ๆ แต่มั่นคง เพื่อกำหนดทิศทางอนาคต AI ของตนเอง ท่ามกลางสมรภูมิการแข่งขันทางเทคโนโลยีระดับโลกที่ดุเดือด นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยี แต่เป็นยุทธศาสตร์แห่งชาติที่เดิมพันด้วยความอยู่รอดทางเศรษฐกิจ อธิปไตยทางดิจิทัล และการรับมือความท้าทายสำคัญของประเทศ รศ.ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการ สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI ได้เปิดเผยพิมพ์เขียวการขับเคลื่อนนี้ ซึ่งเผยให้เห็นวิสัยทัศน์ที่ไกลกว่าการเป็นผู้ตาม แต่คือการหาจุดยืนที่เหมาะสมและสร้างความได้เปรียบในแบบฉบับของไทย ก่อนจะก้าวไปสู่แผนยุทธศาสตร์ระดับชาติ การทำความเข้าใจธรรมชาติของ AI ที่ใช้งานได้จริงในปัจจุบันเป็นสิ่งสำคัญ รศ.ดร.ธีรณี ได้จำแนก AI ออกเป็น 3 ค่ายหลักที่ใกล้ตัวกว่าที่คิด เพื่อให้เห็นภาพการประยุกต์ใช้ที่ชัดเจน การเข้าใจ AI ทั้ง 3 รูปแบบนี้ เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เห็นว่าเทคโนโลยีดังกล่าวสามารถผสานเข้ากับกระบวนการทำงานและแก้ปัญหาจริงได้อย่างไร ซึ่งเป็นหัวใจของการผลักดันให้เกิดการยอมรับและใช้งานในวงกว้างต่อไป การลงทุนด้าน AI ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นความจำเป็นเพื่อความอยู่รอดและการเติบโตของประเทศในระยะยาว รศ.ดร.ธีรณี ชี้ให้เห็นถึงเหตุผลเชิงยุทธศาสตร์ 4 ประการที่ผลักดันให้ประเทศไทยต้องให้ความสำคัญกับ AI อย่างจริงจัง

บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ทั่วโลกต่างเร่งพัฒนา AI ของตนเองอย่างเข้มข้นและรวดเร็วจนนำไปสู่ AI ที่มีความสามารถใกล้เคียงมนุษย์ (Artificial General Intelligence) อย่างไรก็ตามการขาดธรรมาภิบาลในการพัฒนาและใช้งาน AI อาจนำมาซึ่งความท้าทายสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรม การใช้ทดแทนแรงงานมนุษย์โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบรอบด้าน การละเมิดความเป็นส่วนตัว ตลอดจนภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ซับซ้อนขึ้น ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ ประเทศไทยได้แสดงความพร้อมรับมือผ่าน "แผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทย พ.ศ. 2565-2570" ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2565 โดยมีการขับเคลื่อนมาแล้ว 2 ปี ภายใต้การบูรณาการความร่วมมือระหว่าง 2 กระทรวงหลัก ได้แก่ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทย

หากย้อนไปไม่กี่ปีก่อน ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เป็นเทคโนโลยีที่เป็นกระแสและคลื่นลูกใหม่ที่ใคร ๆ ก็จับตามอง แต่ปัจจุบัน AI กำลังจะกลายเป็น “ปัจจัยที่ 6” ต่อจากสมาร์ตโฟนที่เป็นปัจจัยที่ 5 ของมนุษย์เสียแล้ว มากไปกว่านั้น AI ก็กำลังเป็น ‘ทางรอดใหม่’ ของหลากหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย คือสัญญาณของการเปลี่ยนผ่านระดับโครงสร้าง ไม่ว่าจะเป็นในภาคการเงิน การแพทย์ การศึกษา หรือแม้กระทั่งชีวิตประจำวันของประชาชนทั่วไป แล้วเมื่อคลื่นลูกใหม่นี้พัดมา ประเทศไทยจะยืนอยู่ตรงไหนในแผนที่โลก? จะคว้าโอกาสไว้ทัน หรือปล่อยให้ซ้ำรอยกับอดีตที่เคยพลาดการเปลี่ยนแปลงในยุคไมโครชิปและดิจิทัลมาแล้ว เรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกันอย่างเข้มข้นในงาน Bangkok AI Week 2025 กับช่วงเสวนา “ยุทธศาสตร์ AI ไทย: วางจุดยืนอย่างไรในเวทีโลก” กับ 3 มุมมองผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ปรึกษาอาวุโส สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA), พชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และ นพ.ปิยะฤทธิ์ อิทธิชัยวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Preceptor AI วิศวกรด้าน... โลกกำลังขยับสู่การสร้าง AGI (Artificial General Intelligence) หรือ AI ที่มีศักยภาพใกล้เคียงกับมนุษย์อย่างแท้จริงในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการคิด วิเคราะห์ หรือแม้แต่สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ผู้เชี่ยวชาญบางคนคาดว่า AGI อาจเกิดขึ้นภายในไม่กี่ปีข้างหน้า ความได้เปรียบจะอยู่ที่ประเทศที่สามารถสร้าง ต่อยอด และควบคุม AI ได้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่แค่การใช้งาน AI จากต่างประเทศ

ETDA เผยยุทธศาสตร์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) แห่งชาติของไทยในงาน Bangkok AI Week 2025 โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการสร้างความรู้ความเข้าใจด้าน AI (AI Literacy) ให้คนไทย 10 ล้านคน ดึงดูดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 5 แสนล้านบาท และมุ่งสู่การเป็น “ชาติที่ใช้ AI อย่างมีจริยธรรม” (Ethical AI Nation) ผ่านทิศทางการพัฒนาแบบ Open Source ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ที่ปรึกษาอาวุโส ETDA ระบุว่า สำหรับทิศทางในเวทีโลก ประเทศไทยจะมุ่งสู่ Open Source AI และตั้งเป้าพัฒนา Large Language Model (LLM) ของตนเอง เช่นเดียวกับที่หลายประเทศอย่างสิงคโปร์ มาเลเซีย จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งการตัดสินใจนี้สอดคล้องกับทิศทางของนานาชาติส่วนใหญ่ ซึ่งอ้างอิงข้อมูลจากเวที AI Summit ที่ฝรั่งเศสซึ่งมีเพียงสหรัฐอเมริกาประเทศเดียวที่ไม่ลงนามในข้อตกลง Open Source AI นอกจากนี้ เพื่อแสดงบทบาทผู้นำในภูมิภาค ไทยยังเตรียมการที่จะประกาศจัดตั้ง “ศูนย์ AI Governance Practice Center” ในเวทีระดับโลกของ UNESCO ที่กำลังจะจัดขึ้น ดร.ศักดิ์ ได้ตอกย้ำว่ายุทธศาสตร์ AI ของไทยมีรากฐานที่วางไว้ล่วงหน้าและไม่ได้เป็นการดำเนินการตามกระแส โดยมีแผนปฏิบัติการมาตั้งแต่ปี 2565 ซึ่งเป็นผลจากการทำงานร่วมกันของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) มาก่อนหน้านั้นถึงสองปี ซึ่งยอมรับว่าการวางแผนในยุคก่อน ChatGPT นั้นมีความท้าทายในการคาดการณ์อนาคต กลไกสำคัญที่ตั้งขึ้นคือคณะกรรมการ AI แห่งชาติ ซึ่งมีโครงสร้างพิเศษคือมี “เลขาธิการร่วม” จากทั้งสองกระทรวง ซึ่งเป็นรูปแบบที่ไม่ปกติในระบบราชการและสะท้อนถึงความสำคัญอย่างยิ่งของเรื่องนี้ นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเป็นหนึ่งในชาติแรก ๆ ของโลกที่ริเริ่มร่างกฎหมาย AI ถึง 2 ฉบับ คือฉบับของ สวทช. จัดทำโดยจุฬาฯ ที่อิงตามร่างของ EU และฉบับของ ETDA ที่เน้นการส่งเสริม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพร้อมและความตื่นตัวของประเทศ

Last updated: 26 Sep 2025 | 1235 Views | AI ไทยก้าวสู่อนาคต รัฐบาลเดินหน้าเทคโนโลยีอย่างมีทิศทาง ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC)"เรากำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการขับเคลื่อนเทคโนโลยี AI ประเทศไทย ไทยเราเริ่มต้นก่อนแต่เดินหน้าได้ช้ากว่าหลายประเทศ วันนี้เรากำลังเร่งเครื่องอย่างมีระบบ" ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) เปิดบทสนทนาด้วยน้ำเสียงมั่นใจดร.ชัย เล่าถึงความคืบหน้าในการผลักดันแผนยุทธศาสตร์ AI แห่งชาติว่า ที่เริ่มต้นร่างตั้งแต่ปี 2562 และถูกประกาศใช้อย่างเป็นทางการในปี 2565 แม้จะเผชิญช่วงเวลาที่ไม่มีคณะกรรมการขับเคลื่อนกลางกว่า 3 ปี แต่ต้นปี 2568 ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการใหม่ โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (ขณะนั้น) เป็นประธาน... รับหน้าที่เป็นผู้ช่วยเลขานุการของแผนนี้"สำหรับแผน AI แห่งชาติ ที่ปรับปรุงล่าสุด จะเน้นการดำเนินงานใน 2 มิติหลัก คือ Readiness (ความพร้อม) และ Adoption (การใช้งานจริง) ประกอบด้วยReadiness: วางรากฐานให้มั่น ก่อนเร่งเครื่อง ในมิติความพร้อม (Readiness) คือการวางรากฐานให้ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐาน บุคลากร และกฎหมายรองรับการพัฒนา AI ได้อย่างยั่งยืน โดยในแผน AI แห่งชาติได้ให้ความสำคัญกับองค์ประกอบสำคัญดังนี้· โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ลงทุนในซูเปอร์คอมพิวเตอร์แห่งชาติ ดาต้าเซ็นเตอร์กลาง และแพลตฟอร์มกลางที่เปิดให้เอกชนและนักวิจัยเข้าถึงทรัพยากร AI ได้อย่างเท่าเทียม· กำลังคนและทักษะ... การพัฒนากำลังคน ตั้งแต่เด็กนักเรียนจนถึงแรงงาน โดยตั้งเป้าพัฒนา 30,000 คนในเฟสแรก และขยายเป็นสองเท่าในระยะต่อไป2. การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ และดาต้าเซนเตอร์ ซึ่งไทยยังอ่อนแอในด้านซอฟต์แวร์ และต้องสร้างระบบนิเวศให้เอื้อต่อสตาร์ทอัป3. งานวิจัยและพัฒนา (R&D) โดยตั้งเป้าสร้างอย่างน้อย 100 นวัตกรรมต่อปี และมีสตาร์ทอัปใหม่จากงานวิจัยอย่างน้อย 20–50 รายต่อปี4.

การใช้งานจริงในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น ราชการ แพทย์ การศึกษา การท่องเที่ยว โดยเฉพาะในภาคสาธารณสุข ที่ไทยมีโอกาสแซงสิงคโปร์ได้5. กฎหมายและจริยธรรม ที่ส่งเสริมให้เกิดการใช้งานอย่างปลอดภัย เป็นธรรม และไม่แย่งงานมนุษย์"ตอนนี้เราดำเนินการได้ราว 30% ของแผน อุปสรรคหลักคือการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ทำให้ขาดคณะกรรมการกลางที่ขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง เราจึงต้องเร่งวางโครงสร้างถาวร" ดร.ชัยระบุ โอกาสของไทยในภูมิภาคอาเซียน"แม้สิงคโปร์จะเป็นผู้นำ AI ในอาเซียน แต่ไทยเองก็มีศักยภาพไม่น้อย เรานำหน้าอินโดนีเซียและเวียดนาม และกำลังไล่หลังมาเลเซียอย่างกระชั้นชิด หากเราวางระบบสนับสนุนได้ดี โดยเฉพาะด้านการลงทุน โครงสร้างพื้นฐาน และกำลังคน ไทยก็สามารถเป็นศูนย์กลาง AI ได้"ดร.ชัยยกตัวอย่างว่า ภาคการแพทย์ของไทยมีเครือข่ายโรงพยาบาลและนักวิจัยที่แข็งแกร่ง จึงมีโอกาสสูงในการพัฒนา Medical AI และสามารถลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศได้ โดยตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมในประเทศอย่างน้อย 100 โครงการ และสนับสนุนให้เกิดการใช้งานอย่างน้อย 600 องค์กร... Thailand Development Research Institute (TDRI) 565 Ramkhamhaeng 39(Thepleela) Wangthonglang Bangkok Thailand 10310 All rights reserved. All published materials are reserved under a Creative Commons license.

สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) 565 ซอยรามคำแหง 39 (เทพลีลา) เขตวังทองหลาง กรุงเทพ 10310

People Also Search

AI ได้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงที่ทุกประเทศทั่วโลกต่างให้ความสนใจ สำหรับประเทศไทย คณะกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อพัฒนาประเทศไทย หรือ “บอร์ด AI แห่งชาติ”

AI ได้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงที่ทุกประเทศทั่วโลกต่างให้ความสนใจ สำหรับประเทศไทย คณะกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อพัฒนาประเทศไทย หรือ “บอร์ด AI แห่งชาติ” ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน คือผู้กำหนดทิศทาง ขับเคลื่อน และกำกับดูแลแผนปฏิบัติการด้าน AI แห่งชาติ พ.ศ. 2565–2570 ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ คำถามสำคัญที่หลายฝ่...

การห่างหายเป็นเวลานานเช่นนี้สะท้อนถึงการขาดความต่อเนื่องในการกำกับและติดตามนโยบายด้าน AI ของประเทศ แม้บอร์ดจะมีคณะอนุกรรมการและหน่วยงานที่รับผิดชอบเฉพาะทาง แต่บทบาทของบอร์ดในฐานะผู้กำหนดวาระระดับยุทธศาสตร์ยังจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในประเด็นสำคัญที่แม้อยู่นอกกรอบแผนปัจจุบัน แต่ส่งผลต่อการสร้างอุตสาหกรรม AI และคุณภาพชีวิตของประชากรไทย ไม่ว่าจะเป็น

การห่างหายเป็นเวลานานเช่นนี้สะท้อนถึงการขาดความต่อเนื่องในการกำกับและติดตามนโยบายด้าน AI ของประเทศ แม้บอร์ดจะมีคณะอนุกรรมการและหน่วยงานที่รับผิดชอบเฉพาะทาง แต่บทบาทของบอร์ดในฐานะผู้กำหนดวาระระดับยุทธศาสตร์ยังจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในประเด็นสำคัญที่แม้อยู่นอกกรอบแผนปัจจุบัน แต่ส่งผลต่อการสร้างอุตสาหกรรม AI และคุณภาพชีวิตของประชากรไทย ไม่ว่าจะเป็น ในขณะที่โลกกำลังตื่นตัวกับศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์ (...

บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ทั่วโลกต่างเร่งพัฒนา AI ของตนเองอย่างเข้มข้นและรวดเร็วจนนำไปสู่ AI ที่มีความสามารถใกล้เคียงมนุษย์ (Artificial General Intelligence) อย่างไรก็ตามการขาดธรรมาภิบาลในการพัฒนาและใช้งาน AI

บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ทั่วโลกต่างเร่งพัฒนา AI ของตนเองอย่างเข้มข้นและรวดเร็วจนนำไปสู่ AI ที่มีความสามารถใกล้เคียงมนุษย์ (Artificial General Intelligence) อย่างไรก็ตามการขาดธรรมาภิบาลในการพัฒนาและใช้งาน AI อาจนำมาซึ่งความท้าทายสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรม การใช้ทดแทนแรงงานมนุษย์โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบรอบด้าน การละเมิดความเป็นส่วนตัว ตลอดจนภัยคุกคามทางไซเบอร์ท...

หากย้อนไปไม่กี่ปีก่อน ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เป็นเทคโนโลยีที่เป็นกระแสและคลื่นลูกใหม่ที่ใคร ๆ ก็จับตามอง แต่ปัจจุบัน AI กำลังจะกลายเป็น “ปัจจัยที่

หากย้อนไปไม่กี่ปีก่อน ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เป็นเทคโนโลยีที่เป็นกระแสและคลื่นลูกใหม่ที่ใคร ๆ ก็จับตามอง แต่ปัจจุบัน AI กำลังจะกลายเป็น “ปัจจัยที่ 6” ต่อจากสมาร์ตโฟนที่เป็นปัจจัยที่ 5 ของมนุษย์เสียแล้ว มากไปกว่านั้น AI ก็กำลังเป็น ‘ทางรอดใหม่’ ของหลากหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย คือสัญญาณของการเปลี่ยนผ่านระดับโครงสร้าง ไม่ว่าจะเป็นในภาคการเงิน การแพทย์ การศึกษา หรือแม้กระทั่งชีวิตประจำวันของประชาชนทั่...

ETDA เผยยุทธศาสตร์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) แห่งชาติของไทยในงาน Bangkok AI Week 2025 โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการสร้างความรู้ความเข้าใจด้าน AI

ETDA เผยยุทธศาสตร์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) แห่งชาติของไทยในงาน Bangkok AI Week 2025 โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการสร้างความรู้ความเข้าใจด้าน AI (AI Literacy) ให้คนไทย 10 ล้านคน ดึงดูดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 5 แสนล้านบาท และมุ่งสู่การเป็น “ชาติที่ใช้ AI อย่างมีจริยธรรม” (Ethical AI Nation) ผ่านทิศทางการพัฒนาแบบ Open Source ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ที่ปรึกษาอาวุโส ETDA ระบุว่า สำหรับทิศทางในเวทีโลก ประเทศไทยจะมุ่งสู...