9 เคล็ดลับ พิชิต อัลกอริทึม Tiktok 2025 ยอดวิวพุ่ง ไม่ต้องจ่ายเงิน

Leo Migdal

-Nov 21, 2025, 11:57 AM

9 เคล็ดลับ พิชิต อัลกอริทึม tiktok 2025 ยอดวิวพุ่ง ไม่ต้องจ่ายเงิน

เมื่อวิดีโอสั้น ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญ ที่ช่วยเพิ่มยอด Engagement ทั้งตัวบุคคล และแบรนด์ต่าง ๆ ทำให้เทรนด์การตลาดได้แปรเปลี่ยน จากการโพสต์คลิปวิดีโอยาวเหยียด ให้กลายเป็นคลิปสั้นที่มีเนื้อหากะทัดรัด และดึงดูดใจลูกค้าได้ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม TikTok Creator ก็มักประสบปัญหาในการทำคลิป โดยเฉพาะการถูก TikTok Algorithm ปิดกั้นคลิป ทำให้วิดีโอไม่ปรากฏบนหน้าฟีดของกลุ่มเป้าหมาย แต่ก็ไม่ต้องกังวลกันไป เพราะในบทความนี้ Common Ground จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจ ระบบการทำงานของ TikTok Algorithm ตั้งแต่พื้นฐาน ไปจนถึงแนวทางการทำคลิป ให้ติดหน้าฟีดได้ง่ายขึ้น หากพร้อมแล้ว มาเริ่มกันเลย TikTok Algorithm คือ ระบบการจัดอันดับคุณภาพคลิปของ TikTok เพื่อคัดเลือกว่าคลิปใด เหมาะกับการขึ้นโชว์บนหน้าฟีด “For You” หรือ “สำหรับคุณ” ของผู้ใช้งาน หรือกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ และ Creator ที่มีชื่อเสียงบนโลก TikTok โดยหลักการทำงานอัลกอริทึม TiktTok มีความซับซ้อน และละเอียด เพื่อคำนวณความชอบของผู้ใช้งานได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้หน้าฟีดของผู้ใช้งาน เต็มไปด้วยคอนเทนต์ที่ตรงตามความสนใจมากที่สุด ซึ่งอัลกอริทึมบน TikTok แบ่งออกเป็น 5 ส่วน ได้แก่ หลายคนคงทราบกันอยู่แล้วว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่ให้ความสำคัญกับยอด Engagement ได้แก่ จำนวนกดไลก์ คอมเมนต์ แชร์ รวมถึงการดูวิดีโอจนจบ (Completion) และดูซ้ำ (Re-watch) เพื่อการันตีว่าวิดีโอนั้น ๆ ได้รับความสนใจจากผู้ใช้งาน ทำให้ TikTok ผลักดันคลิปขึ้นหน้าฟีด For You ได้ง่ายยิ่งขึ้น TikTok Algorithm 2025 ทำยังไงให้วิดีโอติดกระแส ในปี 2025 อัลกอริทึมของ TikTok ยังคงมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด การทำความเข้าใจและปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการให้วิดีโอของตนติดกระแส บทความนี้จะนำเสนอแนวทางและเทคนิคที่ทันสมัย เพื่อช่วยให้วิดีโอของคุณโดดเด่นและได้รับความนิยมบนแพลตฟอร์ม TikTok

อัลกอริทึมของ TikTok พิจารณาปัจจัยหลายประการในการแสดงผลวิดีโอให้กับผู้ใช้ เช่น ในปี 2025 อัลกอริทึมของ TikTok ได้รับการปรับปรุงเพื่อให้สามารถวิเคราะห์คอนเทนต์ได้ละเอียดขึ้น รวมถึงการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการตรวจจับแนวโน้มและความสนใจของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การรู้จักกลุ่มเป้าหมายของคุณเป็นสิ่งสำคัญ สร้างคอนเทนต์ที่ตอบสนองต่อความสนใจและความต้องการของพวกเขา การทำแบบสอบถามหรือวิเคราะห์ข้อมูลผู้ติดตามสามารถช่วยให้คุณเข้าใจกลุ่มเป้าหมายได้ดีขึ้น แม้ว่า TikTok จะอนุญาตให้โพสต์วิดีโอที่ยาวขึ้น แต่คอนเทนต์ที่สั้นและกระชับยังคงได้รับความนิยม พยายามทำให้วิดีโอของคุณมีความยาวระหว่าง 15-60 วินาที เพื่อรักษาความสนใจของผู้ชม กระแสไลฟ์สดขายของบน TikTok กำลังสร้างยอดขายระดับหลักสิบล้านถึงหลักร้อยล้านบาท จนกลายเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในวงการอีคอมเมิร์ซไทย แต่ความสำเร็จที่แท้จริงไม่ได้อยู่แค่การขายเก่งเท่านั้น หากแต่อยู่ที่การเข้าใจและเอาชนะระบบอัลกอริทึมที่ทำงานเบื้องหลัง โดย BrandCase ได้ถอดรหัสจากคำอธิบายของแพลตฟอร์ม TikTok มาเผยให้เห็นว่า อัลกอริทึมไลฟ์สดของ TikTok ทำงานอย่างไร และทำไมไลฟ์ของบางคนจึงถูกดันขึ้นหน้าฟีดมากกว่าคนอื่น ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา วงการอีคอมเมิร์ซไทยได้เห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของการขายสินค้าผ่านไลฟ์สดบนแพลตฟอร์ม TikTok ตัวเลขยอดขายที่สร้างได้ในแต่ละครั้งอาจสูงถึงหลักสิบล้านบาท บางเซสชันไลฟ์แม้กระทั่งทะลุหลักร้อยล้านบาท ทำให้เจ้าของธุรกิจและนักขายออนไลน์หลายรายหันมาให้ความสนใจกับช่องทางนี้อย่างจริงจัง

สิ่งที่ทำให้ไลฟ์สดบางรายการประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ไม่ได้ขึ้นอยู่กับทักษะการขายหรือราคาสินค้าที่ถูกเพียงอย่างเดียว แต่ปัจจัยสำคัญที่สุดคือการที่ไลฟ์สดเหล่านั้นได้รับการ “ดัน” จากระบบอัลกอริทึมของ TikTok ให้ปรากฏบนหน้าฟีดของผู้ใช้งานจำนวนมาก ยิ่งไลฟ์ปรากฏบนหน้าฟีดมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะมีผู้ชมเข้ามาดูก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น และส่งผลต่อเนื่องไปยังโอกาสในการปิดการขายที่สูงขึ้นตามไปด้วย คำถามสำคัญที่หลายคนสงสัยก็คือ ทำไมไลฟ์สดของบางคนถึงได้รับการดันให้ขึ้นหน้าฟีดมากกว่าคนอื่น? คำตอบอยู่ที่ระบบการวัดผลและอัลกอริทึมที่ TikTok ออกแบบมาเพื่อประเมินประสิทธิภาพของแต่ละไลฟ์สด และตัดสินใจว่าควรจะแนะนำไลฟ์ไหนให้กับผู้ใช้งานบ้าง ตัวชี้วัดสำคัญ “GPM” กุญแจสู่ความสำเร็จของไลฟ์สด เชื่อว่า TikTok Creator เกิน 80% ต้องเคยประสบปัญหาในการทำคลิป โดยเฉพาะปัญหาชวนปวดหัวที่เกี่ยวข้องกับ TikTok Algorithm ยกตัวอย่างเช่น TikTok โดนปิดการมองเห็น ลงคลิปกี่คลิปยอดวิวก็ยังน้อย หรือไม่ก็โดนบล็อกคลิปบ่อย ๆ วันนี้…ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะ Digital Tips จะพาคุณไปทำความเข้าใจระบบการทำงานของ TikTok Algorithm ให้ถ่องแท้ พร้อมแชร์วิธีทำคอนเทนต์ให้สอดคล้องกับการจัดอันดับของ Algorithm ด้วย ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลย! ที่มา: https://quickframe.com/blog/how-does-the-tiktok-algorithm-work/

TikTok Algorithm คือ ระบบการจัดอันดับคลิปคุณภาพของ TikTok เพื่อคัดเลือกว่าคลิปใดเหมาะสมจะขึ้นโชว์บนหน้า “For You” หรือ “สำหรับคุณ” ของผู้ใช้งาน ซึ่งคนที่ไถฟีด TikTok เป็นประจำจะทราบดีว่า TikTok จะแบ่งหน้าฟีดออกเป็น 2 แบบ คือหน้าที่ไว้แสดงเฉพาะคลิปของเพื่อน หรือบัญชีที่คุณกดติดตาม กับหน้า “สำหรับคุณ” ที่ TikTok Algorithm จะคัดเลือกมาให้ตามความสนใจ คำถามต่อไปก็คือ “TikTok Algorithm รู้ได้อย่างไรว่า คุณมีแนวโน้มจะสนใจคลิปประเภทไหน?” ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า Algorithm เองก็คงไม่สามารถเดาความต้องการของคุณได้อย่างแน่ชัด แต่ระบบจะรวบรวมความเป็นไปได้จากข้อมูลสำคัญเหล่านี้ TikTok Algorithm จะรวบรวมข้อมูลว่า คุณมักจะโต้ตอบกับคลิปที่มีเนื้อหาแบบไหน เรื่องอะไร โดยลักษณะการโต้ตอบจะมีด้วยกันหลายรูปแบบ อาทิ การกดติดตามบัญชีนั้น ๆ การคอมเมนต์ใต้คลิป การเพิ่มคลิปลงในรายการโปรด ไปจนถึงคลิปที่ไม่ได้มี Reaction อะไรแต่ก็ดูจนจบ นอกจากนี้ TikTok ยังรวบรวมการโต้ตอบในด้านลบ เพื่อดูว่าคลิปแบบไหนที่คุณไม่สนใจด้วย เช่น การกดรายงานคลิป การกดซ่อนคลิป หรือการกดบล็อกบัญชี เป็นต้น

People Also Search

เมื่อวิดีโอสั้น ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญ ที่ช่วยเพิ่มยอด Engagement ทั้งตัวบุคคล และแบรนด์ต่าง ๆ ทำให้เทรนด์การตลาดได้แปรเปลี่ยน จากการโพสต์คลิปวิดีโอยาวเหยียด ให้กลายเป็นคลิปสั้นที่มีเนื้อหากะทัดรัด

อัลกอริทึมของ TikTok พิจารณาปัจจัยหลายประการในการแสดงผลวิดีโอให้กับผู้ใช้ เช่น ในปี 2025 อัลกอริทึมของ TikTok ได้รับการปรับปรุงเพื่อให้สามารถวิเคราะห์คอนเทนต์ได้ละเอียดขึ้น รวมถึงการใช้ปัญญาประดิษฐ์

สิ่งที่ทำให้ไลฟ์สดบางรายการประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ไม่ได้ขึ้นอยู่กับทักษะการขายหรือราคาสินค้าที่ถูกเพียงอย่างเดียว แต่ปัจจัยสำคัญที่สุดคือการที่ไลฟ์สดเหล่านั้นได้รับการ “ดัน” จากระบบอัลกอริทึมของ TikTok ให้ปรากฏบนหน้าฟีดของผู้ใช้งานจำนวนมาก ยิ่งไลฟ์ปรากฏบนหน้าฟีดมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะมีผู้ชมเข้ามาดูก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น และส่งผลต่อเนื่องไปยังโอกาสในการปิดการขายที่สูงขึ้นตามไปด้วย