วิกฤต ปะการังฟอกขาว ในยุคทะเลเดือด Thai Pbs News ข่าวไทยพีบีเอส
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาเป็นเวลาอันยาวนาน ซึ่งส่งผลให้อุณหภูมิสูงขึ้น และเกิดสภาพอากาศแปรปรวน (climate change) จากข้อมูลปี 2023 ระบุว่า โลกมีอุณหภูมิร้อนกว่ายุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรมประมาณ 1.48 องศาเซลเซียส ขณะที่อุณหภูมิน้ำทะเลสูงสุดเช่นกัน เมื่อน้ำร้อนก็ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ปะการัง ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ทำให้เกิดปะการังฟอกขาว องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (National Oceanic and Atmospheric Administration) หรือ NOAA ได้ประกาศว่าเป็นปะการังฟอกขาวครั้งที่ใหญ่ที่สุด เป็นครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์ สำหรับปะการังฟอกขาว เป็นสภาวะที่ปะการังสูญเสียสาหร่ายเซลล์เดียวที่อาศัยอยู่ภายในเนื้อเยื่อ ทำให้ปะการังอ่อนแอเพราะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอและปะการังอาจตายไปในที่สุดถ้าหากไม่สามารถทนต่อสภาวะนี้ได้ อ่านข่าว : โลกเดือด! อุณหภูมิไทยแตะ 43 องศาฯ ปะการังฟอกขาว
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาเป็นเวลาอันยาวนาน ซึ่งส่งผลให้อุณหภูมิสูงขึ้น และเกิดสภาพอากาศแปรปรวน (climate change) จากข้อมูลปี 2023 ระบุว่า โลกมีอุณหภูมิร้อนกว่ายุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรมประมาณ 1.48 องศาเซลเซียส ขณะที่อุณหภูมิน้ำทะเลสูงสุดเช่นกัน เมื่อน้ำร้อนก็ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ปะการัง ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ทำให้เกิดปะการังฟอกขาว องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (National Oceanic and Atmospheric Administration) หรือ NOAA ได้ประกาศว่าเป็นปะการังฟอกขาวครั้งที่ใหญ่ที่สุด เป็นครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์ สำหรับปะการังฟอกขาว เป็นสภาวะที่ปะการังสูญเสียสาหร่ายเซลล์เดียวที่อาศัยอยู่ภายในเนื้อเยื่อ ทำให้ปะการังอ่อนแอเพราะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอและปะการังอาจตายไปในที่สุดถ้าหากไม่สามารถทนต่อสภาวะนี้ได้ อ่านข่าว : .css-uexnnu,.css-uexnnu:focus,.css-uexnnu:visited{color:var(--color-character-base-link);}@media (hover: hover){.css-uexnnu:hover{color:var(--color-character-base-link);}}@media (pointer: coarse){.css-uexnnu:active{color:var(--color-character-base-link);}}โลกเดือด! อุณหภูมิไทยแตะ 43 องศาฯ ปะการังฟอกขาว
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาเป็นเวลาอันยาวนาน ซึ่งส่งผลให้อุณหภูมิสูงขึ้น และเกิดสภาพอากาศแปรปรวน (climate change) จากข้อมูลปี 2023 ระบุว่า โลกมีอุณหภูมิร้อนกว่ายุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรมประมาณ 1.48 องศาเซลเซียส ขณะที่อุณหภูมิน้ำทะเลสูงสุดเช่นกัน เมื่อน้ำร้อนก็ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ปะการัง ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ทำให้เกิดปะการังฟอกขาว องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (National Oceanic and Atmospheric Administration) หรือ NOAA ได้ประกาศว่าเป็นปะการังฟอกขาวครั้งที่ใหญ่ที่สุด เป็นครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์ สำหรับปะการังฟอกขาว เป็นสภาวะที่ปะการังสูญเสียสาหร่ายเซลล์เดียวที่อาศัยอยู่ภายในเนื้อเยื่อ ทำให้ปะการังอ่อนแอเพราะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอและปะการังอาจตายไปในที่สุดถ้าหากไม่สามารถทนต่อสภาวะนี้ได้ อ่านข่าว : โลกเดือด! อุณหภูมิไทยแตะ 43 องศาฯ ปะการังฟอกขาว
เมื่อโลกร้อนทะเลเดือด อุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อแนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลไทย ภาพแนวปะการังขาวโพลนที่เกิดขึ้นตามจุดต่างๆ ในทะเล สะท้อนวิกฤตปะการังฟอกขาวและสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง ว่าปะการังจะอยู่หรือตายหมดทะเล ขณะที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ทยอยประกาศปิดจุดดำน้ำท่องเที่ยวในอุทยานฯ ทางทะเล หลายแห่งแล้ว เพื่อลดผลกระทบต่อปะการัง จากการสำรวจปะการังฟอกขาวของคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) นำโดย ผศ.ดร. ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มก. มีการบันทึกภาพและรายงานข้อมูลที่สำคัญ พบว่า เกาะบริเวณชายฝั่งแกลง เช่น เกาะมันใน หินต่อยหอย เกาะขี้ปลา มีปะการังฟอกขาวรุนแรง ในเขตน้ำตื้นการฟอกขาว 90% และพบปะการังตายแล้ว 10 % ไม่พบปะการังปกติ ขณะที่เกาะอื่นๆ เช่น เกาะทะลุ มีการฟอกขาวลักษณะเดียวกัน แล้วยังมีรายงานจากหาดเจ้าหลาวว่าฟอกขาวรุนแรงก่อนหน้านี้ ผศ.ดร.ธรณ์ กล่าวว่า ประเทศไทยเกิดปะการังฟอกขาวครั้งแรกปี 2534 แต่ฟอกขาวรุนแรงโดนหนักทั้งอ่าวไทยและอันดามัน ปี 2553 จากนั้นเกิดถี่ขึ้นๆ ปี 2558 อันดามันฟอกขาวหนัก คณะประมงติดตามสถานภาพและเห็นภาพการเปลี่ยนแปลงปะการังที่น่าเศร้ามาตลอด ปี 2562 ปรากฎการณ์ปะการังฟอกขาวเกิดถี่ขึ้นและภาวะโลกร้อนรุนแรงมากขึ้น ปี 2564 เกิดปะการังฟอกขาวระดับเบา ซึ่งคณะประมงจัดจุดติดตามปะการังถาวร เพื่อศึกษาวิจัยระยะยาว โดยตั้งสถานีในทะเลตะวันออก จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี สำรวจและติดตั้งอุปกรณ์วัดอุณหภูมิน้ำ โดยมีการสำรวจ 2-3 ครั้งต่อปี สำรวจปะการังฟอกขาวแบบใช้โดรนกันน้ำติดกล้องถ่ายคลิปใต้น้ำ เก็บพิกัดพร้อมบันทึกภาพรอบด้าน บวกกับการใช้โดรนใหญ่บินสูงเพื่อถ่ายภาพ ควบคู่กับการดำน้ำบางจุด เป้าหมายให้ได้แผนที่ปะการังฟอกขาวในภาพรวม “ จากการสำรวจปะการังฟอกขาวถี่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ฟอกขาวเบาเกิดขึ้นปีเว้นปี ทำให้ปะการังไม่ฟื้นตัวแม้ขณะนี้อุณหภูมิน้ำทะเลเริ่มลดลงแล้ว แต่ปะการังแช่น้ำร้อนจัดต่อเนื่อง 6-7 สัปดาห์ น้ำที่เย็นลงก็ยังร้อนอยู่ดี หนนี้เป็นการฟอกขาวรุนแรงที่สุดในรอบ 14 ปี นับจากปี 53 ปะการังฟอกขาวระดับหายนะ ถามว่า ปะการังจะรอดหรือไม่ คำตอบ คือ ยังบอกไม่ได้แต่น่าเป็นห่วงมาก น้ำร้อนมากและร้อนนาน ปะการังอ่อนแอถึงขีดสุด เทียบเป็นมนุษย์ก็เข้าไอซียู จะอยู่จะไปก็ไม่รู้ ต้องเฝ้าระวัง แนวปะการังบางส่วนกลายเป็นสุสานใต้น้ำไปแล้ว ปลาในแนวปะการังลดลง จำนวนชนิดของปลาลดลง ถึงตอนนี้แม้น้ำเย็นลง แต่ยังเกินเส้นวิกฤต 31 องศาเซลเซียส หากสถานการณ์ยังลากยาวไปเรื่อยๆ อีก 2-3...
ผู้เชี่ยวชาญทางทะเลระบุ ปี 64 เกาะมันในและหินต่อยหอย จ.ระยอง ฟอกขาวพร้อมกัน เกาะมันใน ปะการังในน้ำตื้นตายเรียบหมด จนต้องปิดสถานี เพราะไม่สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงได้ ขณะที่หินตอยหอยปะการังน้ำตื้นโทรม แต่ปีนี้รุนแรงมาก ทั้งสองจุดปะการังขาวโพลนไปหมด แม้แต่หินต่อยหอยก็ทนทะเลเดือดไม่ได้ ถ้าไม่ตายทั้งหมด ก็โทรมลง ที่เลือกหินต่อยหอยเป็นจุดสำรวจเพราะเป็นแนวกลางน้ำ มีร่องน้ำตรงกลาง มีปะการังเยอะ น้ำไหลเวียนดี น้ำลึกกว่า สำคัญมากต่อการทนฟอกขาว เจอน้ำร้อนประจำทุกปี ถือเป็นปะการังที่อึดทน แต่ปีนี้เผชิญน้ำร้อนระดับไม่เคยพบเห็น ข้อมูลช่วงต้นเมษายน น้ำร้อนเกิน 34 องศา เกือบแตะ 35 องศา ปะการัง ในอ่าวไทยเสี่ยงฟอกขาวครั้งใหญ่ หลังอุณหภูมิน้ำทะเลพุ่งสูงกว่าทุกปี หวั่นลุกลามไปถึงแนวปะการังในทะเลอันดามัน ส่งผลต่อเม็ดเงินการท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน ชาวประมงต้องออกไปหาปลาไกลขึ้น เนื่องจากปลาบางส่วนอพยพหนีน้ำทะเลร้อน ไปในเขตน้ำลึก เสี่ยงจะทำให้เกิดการแย่งชิงทรัพยากรทางทะเลหนักกว่าทุกปี "ศักดิ์อนันต์ ปลาทอง" อาจารย์ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผู้ศึกษาความเปลี่ยนแปลงของทะเลไทย กล่าวกับทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ว่า ความเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของน้ำทะเลไทย มีความเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่ต้นปี 2567 จึงมีผลทำให้กระแสน้ำในมหาสมุทรมีความเปลี่ยนแปลง “ช่วงต้นปีเราจะเจอสัตว์จากทะเลลึก ขึ้นมาในพื้นที่น้ำตื้น ซึ่งคนที่ไปดำน้ำที่สิมิลัน หรือชาวประมงในพื้นที่ จ.สตูล จะเจอปลาที่อยู่ในเขตน้ำลึกขึ้นมาน้ำตื้น และทำให้หลายคนตื่นตกใจ เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน เนื่องจากกระแสน้ำเย็นลอยขึ้นมาสูงมากขึ้น และนำพาสิ่งมีชีวิตในน้ำลึก และแร่ธาตุต่างๆ ขึ้นมาตามมวลน้ำ" สิ่งที่ตามมาตอนนี้คือ เมื่ออุณหภูมิน้ำสูงขึ้นเนื่องจากความร้อนของสภาพอากาศ ทำให้เห็นปรากฏการณ์ "แมงกะพรุนลอดช่อง" ลอยขึ้นมาเต็มทะเลอันดามัน ตั้งแต่ จ.สตูล ไปจนถึง จ.ระนอง ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของน้ำทะเล ที่ทำให้สิ่งมีชีวิตบางอย่างขยายพันธุ์มาก และการเพิ่มของแมงกะพรุนจำนวนมาก ก็อาจส่งผลให้สิ่งมีชีวิตประเภทอื่นลดลง อีกผลกระทบจากความร้อนของน้ำทะเล ทำให้หญ้าทะเลทยอยตาย โดยเฉพาะต้นหญ้าทะเลขนาดใหญ่ แถบเกาะลิบง จ.ตรัง เนื่องจากปีนี้น้ำทะเลแห้งเป็นเวลานานกว่าปกติ เมื่อน้ำทะเลลดทำให้หญ้าทะเลที่อยู่บนผิวดิน ถูกแดดเผา จนเหง้าที่อยู่ใต้ดินตายไปด้วย
คุยนอกกรอบ กับ สุทธิชัย หยุ่น ครั้งนี้ชวนคุยกับ "ผศ. ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์" รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กับประเด็นวิกฤตปะการังฟอกขาว ครั้งรุนแรงในหลายพื้นที่ทั่วโลก สถานการณ์ภาวะโลกเดือดที่มีผลต่อท้องทะเลไทย และแนวทางการรับมือจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
People Also Search
- วิกฤต "ปะการังฟอกขาว" ในยุคทะเลเดือด | Thai PBS News ข่าวไทยพีบีเอส
- ฟื้นฟูกู้วิกฤตปะการังฟอกขาว | Thai PBS News - YouTube
- วิกฤต "ปะการังฟอกขาว" ในยุคทะเลเดือด | Thai PBS | LINE TODAY
- ปะการังฟอกขาวระดับหายนะ วิกฤตทะเลเดือด
- วิกฤตการณ์ใต้ทะเล..ปะการังฟอกขาว | Thai PBS News ข่าวไทยพีบีเอส
- ทะเลเดือด ความร้อนพุ่งสูง อ่าวไทยเสี่ยงปะการังฟอกขาว ประมงต้นทุนเพิ่ม
- เบื้องหลังการเพาะปะการัง โจทย์ยากในภารกิจ กู้วิกฤตฟื้นชีวิตปะการังฟอก ...
- Thai PBS - เปิดใจคุย "ธรณ์" วิกฤตปะการังฟอกขาว...
- ปะการังฟอกขาวรุนแรง วิกฤต "โลกเดือด" สะเทือนท้องทะเลไทย | Thai PBS ...
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาเป็นเวลาอันยาวนาน ซึ่งส่งผลให้อุณหภูมิสูงขึ้น และเกิดสภาพอากาศแปรปรวน (climate Change) จากข้อมูลปี 2023 ระบุว่า โลกมีอุณหภูมิร้อนกว่ายุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรมประมาณ 1.48
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาเป็นเวลาอันยาวนาน ซึ่งส่งผลให้อุณหภูมิสูงขึ้น และเกิดสภาพอากาศแปรปรวน (climate change) จากข้อมูลปี 2023 ระบุว่า โลกมีอุณหภูมิร้อนกว่ายุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรมประมาณ 1.48 องศาเซลเซียส ขณะที่อุณหภูมิน้ำทะเลสูงสุดเช่นกัน เมื่อน้ำร้อนก็ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ปะการัง ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ทำให้เกิดปะการังฟอกขาว องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (National Oceanic and A...
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาเป็นเวลาอันยาวนาน ซึ่งส่งผลให้อุณหภูมิสูงขึ้น และเกิดสภาพอากาศแปรปรวน (climate Change) จากข้อมูลปี 2023 ระบุว่า โลกมีอุณหภูมิร้อนกว่ายุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรมประมาณ 1.48
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาเป็นเวลาอันยาวนาน ซึ่งส่งผลให้อุณหภูมิสูงขึ้น และเกิดสภาพอากาศแปรปรวน (climate change) จากข้อมูลปี 2023 ระบุว่า โลกมีอุณหภูมิร้อนกว่ายุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรมประมาณ 1.48 องศาเซลเซียส ขณะที่อุณหภูมิน้ำทะเลสูงสุดเช่นกัน เมื่อน้ำร้อนก็ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ปะการัง ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ทำให้เกิดปะการังฟอกขาว องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (National Oceanic and A...
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาเป็นเวลาอันยาวนาน ซึ่งส่งผลให้อุณหภูมิสูงขึ้น และเกิดสภาพอากาศแปรปรวน (climate Change) จากข้อมูลปี 2023 ระบุว่า โลกมีอุณหภูมิร้อนกว่ายุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรมประมาณ 1.48
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาเป็นเวลาอันยาวนาน ซึ่งส่งผลให้อุณหภูมิสูงขึ้น และเกิดสภาพอากาศแปรปรวน (climate change) จากข้อมูลปี 2023 ระบุว่า โลกมีอุณหภูมิร้อนกว่ายุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรมประมาณ 1.48 องศาเซลเซียส ขณะที่อุณหภูมิน้ำทะเลสูงสุดเช่นกัน เมื่อน้ำร้อนก็ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ปะการัง ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ทำให้เกิดปะการังฟอกขาว องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (National Oceanic and A...
เมื่อโลกร้อนทะเลเดือด อุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อแนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลไทย ภาพแนวปะการังขาวโพลนที่เกิดขึ้นตามจุดต่างๆ ในทะเล สะท้อนวิกฤตปะการังฟอกขาวและสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง ว่าปะการังจะอยู่หรือตายหมดทะเล ขณะที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ทยอยประกาศปิดจุดดำน้ำท่องเที่ยวในอุทยานฯ ทางทะเล
เมื่อโลกร้อนทะเลเดือด อุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อแนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลไทย ภาพแนวปะการังขาวโพลนที่เกิดขึ้นตามจุดต่างๆ ในทะเล สะท้อนวิกฤตปะการังฟอกขาวและสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง ว่าปะการังจะอยู่หรือตายหมดทะเล ขณะที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ทยอยประกาศปิดจุดดำน้ำท่องเที่ยวในอุทยานฯ ทางทะเล หลายแห่งแล้ว เพื่อลดผลกระทบต่อปะการัง จากการสำรวจปะการังฟอกขาวของคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ...
ผู้เชี่ยวชาญทางทะเลระบุ ปี 64 เกาะมันในและหินต่อยหอย จ.ระยอง ฟอกขาวพร้อมกัน เกาะมันใน ปะการังในน้ำตื้นตายเรียบหมด จนต้องปิดสถานี เพราะไม่สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงได้
ผู้เชี่ยวชาญทางทะเลระบุ ปี 64 เกาะมันในและหินต่อยหอย จ.ระยอง ฟอกขาวพร้อมกัน เกาะมันใน ปะการังในน้ำตื้นตายเรียบหมด จนต้องปิดสถานี เพราะไม่สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงได้ ขณะที่หินตอยหอยปะการังน้ำตื้นโทรม แต่ปีนี้รุนแรงมาก ทั้งสองจุดปะการังขาวโพลนไปหมด แม้แต่หินต่อยหอยก็ทนทะเลเดือดไม่ได้ ถ้าไม่ตายทั้งหมด ก็โทรมลง ที่เลือกหินต่อยหอยเป็นจุดสำรวจเพราะเป็นแนวกลางน้ำ มีร่องน้ำตรงกลาง มีปะการังเยอะ น้ำไหลเว...