เปิด 4 เทรนด์พลิกโฉมเศรษฐกิจโลก โฟกัส 3 ปัจจัย ทุน คน เทคโนโลยี เพิ่ม

Leo Migdal
-
เปิด 4 เทรนด์พลิกโฉมเศรษฐกิจโลก โฟกัส 3 ปัจจัย ทุน คน เทคโนโลยี เพิ่ม

ผู้นำระดับภูมิภาคด้านเศรษฐกิจและภาคธุรกิจชั้นนำของไทย ระบุ 4 เทรนด์ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงโลกาภิวัฒน์ การให้ความสำคัญกับการลดก๊าซเรือนกระจก การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของโลก กำลังมีอิทธิพลพลิกโฉมเศรษฐกิจโลก จากงานสัมมนา Future Forum 2025: – Great Transformation ที่จัดโดย สมาคมการจัดการธุรกิจประเทศไทย (TMA) โดยมีนักวิชาการและภาคธุรกิจเข้าร่วมสัมมนากว่า 250 คน ต่างระบุตรงกันว่า เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับการท้าทายและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทำให้ทุกภาคส่วนต้องปรับตัวเพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มร.เฮง สวี เกียต (Mr. Heng Swee Keat) อดีตรองนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ และประธานมูลนิธิวิจัยแห่งชาติของสิงคโปร์ (National Research Foundation, Singapore) ให้ความเห็นบนเวทีสัมมนาในหัวข้อ “Economic Transformation for Peoples, For Planet” ว่า “กว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา เศรษฐกิจโลกเผชิญกับวิกฤตที่สำคัญ 2 วิกฤต คือ วิกฤตเศรษฐกิจ และวิกฤตจากโรคระบาด วิกฤตแรกมีสองครั้งใหญ่คือ วิกฤตเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียช่วงปี 2540 และวิกฤตเศรษฐกิจโลกในปี 2551 ส่วนวิกฤตจากโรคระบาดคือ จากการแพร่ระบาดของโรคระบาดอย่าง โคโรน่าไวรัสสายพันธ์ใหม่... โลกในปัจจุบันเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่เรียกว่า Major Trend ใน 4D คือ มร.เฮง สวี เกียต กล่าวและเพิ่มเติมว่า “สิงคโปร์ นำทั้ง 4 เทรนด์มาใช้ในการวางกลยุทธ์บริหารประเทศ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน โดยคำนึงถึงเรื่องการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ด้านเทคโนโลยี การให้ความสำคัญกับเรื่องของการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการทำข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ (Free Trade Area) ซึ่งปัจจุบันสิงคโปร์มีข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศทั้งในระดับประเทศ และระดับกลุ่มประเทศถึง 28 ฉบับ รวมทั้งให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างมีหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) ให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีในทุกภาคอุตสาหกรรมรวมไปถึงการพัฒนาบุคลากร

มีบัญชีอยู่แล้วใช่ไหม ? ลงชื่อเข้าใช้งาน มีบัญชีอยู่แล้วใช่ไหม ? ลงชื่อเข้าใช้งาน ยังไม่ได้รับรหัส OTP ใช่ไหม ?กด ส่งรหัสใหม่ ได้ใน นาที เราได้ดำเนินการสร้างบัญชีของคุณเรียบร้อยแล้ว

ยังไม่ได้รับรหัส OTP ใช่ไหม ?กด ส่งรหัสใหม่ ได้ใน มิติหุ้น – ผู้นำระดับภูมิภาคด้านเศรษฐกิจและภาคธุรกิจชั้นนำของไทย ระบุ 4 เทรนด์ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงโลกาภิวัฒน์ การให้ความสำคัญกับการลดก๊าซเรือนกระจก การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของโลก กำลังมีอิทธิพลพลิกโฉมเศรษฐกิจโลก จากงานสัมมนา Future Forum 2025: – Great Transformation ที่จัดโดย สมาคมการจัดการธุรกิจประเทศไทย (TMA) โดยมีนักวิชาการและภาคธุรกิจเข้าร่วมสัมมนากว่า 250 คน ต่างระบุตรงกันว่า เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับการท้าทายและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทำให้ทุกภาคส่วนต้องปรับตัวเพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มร.เฮง สวี เกียต (Mr. Heng Swee Keat) อดีตรองนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ และประธานมูลนิธิวิจัยแห่งชาติของสิงคโปร์ (National Research Foundation, Singapore) ให้ความเห็นบนเวทีสัมมนาในหัวข้อ “Economic Transformation for Peoples, For Planet” ว่า “กว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา เศรษฐกิจโลกเผชิญกับวิกฤตที่สำคัญ 2 วิกฤต คือ วิกฤตเศรษฐกิจ และวิกฤตจากโรคระบาด วิกฤตแรกมีสองครั้งใหญ่คือ วิกฤตเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียช่วงปี 2540 และวิกฤตเศรษฐกิจโลกในปี 2551 ส่วนวิกฤตจากโรคระบาดคือ จากการแพร่ระบาดของโรคระบาดอย่าง โคโรน่าไวรัสสายพันธ์ใหม่... โลกในปัจจุบันเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่เรียกว่า Major Trend ใน 4D คือ

มร.เฮง สวี เกียต กล่าวและเพิ่มเติมว่า “สิงคโปร์ นำทั้ง 4 เทรนด์มาใช้ในการวางกลยุทธ์บริหารประเทศ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน โดยคำนึงถึงเรื่องการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ด้านเทคโนโลยี การให้ความสำคัญกับเรื่องของการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการทำข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ (Free Trade Area) ซึ่งปัจจุบันสิงคโปร์มีข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศทั้งในระดับประเทศ และระดับกลุ่มประเทศถึง 28 ฉบับ รวมทั้งให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างมีหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) ให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีในทุกภาคอุตสาหกรรมรวมไปถึงการพัฒนาบุคลากร ผู้นำระดับภูมิภาคด้านเศรษฐกิจและภาคธุรกิจชั้นนำของไทย ระบุ 4 เทรนด์ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงโลกาภิวัฒน์ การให้ความสำคัญกับการลดก๊าซเรือนกระจก การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของโลก กำลังมีอิทธิพลพลิกโฉมเศรษฐกิจโลก จากงานสัมมนา Future Forum 2025: – Great Transformation ที่จัดโดย สมาคมการจัดการธุรกิจประเทศไทย (TMA) โดยมีนักวิชาการและภาคธุรกิจเข้าร่วมสัมมนากว่า 250 คน ต่างระบุตรงกันว่า เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับการท้าทายและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทำให้ทุกภาคส่วนต้องปรับตัวเพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มร.เฮง สวี เกียต (Mr. Heng Swee Keat) อดีตรองนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ และประธานมูลนิธิวิจัยแห่งชาติของสิงคโปร์ (National Research Foundation, Singapore) ให้ความเห็นบนเวทีสัมมนาในหัวข้อ “Economic Transformation for Peoples, For Planet” ว่า “กว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา เศรษฐกิจโลกเผชิญกับวิกฤตที่สำคัญ 2 วิกฤต คือ วิกฤตเศรษฐกิจ และวิกฤตจากโรคระบาด วิกฤตแรกมีสองครั้งใหญ่คือ วิกฤตเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียช่วงปี 2540 และวิกฤตเศรษฐกิจโลกในปี 2551 ส่วนวิกฤตจากโรคระบาดคือ จากการแพร่ระบาดของโรคระบาดอย่าง โคโรน่าไวรัสสายพันธ์ใหม่... โลกในปัจจุบันเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่เรียกว่า Major Trend ใน 4D คือ

1.De-Globalization หรือการเปลี่ยนแปลงโลกาภิวัตน์จากเศรษฐกิจเสรี ไปสู่การกีดกันและการผูกขาดมากขึ้น กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – เวทีสัมมนา “Future Forum 2025: – Great Transformation” ซึ่งมีนักวิชาการและผู้นำภาคธุรกิจเข้าร่วมกว่า 250 คน บรรยากาศเต็มไปด้วยการตื่นตัวต่อสภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังเผชิญกับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาและได้รับการยอมรับตรงกันคือ ทุกภาคส่วนจำเป็นต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วนเพื่อรับมือกับ “The Great Transformation” ครั้งนี้ นายเฮง สวี เกียต อดีตรองนายกรัฐมนตรีและประธานมูลนิธิวิจัยแห่งชาติของสิงคโปร์ (National Research Foundation, Singapore) ได้ให้ทรรศนะที่น่าสนใจในหัวข้อ “Economic Transformation for Peoples, For Planet” โดยระบุว่า โลกได้ผ่านวิกฤตการณ์สำคัญมาแล้ว 2 รูปแบบในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา คือวิกฤตเศรษฐกิจ (วิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 และวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ปี 2551) และวิกฤตโรคระบาด (โควิด-19) แม้วิกฤตเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบ แต่เศรษฐกิจโลกยังคงเติบโตต่อไปได้แม้จะในอัตราที่ชะลอตัวลง ทว่า วิกฤตโควิด-19 ได้กลายเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งมโหฬาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้ามาของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนภูมิทัศน์โลกไปอย่างสิ้นเชิง นายเฮง สวี เกียต ได้สรุปเมกะเทรนด์ที่กำลังขับเคลื่อนโลกในปัจจุบันภายใต้แนวคิด “4D” ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “สิงคโปร์ได้นำเทรนด์ทั้ง 4 มาเป็นแกนหลักในการวางกลยุทธ์บริหารประเทศ โดยเน้นการพัฒนาบุคลากรให้ก้าวทันเทคโนโลยี, การทำข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ซึ่งปัจจุบันมีถึง 28 ฉบับ, การบริหารจัดการด้วยหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) และการปรับใช้เทคโนโลยีในทุกภาคส่วน” นายเฮง สวี เกียต กล่าว เขายังเน้นย้ำว่า “ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงนี้ AI จะเป็นขุมพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ แต่หัวใจหลักคือการพัฒนาศักยภาพของประชากรให้สามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีได้ ภาคเอกชนต้องเปลี่ยนวิธีคิด ปรับกลยุทธ์ และเปิดกว้างในการร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตท่ามกลางความผันผวน”

จากงานสัมมนา Future Forum 2025: - Great Transformation ที่จัดโดย สมาคมการจัดการธุรกิจประเทศไทย (TMA) โดยมีนักวิชาการและภาคธุรกิจเข้าร่วมสัมมนากว่า 250 คน ต่างระบุตรงกันว่า เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับการท้าทายและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทำให้ทุกภาคส่วนต้องปรับตัวเพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น 18 กันยายน 2568 — มร.เฮง สวี เกียต (Mr. Heng Swee Keat) อดีตรองนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ และประธานมูลนิธิวิจัยแห่งชาติของสิงคโปร์ (National Research Foundation, Singapore) ให้ความเห็นบนเวทีสัมมนาในหัวข้อ “Economic Transformation for Peoples, For Planet” ว่า “กว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา เศรษฐกิจโลกเผชิญกับวิกฤตที่สำคัญ 2 วิกฤต คือ วิกฤตเศรษฐกิจ และวิกฤตจากโรคระบาด วิกฤตแรกมีสองครั้งใหญ่คือ วิกฤตเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียช่วงปี 2540 และวิกฤตเศรษฐกิจโลกในปี 2551 ส่วนวิกฤตจากโรคระบาดคือ จากการแพร่ระบาดของโรคระบาดอย่าง โคโรน่าไวรัสสายพันธ์ใหม่... มร.เฮง สวี เกียต กล่าวและเพิ่มเติมว่า “สิงคโปร์ นำทั้ง 4 เทรนด์มาใช้ในการวางกลยุทธ์บริหารประเทศ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน โดยคำนึงถึงเรื่องการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ด้านเทคโนโลยี การให้ความสำคัญกับเรื่องของการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการทำข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ (Free Trade Area) ซึ่งปัจจุบันสิงคโปร์มีข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศทั้งในระดับประเทศ และระดับกลุ่มประเทศถึง 28 ฉบับ รวมทั้งให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างมีหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) ให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีในทุกภาคอุตสาหกรรมรวมไปถึงการพัฒนาบุคลากร การขับเคลื่อนประเทศและเศรษฐกิจของประเทศในปัจจุบัน ประเทศต้องขับเคลื่อนโดยการพัฒนาศักยภาพของประชากรในประเทศ เพราะท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โครงสร้างเศรษฐกิจจะเปลี่ยนไป โครงสร้างการทำงานก็เปลี่ยนไป เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทโดยเฉพาะเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ (AI) การที่จะก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลกที่กำลังเกิดขึ้น โดยการที่ยังสามารถรักษาอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนได้ สิ่งสำคัญคือ การต้องพัฒนาศักยภาพในการทำงานของประชากรในประเทศให้สามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปได้ เพราะ AI จะเป็นขุมพลังสำหรับการพัฒนาในทุกภาคส่วนของประเทศ รวมไปถึงต้องไม่หยุดที่จะวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างเครื่องมือในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ในขณะที่ภาคเอกชนต้องเปลี่ยนแปลงวิธีคิด ปรับกลยุทธในการทำธุรกิจ และ รู้จักที่จะใช้เทคโนโลยี รวมทั้งการออกแบบกระบวนการทำงานให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป รวมไปถึงเปิดกว้างในการร่วมมือกับธุรกิจทั้งภายในและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดการเติบโตได้ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน” มร. เฮง สวี เกียต กล่าว

ในขณะที่ ศาสตราจารย์อาร์ทูโร บริส (Prof. Arturo Bris) ผู้อำนวยการ IMD World Competitiveness Center กล่าวในช่วงการสัมมนา “The New Transformation Model” ว่า “กรอบแนวคิดดั้งเดิมของความสามารถในการแข่งขันคือ การมีประสิทธิภาพในการทำงาน ความร่วมมือระหว่างกัน และการเพิ่มผลผลิต แต่ปัจจุบันแนวคิดดังกล่าวได้เปลี่ยนแปลงไปตามกลไกทางเศรษฐกิจ การเมือง ที่เปลี่ยนแปลงไป คือความสามารถในการแข่งขันในปัจจุบันไม่ได้ถูกวัดแค่เรื่องประสิทธิภาพในการทำงาน การเพิ่มผลผลิต และความร่วมมือกันระหว่างภาคเอกชนเท่านั้น แต่จะถูกวัดด้วยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ที่มีประสิทธิภาพในระดับโลก การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา และนโยบายในการบริหารจัดการภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม

People Also Search

ผู้นำระดับภูมิภาคด้านเศรษฐกิจและภาคธุรกิจชั้นนำของไทย ระบุ 4 เทรนด์ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงโลกาภิวัฒน์ การให้ความสำคัญกับการลดก๊าซเรือนกระจก การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของโลก กำลังมีอิทธิพลพลิกโฉมเศรษฐกิจโลก จากงานสัมมนา

ผู้นำระดับภูมิภาคด้านเศรษฐกิจและภาคธุรกิจชั้นนำของไทย ระบุ 4 เทรนด์ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงโลกาภิวัฒน์ การให้ความสำคัญกับการลดก๊าซเรือนกระจก การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของโลก กำลังมีอิทธิพลพลิกโฉมเศรษฐกิจโลก จากงานสัมมนา Future Forum 2025: – Great Transformation ที่จัดโดย สมาคมการจัดการธุรกิจประเทศไทย (TMA) โดยมีนักวิชาการและภาคธุรกิจเข้าร่วมสัมมนากว่า 250 คน ต่างระบ...

มีบัญชีอยู่แล้วใช่ไหม ? ลงชื่อเข้าใช้งาน มีบัญชีอยู่แล้วใช่ไหม ? ลงชื่อเข้าใช้งาน ยังไม่ได้รับรหัส OTP ใช่ไหม ?กด

มีบัญชีอยู่แล้วใช่ไหม ? ลงชื่อเข้าใช้งาน มีบัญชีอยู่แล้วใช่ไหม ? ลงชื่อเข้าใช้งาน ยังไม่ได้รับรหัส OTP ใช่ไหม ?กด ส่งรหัสใหม่ ได้ใน นาที เราได้ดำเนินการสร้างบัญชีของคุณเรียบร้อยแล้ว

ยังไม่ได้รับรหัส OTP ใช่ไหม ?กด ส่งรหัสใหม่ ได้ใน มิติหุ้น – ผู้นำระดับภูมิภาคด้านเศรษฐกิจและภาคธุรกิจชั้นนำของไทย ระบุ

ยังไม่ได้รับรหัส OTP ใช่ไหม ?กด ส่งรหัสใหม่ ได้ใน มิติหุ้น – ผู้นำระดับภูมิภาคด้านเศรษฐกิจและภาคธุรกิจชั้นนำของไทย ระบุ 4 เทรนด์ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงโลกาภิวัฒน์ การให้ความสำคัญกับการลดก๊าซเรือนกระจก การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของโลก กำลังมีอิทธิพลพลิกโฉมเศรษฐกิจโลก จากงานสัมมนา Future Forum 2025: – Great Transformation ที่จัดโดย สมาคมการจัดการธุรกิจประเทศไทย (TMA)...

มร.เฮง สวี เกียต กล่าวและเพิ่มเติมว่า “สิงคโปร์ นำทั้ง 4 เทรนด์มาใช้ในการวางกลยุทธ์บริหารประเทศ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน โดยคำนึงถึงเรื่องการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ด้านเทคโนโลยี

มร.เฮง สวี เกียต กล่าวและเพิ่มเติมว่า “สิงคโปร์ นำทั้ง 4 เทรนด์มาใช้ในการวางกลยุทธ์บริหารประเทศ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน โดยคำนึงถึงเรื่องการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ด้านเทคโนโลยี การให้ความสำคัญกับเรื่องของการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการทำข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ (Free Trade Area) ซึ่งปัจจุบันสิงคโปร์มีข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศทั้งในระดับประเทศ และระดับกลุ่มประเทศถึง 28 ฉ...

1.De-Globalization หรือการเปลี่ยนแปลงโลกาภิวัตน์จากเศรษฐกิจเสรี ไปสู่การกีดกันและการผูกขาดมากขึ้น กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – เวทีสัมมนา “Future Forum 2025:

1.De-Globalization หรือการเปลี่ยนแปลงโลกาภิวัตน์จากเศรษฐกิจเสรี ไปสู่การกีดกันและการผูกขาดมากขึ้น กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – เวทีสัมมนา “Future Forum 2025: – Great Transformation” ซึ่งมีนักวิชาการและผู้นำภาคธุรกิจเข้าร่วมกว่า 250 คน บรรยากาศเต็มไปด้วยการตื่นตัวต่อสภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังเผชิญกับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาและได้รับการยอมร...