บพข ไขปริศนา สตาร์ทอัพ สานต่ออนาคตพร้อมชี้ช่องระดมทุนผ่าน

Leo Migdal
-
บพข ไขปริศนา สตาร์ทอัพ สานต่ออนาคตพร้อมชี้ช่องระดมทุนผ่าน

การที่งานวิจัยสักชิ้นจะถูกผลักดันให้กลายเป็นสินค้าเชิงพาณิชย์ และประสบความสำเร็จนั้น ไม่ใช่มีเพียงไอเดียที่ผสมผสานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพราะปัจจุบันมีมิติภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ สภาวะโลกร้อน สิ่งแวดล้อม ความยั่งยืน เข้ามาเกี่ยวข้อง งานวิจัยที่ถูกนำไปผลิตสินค้าต้องตอบโจทย์ประเด็นเหล่านี้ด้วย ขณะเดียวกัน เมื่องานวิจัยนั้นถูกนำไปพัฒนาต่อยอดเชิงพาณิชย์ ก็ต้องระดมทุนเพื่อให้สินค้านั้นก้าวไปถึงเป้าหมาย ด้วยการระดมทุนจากนักลงทุน หรือกองทุนต่างๆ (Venture Capitalist : VC) ที่สนใจร่วมลงทุน มาวางแผนด้านการตลาด การผลิต การจัดจำหน่าย การกระจายสู่ต่างประเทศ แล้วสตาร์ทอัพแบบไหนที่จะเข้าตานักลงทุน ในเวทีเสวนา “Next Gen Startup: Through the eyes of VC Panels : เจาะลึกมุมมองนักลงทุนชั้นนำ กับอนาคต Deep Tech Startup ไทย” ซึ่งมี ผศ.ดร.อัครวิทย์ กาญจนโอภาษ จาก หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็น Moderator สะท้อนความคิดของนักลงทุนต่อโจทย์นี้ ผ่านมุมมองของ คุณปริม จิตจรุงพร กรรมการรองเลขาธิการ... นอกจากนี้ ยังมีการให้ความรู้การระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดย คุณสุนัดดา สุจริต รองผู้อำนวยการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สร้างโอกาสให้สตาร์ทอัพไทย ได้เข้าไปต่อยอดได้อย่างไร้ขีดจำกัด จากคำถามว่า หากนักลงทุนจะเลือกลงทุนกับสตาร์ทอัพสักราย ปัจจัยแรกที่นักลงทุนมองคืออะไร? คุณปริมตอบคำถามนี้ว่า การที่ Deep Tech Startup โดยเฉพาะในช่วง early stage จะเป็นที่สนใจของนักลงทุน หรือกองทุนต่างๆ นั้น ควรเริ่มจากการพิจารณาตัวเองก่อนว่า ต้องการเล่นในตลาดใด ตลาดท้องถิ่น หรือตลาดระดับโลก โจทย์ต้องชัดเจน เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่จะพิจารณาถึงความพร้อมในทุกๆ ด้าน ทั้งคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ว่าตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายเพียงใด ทีมงานมีใครบ้าง เทคโนโลยีมีความพร้อมต่อการพัฒนาต่อยอดในอนาคตหรือไม่ ได้รับการจดสิทธิบัตรปกป้องงานวิจัยและนวัตกรรมหรือยัง และที่สำคัญคือใครเป็น CEO มีประสบการณ์แค่ไหน และ CEO ทำงานเต็มเวลาหรือเปล่า ถ้า CEO มีงานประจำโดยใช้เวลาส่วนหนึ่งมาขับเคลื่อนโปรเจ็กต์นี้ โอกาสจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนก็ยาก เพราะเขามองว่าถ้า CEO...

พร้อมเดินหน้าแผนงาน Deep Science and Technology Accelerator Platform เป็นเนวิเกเตอร์นำทาง เร่งสร้างนวัตกรรม ลดความเสี่ยง เชื่อมโยงและปิดช่องว่างในการนำงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) จัดงาน "PMUC CONNECT” เวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ Deep Tech Startup และนักลงทุนกว่า 10 ราย รวมถึง stakeholders ซึ่งประกอบด้วย ผู้ประกอบการภาคเอกชน ภาครัฐ มหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย และ Accelerators ได้มา connect กัน เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ถ่ายทอดมุมมองประสบการณ์ และร่วมกันเสนอแนวทางในการผลักดัน Deep Tech Startup ไทยให้สามารถเติบโตได้ในตลาดโลก เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน รศ.ดร.ธงชัย สุวรรณสิชณน์ ผู้อำนวยการ บพข. กล่าวว่า ที่ผ่านมา บพข.ซึ่งมีภารกิจสำคัญในการบริหารจัดการทุนวิจัยของประเทศ ได้มุ่งสร้างระบบบริหารจัดการที่ดี เพื่อให้การวิจัยและพัฒนาของประเทศไปสู่เชิงพาณิชย์ได้อย่างเป็นรูปธรรม

เสียงเตือนถึงอนาคตสตาร์ตอัพไทยดังขึ้น หลังการรับรู้ในเวทีภูมิภาคซบเซา ผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐระดมสมองในงาน THAI STARTUP DAY 2025 ชี้เป้าปรับยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ พร้อมอัดฉีดกลไกสนับสนุนชุดใหม่ หวังพลิกเกมขับเคลื่อนผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดโลก ประเด็นสำคัญนี้ถูกจุดประกายขึ้นจากข้อสังเกตที่ว่าสตาร์ตอัพไทยดูเหมือนจะ “หายไปจากเรดาร์” ในงานเสวนาระดับภูมิภาค โดยการอภิปรายได้มุ่งเน้นไปที่การที่สตาร์ตอัพไทยได้รับการกล่าวถึงน้อยลง เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ที่ได้รับการยอมรับในฐานะศูนย์กลางเทคโนโลยี (Tech Hub) อินโดนีเซียที่ถูกมองว่าเป็นตลาดดาวรุ่ง (Next China) หรือฟิลิปปินส์ที่ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นตลาดที่เติบโตตามมา (Next Indonesia) ไปยดา หาญชัยสุขสกุล ผู้จัดการกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TED Fund) กล่าวว่า ปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากจำนวนสตาร์ตอัพไทยในกลุ่มเทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Tech) ที่ยังมีสัดส่วนน้อย ประกอบกับช่องว่างในการนำผลงานวิจัยมาพัฒนาต่อยอดในเชิงพาณิชย์ (Commercialization) สตาร์ตอัพไทยส่วนใหญ่มักเริ่มต้นจากการพัฒนาแอปพลิเคชัน (Application) มากกว่าการมุ่งเน้นเทคโนโลยีแกนหลัก ซึ่งอาจส่งผลต่อการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ อย่างไรก็ตาม ไปยดากล่าวว่า สตาร์ตอัพไม่จำเป็นต้องเป็น Deep Tech เสมอไป หากมีคุณค่า (Value) และศักยภาพในการขยายสู่ตลาดโลก (Global Platform) ก็สามารถเป็นจุดแข็งได้ ดร.ชินาวุธ ชินะประยูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กล่าวว่า ประเด็นนี้เชื่อมโยงกับ “กับดักประเทศรายได้ปานกลาง” (Middle-Income Trap) ซึ่งการจะก้าวข้ามได้ต้องอาศัยแบรนด์ที่แข็งแกร่งหรือนวัตกรรมระดับสูง ดร.ชินาวุธกล่าวว่า ปัญหาหลักอยู่ที่ “ความเสี่ยง” (Risk) ทั้งในมิติของ “ทุนที่พร้อมรับความเสี่ยง” (Risk Capital) ที่ยังไม่เพียงพอ และกรอบความคิดของสังคมและภาครัฐที่ยังคง “หลีกเลี่ยงความเสี่ยง” (Risk Averse) ขาดความเข้าใจในการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดีพอ ดังเช่นทัศนคติ “เงินรัฐตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้” หรือความกังวลต่อการตรวจสอบจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการสร้างนวัตกรรม ปริวรรต วงษ์สำราญ รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NIA) กล่าวว่า การรับรู้ต่อสตาร์ตอัพไทยในระดับภูมิภาคที่ต่ำนั้นเป็นปัญหาที่มีมานาน ประเทศไทยมักถูกมองว่า “ดีแต่ยังไม่ถึงที่สุด” คือมีตลาดที่ใหญ่พอสำหรับการเริ่มต้น แต่เล็กเกินไปสำหรับการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ปริวรรตได้ยกตัวอย่างสิงคโปร์ที่ใช้ตลาดทุนนำ มีการใช้ Matching Fund ในสัดส่วน 7 ต่อ 3 เพื่อสร้างอุตสาหกรรม Venture Capital อย่างจริงจัง ขณะที่อินโดนีเซียมีตลาดภายในขนาดใหญ่ แม้จะมีความสนใจจากต่างชาติ แต่อุปสรรค (Barrier) บางประการยังคงอยู่ ทำให้เกิดสภาวะ “ไก่กับไข่” ที่การขาดการยอมรับในระดับสากล (International Presence)... ระบบนิเวศสตาร์ทอัพเทคโนโลยีของประเทศไทยเติบโตจากต้นแบบประปรายสู่ระบบที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ทว่าการเข้าถึงเงินทุนยังคงเป็นคอขวดที่ยืดเยื้อ ปัญหาไม่ได้มีจุดติดขัดเพียงจุดเดียว แต่เป็นชุดของข้อจำกัดที่เชื่อมโยงกัน: วัฒนธรรมการลงทุนที่ระมัดระวัง ความจุของกองทุน VC ระยะเริ่มต้นที่จำกัด ความพร้อมของผู้ก่อตั้งที่ไม่สม่ำเสมอ และความท้าทายเชิงโครงสร้างด้านทางออก (exit) ทั้งหมดนี้ร่วมกันก่อร่างภูมิทัศน์การเงินที่มักผลักดันผู้ก่อตั้งไทยที่มีความทะเยอทะยานให้มองออกนอกประเทศ

ในระดับ seed และ pre-seed ผู้ก่อตั้งจำนวนมากพึ่งพารอบจากครอบครัว-เพื่อนหรือเช็คเล็กๆ จากแองเจิล มีเงินทุนร่วมลงทุนอย่างเป็นทางการอยู่ แต่จำนวนกองทุนยังค่อนข้างน้อยและขนาดเช็คโดยทั่วไปค่อนข้างอนุรักษนิยมเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านในภูมิภาคอย่างสิงคโปร์ นักลงทุนมักชอบเดิมพันระยะหลังที่มีแรงฉุดรายได้ชัดเจน ส่วนหนึ่งเพราะแบบจำลองความเสี่ยงสำหรับเทคไทยยังอยู่ระหว่างพัฒนาและการออก (exit) ยังไม่ถี่ เมื่อมี CVC ปรากฏ ก็อาจนำพาช่องทางจัดจำหน่ายและความน่าเชื่อถือมาให้—แต่ก็อาจมีเงื่อนไขเชิงกลยุทธ์ที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นอิสระระยะยาวของสตาร์ทอัพ สินเชื่อธนาคารช่วยเติมช่องว่างได้น้อย สถาบันการเงินแบบดั้งเดิมมักต้องการหลักประกันและกระแสเงินสดย้อนหลัง; สตาร์ทอัพที่หนักไปทางซอฟต์แวร์มักไม่มีทั้งสองอย่าง Venture debt กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก แต่ในไทยยังเพิ่งเริ่มหาจุดพอดีผลิตภัณฑ์–ตลาด ทำให้ผู้ก่อตั้งส่วนใหญ่ต้องยืดทุนหุ้นหรือ bootstrap โครงการให้ทุนและสิทธิประโยชน์ทางภาษีก็มีอยู่ตามหน่วยงานและองค์กรพัฒนา ทว่าการเข้าถึงอาจไม่ทั่วถึง: เกณฑ์คุณสมบัติ ไทม์ไลน์การสมัคร และภาระการรายงาน อาจบั่นทอนทีมเล็กที่ไม่มีทรัพยากรด้านคอมพลายแอนซ์ อุปสรรคประการที่สองคือความสอดประสานระหว่างผู้ก่อตั้ง–นักลงทุน วัสดุนำเสนอ (pitch) บางครั้งประเมินค่าการเงินต่อหน่วย การคงอยู่ของลูกค้า หรือความยากต่อการลอกเลียนแบบต่ำไป ขณะที่นักลงทุนอาจให้ความสำคัญกับกำไรระยะสั้นมากเกินไปแทนเส้นทางสู่การสเกล ความไม่ลงรอยนี้ลดอัตราปิดดีลและยืดวงจรการระดมทุน ซึ่งอาจเป็นเรื่องอยู่รอดในตลาดที่เคลื่อนเร็ว ผู้ก่อตั้งที่ยังไม่เคยผ่าน term sheet การกำหนด liquidation preference หรือการออกแบบ ESOP อาจยอมโครงสร้างที่ทำให้รอบอนาคตยากขึ้น ภูมิศาสตร์และเครือข่ายก็สำคัญ VC ระดับภูมิภาคจำนวนมากมีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ ที่ซึ่งเงินทุนลึกและโครงสร้างกฎหมายเหมาะกับดีล venture สตาร์ทอัพไทยตั้ง holding company ที่นั่นบ่อยเพื่อเข้าถึงทุน; แม้มีประสิทธิผล แต่นี่เพิ่มความซับซ้อนและแรงเสียดทานที่อาจเกิดกับปฏิบัติการในประเทศ การจัดโครงสร้างข้ามพรมแดนยกประเด็นเรื่องที่ตั้ง IP ภาษี และการควบคุม ซึ่งอาจทำให้ผู้ก่อตั้งมือใหม่เกรงใจ

People Also Search

การที่งานวิจัยสักชิ้นจะถูกผลักดันให้กลายเป็นสินค้าเชิงพาณิชย์ และประสบความสำเร็จนั้น ไม่ใช่มีเพียงไอเดียที่ผสมผสานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพราะปัจจุบันมีมิติภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ สภาวะโลกร้อน สิ่งแวดล้อม ความยั่งยืน เข้ามาเกี่ยวข้อง งานวิจัยที่ถูกนำไปผลิตสินค้าต้องตอบโจทย์ประเด็นเหล่านี้ด้วย

การที่งานวิจัยสักชิ้นจะถูกผลักดันให้กลายเป็นสินค้าเชิงพาณิชย์ และประสบความสำเร็จนั้น ไม่ใช่มีเพียงไอเดียที่ผสมผสานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพราะปัจจุบันมีมิติภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ สภาวะโลกร้อน สิ่งแวดล้อม ความยั่งยืน เข้ามาเกี่ยวข้อง งานวิจัยที่ถูกนำไปผลิตสินค้าต้องตอบโจทย์ประเด็นเหล่านี้ด้วย ขณะเดียวกัน เมื่องานวิจัยนั้นถูกนำไปพัฒนาต่อยอดเชิงพาณิชย์ ก็ต้องระดมทุนเพื่อให้สินค้านั้นก...

พร้อมเดินหน้าแผนงาน Deep Science And Technology Accelerator Platform เป็นเนวิเกเตอร์นำทาง เร่งสร้างนวัตกรรม ลดความเสี่ยง

พร้อมเดินหน้าแผนงาน Deep Science and Technology Accelerator Platform เป็นเนวิเกเตอร์นำทาง เร่งสร้างนวัตกรรม ลดความเสี่ยง เชื่อมโยงและปิดช่องว่างในการนำงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) จัดงาน "PMUC CONNECT” เวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ Deep Tech Startup และนักลงทุนกว่า 10 ราย รวมถึง...

เสียงเตือนถึงอนาคตสตาร์ตอัพไทยดังขึ้น หลังการรับรู้ในเวทีภูมิภาคซบเซา ผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐระดมสมองในงาน THAI STARTUP DAY 2025 ชี้เป้าปรับยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ พร้อมอัดฉีดกลไกสนับสนุนชุดใหม่ หวังพลิกเกมขับเคลื่อนผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดโลก

เสียงเตือนถึงอนาคตสตาร์ตอัพไทยดังขึ้น หลังการรับรู้ในเวทีภูมิภาคซบเซา ผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐระดมสมองในงาน THAI STARTUP DAY 2025 ชี้เป้าปรับยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ พร้อมอัดฉีดกลไกสนับสนุนชุดใหม่ หวังพลิกเกมขับเคลื่อนผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดโลก ประเด็นสำคัญนี้ถูกจุดประกายขึ้นจากข้อสังเกตที่ว่าสตาร์ตอัพไทยดูเหมือนจะ “หายไปจากเรดาร์” ในงานเสวนาระดับภูมิภาค โดยการอภิปรายได้มุ่งเน้นไปที่การที่สตาร์ตอัพไทยได้รั...

ในระดับ Seed และ Pre-seed ผู้ก่อตั้งจำนวนมากพึ่งพารอบจากครอบครัว-เพื่อนหรือเช็คเล็กๆ จากแองเจิล มีเงินทุนร่วมลงทุนอย่างเป็นทางการอยู่ แต่จำนวนกองทุนยังค่อนข้างน้อยและขนาดเช็คโดยทั่วไปค่อนข้างอนุรักษนิยมเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านในภูมิภาคอย่างสิงคโปร์ นักลงทุนมักชอบเดิมพันระยะหลังที่มีแรงฉุดรายได้ชัดเจน ส่วนหนึ่งเพราะแบบจำลองความเสี่ยงสำหรับเทคไทยยังอยู่ระหว่างพัฒนาและการออก

ในระดับ seed และ pre-seed ผู้ก่อตั้งจำนวนมากพึ่งพารอบจากครอบครัว-เพื่อนหรือเช็คเล็กๆ จากแองเจิล มีเงินทุนร่วมลงทุนอย่างเป็นทางการอยู่ แต่จำนวนกองทุนยังค่อนข้างน้อยและขนาดเช็คโดยทั่วไปค่อนข้างอนุรักษนิยมเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านในภูมิภาคอย่างสิงคโปร์ นักลงทุนมักชอบเดิมพันระยะหลังที่มีแรงฉุดรายได้ชัดเจน ส่วนหนึ่งเพราะแบบจำลองความเสี่ยงสำหรับเทคไทยยังอยู่ระหว่างพัฒนาและการออก (exit) ยังไม่ถี่ เมื่อมี C...