5 Fake News เรื่องโลกร้อน บนโลกออนไลน์ Science And Technology
ความจริงที่ว่าโซเชียลมีเดียเต็มไปด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่อง “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” หรือ “โลกร้อน” ถูกบันทึกไว้เป็นอย่างดี ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า นี่เป็นปัญหา เพราะถ้าผู้คนเชื่อเรื่องเท็จ มาตรการเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจล่าช้าออกไป บีบีซีตรวจสอบ 5 ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยครั้งในโลกออนไลน์ ในติ๊กตอก วิดีโอภาษาสเปนเผยแพร่ข้อมูลแบบผิด ๆ ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มนุษย์สร้างขึ้นไม่มีอยู่จริง และมีผู้รับชมหลายพันครั้ง ข้อความในโซเชียลมีเดียลักษณะนี้ยังแพร่กระจายไปในภาษาต่าง ๆ ทว่าหลักฐานทางวิทยาศาสตร์จำนวนมากบอกเล่าเรื่องราวที่แตกต่างออกไป ถ้าไม่อยากตกเป็นเหยื่อความเชื่อที่ผิดๆ ตามข้อมูลบนโลกออนไลน์ดังนั้นต้องตรวจสอบรายละเอียดก่อน เพราะไม่เช่นนั้นอาจเจอ Fake News ได้
ปัจจุบันโลกโซเชียล กลายเป็นแหล่งรับข้อมูลข่าวสารที่สำคัญของทุกคน อีกทั้งยังเป็นแหล่งเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารได้ในทันที เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ซึ่งการแชร์ข้อมูลบางครั้งมีทั้งจริงและไม่จริง นั้นก็ยากจะตรวจสอบหรือค้นหาต้นตอ อาจมีคนตั้งใจทำเนื้อหาข้อมูลเท็จขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะเจาะจง บางคนรับมาแล้วแชร์เนื้อหาผิด ๆ นั้นออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ (Misinformation) เมื่อพูดถึงคำว่า Fake News ไม่ได้หมายถึงข่าวที่ไม่จริงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงข้อมูลต่าง ๆ ที่ไม่เป็นความจริงด้วย ดังนั้นถ้าเราอยากจะเข้าใจในกระบวนการการส่งต่อหรือแชร์ข้อมูลข่าวสารที่ไม่เป็นความจริง ควรจะต้องทำความเข้าใจกับประเภทของข่าวสารข้อมูลเท็จ แรงจูงใจของคนทำ และเนื้อหาที่ถูกจัดทำขึ้นแล้วแพร่ออกไป โดยส่วนหนึ่ง Fake News ถูกจัดทำขึ้นเพื่อความตลก เสียดสี เพื่อความสนุกสนาน ซึ่งผู้รับก็ทราบดีว่าเป็นเรื่องไม่จริงแต่ก็อยากจะอ่านและแชร์ หรืออีกประเภท คือเนื้อหาที่ทำขึ้นเพื่อให้เข้าใจผิด ทั้งแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจ และเมื่อเราได้รับข้อมูล Fake News นั่นอาจส่งต่อการตัดสินใจ หรือสร้างความ ดังนั้นก่อนที่จะเชื่อ หรือแชร์ข้อมูลใดๆ ไทยเซิร์ต ภายใต้การกำกับของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA ได้ให้ข้อแนะนำได้ว่า Copyright © 2020 Bangkok.go.th All rights reserved. ส่วนห้องสมุดและการเรียนรู้ สำนักงานนันทนาการและส่งเสริมการเรียนรู้ สํานักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว โทร.
๐ ๒๒๐๓ ๒๗๓๕ e-mail : ข่าวปลอมและเนื้อหาเช่นนี้สามารถสร้างความเสียหายต่าง ๆ ได้ ทั้งความเข้าใจผิด การยุยงปลุกปั่น การแบ่งฝักแบ่ง ไปจนถึงการหลอกลวง แต่หลายครั้ง เนื้อหาจากผู้ใช้งาน (user-generated content หรือ UGC) ที่ประชาชนคนธรรมดาถ่ายคลิปเหตุการณ์ตรงหน้าแบบสด ๆ แล้วโพสต์บนอินเทอร์เน็ต ก็เป็น “ของจริง” และสำคัญต่อการรายงานข่าวเช่นกัน ดังนั้น คำถามจึงอยู่ที่ว่า เราจะจับผิดเนื้อหาปลอมและข่าวปลอมบนโลกออนไลน์ได้อย่างไร ? และสำนักข่าวต่าง ๆ ควรทำอะไรบ้างหากต้องใช้ UGC อย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะช่วงวิกฤต ? “เราไม่เชื่อใจใคร (we trust nobody)” คือวิธีคิดพื้นฐานที่ ‘คนข่าว’ ต้องใช้เมื่อตรวจสอบข่าวจริงและข่าวปลอม โซอิส เวกิโอส ซานนิโกส (Zois Bekios Zannikos) บรรณาธิการตรวจสอบอาวุโสของแพลตฟอร์มคลิปข่าว Viory ได้พูดถึงวิธีคิดนี้ในมาสเตอร์คลาสห้องข่าวดิจิทัลที่งาน Asia Media Summit ครั้งที่ 20 เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 68 ซานนิโกสแนะนำต่อว่า ก่อนที่สำนักข่าวจะนำเสนอข่าวใด ๆ สู่สาธารณชน – โดยเฉพาะเนื้อหา UGC และข่าวจากนักข่าวฟรีแลนซ์ – ต้องยึดหลักการตรวจสอบข่าว 3 ข้อ ดังนี้ แม้หลักการนี้จะเกี่ยวข้องกับคนข่าวและสำนักข่าวเป็นหลัก แต่คนธรรมดาก็สามารถประยุกต์ใช้ได้เวลาอ่านข่าวหรือดูวิดีโอบนโลกโซเชียล สิ่งที่ควรมีคือ ‘ความเอ๊ะ’ อย่าเพิ่งเชื่ออะไรทันทีที่เห็น ลองสังเกตรายละเอียดของผู้คน สถานที่ และแวดล้อมรอบข้าง สิ่งที่ควรตระหนักไว้เสมอก็คือ คอนเทนต์และข่าวปลอมจะเลียนแบบใครหรืออะไรสักอย่าง แล้วมีลักษณะที่ดูตลกหรือผิดธรรมชาติ หากเป็นคนปลอมที่สร้างจากเอไอ ก็มักจะพูดวกวนซ้ำไปมา
นอกจากนี้ ต้องดูว่าสำนักข่าวหรือคนที่โพสต์เนื้อหามีตัวตนจริงไหม ถ้ามีจริง มีจุดยืนอย่างไร ข้อมูลที่นำเสนอพยายามปลุกปั่นหรือสร้างความสับสนหรือเปล่า และควรทำความเข้าใจบริบทข่าวในมิติต่าง ๆ ด้วย เพราะทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นย่อมมีที่มาที่ไป และอาจซับซ้อนเกินกว่าที่จะสรุปสั้น ๆ ในไม่กี่ประโยค เช่นนี้แล้ว ทั้งคนเสพข่าวและคนข่าวก็จะมีภูมิคุ้มกันต่อข่าวปลอมใด ๆ ก็ตามที่อาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดหรือความขัดแย้งระดับโลก ติดตามเนื้อหาที่เกี่ยวข้องจากเครือ Thai PBS ในขณะที่การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ COP30 กำลังดำเนินอยู่ที่ประเทศบราซิล ข้อมูลเท็จที่สร้างความสับสนเข้าใจผิดเกี่ยวกับปัญหาภูมิอากาศโลก ก็ยังคงถูกเผยแพร่ไปทั่วสื่อสังคมออนไลน์ โดยข่าวปลอมบางชิ้นมีผู้รับสารถึงหลายล้านคนเลยทีเดียว บีบีซีจึงได้ตรวจสอบความเชื่อลวงโลกด้านสิ่งแวดล้อม 5 เรื่อง และนำข้อเท็จจริงมาตีแผ่ให้ได้ทราบกันดังต่อไปนี้ คำกล่าวอ้างที่ไร้หลักฐานมายืนยันสนับสนุนนี้ แพร่กระจายไปทั่วสื่อสังคมออนไลน์ในหลายภาษา ทั้งอังกฤษ, รัสเซีย, ฝรั่งเศส, และสเปน โดยบอกว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เป็นวงจรที่เกิดขึ้นตามปกติในธรรมชาติอยู่แล้ว จริงอยู่ที่โลกเคยผ่านวงจรของการเย็นตัวลงและร้อนขึ้นมาแล้วหลายครั้ง ตลอดช่วงเวลานับพันล้านปีที่ผ่านมา โดยความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมักเกิดขึ้นจากปัจจัยต่าง ๆ ในธรรมชาติ เช่นการระเบิดปะทุของภูเขาไฟครั้งใหญ่ หรือความเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานของดวงอาทิตย์ตามวัฏจักรสุริยะ แต่วงจรความเปลี่ยนแปลงนี้กินเวลานานถึงหลายพันปีหรือหลายล้านปี จึงจะเกิดขึ้นสักครั้ง ทว่าในช่วงเวลาสั้น ๆ แค่ 150 ปีที่ผ่านมา ข้อมูลขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ชี้ว่าโลกได้ร้อนขึ้นกว่าเดิมถึงราว 1.3 องศาเซลเซียสแล้ว เมื่อเทียบกับยุคก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม แม้การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิดังกล่าวจะฟังดูเหมือนไม่มากนัก แต่นักวิทยาศาสตร์บอกว่า นี่เป็นอัตราการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก ชนิดที่พุ่งสูงพรวดพราดแบบไม่เคยมีมาก่อนในรอบหลายพันปี
คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ฟันธงว่าหลักฐานข้างต้นคือสิ่งยืนยัน "อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งโดยปราศจากข้อสงสัย" ว่ากิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล อย่างเช่นถ่านหิน, น้ำมัน, และก๊าซธรรมชาติ คือสาเหตุที่ทำให้โลกร้อนขึ้น
People Also Search
- 5 Fake News เรื่องโลกร้อน บนโลกออนไลน์ | Science and Technology ...
- 5 ความเข้าใจผิด ๆ เรื่อง "โลกร้อน" ที่แพร่หลายอยู่บนโลกออนไลน์
- 5 ความเข้าใจผิดๆเรื่อง "โลกร้อน" ที่แพร่หลายอยู่บนโลกออนไลน์ | เสียงจากโลก
- STKC - 5 Fake News เรื่องโลกร้อน บนโลกออนไลน์
- แนะ 5 วิธีตรวจสอบ Fake News บนโลกออนไลน์ ก่อนตกเป็นเหยื่อ
- บทความน่ารู้ - ห้องสมุดสีเขียว
- "โลกไม่ได้ร้อนขึ้นแต่กำลังเย็นลง" รู้จัก 5 ความเชื่อที่ผิดเพี้ยนเรื่อง ...
- "อย่าเชื่อใจใคร" วิธีคิดสู้ข่าวปลอมที่ทั้งคนเสพข่าวและคนข่าวก็ใช้ได้
- Fake News รู้ทันข่าวลวง ปัญหาบนโลกออนไลน์ | nsm
- 5 ข้อมูลเท็จและความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ...
ความจริงที่ว่าโซเชียลมีเดียเต็มไปด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่อง “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” หรือ “โลกร้อน” ถูกบันทึกไว้เป็นอย่างดี ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า นี่เป็นปัญหา เพราะถ้าผู้คนเชื่อเรื่องเท็จ มาตรการเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจล่าช้าออกไป
ความจริงที่ว่าโซเชียลมีเดียเต็มไปด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่อง “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” หรือ “โลกร้อน” ถูกบันทึกไว้เป็นอย่างดี ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า นี่เป็นปัญหา เพราะถ้าผู้คนเชื่อเรื่องเท็จ มาตรการเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจล่าช้าออกไป บีบีซีตรวจสอบ 5 ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยครั้งในโลกออนไลน์ ในติ๊กตอก วิดีโอภาษาสเปนเผยแพร่ข้อมูลแบบผิด ๆ ว่าก...
ปัจจุบันโลกโซเชียล กลายเป็นแหล่งรับข้อมูลข่าวสารที่สำคัญของทุกคน อีกทั้งยังเป็นแหล่งเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารได้ในทันที เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ซึ่งการแชร์ข้อมูลบางครั้งมีทั้งจริงและไม่จริง นั้นก็ยากจะตรวจสอบหรือค้นหาต้นตอ อาจมีคนตั้งใจทำเนื้อหาข้อมูลเท็จขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะเจาะจง บางคนรับมาแล้วแชร์เนื้อหาผิด ๆ นั้นออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
ปัจจุบันโลกโซเชียล กลายเป็นแหล่งรับข้อมูลข่าวสารที่สำคัญของทุกคน อีกทั้งยังเป็นแหล่งเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารได้ในทันที เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ซึ่งการแชร์ข้อมูลบางครั้งมีทั้งจริงและไม่จริง นั้นก็ยากจะตรวจสอบหรือค้นหาต้นตอ อาจมีคนตั้งใจทำเนื้อหาข้อมูลเท็จขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะเจาะจง บางคนรับมาแล้วแชร์เนื้อหาผิด ๆ นั้นออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ (Misinformation) เมื่อพูดถึงคำว่า Fake News ไม่ได้หมายถึงข่า...
๐ ๒๒๐๓ ๒๗๓๕ E-mail : ข่าวปลอมและเนื้อหาเช่นนี้สามารถสร้างความเสียหายต่าง ๆ ได้ ทั้งความเข้าใจผิด การยุยงปลุกปั่น
๐ ๒๒๐๓ ๒๗๓๕ e-mail : ข่าวปลอมและเนื้อหาเช่นนี้สามารถสร้างความเสียหายต่าง ๆ ได้ ทั้งความเข้าใจผิด การยุยงปลุกปั่น การแบ่งฝักแบ่ง ไปจนถึงการหลอกลวง แต่หลายครั้ง เนื้อหาจากผู้ใช้งาน (user-generated content หรือ UGC) ที่ประชาชนคนธรรมดาถ่ายคลิปเหตุการณ์ตรงหน้าแบบสด ๆ แล้วโพสต์บนอินเทอร์เน็ต ก็เป็น “ของจริง” และสำคัญต่อการรายงานข่าวเช่นกัน ดังนั้น คำถามจึงอยู่ที่ว่า เราจะจับผิดเนื้อหาปลอมและข่าวปลอมบนโล...
นอกจากนี้ ต้องดูว่าสำนักข่าวหรือคนที่โพสต์เนื้อหามีตัวตนจริงไหม ถ้ามีจริง มีจุดยืนอย่างไร ข้อมูลที่นำเสนอพยายามปลุกปั่นหรือสร้างความสับสนหรือเปล่า และควรทำความเข้าใจบริบทข่าวในมิติต่าง ๆ ด้วย เพราะทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นย่อมมีที่มาที่ไป และอาจซับซ้อนเกินกว่าที่จะสรุปสั้น
นอกจากนี้ ต้องดูว่าสำนักข่าวหรือคนที่โพสต์เนื้อหามีตัวตนจริงไหม ถ้ามีจริง มีจุดยืนอย่างไร ข้อมูลที่นำเสนอพยายามปลุกปั่นหรือสร้างความสับสนหรือเปล่า และควรทำความเข้าใจบริบทข่าวในมิติต่าง ๆ ด้วย เพราะทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นย่อมมีที่มาที่ไป และอาจซับซ้อนเกินกว่าที่จะสรุปสั้น ๆ ในไม่กี่ประโยค เช่นนี้แล้ว ทั้งคนเสพข่าวและคนข่าวก็จะมีภูมิคุ้มกันต่อข่าวปลอมใด ๆ ก็ตามที่อาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดหรือความขัดแย...
คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ฟันธงว่าหลักฐานข้างต้นคือสิ่งยืนยัน "อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งโดยปราศจากข้อสงสัย" ว่ากิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล อย่างเช่นถ่านหิน, น้ำมัน,
คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ฟันธงว่าหลักฐานข้างต้นคือสิ่งยืนยัน "อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งโดยปราศจากข้อสงสัย" ว่ากิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล อย่างเช่นถ่านหิน, น้ำมัน, และก๊าซธรรมชาติ คือสาเหตุที่ทำให้โลกร้อนขึ้น