ภัยคุกคามต่อระบบนิเวศ กลไกการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารความหลากหลายทางชีวภาพ

Leo Migdal
-
ภัยคุกคามต่อระบบนิเวศ กลไกการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารความหลากหลายทางชีวภาพ

รายงานอาชญากรรมสัตว์ป่าโลกปี 2024 ของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ระบุว่าตัวลิ่น แรด ช้าง ปลาไหล ซีดาร์ และไม้ชิงชันเป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ ของสัตว์และพืช 4,000 สายพันธุ์ที่ได้รับผลกระทบจากการค้าสัตว์ป่า ความพยายามครั้งใหญ่ในการหยุดยั้งการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายโดยการยึดทำให้เกิดสินค้าประมาณ 16,000 ตันในช่วงปี 2558 ถึง 2564 ปัญหาระดับโลกนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสัตว์ พืช ชุมชน เศรษฐกิจ และอื่นๆ อาจเลวร้ายยิ่งกว่านั้นอีก การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและการล่มสลายของระบบนิเวศถือเป็นความเสี่ยงที่ใหญ่เป็นอันดับสามต่อโลกในอีก 10 ปีข้างหน้า ที่ได้เน้นไว้ในรายงานความเสี่ยงทั่วโลกปี 2024 ของ World Economic Forum อัคงค์ชา คาตรี หัวหน้าฝ่ายธรรมชาติของ World Economic Forum กล่าวว่า การพึ่งพาธรรมชาติเป็นรากฐานในชีวิตประจำวันของเรามากพอๆ กับรากฐานของธุรกิจและอุตสาหกรรม สำหรับวัตถุดิบและการบริการของระบบนิเวศ สายใยแห่งชีวิตที่ละเอียดอ่อน ทุกสิ่งทุกอย่างเชื่อมโยงกัน และอาชญากรรมต่อสัตว์ป่าถือเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อสุขภาพของสิ่งแวดล้อมของเรา เราต้องตระหนักถึงคุณค่าของทุนทางธรรมชาติ ฟื้นฟูและอนุรักษ์ระบบนิเวศ เพิ่มแรงกดดันด้านกฎระเบียบเพื่อปรับปรุงกฎหมายเพื่อสิ่งแวดล้อม และปลดล็อกการเงินเพื่อธรรมชาติอย่างทั่วถึง ปัจจุบันอัตราการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตบนโลกสูงกว่าในช่วง 10 ล้านปีที่ผ่านมาหลายร้อยเท่า อาชญากรรมต่อสัตว์ป่ากำลังมีบทบาทสำคัญ ผลกระทบของภัยคุกคามต่อระบบนิเวศภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อการลดลงของพื้นที่ ได้แก่ การบุกรุกถือครองและใช้ประโยชน์ในบริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำ การปรับเปลี่ยนระบบนิเวศจากโครงการพัฒนาต่าง ๆ นอกจากนี้แหล่งน้ำในแผ่นดินที่มีดินพีทเป็นองค์ประกอบ เช่น ป่าพรุ ยังได้รับผลกระทบจากไฟป่าด้วย การเปลี่ยนแปลงปริมาณฝน อุณหภูมิ และความชื้น จากการเปลี่ยนแปลงหรือความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศก็อาจจะมีส่วนทำให้เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดไฟป่าได้ ส่งผลให้ระบบนิเวศนี้ถูกทำลายและเปลี่ยนสภาพไป

ภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อการสูญเสียหน้าที่ของระบบนิเวศ ได้แก่ การออกแบบระบบชลประทานที่ไม่เอื้อต่อการอพยพโยกย้าย การทำรัง การวางไข่ การขยายพันธุ์สัตว์น้ำ รวมถึงการทำประมงด้วยวิธีการที่ไม่เหมาะสม ผิดกฎหมาย และไม่ยั่งยืน การใช้ที่ดินเพื่อการเกษตรและปศุสัตว์ที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเกิดมลพิษจากชุมชนเมืองและโรงงานอุตสาหกรรม การแพร่ระบาดของพืชและสัตว์ต่างถิ่น เช่น ผักตบชวา ไมยราบยักษ์ หอยเชอรี่ การปล่อยปลาต่างถิ่นในแหล่งน้ำต่าง ๆ การลักลอบล่าสัตว์ และกิจกรรมนันทนาการและการท่องเที่ยว การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยังทำให้การเติบโตและการรุกรานของพืชต่างถิ่นในเขตร้อนขยายกว้างมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อชนิดพันธุ์ท้องถิ่นที่อาศัยอยู่เดิมและเกิดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ชุ่มน้ำ ขณะเดียวกันการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิทำให้น้ำระเหยจากพื้นที่ชุ่มน้ำมากขึ้น ปริมาณฝนที่เปลี่ยนแปลงไปจะทำให้พื้นที่ชุ่มน้ำ โดยเฉพาะภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือมีสภาพตื้นเขิน มีน้ำเฉพาะบางฤดู ฤดูแล้งน้ำแห้ง ทำให้ปลา สัตว์น้ำ และสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกหลายชนิดอาจสูญพันธุ์ หรือต้องย้ายถิ่นที่อยู่ โดยเฉพาะชนิดที่ต้องพึ่งพิงอาศัยริมฝั่งน้ำ นกน้ำอพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ล่าช้ากว่าปกติ และอพยพออกจากพื้นที่ไวกว่าปกติ พื้นที่ผิวของพื้นที่ชุ่มน้ำและปริมาณน้ำที่ลดลง ทำให้เกิดปรากฏการณ์ยูโทรฟิเคชัน (Eutrophication) หรือการเติบโตในปริมาณมากของสาหร่ายและพืชน้ำ ทำให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำลดลง ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ ทำให้ความหลากหลายทางชีวภาพลดลง ในทางกลับกันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศก็ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมด้วย ภาวะน้ำท่วมในแต่ละปี มีผลต่อสมดุลน้ำของพื้นที่ชุ่มน้ำ เช่น บึงบอระเพ็ด ทำให้ระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำเกิดการฟื้นฟู ความอุดมสมบูรณ์เพิ่มขึ้น ความหลากหลายของชนิดพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำและปริมาณทรัพยากรประมงเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามที่ภาวะน้ำท่วมก็จะมีผลต่อการแพร่ระบาดของชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกราน เช่น ไมยราบยักษ์ เพราะอัตราการแพร่ระบาดเพิ่มสูงขึ้นตามระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน เข้าชมเว็บไซต์แล้วอย่าลืม ! ! !

ทำแบบประเมินเว็บไซต์ของเรา ท่ามกลางความกังวลถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ ที่รู้จักกันดีอย่าง ภาวะโลกร้อน (Climate Change) หนึ่งในผลกระทบที่กำลังเป็นภัยเงียบ คุกคามการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขัดขวางเป้าหมายการพัฒนาอย่างยืน และเสี่ยงต่อความอยู่รอดของมนุษย์มากที่สุดในเวลานี้ ก็คือ การสูญเสียความหลายหลายทางชีวภาพ (biodiversity loss) ทั้งนี้ ผลการศึกษาล่าสุดที่เผยแพร่บนเวที World Economic Forum ชี้ชัดว่า 50% ของเศรษฐกิจโลกอยู่ภายใต้ภัยคุกคามจากการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ที่หลายต่อหลายคนบนโลก ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ในเมืองหรือพื้นที่ชนบทก็น่าจะเริ่ม “เอ๊ะ” ในใจเล็ก ๆ แล้วว่า นกที่เคยมา ปลาที่เคยจับได้ ลดจำนวนลง ผู้เชี่ยวชาญและนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายชี้ว่า สิ่งที่มนุษย์เรากำลังเผชิญหน้าในขณะนี้ก็คือหายนะของการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพที่ระบบนิเวศทั้งหมดต้องพึ่งพาอาศัย ด้าน อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า “มนุษยชาติได้กลายเป็นอาวุธของการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ของสิ่งมีชีวิตบนโลก” พร้อมเรียกร้องให้ผู้นำทั่วโลกมุ่งมั่นหาแนวทางออกร่วมกัน เพราะความร่วมมือที่เกิดขึ้นจะเป็นโอกาสในการหยุดยั้งการทำลายล้างนี้ จากการประเมินของ UN Global Land Outlook พบว่า ปัจจุบันมีสัตว์มากกว่า 1 ล้านสายพันธุ์กำลังใกล้สูญพันธุ์ แถมยังสูญพันธุ์ในอัตราที่ไม่เคยพบเห็นในรอบ 10 ล้านปี ขณะที่ พื้นผิวโลกมากถึง 40% ในขณะนี้จัดได้ว่าอยู่ในระดับเสื่อมโทรมขีดสุด

ป่าไม้ในอเมริกาใต้และอเมริกากลางเป็นระบบนิเวศที่มีความหลากหลายและมีความสำคัญทางนิเวศวิทยามากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งแต่ป่าฝนอเมซอนอันกว้างใหญ่ที่แผ่ขยายไปทั่ว 10 ประเทศและมีความหลากหลายทางชีวภาพประมาณ 1% ของโลกไปจนถึงป่าเมฆในอเมริกากลางที่ทำหน้าที่เป็นทางเดินเชื่อมต่อทางชีวภาพที่สำคัญระหว่างทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ ระบบนิเวศเหล่านี้เป็นแหล่งรวมของความอุดมสมบูรณ์ทางชีวภาพอันน่าทึ่ง [50] ภูมิภาคนีโอทรอปิคัลเป็นที่อยู่อาศัยของพืชที่มีท่อลำเลียงมากกว่า 36% ของโลกและ 200 จุดจาก 2 จุดความหลากหลายทางชีวภาพที่ได้รับการระบุทั่วโลก ทำให้เป็นลำดับความสำคัญอันดับต้นๆ ของการอนุรักษ์ระดับโลก [XNUMX] ในบริบทระดับภูมิภาคนี้ ป่าไม้ของเปรูถือเป็นระบบนิเวศที่ทรงคุณค่าที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยครอบคลุมพื้นที่ประมาณร้อยละ 13 ของป่าอเมซอนและครอบคลุมพื้นที่ของประเทศร้อยละ 57 ด้วยพื้นที่ป่าไม้กว่า 73 ล้านเฮกตาร์ [3] ระบบนิเวศเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งรวมความหลากหลายทางชีวภาพอันน่าทึ่งเท่านั้น โดยมีพืชมากกว่า 25,000 ชนิดและสัตว์มีกระดูกสันหลัง 3,000 ชนิด แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการควบคุมสภาพอากาศโลกอีกด้วย โดยกักเก็บคาร์บอนได้ประมาณ 10 ล้านตัน [4] แม้ว่าคอสตาริกาจะครอบคลุมพื้นที่เพียง 0.03% ของพื้นผิวโลก แต่ก็เป็นแหล่งรวมความหลากหลายทางชีวภาพประมาณ 4% ของโลก โดยมีสายพันธุ์ที่ได้รับการบันทึกมากกว่า 500,000 สายพันธุ์ [5] ป่าไม้ของคอสตาริกาซึ่งรวมถึงป่าฝนเขตร้อนและป่าเมฆบนภูเขา ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 54% ของดินแดนแห่งชาติและเป็นหนึ่งในระบบพื้นที่คุ้มครองที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในละตินอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคาบสมุทรโอซาได้รับการยอมรับจาก เนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก เป็น “สถานที่ที่มีความเข้มข้นทางชีวภาพมากที่สุดในโลก” โดยมีความหนาแน่นของความหลากหลายทางชีวภาพของโลก 2.5% ในพื้นที่เพียง 700 ตารางกิโลเมตร [6] อย่างไรก็ตาม ขุมทรัพย์ทางธรรมชาติเหล่านี้เผชิญกับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นซึ่งได้รับการบันทึกทางวิทยาศาสตร์ ตามโครงการอนุรักษ์ป่าแห่งชาติของเปรู ประเทศสูญเสียพื้นที่ป่าไป 1.8 ล้านเฮกตาร์ระหว่างปี 2001 ถึง 2020 ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการเกษตรแบบอพยพ การทำปศุสัตว์จำนวนมาก และการทำเหมืองที่ผิดกฎหมาย [7] การตัดไม้ทำลายป่าไม่เพียงแต่เป็นการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพที่ไม่สามารถกลับคืนได้เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ โดยคิดเป็นประมาณ 47% ของการปล่อยทั้งหมดของประเทศ [8] ในทำนองเดียวกัน แม้จะมีนโยบายอนุรักษ์ที่ประสบความสำเร็จ แต่คอสตาริกาก็สูญเสียพื้นที่ป่าไม้ไป 24,000 เฮกตาร์ระหว่างปี 2010 ถึง 2020 ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการขยายตัวของเกษตรกรรมเชิงอุตสาหกรรม การพัฒนาเมือง และการท่องเที่ยวที่ไม่ยั่งยืน [9] แม้จะมีขนาดเล็กกว่าตามสัดส่วน แต่การตัดไม้ทำลายป่าครั้งนี้น่าเป็นห่วงเป็นพิเศษ เนื่องจากมีสายพันธุ์เฉพาะถิ่นจำนวนมากในพื้นที่ที่ค่อนข้างเล็ก ซึ่งการสูญเสียพื้นที่เพียงหนึ่งเฮกตาร์อาจหมายถึงการสูญพันธุ์ของสายพันธุ์ต่างๆ ในพื้นที่

People Also Search

รายงานอาชญากรรมสัตว์ป่าโลกปี 2024 ของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ระบุว่าตัวลิ่น แรด ช้าง ปลาไหล ซีดาร์ และไม้ชิงชันเป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ

รายงานอาชญากรรมสัตว์ป่าโลกปี 2024 ของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ระบุว่าตัวลิ่น แรด ช้าง ปลาไหล ซีดาร์ และไม้ชิงชันเป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ ของสัตว์และพืช 4,000 สายพันธุ์ที่ได้รับผลกระทบจากการค้าสัตว์ป่า ความพยายามครั้งใหญ่ในการหยุดยั้งการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายโดยการยึดทำให้เกิดสินค้าประมาณ 16,000 ตันในช่วงปี 2558 ถึง 2564 ปัญหาระดับโลกนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสัตว์ พืช ชุมช...

ภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อการสูญเสียหน้าที่ของระบบนิเวศ ได้แก่ การออกแบบระบบชลประทานที่ไม่เอื้อต่อการอพยพโยกย้าย การทำรัง การวางไข่ การขยายพันธุ์สัตว์น้ำ รวมถึงการทำประมงด้วยวิธีการที่ไม่เหมาะสม ผิดกฎหมาย และไม่ยั่งยืน การใช้ที่ดินเพื่อการเกษตรและปศุสัตว์ที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อการสูญเสียหน้าที่ของระบบนิเวศ ได้แก่ การออกแบบระบบชลประทานที่ไม่เอื้อต่อการอพยพโยกย้าย การทำรัง การวางไข่ การขยายพันธุ์สัตว์น้ำ รวมถึงการทำประมงด้วยวิธีการที่ไม่เหมาะสม ผิดกฎหมาย และไม่ยั่งยืน การใช้ที่ดินเพื่อการเกษตรและปศุสัตว์ที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเกิดมลพิษจากชุมชนเมืองและโรงงานอุตสาหกรรม การแพร่ระบาดของพืชและสัตว์ต่างถิ่น เช่น ผักตบชวา ไมยราบยักษ์ หอยเชอรี่ ก...

ทำแบบประเมินเว็บไซต์ของเรา ท่ามกลางความกังวลถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ ที่รู้จักกันดีอย่าง ภาวะโลกร้อน (Climate Change) หนึ่งในผลกระทบที่กำลังเป็นภัยเงียบ คุกคามการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขัดขวางเป้าหมายการพัฒนาอย่างยืน

ทำแบบประเมินเว็บไซต์ของเรา ท่ามกลางความกังวลถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ ที่รู้จักกันดีอย่าง ภาวะโลกร้อน (Climate Change) หนึ่งในผลกระทบที่กำลังเป็นภัยเงียบ คุกคามการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขัดขวางเป้าหมายการพัฒนาอย่างยืน และเสี่ยงต่อความอยู่รอดของมนุษย์มากที่สุดในเวลานี้ ก็คือ การสูญเสียความหลายหลายทางชีวภาพ (biodiversity loss) ทั้งนี้ ผลการศึกษาล่าสุดที่เผยแพร่บนเวที World Economic Fo...

ป่าไม้ในอเมริกาใต้และอเมริกากลางเป็นระบบนิเวศที่มีความหลากหลายและมีความสำคัญทางนิเวศวิทยามากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งแต่ป่าฝนอเมซอนอันกว้างใหญ่ที่แผ่ขยายไปทั่ว 10 ประเทศและมีความหลากหลายทางชีวภาพประมาณ 1% ของโลกไปจนถึงป่าเมฆในอเมริกากลางที่ทำหน้าที่เป็นทางเดินเชื่อมต่อทางชีวภาพที่สำคัญระหว่างทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ ระบบนิเวศเหล่านี้เป็นแหล่งรวมของความอุดมสมบูรณ์ทางชีวภาพอันน่าทึ่ง [50] ภูมิภาคนีโอทรอปิคัลเป็นที่อยู่อาศัยของพืชที่มีท่อลำเลียงมากกว่า 36%

ป่าไม้ในอเมริกาใต้และอเมริกากลางเป็นระบบนิเวศที่มีความหลากหลายและมีความสำคัญทางนิเวศวิทยามากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งแต่ป่าฝนอเมซอนอันกว้างใหญ่ที่แผ่ขยายไปทั่ว 10 ประเทศและมีความหลากหลายทางชีวภาพประมาณ 1% ของโลกไปจนถึงป่าเมฆในอเมริกากลางที่ทำหน้าที่เป็นทางเดินเชื่อมต่อทางชีวภาพที่สำคัญระหว่างทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ ระบบนิเวศเหล่านี้เป็นแหล่งรวมของความอุดมสมบูรณ์ทางชีวภาพอันน่าทึ่ง [50] ภูมิ...