มหาสมุทรเดือดวิกฤตสภาพอากาศที่รุนแรงขึ้นและผลกระทบระดับโลก

Leo Migdal
-
มหาสมุทรเดือดวิกฤตสภาพอากาศที่รุนแรงขึ้นและผลกระทบระดับโลก

นับตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นมา โลกของเราได้เผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงและเกิดขึ้นบ่อยครั้งมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ตัวอย่างเช่น ไฟป่าครั้งใหญ่ในลอสแอนเจลิส ภาวะแห้งแล้งที่รุนแรงในหลายพื้นที่ และพายุฝนฟ้าคะนองที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ทั้งหมดนี้เป็นผลพวงของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังส่งผลกระทบโดยตรงต่อมนุษย์และระบบนิเวศทั่วโลก นอกจากอุณหภูมิพื้นดินที่สูงขึ้นแล้ว มหาสมุทรทั่วโลกก็กำลังเผชิญกับภาวะโลกร้อนอย่างรวดเร็วและรุนแรงเช่นกัน ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยเรดดิ้งในสหราชอาณาจักรเผยว่า อุณหภูมิมหาสมุทรเพิ่มขึ้นเร็วกว่าปี 1980 ถึงสี่เท่า หรือกว่า 400% ซึ่งถือเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นที่น่าตกใจ อุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้นนี้มีสาเหตุจากหลายปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ปรากฏการณ์เอลนีโญ การเพิ่มขึ้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ การสะสมของไอน้ำที่ดักจับความร้อนจากการระเบิดของภูเขาไฟใต้ทะเล Hunga-Tonga-Hunga Ha’api และวัฏจักรแสงอาทิตย์ที่ปล่อยพลังงานเข้ามายังโลกมากขึ้นกว่าปกติ นักวิจัยชี้ให้เห็นว่าความร้อนส่วนเกินจำนวนมากถูกขับเคลื่อนโดยเอลนีโญ ซึ่งส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของกระแสลมและรูปแบบสภาพอากาศทั่วโลก นอกจากนี้ พบว่า 44% ของความร้อนที่เพิ่มขึ้นเกิดจากอัตราการดูดซับความร้อนของมหาสมุทรที่สูงขึ้นกว่าการคาดการณ์ในอดีต เปรียบได้กับการเติมน้ำร้อนลงในอ่างอาบน้ำขนาดยักษ์ด้วยความเร็วสูงโดยไม่มีสัญญาณว่าจะหยุดลง แนวโน้มอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นนี้มีแนวโน้มจะดำเนินต่อไป โดยนักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า ภายใน 20 ปีข้างหน้า โลกอาจต้องเผชิญกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นกว่าสถิติสูงสุดในรอบ 40 ปีที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลกระทบร้ายแรงในหลายมิติ ได้แก่: แม้ว่าหลายประเทศจะพยายามลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลกลับขยายตัวมากขึ้น ส่งผลให้การปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลกยังคงอยู่ในระดับที่สูงเกินกว่าที่ควรจะเป็น แม้ว่าจะมีความพยายามในการใช้พลังงานสะอาดและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่หากภาครัฐและเอกชนไม่ดำเนินมาตรการที่จริงจังและรวดเร็ว ภาวะโลกร้อนจะยังคงทวีความรุนแรงขึ้นและส่งผลกระทบต่อชีวิตบนโลกในระยะยาว เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายไปมากกว่านี้ จำเป็นต้องมีมาตรการเร่งด่วนทั้งในระดับบุคคล สังคม และนโยบายระดับโลก ได้แก่ วิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ได้เป็นเพียงหัวข้อถกเถียงในเวทีประชุมระดับโลกอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นภัยคุกคามชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วทุกมุมโลก หลักฐานทางวิทยาศาสตร์จากคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ยืนยันว่าแนวโน้มอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกกำลังเพิ่มสูงขึ้น พร้อมความถี่และความรุนแรงของปรากฏการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว ไม่ว่าจะเป็นคลื่นความร้อน ภาวะแห้งแล้งที่ยาวนาน หรือความไม่แน่นอนของปริมาณน้ำฝน สถานการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปเอเชีย ซึ่งเป็นทวีปที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก และประชากรในพื้่นที่ที่พึ่งพาภาคเกษตรกรรมถือเป็นกลุ่มเปราะบางต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากที่สุด

ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะแหล่งผลิตอาการสำคัญของโลก เปรียบเสมือน “อู่ข้าวอู่น้ำ” ของโลก กำลังเผชิญสถานการณ์ที่น่ากังวล เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่อ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากที่สุด แบบจำลองสภาพภูมิอากาศคาดการณ์ว่าอุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นสูงอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมกับความไม่แน่นอนของรูปแบบมรสุม สำหรับประเทศไทย คาดการณ์ว่าอุณหภูมิจะสูงขึ้น 0.95 ถึง 3.23 องศาเซลเซียสภายในสิ้นศตวรรษนี้ ภัยคุกคามดังกล่าวกำลังส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นคงทางอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการเกษตรที่เน้นการผลิตข้าวซึ่งเป็นอาหารหลักของประชากร ข้อมูลจากวารสาร Sciencific Reports เรื่อง Case study on climate change effects and food security in Southest Asia คาดการณ์ว่าภายในปี 2571 ผลผลิตข้าวในประเทศไทยอาจลดลงถึงร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปี 2564 โดยหากใช้ข้อมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจในอดีตเป็นกรอบการประเมินพบว่าผลผลิตข้าวในปี 2564 อยู่ที่ประมาณ 20... ขณะที่ข้อมูลจากการศึกษา Impact of climate change on agricultural production; Issues, challenges, and opportunities in Asia ในวารสาร Frontiers in Plant Science ชี้ให้เห็นว่า ประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้อย่างอินเดียและปากีสถาน กำลังเผชิญกับการลดลงของผลผลิตเกษตรกรรมในระดับที่ใกล้เคียงกัน ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนแนวโน้มดังกล่าวมาจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน ควบคู่กับความไม่แน่นอนของปริมาณน้ำฝน และความเสี่ยงจากภัยแล้งและอุทกภัยที่ทวีความรุนแรงและเกิดถี่ขึ้น อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางภาพอนาคตที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ยังปรากฎแสงแห่งความหวังจากพื้นที่แห่งหนึ่งในประเทศไทย นั่นคือ ชุมชนหนองไม้แก่น อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา พื้นที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงผู้รับผลกระทบที่รอคอยความช่วยเหลือ แต่เป็นผู้แสดงบทบาทนำในการพยายามลุกขึ้นต่อสู้กับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยสองมือและภูมิปัญญาของชุมชน ท่ามกลางความล้มเหลวของนโยบายจากบนลงล่าง (Top-down policy) ทางรอดที่ยั่งยืนที่สุดอาจเกิดขึ้นจากฐานราก โดยอาศัยพลังจากชุมชนเพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคงและยืดหยุ่นสำหรับรุ่นต่อไป ค้นหาข่าวสาร สุนทรพจน์ สื่อประชาสัมพันธ์ รวมถึงกำหนดการกิจกรรมต่าง ๆ ล่าสุดของ ธปท. สุนทรพจน์ของผู้ว่าการ รองผู้ว่าการ และผู้บริหารใน ธปท.

งานและกิจกรรมที่ ธปท. จัดขึ้นเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง วันหยุดตามประเพณีของสถาบันการเงินและสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ค้นหาสื่อประชาสัมพันธ์ อินโฟกราฟฟิกให้ความรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ของ ธปท. งานวิจัยใหม่พบว่าวิกฤตสภาพภูมิอากาศทำให้คลื่นความร้อนในมหาสมุทรยาวนานขึ้นถึง 3 เท่า ส่งผลให้พายุรุนแรงขึ้น ทำลายระบบนิเวศสำคัญ อย่าง ป่าสาหร่ายทะเลและแนวปะการัง ผลการศึกษาพบว่า วิกฤตสภาพภูมิอากาศได้ส่งทำให้คลื่นความร้อนในมหาสมุทรยาวนานขึ้นถึง 3 เท่า ซึ่งความร้อนในทะเลที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกตินี้ไม่เพียงแต่จะทำให้พายุทวีความรุนแรงขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำลายระบบนิเวศทางทะเลที่สำคัญ เช่น ป่าสาหร่ายทะเลและแนวปะการัง

นักวิทยาศาสตร์ ระบุว่า ราวครึ่งหนึ่งของคลื่นความร้อนในมหาสมุทร นับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา จะไม่เกิดขึ้นหากไม่มีภาวะโลกร้อนที่เกิดจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิล และคลื่นความร้อนไม่เพียงแต่เกิดบ่อยครั้งขึ้นเท่านั้น แต่ยังรุนแรงขึ้นด้วย ด้วยมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงขึ้น 1 องศาเซลเซียส แต่ในบางพื้นที่อาจร้อนกว่านั้นมาก งานวิจัยนี้เป็นการประเมินผลกระทบของวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่มีต่อคลื่นความร้อนในมหาสมุทรทั่วโลกอย่างครอบคลุมเป็นครั้งแรก และยังเผยให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้ง โดยระบุว่า มหาสมุทรที่ร้อนขึ้นยังดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาได้น้อยลง ซึ่งเป็นตัวเร่งอุณหภูมิโลกให้สูงขึ้นอีก ดร.มาร์ต้า มาร์กอส (Dr Marta Marcos) จากสถาบันศึกษาเมดิเตอร์เรเนียนในเมืองมายอร์กาของสเปน ซึ่งเป็นผู้นำการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Proceedings of the National Academy of Sciences ระบุว่า ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีคลื่นความร้อนในทะเลที่ร้อนกว่าอุณหภูมิปกติถึง 5 องศาเซลเซียส ทำให้เป็นเรื่องแย่มากเมื่อลงไปว่ายน้ำ เนื่องจากน้ำร้อนเหมือนซุป ในฐานะมูลนิธิชุมชนแห่งเดียวสำหรับมหาสมุทร ภารกิจของ The Ocean Foundation คือการปรับปรุงสุขภาพของมหาสมุทรทั่วโลก ความยืดหยุ่นของสภาพภูมิอากาศ และเศรษฐกิจสีน้ำเงิน เราสร้างความร่วมมือเพื่อเชื่อมโยงผู้คนทุกคนในชุมชนที่เราทำงานเข้ากับทรัพยากรข้อมูล เทคนิค และการเงินที่พวกเขาต้องการเพื่อบรรลุเป้าหมายการดูแลมหาสมุทร ค้นหาวิธีที่จะเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนอนุรักษ์มหาสมุทร เพราะมหาสมุทรต้องการความทุ่มเทและทรัพยากรทั้งหมดของเรา เรามีบล็อกโพสต์และจดหมายข่าวที่เขียนโดยพนักงานและชุมชนของเรา ข่าวเด่น ข่าวประชาสัมพันธ์ และคำขอเสนอ

เรามุ่งมั่นแสวงหาความรู้และข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยเกี่ยวกับปัญหามหาสมุทร ในฐานะมูลนิธิชุมชน เราให้ศูนย์ความรู้เป็นทรัพยากรฟรี เรียนรู้เกี่ยวกับไฟล์ #จดจำมหาสมุทร การรณรงค์ด้านสภาพอากาศ ขณะนี้ภาวะโลกร้อนในมหาสมุทร หนึ่งในผลกระทบร้ายแรงที่สุดของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ- ปรากฏการณ์นี้ไม่เพียงแต่คุกคามชีวิตทางทะเลเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดความเสี่ยงร้ายแรงต่อมนุษย์และความหลากหลายทางชีวภาพทั่วโลก ในบทความนี้ เราจะสำรวจเชิงลึกว่ามหาสมุทรซึ่งครอบคลุมมากกว่า 70% ของพื้นผิวโลกของเรากำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเนื่องจากกิจกรรมของมนุษย์อย่างไร ตั้งแต่อุณหภูมิที่สูงขึ้นและน้ำที่เป็นกรด ไปจนถึงการละลายของธารน้ำแข็งและพายุที่ทวีความรุนแรงขึ้น มหาสมุทรเป็นศูนย์กลางของวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ภาวะโลกร้อนได้ทิ้งร่องรอยที่ชัดเจนให้กับชีวิตทางทะเล ระบบนิเวศ และชุมชนชายฝั่งที่ต้องพึ่งพามหาสมุทรเพื่อความอยู่รอด นอกจากนี้ พวกมันยังทำหน้าที่เป็นหนึ่งในผู้ควบคุมสภาพอากาศหลัก ซึ่งหมายความว่าการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในความสมดุลอาจส่งผลร้ายแรงตามมา มหาสมุทรมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอุณหภูมิของโลกโดยการดูดซับความร้อนส่วนเกินที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์มากกว่า 90% นับตั้งแต่ทศวรรษ 1950 ปรากฏการณ์นี้กระตุ้นให้เกิดภาวะโลกร้อนอย่างต่อเนื่องที่ระดับความลึก 700 เมตรแรกของโลก ความสำคัญของมหาสมุทรในฐานะที่ระบายความร้อน มันไม่เถียงเลย ภาวะโลกร้อนนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นในชั้นบนของมหาสมุทร ซึ่งเป็นที่ที่สัตว์ทะเลส่วนใหญ่อาศัยอยู่ ตั้งแต่ปลา สาหร่าย ไปจนถึงวาฬ สัตว์หลายชนิดเหล่านี้ไวต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิเพียงเล็กน้อย

ความร้อนที่สะสมไว้ไม่เพียงส่งผลต่ออุณหภูมิเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดการขยายตัวทางความร้อนของน้ำด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้นระหว่างหนึ่งในสามถึงครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้ พื้นผิวมหาสมุทรมากกว่า 60% ของโลกต้องเผชิญกับคลื่นความร้อนจากทะเล ซึ่งเพิ่มความรุนแรงและความถี่ของปรากฏการณ์นี้ ตัวอย่างเช่น ในปี 2021 มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ประสบกับคลื่นความร้อนที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล

People Also Search

นับตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นมา โลกของเราได้เผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงและเกิดขึ้นบ่อยครั้งมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ตัวอย่างเช่น ไฟป่าครั้งใหญ่ในลอสแอนเจลิส ภาวะแห้งแล้งที่รุนแรงในหลายพื้นที่ และพายุฝนฟ้าคะนองที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ทั้งหมดนี้เป็นผลพวงของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกที่เพิ่มสูงขึ้น

นับตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นมา โลกของเราได้เผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงและเกิดขึ้นบ่อยครั้งมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ตัวอย่างเช่น ไฟป่าครั้งใหญ่ในลอสแอนเจลิส ภาวะแห้งแล้งที่รุนแรงในหลายพื้นที่ และพายุฝนฟ้าคะนองที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ทั้งหมดนี้เป็นผลพวงของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูม...

ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะแหล่งผลิตอาการสำคัญของโลก เปรียบเสมือน “อู่ข้าวอู่น้ำ” ของโลก กำลังเผชิญสถานการณ์ที่น่ากังวล เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่อ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากที่สุด แบบจำลองสภาพภูมิอากาศคาดการณ์ว่าอุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นสูงอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมกับความไม่แน่นอนของรูปแบบมรสุม สำหรับประเทศไทย

ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะแหล่งผลิตอาการสำคัญของโลก เปรียบเสมือน “อู่ข้าวอู่น้ำ” ของโลก กำลังเผชิญสถานการณ์ที่น่ากังวล เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่อ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากที่สุด แบบจำลองสภาพภูมิอากาศคาดการณ์ว่าอุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นสูงอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมกับความไม่แน่นอนของรูปแบบมรสุม สำหรับประเทศไทย คาดการณ์ว่าอุณหภูมิจะสูงขึ้น 0.95 ถึง 3.23 องศาเซลเซียสภายในสิ้นศตวรรษนี้ ภัยคุ...

งานและกิจกรรมที่ ธปท. จัดขึ้นเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง วันหยุดตามประเพณีของสถาบันการเงินและสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ค้นหาสื่อประชาสัมพันธ์ อินโฟกราฟฟิกให้ความรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ของ ธปท. งานวิจัยใหม่พบว่าวิกฤตสภาพภูมิอากาศทำให้คลื่นความร้อนในมหาสมุทรยาวนานขึ้นถึง

งานและกิจกรรมที่ ธปท. จัดขึ้นเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง วันหยุดตามประเพณีของสถาบันการเงินและสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ค้นหาสื่อประชาสัมพันธ์ อินโฟกราฟฟิกให้ความรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ของ ธปท. งานวิจัยใหม่พบว่าวิกฤตสภาพภูมิอากาศทำให้คลื่นความร้อนในมหาสมุทรยาวนานขึ้นถึง 3 เท่า ส่งผลให้พายุรุนแรงขึ้น ทำลายระบบนิเวศสำคัญ อย่าง ป่าสาหร่ายทะเลและแนวปะการัง ผลการศึกษาพ...

นักวิทยาศาสตร์ ระบุว่า ราวครึ่งหนึ่งของคลื่นความร้อนในมหาสมุทร นับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา จะไม่เกิดขึ้นหากไม่มีภาวะโลกร้อนที่เกิดจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิล และคลื่นความร้อนไม่เพียงแต่เกิดบ่อยครั้งขึ้นเท่านั้น แต่ยังรุนแรงขึ้นด้วย ด้วยมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงขึ้น

นักวิทยาศาสตร์ ระบุว่า ราวครึ่งหนึ่งของคลื่นความร้อนในมหาสมุทร นับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา จะไม่เกิดขึ้นหากไม่มีภาวะโลกร้อนที่เกิดจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิล และคลื่นความร้อนไม่เพียงแต่เกิดบ่อยครั้งขึ้นเท่านั้น แต่ยังรุนแรงขึ้นด้วย ด้วยมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงขึ้น 1 องศาเซลเซียส แต่ในบางพื้นที่อาจร้อนกว่านั้นมาก งานวิจัยนี้เป็นการประเมินผลกระทบของวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่มีต่อคลื่นความร้อนในมหาสมุทรทั...

เรามุ่งมั่นแสวงหาความรู้และข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยเกี่ยวกับปัญหามหาสมุทร ในฐานะมูลนิธิชุมชน เราให้ศูนย์ความรู้เป็นทรัพยากรฟรี เรียนรู้เกี่ยวกับไฟล์ #จดจำมหาสมุทร การรณรงค์ด้านสภาพอากาศ ขณะนี้ภาวะโลกร้อนในมหาสมุทร หนึ่งในผลกระทบร้ายแรงที่สุดของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ- ปรากฏการณ์นี้ไม่เพียงแต่คุกคามชีวิตทางทะเลเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดความเสี่ยงร้ายแรงต่อมนุษย์และความหลากหลายทางชีวภาพทั่วโลก

เรามุ่งมั่นแสวงหาความรู้และข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยเกี่ยวกับปัญหามหาสมุทร ในฐานะมูลนิธิชุมชน เราให้ศูนย์ความรู้เป็นทรัพยากรฟรี เรียนรู้เกี่ยวกับไฟล์ #จดจำมหาสมุทร การรณรงค์ด้านสภาพอากาศ ขณะนี้ภาวะโลกร้อนในมหาสมุทร หนึ่งในผลกระทบร้ายแรงที่สุดของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ- ปรากฏการณ์นี้ไม่เพียงแต่คุกคามชีวิตทางทะเลเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดความเสี่ยงร้ายแรงต่อมนุษย์และความหลากหลายทางชีวภาพทั่วโลก ...