หน่วยที่ 1 หลักการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น Kruaof Com

Leo Migdal
-
หน่วยที่ 1 หลักการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น kruaof com

คอมพิวเตอร์ เป็นอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างหนึ่ง ซึ่งไม่สามารถทำงานด้วยตนเองได้ แต่จะสามารถทำงานได้ตามชุดคำสั่งในโปรแกรมที่ป้อนเข้าสู่เครื่อง ซึ่งจะทำงานตามคำสั่งทีละคำสั่ง (Step by Step) โดยคำสั่งที่เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้ จะต้องอยู่ในรูปแบบของภาษาเครื่อง (Machine Language) แต่ถ้ามีการเขียนด้วยภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาเครื่อง หรือที่เรียกว่า ภาษาชั้นสูง (High-level Language) ก็จะต้องมีตัวแปลภาษา เช่น คอมไพเลอร์ (Compiler) หรือ อินเตอร์พรีเตอร์ (Interpreter) ทำการแปลภาษาชั้นสูงนั้นให้เป็นภาษาเครื่องอีกทีหนึ่ง ในการเขียนโปรแกรมหรือภาษาคอมพิวเตอร์นี้ โดยทั่วไปแล้วแต่ละภาษาจะมีหลักเกณฑ์ในการเขียนและการออกแบบโปรแกรมเหมือนกัน ซึ่งสามารถที่จะแบ่งขั้นตอนการเขียนโปรแกรมออกได้เป็น 7 ขั้นตอน ดังนี้ 1. ขั้นตอนการวิเคราะห์ปัญหา (Analysis the Problem) 2. ขั้นตอนการออกแบบโปรแกรม (Design a Program)

4. ขั้นตอนการตรวจสอบข้อผิดพลาดของโปรแกรม (Testing and Debugging) หน่วยที่1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับหลักการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เนื้อหาสาระ (Content) ในปัจจุบันนี้คอมพิวเตอถืป็นเครื่องมืที่ช่วยนวยความสะดวกให้กับมนุษย์ เพราะการทำงานเกือบ ทุกด้านของมนุษย์ได้นำระบบสารสนเทศ (Information) เข้าไปใช้ โดยนำเอาคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาท เป็นอย่างมาก ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิเช่น การคิดเงินเดือนของพนักงาน การจัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ การ พิมพ์เอกสาร และรายงานต่าง ๆ เป็นต้น การที่จะนำเครื่องคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยทำงาน หรือนำไปช่วย แก้ไขปัญหาต่าง ๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการแก้ปัญหา คือการเรียงลำดับขั้นตอนการทำงานว่าจะทำงาน ขั้นตอนใดเป็นลำดับแรกและทำเป็นลำดับถัดไป จนกระทั่งถึงขั้นตอนสุดท้าย การเขียนโปรแกรมขึ้นมาใช้ งาน ลักษณะการเขียนเป็นไปตามความคิด โดยไม่ได้มีการจคบันทึกถึงขั้นตอนการทำงาน ซึ่งถ้าต้องการที่... 1.1 ขั้นตอนการเขียนโปรแกรม(Programming Steps) การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้ทำงานได้ตามที่ต้องการนั้น ผู้เขียนโปรแกรมต้องรู้ว่าจะให้ โปรแกรมทำอะไร มีข้อมูลอะไรที่ต้องป้อนให้โปรแกรมบ้าง และต้องการผลลัพธ์อะไรจากโปรแกรม รวมทั้งรูปแบบของการแสดงผลด้วย ขั้นตอนการเขียนโปรแกรมแบ่งได้ดังนี้ 1. การกำหนดปัญหาและวิเคราะห์ปัญหา (Define the problem) 2. การออกแบบโปรแกรม (Design the Program) 3.

การเขียนโปรแกรม (Coding) 4. การทดสอบและการแก้ไขโปรแกรม (Testing and debug the program) 5. การจัดทำเอกสารประกอบโปรแกรม (Documentation) 1.1.1 การกำหนดปัญหาและวิเคราะห์ปัญหา (Define the problem) การกำหนดปัญหาและวิเคราะห์ปัญหาเป็นขั้นตอนแรกสำหรับการ เขียนโปรแกรม โดยที่นักเขียน โปรแกรมจะต้องกำหนดว่า สิ่งที่ต้องการคืออะไร เกี่ยวข้องกับอะไร และอะไรเป็นต้นเหตุของปัญหา ต้องมี ข้อมูลนำเข้าอะไรบ้างที่จะทำให้เกิดผลลัพธ์ตามต้องการ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวประกอบด้วยขั้นตอนดังนี้ 1. กำหนดขอบเขตของปัญหา โดยกำหนดรายละเอียดให้ชัดเจนว่า จะให้คอมพิวเตอร์ทำอะไร ตัว แปรค่าคงที่ที่ต้องใช้เป็นลักษณะใด ถ้าหากไม่กำหนดขอบเขตของปัญหาจะทำให้คอมพิวเตอร์ตัดสินใจได้ ยากว่า ข้อมูลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นถูกหรือผิด 2. กำหนดลักษณะของข้อมูลเข้าและออกจากระบบ โดยต้องรู้ข้อมูลที่จะส่งเข้าไปเป็นอย่างไร มี อะไรบ้าง เพื่อให้โปรรมทำการประมวลผลและแสดงผลลัพธิ์ เช่น การรับค่าจากคีย์บอร์ด การใช้เมาส์การ กำหนดปุ่มต่างๆ ลักษณะการแสดงผลทางหน้าจอว่าจะให้มีรูปร่างอย่างไร โดยคำนึงถึงผู้ใช้เป็นหลักในการ ออกแบบโปรแกรม 3. กำหนดวิธีการประมวลผล โดยต้องรู้ว่าจะให้คอมพิวเตอร์ทำการประมวลผลอย่างไร จึงได้ ผลลัพธ์ตามต้องการ

1.1.2 การออกแบบโปรแกรม (Design the Program) ขั้นตอนนี้นักเรียนโปรแกรม (Programmers) จะดำเนินการออกแบบโปรแกรมด้วยรหัสเทียม (Pseudo Code) หรือผังงาน (Flowchart) ซึ่งก็คือการพัฒนาอัลกอริทึม (Algorithm) นั่นเอง โดยจะต้อง พัฒนาอัลกริทึมที่เหมาะสมต่อการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์นั้น ๆ การออกแบบนี้จะช่วยให้ทราบถึง ลำดับขั้นตอนการประมวลผล ซึ่งการออกแบบโปรแกรมประกอบไปด้วยวิธีการดังต่อไปนี้ 1.การออกแบบโปรแกรมโดยใช้อัลกอริทึม (Algorithm) เป็นการอธิบายถึงลำดับขั้นตอนการ ทำงานของการแก้ปัญหาโดยใช้ประโยคข้อความที่ชัดเจน สามารถบอกลำดับการทำงานได้ ดังตัวอย่างที่ 1.1 การเขียนอัลกอริทึม (Algorithm) หาพื้นที่รูปสามเหลี่ยม ประกอบไปด้วยลำดับขั้นตอนการทำงาน ทั้งหมด 6... สามเหลี่ยม ประกอบไปด้วยข้อความภาษาอังกฤษต่างๆ เช่น เริ่มต้นด้วยข้อความ Begin และจบด้วย ข้อความ End เป็นต้น การเขียนรหัสเทียม (Pseudo Code) มีข้อดี ดังนี้ (1) สามารถนำรหัสเทียมไปใช้เขียนโปรแกรมได้ง่ายกว่าการใช้อัลกอริทึม เพราะมีความใกล้เคียง กับคำสั่งคอมพิวเตอร์ (2) ผู้ออกแบบโปรแกรมต้องมีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์บ้าง เพื่อให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ และเขียนโปรแกรมเป็นภาษาอื่น ๆ ได้หลายภาษา ตัวอย่างที่ 1.2 การเขียนรหัส (Pseudo Code) หาพื้นที่รูปสี่เหลี่ยม 3. การออกแบบโปรแกรมโดยใช้ ผังงาน (Flowchart) คือ การใช้สัญลักษณ์รูปภาพ หรือ กล่อง ข้อความบรรยายรายละเอียดการทำงาน และใช้ลูกศรบอกทิศทางลำดับของการทำงาน ดังตัวอย่างที่ 1.3 การเขียนผังงาน (Flowchart) หาพื้นที่รูปสามเหลี่ยมประกอบไปด้วยสัญลักษณ์ต่าง ๆ เช่น ขั้ยตอนแรกใช้ สัญลักษณ์จุดเริ่มต้นของโปรแกรม (Terminal) และขั้นตอนต่อไปใช้สัญลักษณ์การรับข้อมูลทางแป้นพิมพ์ (Manual) เป็นต้น การเขียนผังงาน (Flowchart) มีข้อดีดังนี้ (1) สามารถอ่านและเข้าใจการใช้งานได้ง่าย เพราะมองเห็นภาพรวมขั้นตอนการทำงานทั้งหมดได้ ชัดเจน (2) สามารถออกแบบโครงสร้างการทำงานได้หลากหลาย โดยใช้ลูกศรแสดง ทิศทางการทำงาน ทำให้แก้ปัญหาที่มีหลายเลือกและซับซ้อนได้ (3) คำสั่งหรือคำบรรยายรายละเอียดในกล่องข้อความสามารถนำไปเขียนเป็นคำสั่งของโปรแกรม ได้ ตัวอย่างที่ 1.3 การเขียนผังงานหาพื้นที่รูปสามเหลี่ยม รูปที่ 1.1 ผังงานหาพื้นที่รูปสามเหลี่ยม การเขียนโปรแกรมผู้เขียนส่วนใหญ่มักประสบปัญหา คือไม่ทราบว่าจะเริ่มต้นอย่างไรในการ เขียนโปรแกรมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ ซึ่งการเขียนโปรแกรมที่ดีนั้นจะต้องคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้ คือ

1.ต้องมีความเข้าใจการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ และเข้าใจหน้าที่ของแต่ละองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ 2.ต้องมีความเข้าใจขั้นตอนของหลักการเขียนโปรแกรม 3.ต้องมีความเข้าใจหลักเกณฑ์และโครงสร้างของภาษาที่ใช้เขียนโปรแกรม �ش���ʧ�������¹��� 1. ͸Ժ�¤������¢ͧ�����¹������� 2. ͸Ժ���дѺ�ͧ���Ҥ����������� 3.

�͡�ç���ҧ�ͧ�������� 4. �͡��ѡ��þѲ�ҡ����¹������� หน่วยที่ 1: บทนำเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม (Introduction to Programming) 1.1 ความหมายและความสำคัญของการเขียนโปรแกรม บทบาทและความสำคัญของการเขียนโปรแกรมในยุคดิจิทัล ขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรม (Software Development Process)

แนวคิดของอัลกอริทึม (Algorithm) และโฟลว์ชาร์ต (Flowchart) แผนการจัดการเรียนรู้ การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น 1 --->กำหนดการสอน แบบทดสอบการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น 1 การใช้บัตรคำสั่ง

People Also Search

คอมพิวเตอร์ เป็นอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างหนึ่ง ซึ่งไม่สามารถทำงานด้วยตนเองได้ แต่จะสามารถทำงานได้ตามชุดคำสั่งในโปรแกรมที่ป้อนเข้าสู่เครื่อง ซึ่งจะทำงานตามคำสั่งทีละคำสั่ง (Step By Step) โดยคำสั่งที่เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้ จะต้องอยู่ในรูปแบบของภาษาเครื่อง

คอมพิวเตอร์ เป็นอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างหนึ่ง ซึ่งไม่สามารถทำงานด้วยตนเองได้ แต่จะสามารถทำงานได้ตามชุดคำสั่งในโปรแกรมที่ป้อนเข้าสู่เครื่อง ซึ่งจะทำงานตามคำสั่งทีละคำสั่ง (Step by Step) โดยคำสั่งที่เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้ จะต้องอยู่ในรูปแบบของภาษาเครื่อง (Machine Language) แต่ถ้ามีการเขียนด้วยภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาเครื่อง หรือที่เรียกว่า ภาษาชั้นสูง (High-level Language) ก็จะต้องมีตัว...

4. ขั้นตอนการตรวจสอบข้อผิดพลาดของโปรแกรม (Testing And Debugging) หน่วยที่1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับหลักการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เนื้อหาสาระ (Content) ในปัจจุบันนี้คอมพิวเตอถืป็นเครื่องมืที่ช่วยนวยความสะดวกให้กับมนุษย์

4. ขั้นตอนการตรวจสอบข้อผิดพลาดของโปรแกรม (Testing and Debugging) หน่วยที่1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับหลักการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เนื้อหาสาระ (Content) ในปัจจุบันนี้คอมพิวเตอถืป็นเครื่องมืที่ช่วยนวยความสะดวกให้กับมนุษย์ เพราะการทำงานเกือบ ทุกด้านของมนุษย์ได้นำระบบสารสนเทศ (Information) เข้าไปใช้ โดยนำเอาคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาท เป็นอย่างมาก ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิเช่น การคิดเงินเดือนของพนักงาน กา...

การเขียนโปรแกรม (Coding) 4. การทดสอบและการแก้ไขโปรแกรม (Testing And Debug The Program) 5.

การเขียนโปรแกรม (Coding) 4. การทดสอบและการแก้ไขโปรแกรม (Testing and debug the program) 5. การจัดทำเอกสารประกอบโปรแกรม (Documentation) 1.1.1 การกำหนดปัญหาและวิเคราะห์ปัญหา (Define the problem) การกำหนดปัญหาและวิเคราะห์ปัญหาเป็นขั้นตอนแรกสำหรับการ เขียนโปรแกรม โดยที่นักเขียน โปรแกรมจะต้องกำหนดว่า สิ่งที่ต้องการคืออะไร เกี่ยวข้องกับอะไร และอะไรเป็นต้นเหตุของปัญหา ต้องมี ข้อมูลนำเข้าอะไรบ้างที่จะทำให้...

1.1.2 การออกแบบโปรแกรม (Design The Program) ขั้นตอนนี้นักเรียนโปรแกรม (Programmers) จะดำเนินการออกแบบโปรแกรมด้วยรหัสเทียม (Pseudo Code)

1.1.2 การออกแบบโปรแกรม (Design the Program) ขั้นตอนนี้นักเรียนโปรแกรม (Programmers) จะดำเนินการออกแบบโปรแกรมด้วยรหัสเทียม (Pseudo Code) หรือผังงาน (Flowchart) ซึ่งก็คือการพัฒนาอัลกอริทึม (Algorithm) นั่นเอง โดยจะต้อง พัฒนาอัลกริทึมที่เหมาะสมต่อการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์นั้น ๆ การออกแบบนี้จะช่วยให้ทราบถึง ลำดับขั้นตอนการประมวลผล ซึ่งการออกแบบโปรแกรมประกอบไปด้วยวิธีการดังต่อไปนี้ 1.การออกแบบโปรแกรมโดย...

1.ต้องมีความเข้าใจการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ และเข้าใจหน้าที่ของแต่ละองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ 2.ต้องมีความเข้าใจขั้นตอนของหลักการเขียนโปรแกรม 3.ต้องมีความเข้าใจหลักเกณฑ์และโครงสร้างของภาษาที่ใช้เขียนโปรแกรม �ش���ʧ�������¹��� 1. ͸Ժ�¤������¢ͧ�����¹������� 2. ͸Ժ���дѺ�ͧ���Ҥ����������� 3.

1.ต้องมีความเข้าใจการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ และเข้าใจหน้าที่ของแต่ละองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ 2.ต้องมีความเข้าใจขั้นตอนของหลักการเขียนโปรแกรม 3.ต้องมีความเข้าใจหลักเกณฑ์และโครงสร้างของภาษาที่ใช้เขียนโปรแกรม �ش���ʧ�������¹��� 1. ͸Ժ�¤������¢ͧ�����¹������� 2. ͸Ժ���дѺ�ͧ���Ҥ����������� 3.