เปลี่ยนขยะให้เป็นทองคํา 8 ไอเดียธุรกิจสุดคูล สร้างกําไรพร้อมรักษ์โลกไป

Leo Migdal
-
เปลี่ยนขยะให้เป็นทองคํา 8 ไอเดียธุรกิจสุดคูล สร้างกําไรพร้อมรักษ์โลกไป

ในยุคที่ความยั่งยืนไม่ใช่แค่กระแส แต่กลายเป็นสิ่งจำเป็น การจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นโอกาสทำธุรกิจที่สร้างรายได้ ผู้ประกอบการและบุคคลทั่วไปสามารถเริ่มต้นได้ง่ายจากการนำของใช้เก่า ขยะพลาสติก ขยะอินทรีย์ หรือของเสียอิเล็กทรอนิกส์ มาปรับปรุง รีไซเคิล หรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่า ตาม รายงาน Global Waste Management Outlook 2024 ของ UNEP ขยะมูลฝอยในเมืองคาดว่าจะเพิ่มจาก 2.1 พันล้านตันในปี 2023 เป็น 3.8 พันล้านตันภายในปี 2050 การรีไซเคิลและนำขยะกลับมาใช้ใหม่จึงเป็นทั้งความจำเป็นและโอกาสทางธุรกิจที่ไม่ควรมองข้าม บทความนี้รวบรวม 8 ไอเดียธุรกิจสร้างรายได้จากขยะ พร้อมแนวทางเริ่มต้นง่าย ๆ และโอกาสเติบโตในตลาดเศรษฐกิจหมุนเวียน การรีไซเคิลพลาสติกเริ่มต้นง่ายที่สุดด้วยการรวบรวมขวดน้ำ ขวดน้ำอัดลม หรือถุงพลาสติกที่ใช้แล้วจากครัวเรือน ร้านค้า และสำนักงาน จากนั้นสามารถส่งต่อให้บริษัทรีไซเคิลที่มีเทคโนโลยีเหมาะสม หรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น กระถางต้นไม้ ของใช้ในบ้าน หรือแม้แต่เสื้อผ้าแฟชั่น การสร้างเครือข่ายกับร้านค้า ร้านอาหาร หรือชุมชน จะช่วยให้มีวัตถุดิบอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการรายเล็กสามารถเริ่มต้นด้วยการขายขวดและถุงพลาสติกให้กับผู้รีไซเคิล หรือทำงานร่วมกับโครงการชุมชนที่สนับสนุน Circular Economy ขยะอิเล็กทรอนิกส์ เช่น มือถือเก่า คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าเล็ก ๆ สามารถรวบรวมเพื่อซ่อม ฟื้นฟู หรือจำหน่ายต่อให้บริษัทรีไซเคิลมืออาชีพ สำหรับผู้เริ่มต้น การคัดแยกอุปกรณ์ที่ยังใช้ได้และอุปกรณ์ที่เสียสามารถสร้างรายได้ โดยไม่จำเป็นต้องสกัดโลหะเอง นอกจากนี้ยังสามารถเปิดบริการรับซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เก่า และให้คำแนะนำแก่ลูกค้าเกี่ยวกับการกำจัดอย่างถูกวิธี เป็นการสร้างรายได้และช่วยลดปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ การรวบรวมกระดาษใช้แล้วจากบ้าน โรงเรียน หรือสำนักงาน สามารถนำไปผลิตเป็นสมุดโน้ต กระดาษทิชชู หรือบรรจุภัณฑ์ใหม่ การรีไซเคิลกระดาษช่วยลดปริมาณขยะและประหยัดทรัพยากรไม้ สำหรับผู้ประกอบการรายเล็ก สามารถเริ่มต้นด้วยการรวบรวมกระดาษจากครอบครัวหรือชุมชน แล้วขายให้ผู้ผลิตปุ๋ยหรือบริษัทรีไซเคิลขนาดใหญ่ หรือแปรรูปเองเป็นสมุดโน้ตและของใช้ภายในชุมชน ในยุคที่โลกกำลังเผชิญวิกฤตขยะล้นเมือง เราต่างตระหนักดีว่า "ขยะ" ไม่ใช่แค่ปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่คือโอกาสทางธุรกิจที่รอการปลดล็อค!

มาร่วมสำรวจเส้นทางสู่ความสำเร็จของธุรกิจยุคใหม่ ที่ไม่เพียงสร้างกำไร แต่ยังช่วยรักษาโลกใบนี้ ผ่านแนวคิด "อัพไซเคิล" ที่จะเปลี่ยน "ของเหลือใช้" ให้กลายเป็น "เงิน" และสร้าง "มูลค่า" ให้ธุรกิจอย่างยั่งยืน โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตขยะครั้งใหญ่ โดยมีปริมาณขยะเกิดขึ้นมากกว่า 2 พันล้านตันต่อปีทั่วโลก ประเทศไทยเองก็ประสบปัญหาเดียวกัน โดยมีปริมาณขยะสูงถึง 27 ล้านตันต่อปี อย่างไรก็ตาม มีเพียง 31% ของขยะเหล่านี้ที่ถูกนำกลับมาใช้ใหม่ผ่านกระบวนการรีไซเคิลและอัพไซเคิล สถิติดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมที่เร่งด่วน แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญยิ่ง แม้ปัญหาขยะล้นโลกจะเป็นเรื่องที่น่ากังวล แต่การเปลี่ยนขยะให้เป็นทรัพยากรที่มีมูลค่าสูงผ่านกระบวนการรีไซเคิลและอัพไซเคิลได้กลายเป็นทางออกที่ยั่งยืน ไม่เพียงแต่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยี ปัจจัยขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จ การนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาประยุกต์ใช้ในการรีไซเคิลและอัพไซเคิลกำลังเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ สำหรับธุรกิจยุคใหม่ ยกตัวอย่างเช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดแยกขยะ โดยสามารถระบุประเภทวัสดุได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ลดข้อผิดพลาดและเพิ่มอัตราการนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่ นอกจากนี้ การพัฒนาวัสดุใหม่จากขยะพลาสติกยังช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกที่ยากต่อการย่อยสลายในธรรมชาติ และสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติที่เหนือกว่า ซึ่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจในยุคที่ความยั่งยืนกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขัน ในยุคที่การเติบโตทางเศรษฐกิจต้องดำเนินไปควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การดำเนินธุรกิจทุกภาคส่วนล้วนส่งผลกระทบต่อโลกใบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ความตระหนักรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนกำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลก ภาคธุรกิจจึงจำเป็นต้องปรับตัวและแสวงหาแนวทางใหม่ๆ เพื่อก้าวสู่เส้นทางแห่งความยั่งยืนอย่างจริงจัง ประเทศไทยมีขยะจากครัวเรือนกว่า 28 ล้านตัน/ปี หรือเฉลี่ย 1 กก./คน/วัน แต่นำกลับมาใช้ประโยชน์ได้แค่เพียงปีละ 9.6 ล้านตัน ไม่เพียงเท่านั้น วิถีชีวิตแบบใหม่ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 ยิ่งผลักดันให้มีขยะแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งมากขึ้น ปริมาณขยะจึงเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว เกิดเป็นวิกฤตขยะล้นเมือง!

ส่วนหนึ่งเพราะขาดการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่เพียงแค่ในประเทศไทย แต่วิกฤตนี้กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก จนคาดกันว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป จะมีขยะหลุดเข้าสู่สิ่งแวดล้อมถึง 700 ล้านตัน จะดีกว่าหรือไม่? หากขยะเหล่านี้ไม่ถูกตัดสินให้กลายเป็นขยะเร็วเกินไป ทั้งที่มันเคยเป็นและอาจยังเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ามหาศาลอยู่ ด้วยการใช้ “หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน” (Circular Economy) ที่มุ่งใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าและหมุนเวียนทรัพยากรใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่เพียงแค่ลดปัญหาขยะล้น หรือทรัพยากรขาดแคลน แต่ยังสามารถสร้างให้เกิดมูลค่าทางธุรกิจได้ แค่เปลี่ยนความคิดและลงมือทำ เวที “SCG Trash (less) Talk” ในงาน “Thailand Sustainability Expo 2021” ที่ผ่านมาจึงชวนทุกคนมาร่วมเห็นความสำคัญของการ “เปลี่ยนขยะให้เป็นทอง มอง Waste ให้เป็น Wealth” โดยมีคุณจิรโรจน์ พจนาวราพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสงเจริญแกรนด์ จำกัด หรือ SC GRAND คุณภูเบศร์ สำราญเริงจิต รองผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กรและความยั่งยืน บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) และคุณเฉลิมพล ฮุนพงษ์สิมานนท์... คุณเฉลิมพล ฮุนพงษ์สิมานนท์ Circular Economy Business Director ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี กล่าวว่า การจะทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนเกิดขึ้นจริงได้ต้องปรับวิธีคิด เปลี่ยนวิธีการใช้ทรัพยากร ที่ผ่านมาเรามักใช้แล้วทิ้ง แต่ปัจจุบันต้องปรับวิธีคิดว่าจะใช้อย่างไรให้นานขึ้น คุ้มค่าขึ้น โดยเอสซีจี ทำเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียนในธุรกิจอย่างจริงจัง และนำความรู้ ความคิดใหม่ ๆ มาเป็นตัวอย่าง พร้อมชักชวนภาคส่วนอื่นๆ มาร่วมทำ เพื่อเชื่อมต่อเครือข่ายที่ทำเรื่องการจัดการขยะและหมุนเวียนทรัพยากรกลับมาสร้างประโยชน์ใหม่ โดยยกตัวอย่างของการร่วมกับเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทองและยูนิลีเวอร์ ทำโครงการ “แยกดี มีแต่ได้” “ปกติที่ชุมชนบางบัวทองจะมีการแยกขยะอยู่แล้ว เราไปร่วมกับยูนิลีเวอร์เพื่อส่งเสริมเรื่องการแยกขยะมากขึ้น โดยขยะพลาสติกชนิด HDPE เช่น ขวดนมหรือขวดน้ำยาล้างจานที่รวบรวมมาทุก 1 กิโลกรัม สามารถนำไปแลกสินค้ายูนิลีเวอร์ได้ 1 ชิ้น แล้วเอสซีจีก็นำขวดพลาสติกที่ได้มารีไซเคิลเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการทำบรรจุภัณฑ์สำหรับ consumer products เป็นการเปลี่ยน Waste ให้เป็น Wealth และถือเป็น Circular Economy อย่างแท้จริง เพราะทุกภาคส่วนได้เข้ามาเกี่ยวข้อง”

ส่วนสำคัญของการจัดการขยะให้เกิดประโยชน์สูงสุด นั่นก็คือการรีไซเคิล วันนี้มาทำความรู้จักกับบริษัท ชนะชัยรีไซเคิลกรุ๊ป ผู้นำในการจัดการขยะรีไซเคิลของประเทศไทย ปัจจุบันเป็นธุรกิจรีไซเคิลครบวงจร ทั้งรับซื้อและคัดแยก ,แปรรูป ย่อย อัดเป็นก้อน และ ขนส่ง มีรถบรรทุกและทีมงานขนส่ง พร้อมส่งวัสดุไปยังโรงงานรีไซเคิลทั่วประเทศไทย กับทายาทรุ่นที่ 2 วลัยพร เสริมวราพันธ์ หรือ คุณเกด (รองประธานบริษัทชนะชัยรีไซเคิลกรุ๊ป) คุณเกดเล่าถึงที่มาของบริษัทว่า ก่อตั้งโดยคุณพ่อ ชนะชัย เสริมวราพันธ์ เดิมทีคุณพ่อทำธุรกิจค้ายางพาราอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่ด้วยวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง จึงได้ย้ายมาที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร และเริ่มต้นธุรกิจรีไซเคิลด้วยเงิน 1 แสนบาท กับรถกระบะ 1 คัน จากการเป็นร้านรับซื้อขนาดเล็ก ในช่วงปีพุทธศักราช 2541 และค่อย ๆ ขยายกิจการสาขาเพิ่มขึ้น ภายในระยะเวลา 7 ปี จึงเปลี่ยนมาเป็นผู้รับซื้อรายใหญ่ ดำเนินธรุกิจด้วยหลักการที่โปร่งใส การค้าขายที่ยุติธรรม โดยรักษาคำมั่นสัญญากับพันธมิตรว่าจะไม่รับซื้อรายย่อย จะไม่แย่งลูกค้ากัน ซึ่งหมายความว่า ทางบริษัทจะไม่มีตราชั่งขนาดเล็กสำหรับรายย่อยเลย มีแต่ตราชั่งขนาดใหญ่สำหรับรถกระบะ หรือรถบรรทุก จนได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าและพันธมิตรมากมายทั่วทุกพื้นที่ ตลอดระยะเวลากว่า 25 ปี รู้หรือไม่?

ในทุก ๆ วัน คนไทยหนึ่งคน สร้างขยะมากกว่า 1 กิโลกรัมโดยที่เราไม่ทันได้สังเกตตัวเอง นั่นหมายความว่า ในหนึ่งวัน คนไทยทั้งประเทศจะสร้างขยะรวมกันได้มากถึง 74,750 ตัน นับเป็นปริมาณเทียบเท่ากับเครื่องบินแอร์บัส A380 จำนวน 270 ลำ แต่ขยะเหลือทิ้งจำนวนมหาศาลเหล่านี้ ไม่ได้มีแค่สิ่งไร้ค่าที่ต้องกำจัดเพียงอย่างเดียว เพราะขยะประมาณ 1 กิโลกรัมต่อวันที่เราเป็นคนสร้าง หากนำมาแยกประเภทก่อนทิ้ง จะได้ขยะรีไซเคิล 25% ซึ่งเป็นขยะที่มีมูลค่าเพราะสามารถนำไปขายต่อได้ ถ้าคนไทยทั้งประเทศช่วยกันแยกขยะรีไซเคิลออกมาจากกองขยะทั้งหมดที่มีในแต่ละวัน ก็จะช่วยลดจำนวนเครื่องบินแอร์บัส A380 ไปได้ถึง 68 ลำ ขยะที่คนส่วนใหญ่มักจะทิ้งลงถังด้วยความเคยชินเพราะเห็นเป็นเพียงสิ่งเหลือใช้ มีขยะรีไซเคิลซึ่งมีมูลค่ามากกว่าที่ใครหลายคนนึกถึงร่วมอยู่ด้วย การแยกขยะรีไซเคิลเพื่อนำกลับไปแปรรูปและใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง นอกจากช่วยลดปริมาณขยะเหลือทิ้งเพื่อทำให้โลกใบนี้น่าอยู่และยั่งยืนมากขึ้น ยังเป็นหนทางสร้างรายได้ในอีกช่องทางหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อสนับสนุนให้ทุกคนเปลี่ยน Waste เป็น Wealth ด้วยวิธีเปลี่ยนขยะเป็นเงินและสร้างรายได้จากของเหลือใช้ใกล้ตัว LIVE TO LIFE จึงรวบรวมข้อมูลและคำแนะนำเกี่ยวกับการแยกขยะรีไซเคิลที่นำไปขายต่อได้ ไว้เป็นแรงบันดาลใจและจุดเริ่มต้นให้ทุกคนหันมาจัดการขยะในแต่ละวันอย่างถูกวิธี ซึ่งทำง่าย เริ่มได้ทันที และส่งผลดีต่อโลกของเรา ที่มา : amarintv.com (https://www.amarintv.com/spotlight/sustainability/detail/69231)

ในยุคที่โลกกำลังเผชิญวิกฤตขยะล้นเมือง เราต่างตระหนักดีว่า “ขยะ” ไม่ใช่แค่ปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่คือโอกาสทางธุรกิจที่รอการปลดล็อค! มาร่วมสำรวจเส้นทางสู่ความสำเร็จของธุรกิจยุคใหม่ ที่ไม่เพียงสร้างกำไร แต่ยังช่วยรักษาโลกใบนี้ ผ่านแนวคิด “อัพไซเคิล” ที่จะเปลี่ยน “ของเหลือใช้” ให้กลายเป็น “เงิน” และสร้าง “มูลค่า” ให้ธุรกิจอย่างยั่งยืน วิธีเปลี่ยนขยะให้เป็นเงิน สร้างมูลค่าใหม่ให้ธุรกิจ โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตขยะครั้งใหญ่ โดยมีปริมาณขยะเกิดขึ้นมากกว่า 2 พันล้านตันต่อปีทั่วโลก ประเทศไทยเองก็ประสบปัญหาเดียวกัน โดยมีปริมาณขยะสูงถึง 27 ล้านตันต่อปี อย่างไรก็ตาม มีเพียง 31% ของขยะเหล่านี้ที่ถูกนำกลับมาใช้ใหม่ผ่านกระบวนการรีไซเคิลและอัพไซเคิล สถิติดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมที่เร่งด่วน แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญยิ่ง จากปัญหาสู่โอกาส ธุรกิจยุคใหม่กับการรีไซเคิลและอัพไซเคิล พาส่องธุรกิจ “อัพไซเคิล” เปลี่ยนขยะให้เป็นเงิน แถมช่วยโลกให้น่าอยู่ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เผยธุรกิจอัพไซเคิลเป็นโอกาส การพัฒนาวัสดุหรือวัตถุดิบเหลือทิ้ง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยสร้างเอกลักษณ์โดดเด่น เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าสู่ยั่งยืน

ใครจะไปคิดว่าของเหลือใช้ วัตถุดิบเหลือทิ้ง ก็สามารถทำเงินได้ นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (ผอ.สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจดิจิทัลและพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) เติบโตอย่างก้าวกระโดด ประกอบกับการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนทั่วโลกที่ทำให้ การบริโภคของทุกภาคส่วนขยายตัว ก่อให้เกิดปริมาณขยะจำนวนมาก ทั้งขยะมูลฝอยชุมชนและขยะพลาสติก รายงาน Global Waste Management Outlook 2024 ของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ระบุว่า ขยะมูลฝอยชุมชนทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 3.8 พันล้านตัน ภายในปี 2593 และทำให้ต้นทุนในการจัดการขยะทั่วโลกเพิ่มขึ้น จาก 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2563 เป็น 6.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2593 สำหรับประเทศไทย ในปี 2566 มีขยะมูลฝอยชุมชน 26.95 ล้านตัน หรือเฉลี่ยประมาณ 73,840 ตัน/วันขยะปริมาณมหาศาลเหล่านี้ก่อให้เกิดปัญหาต่าง... ผอ.สนค. อธิบายว่า ความท้าทายในการจัดการขยะจำนวนมาก และต้นทุนในการดำเนินการที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณขยะ ก่อให้เกิดแนวคิดในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับขยะ การอัพไซเคิล (upcycle) ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งของเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยอัพไซเคิล (upcycle) มาจากคำว่า อัพเกรด (upgrade) ที่หมายถึง การพัฒนาให้ดีขึ้น รวมกับคำว่า รีไซเคิล (recycle) หมายถึง การนำวัสดุที่ไม่ใช้แล้วมาแปรรูปเป็นวัสดุ/ผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพเท่าเดิมหรือใกล้เคียงของเดิม ดังนั้น อัพไซเคิล (upcycle) จึงหมายถึง การนำวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว มาแปรรูป ออกแบบ ต่อยอด และพัฒนาให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco-Design) เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพ มีมูลค่ามากขึ้น... ปัจจุบันผู้บริโภคหันมาใส่ใจกับปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทำให้ความต้องการสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงสินค้าและบริการอัพไซเคิลด้วย โดยบริษัทวิจัยการตลาด Grand View Research ได้รวบรวมมูลค่าตลาดอัพไซเคิลทั่วโลก และคาดการณ์ว่า ในปี 2568 ตลาดอัพไซเคิล จะมีมูลค่า 9.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 5.6 ต่อปี เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดวัตถุดิบอัพไซเคิล (upcycled ingredients) ที่คาดว่าจะมีมูลค่ามากกว่า 512 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2575 โดยเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 6.4 ต่อปี ที่ผ่านมาโรงกษาปณ์เป็นองค์กรสำหรับดูแลกำกับการผลิตเหรียญของประเทศโดยเฉพาะ มีความสำคัญอย่างยิ่งในระบบเศรษฐกิจสำหรับการรักษาเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือของสกุลเงินของประเทศ กำหนดมาตรฐานการผลิตและความปลอดภัยของเงินตรา รวมถึงการผลิตเหรียญที่ระลึกเนื่องในโอกาสพิเศษต่างๆ

แต่ล่าสุดโรงกษาปณ์ของอังกฤษกำลังจะมีบทบาทใหม่ในการสกัดและผลิตทองคำขึ้นจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ แนวคิดนี้เกิดจากบริษัท Excir แห่งแคนาดา กับการคิดค้นพัฒนาสารเคมีในการทำละลายรูปแบบใหม่ อาศัยคุณสมบัติในการสกัดทองคำออกมาจากแผงวงจร สู่การนำมาใช้ในการสกัดทองคำจากชิ้นส่วนแผงวงจรขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่จะช่วยพลิกโฉมโรงกษาปณ์โดยสิ้นเชิง ต้นทางของแนวคิดนี้เริ่มจากความสำเร็จในการพัฒนาสารเคมีชนิดพิเศษของ Excir ที่มีคุณสมบัติในการทำละลายโลหะมีค่าโดยเฉพาะทองให้หลุดออกจากแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ได้โดยตรง เพียงนำแผงวงจรที่ต้องการไปแช่ในสารเคมีภายในระยะเวลาที่กำหนด อนุภาคทองคำก็จะถูกสกัดออกมาแขวนลอยอยู่บนพื้นผิวให้สามารถร่อนกลับไปใช้ใหม่ จุดเด่นของการสกัดทองคำโดยอาศัยสารเคมีชนิดนี้คือ กระบวนการสกัดดำเนินการได้ภายใต้อุณหภูมิห้อง ขั้นตอนการใช้งานเพียงนำแผงวงจรไปแช่ในสารละลาย อาศัยระยะเวลาดำเนินการเพียงไม่กี่นาที ช่วยกู้คืนอนุภาคทองคำที่แขวนลอย 99% และจะได้ทองที่มีระดับความบริสุทธิ์ถึง 99.99%

People Also Search

ในยุคที่ความยั่งยืนไม่ใช่แค่กระแส แต่กลายเป็นสิ่งจำเป็น การจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นโอกาสทำธุรกิจที่สร้างรายได้ ผู้ประกอบการและบุคคลทั่วไปสามารถเริ่มต้นได้ง่ายจากการนำของใช้เก่า ขยะพลาสติก ขยะอินทรีย์ หรือของเสียอิเล็กทรอนิกส์ มาปรับปรุง รีไซเคิล

ในยุคที่ความยั่งยืนไม่ใช่แค่กระแส แต่กลายเป็นสิ่งจำเป็น การจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นโอกาสทำธุรกิจที่สร้างรายได้ ผู้ประกอบการและบุคคลทั่วไปสามารถเริ่มต้นได้ง่ายจากการนำของใช้เก่า ขยะพลาสติก ขยะอินทรีย์ หรือของเสียอิเล็กทรอนิกส์ มาปรับปรุง รีไซเคิล หรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่า ตาม รายงาน Global Waste Management Outlook 2024 ของ UNEP ขยะมูลฝอย...

มาร่วมสำรวจเส้นทางสู่ความสำเร็จของธุรกิจยุคใหม่ ที่ไม่เพียงสร้างกำไร แต่ยังช่วยรักษาโลกใบนี้ ผ่านแนวคิด "อัพไซเคิล" ที่จะเปลี่ยน "ของเหลือใช้" ให้กลายเป็น "เงิน" และสร้าง

มาร่วมสำรวจเส้นทางสู่ความสำเร็จของธุรกิจยุคใหม่ ที่ไม่เพียงสร้างกำไร แต่ยังช่วยรักษาโลกใบนี้ ผ่านแนวคิด "อัพไซเคิล" ที่จะเปลี่ยน "ของเหลือใช้" ให้กลายเป็น "เงิน" และสร้าง "มูลค่า" ให้ธุรกิจอย่างยั่งยืน โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตขยะครั้งใหญ่ โดยมีปริมาณขยะเกิดขึ้นมากกว่า 2 พันล้านตันต่อปีทั่วโลก ประเทศไทยเองก็ประสบปัญหาเดียวกัน โดยมีปริมาณขยะสูงถึง 27 ล้านตันต่อปี อย่างไรก็ตาม มีเพียง 31% ของขยะเหล่านี้...

ส่วนหนึ่งเพราะขาดการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่เพียงแค่ในประเทศไทย แต่วิกฤตนี้กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก จนคาดกันว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป จะมีขยะหลุดเข้าสู่สิ่งแวดล้อมถึง 700 ล้านตัน

ส่วนหนึ่งเพราะขาดการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่เพียงแค่ในประเทศไทย แต่วิกฤตนี้กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก จนคาดกันว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป จะมีขยะหลุดเข้าสู่สิ่งแวดล้อมถึง 700 ล้านตัน จะดีกว่าหรือไม่? หากขยะเหล่านี้ไม่ถูกตัดสินให้กลายเป็นขยะเร็วเกินไป ทั้งที่มันเคยเป็นและอาจยังเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ามหาศาลอยู่ ด้วยการใช้ “หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน” (Circular Economy) ที...

ส่วนสำคัญของการจัดการขยะให้เกิดประโยชน์สูงสุด นั่นก็คือการรีไซเคิล วันนี้มาทำความรู้จักกับบริษัท ชนะชัยรีไซเคิลกรุ๊ป ผู้นำในการจัดการขยะรีไซเคิลของประเทศไทย ปัจจุบันเป็นธุรกิจรีไซเคิลครบวงจร ทั้งรับซื้อและคัดแยก ,แปรรูป ย่อย อัดเป็นก้อน

ส่วนสำคัญของการจัดการขยะให้เกิดประโยชน์สูงสุด นั่นก็คือการรีไซเคิล วันนี้มาทำความรู้จักกับบริษัท ชนะชัยรีไซเคิลกรุ๊ป ผู้นำในการจัดการขยะรีไซเคิลของประเทศไทย ปัจจุบันเป็นธุรกิจรีไซเคิลครบวงจร ทั้งรับซื้อและคัดแยก ,แปรรูป ย่อย อัดเป็นก้อน และ ขนส่ง มีรถบรรทุกและทีมงานขนส่ง พร้อมส่งวัสดุไปยังโรงงานรีไซเคิลทั่วประเทศไทย กับทายาทรุ่นที่ 2 วลัยพร เสริมวราพันธ์ หรือ คุณเกด (รองประธานบริษัทชนะชัยรีไซเคิลก...

ในทุก ๆ วัน คนไทยหนึ่งคน สร้างขยะมากกว่า 1 กิโลกรัมโดยที่เราไม่ทันได้สังเกตตัวเอง นั่นหมายความว่า ในหนึ่งวัน คนไทยทั้งประเทศจะสร้างขยะรวมกันได้มากถึง

ในทุก ๆ วัน คนไทยหนึ่งคน สร้างขยะมากกว่า 1 กิโลกรัมโดยที่เราไม่ทันได้สังเกตตัวเอง นั่นหมายความว่า ในหนึ่งวัน คนไทยทั้งประเทศจะสร้างขยะรวมกันได้มากถึง 74,750 ตัน นับเป็นปริมาณเทียบเท่ากับเครื่องบินแอร์บัส A380 จำนวน 270 ลำ แต่ขยะเหลือทิ้งจำนวนมหาศาลเหล่านี้ ไม่ได้มีแค่สิ่งไร้ค่าที่ต้องกำจัดเพียงอย่างเดียว เพราะขยะประมาณ 1 กิโลกรัมต่อวันที่เราเป็นคนสร้าง หากนำมาแยกประเภทก่อนทิ้ง จะได้ขยะรีไซเคิล 25%...