ในหลวง โปรดเกล้าฯ อนุทิน สีหศักดิ์ ตามเสด็จเยือนจีน ครั้งประวัติศาสตร์

Leo Migdal
-
ในหลวง โปรดเกล้าฯ อนุทิน สีหศักดิ์ ตามเสด็จเยือนจีน ครั้งประวัติศาสตร์

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีเกียรติยศ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 13-17 พฤศจิกายน 2568 ว่า ทุกครั้งที่องค์พระประมุขของชาติ เสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ รัฐบาลก็จะต้องมีรัฐมนตรีเกียรติยศตามเสด็จพระราชดำเนิน ซึ่งในครั้งนี้ก็มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตัวผม และ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ ได้ติดตามขบวนเสด็จในฐานะรัฐมนตรีเกียรติยศ เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรี จะมีภารกิจนอกเหนือจากนี้ ที่จะหารือกับจีนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี เพราะนี่เป็นองค์ประกอบของขบวนเสด็จ เมื่อถามว่า การเดินทางเยือนจีนครั้งนี้ จะเป็นการตอกย้ำ ความสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า การเสด็จพระราชดำเนินของพระเจ้าอยู่หัว ในการเยือนประเทศจีนในครั้งนี้ ต้องถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ เป็นครั้งแรกที่พระมหากษัตริย์ของสยาม ได้เสด็จพระราชดำเนินไปประเทศจีน ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การทรงจำ เป็นการเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งในปีนี้ก็ครบรอบ 50 ปี โดยเป็นความสัมพันธ์ทางการทูต แต่ที่จริงแล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ มีสืบเนื่องกันมาเป็นหลายร้อยปี “อนุทิน” เผยเป็นครั้งแรก “พระมหากษัตริย์ไทย” เสด็จฯ เยือนจีน โปรดเกล้าฯ นายกฯ-รมว.ต่างประเทศ ติดตามขบวนเสด็จในฐานะรัฐมนตรีเกียรติยศ เน้นย้ำสัมพันธ์ 2 ประเทศ แจง ไม่มีภารกิจอื่น เมื่อเวลา 07.40 น. วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีเกียรติยศ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 13-17 พฤศจิกายน ว่า ทุกครั้งที่องค์พระประมุขของชาติเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ รัฐบาลก็จะต้องมีรัฐมนตรีเกียรติยศตามเสด็จพระราชดำเนิน ซึ่งในครั้งนี้ก็มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายกรัฐมนตรีและ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ติดตามขบวนเสด็จในฐานะรัฐมนตรีเกียรติยศ

ผู้สื่อข่าวถามต่อนายกรัฐมนตรีจะมีภารกิจนอกเหนือจากนี้ที่จะหารือกับจีนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าไม่มี เพราะนี่เป็นองค์ประกอบของขบวนเสด็จ เมื่อถามต่อไปว่าการเดินทางเยือนจีนครั้งนี้จะเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี ใช่หรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า การเสด็จพระราชดำเนินของพระเจ้าอยู่หัว ที่เยือนประเทศจีนในครั้งนี้ ก็ต้องถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ เป็นครั้งแรกที่พระมหากษัตริย์ของสยามได้เสด็จพระราชดำเนินไปประเทศจีน ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การทรงจำ เป็นการเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งในปีนี้ก็ครบรอบ 50 ปี โดยเป็นความสัมพันธ์ทางการทูต แต่ที่จริงแล้วความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ มีสืบเนื่องกันมาเป็นหลายร้อยปี. “นายกฯ” เผย เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเยือนจีน ถือเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของไทย ตอกย้ำสัมพันธ์แน่นแฟ้นไทย-จีน 50 ปี ย้ำไม่มีคุยนอกรอบ เพราะไปในฐานะรัฐมนตรีเกียรติยศ เมื่อเวลา 07.45 น. วันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีเกียรติยศ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือน สาธารณรัฐประชาชนจีน อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 13-17 พฤศจิกายน ว่า ทุกครั้งที่องค์พระประมุขของชาติ เสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ รัฐบาลก็จะต้องมีรัฐมนตรีเกียรติยศตามเสด็จพระราชดำเนิน ซึ่งในครั้งนี้ก็มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้นายกรัฐมนตรี และนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ ได้ติดตามขบวนเสด็จในฐานะรัฐมนตรีเกียรติยศ เมื่อถามว่า นายกฯจะมีภารกิจนอกเหนือจากนี้ ที่จะหารือกับจีนหรือไม่ นายกฯ ระบุว่า ไม่มี เพราะนี่เป็นองค์ประกอบของขบวนเสด็จ เมื่อถามว่า การเดินทางเยือนจีนครั้งนี้ จะเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า การเสด็จพระราชดำเนินของพระเจ้าอยู่หัว ที่เยือนประเทศจีนในครั้งนี้ ก็ต้องถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ เป็นครั้งแรกที่พระมหากษัตริย์ของสยาม ได้เสด็จพระราชดำเนินไปประเทศจีน ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การทรงจำ เป็นการเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งในปีนี้ก็ครบรอบ 50 ปี โดยเป็นความสัมพันธ์ทางการทูต แต่ที่จริงแล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ มีสืบเนื่องกันมาเป็นหลายร้อยปี

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : .css-uexnnu,.css-uexnnu:focus,.css-uexnnu:visited{color:var(--color-character-base-link);}@media (hover: hover){.css-uexnnu:hover{color:var(--color-character-base-link);}}@media (pointer: coarse){.css-uexnnu:active{color:var(--color-character-base-link);}}ในหลวง เสด็จฯ เยือนจีน โปรดเกล้าฯ อนุทิน-สีหศักดิ์ รัฐมนตรีเกียรติยศ ตามเสด็จฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีเกียรติยศ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินเยือน สาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 13 - 17 พฤศจิกายน 2568 ว่า ทุกครั้งที่องค์พระประมุขของชาติเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ รัฐบาลจะต้องมีรัฐมนตรีเกียรติยศตามเสด็จพระราชดำเนิน ซึ่งในครั้งนี้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ตนและนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ตามเสด็จในฐานะรัฐมนตรีเกียรติยศ ยืนยันว่าตนไม่มีภารกิจเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้ที่จะหารือกับจีน แต่เป็นเพียงองค์ประกอบของขบวนเสด็จเท่านั้น การเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนในครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรไทยเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ อันเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่ความทรงจำ และเป็นการเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน โดยแท้จริงแล้ว ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศได้ดำเนินมาอย่างยาวนานหลายร้อยปี วันนี้ (13 พ.ย.2568) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีเกียรติยศ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือน สาธารณรัฐประชาชนจีน อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 13-17 พ.ย.2568 ว่า ทุกครั้งที่องค์พระประมุขของชาติ เสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ รัฐบาลก็จะต้องมีรัฐมนตรีเกียรติยศตามเสด็จพระราชดำเนิน ซึ่งในครั้งนี้ก็มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้นายกรัฐมนตรี​ และนายสีหศักดิ์​ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ ตามเสด็จในฐานะรัฐมนตรีเกียรติยศ เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรี จะมีภารกิจนอกเหนือจากนี้ ที่จะหารือกับจีนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่มี เพราะนี่เป็นองค์ประกอบของขบวนเสด็จ

นายกรัฐมนตรี เผยว่า การเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เยือนประเทศจีนในครั้งนี้ ก็ต้องถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ เป็นครั้งแรกที่พระมหากษัตริย์ของไทย ได้เสด็จพระราชดำเนินไปประเทศจีน ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การทรงจำ เป็นการเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งในปีนี้ก็ครบรอบ 50 ปี โดยเป็นความสัมพันธ์ทางการทูต แต่ที่จริงแล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ มีสืบเนื่องกันมาเป็นหลายร้อยปี อ่านข่าว : "กัมพูชา" ติดโผ 20 อันดับ ประเทศแห่งอาชญากรรมโลก ปี 2025 สส.เดโมแครตเปิดหลักฐาน อ้าง "ทรัมป์" รู้เรื่อง "เอปสตีน" ละเมิดเด็ก วันนี้ (13 พฤศจิกายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 07.40 น. อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีเกียรติยศ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 13-17 พฤศจิกายนว่า ทุกครั้งที่องค์พระประมุขของชาติ เสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ รัฐบาลก็จะต้องมีรัฐมนตรีเกียรติยศตามเสด็จพระราชดำเนิน ซึ่งในครั้งนี้ก็มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้นายกรัฐมนตรี และสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ติดตามขบวนเสด็จในฐานะรัฐมนตรีเกียรติยศ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรี จะมีภารกิจนอกเหนือจากนี้ ที่จะหารือกับจีนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่มี เพราะนี่เป็นองค์ประกอบของขบวนเสด็จ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การเดินทางเยือนจีนครั้งนี้ จะเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เยือนประเทศจีนในครั้งนี้ ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์เป็นครั้งแรกที่พระมหากษัตริย์ของสยาม ได้เสด็จพระราชดำเนินไปประเทศจีน ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การทรงจำ เป็นการเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งในปีนี้ก็ครบรอบ 50 ปี โดยเป็นความสัมพันธ์ทางการทูต แต่ที่จริงแล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ มีสืบเนื่องกันมาเป็นหลายร้อยปี วันนี้ (13 พฤศจิกายน 2568) เวลา 16.03 น. ตามเวลาท้องถิ่นของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ประทับเครื่องบินพระที่นั่งของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เที่ยวบินที่ ทีจี 8886 เสด็จพระราชดำเนินถึงยังท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ตามคำทูลเชิญของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสฉลองครบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ระหว่างวันที่ 13-17 พฤศจิกายน 2568 โอกาสนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล เอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท และกราบบังคมทูลเบิก นาย หง เหล่ย (Hong Lei) ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและอธิบดีกรมพิธีการทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน กราบบังคมทูลเชิญเสด็จลงจากเครื่องบินพระที่นั่ง โดยมี นายหวัง อี้ (Wang Yi) สมาชิกกรมการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านกิจการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (เทียบเท่ารองนายกรัฐมนตรี) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ เด็กชายชาวจีนทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายช่อดอกไม้แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเด็กหญิงชาวจีนทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายช่อดอกไม้แด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี แล้วทรงพระดำเนินผ่านแถวผู้รับเสด็จ และคณะติดตามเกียรติยศฝ่ายจีน ประกอบด้วย นายซุน เว่ยตง (Mr.

Sun Weidong) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, นายจาง เจี้ยนเว่ย (Zhang Jianwei) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และภริยา สำหรับคณะติดตามเกียรติยศฝ่ายไทย ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีระกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรัฐมนตรีเกียรติยศ, นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะรัฐมนตรีเกียรติยศ, พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์ฯ, นายธานี ทองภักดี รองราชเลขานุการในพระองค์ฯ, พันโท สมชาย กาญจนมณี รองเลขาธิการพระราชวัง, พลเรือเอก วีระศักดิ์ อ๊อกกังวาล ราชองครักษ์ประจำพระองค์ และพลอากาศเอก เชษฐา เหมือนแก้ว ราชองครักษ์ประจำพระองค์ แล้วทรงพระดำเนินผ่านแถวกองทหารเกียรติยศ

People Also Search

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีเกียรติยศ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีเกียรติยศ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 13-17 พฤศจิกายน 2568 ว่า ทุกครั้งที่องค์พระประมุขของชาติ เสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ รัฐบาลก็จะต้องมีรัฐมนตรีเกียรติยศตามเสด็จพระราชดำเนิน...

ผู้สื่อข่าวถามต่อนายกรัฐมนตรีจะมีภารกิจนอกเหนือจากนี้ที่จะหารือกับจีนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าไม่มี เพราะนี่เป็นองค์ประกอบของขบวนเสด็จ เมื่อถามต่อไปว่าการเดินทางเยือนจีนครั้งนี้จะเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี ใช่หรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า

ผู้สื่อข่าวถามต่อนายกรัฐมนตรีจะมีภารกิจนอกเหนือจากนี้ที่จะหารือกับจีนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าไม่มี เพราะนี่เป็นองค์ประกอบของขบวนเสด็จ เมื่อถามต่อไปว่าการเดินทางเยือนจีนครั้งนี้จะเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี ใช่หรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า การเสด็จพระราชดำเนินของพระเจ้าอยู่หัว ที่เยือนประเทศจีนในครั้งนี้ ก็ต้องถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ เป็นครั้งแรกที่พระมหากษัตริย์ของสยามได้เสด็จพระราชดำเนินไ...

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : .css-uexnnu,.css-uexnnu:focus,.css-uexnnu:visited{color:var(--color-character-base-link);}@media (hover: Hover){.css-uexnnu:hover{color:var(--color-character-base-link);}}@media (pointer: Coarse){.css-uexnnu:active{color:var(--color-character-base-link);}}ในหลวง เสด็จฯ เยือนจีน โปรดเกล้าฯ

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : .css-uexnnu,.css-uexnnu:focus,.css-uexnnu:visited{color:var(--color-character-base-link);}@media (hover: hover){.css-uexnnu:hover{color:var(--color-character-base-link);}}@media (pointer: coarse){.css-uexnnu:active{color:var(--color-character-base-link);}}ในหลวง เสด็จฯ เยือนจีน โปรดเกล้าฯ อนุทิน-สีหศักดิ์ รัฐมนตรีเกียรติยศ ตามเสด็จฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนต...

นายกรัฐมนตรี เผยว่า การเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เยือนประเทศจีนในครั้งนี้ ก็ต้องถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ เป็นครั้งแรกที่พระมหากษัตริย์ของไทย ได้เสด็จพระราชดำเนินไปประเทศจีน ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การทรงจำ เป็นการเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งในปีนี้ก็ครบรอบ

นายกรัฐมนตรี เผยว่า การเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เยือนประเทศจีนในครั้งนี้ ก็ต้องถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ เป็นครั้งแรกที่พระมหากษัตริย์ของไทย ได้เสด็จพระราชดำเนินไปประเทศจีน ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การทรงจำ เป็นการเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งในปีนี้ก็ครบรอบ 50 ปี โดยเป็นความสัมพันธ์ทางการทูต แต่ที่จริงแล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ มีสืบเนื่องกันมาเป็นหลายร้อย...

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การเดินทางเยือนจีนครั้งนี้ จะเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เยือนประเทศจีนในครั้งนี้ ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์เป็นครั้งแรกที่พระมหากษัตริย์ของสยาม ได้เสด็จพระราชดำเนินไปประเทศจีน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การเดินทางเยือนจีนครั้งนี้ จะเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เยือนประเทศจีนในครั้งนี้ ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์เป็นครั้งแรกที่พระมหากษัตริย์ของสยาม ได้เสด็จพระราชดำเนินไปประเทศจีน ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การทรงจำ เป็นการเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งในปีนี้ก็ครบรอบ 50 ปี โ...