Greenhushing เหตุใดบริษัทบางแห่งจึงยังคงนิ่งเฉยเกี่ยวกับความยั่งยืน
ความยั่งยืนกลายเป็น จุดโฟกัสที่สำคัญ สำหรับธุรกิจทั่วโลก โดยมีองค์กรที่ลงทุนใน ความคิดริเริ่มเชิงบวกต่อสภาพภูมิอากาศ แนวทางแก้ปัญหาเชิงบวกต่อธรรมชาติ และการได้รับการรับรองด้านสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลก อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มที่น่าแปลกใจเกิดขึ้น นั่นคือ บริษัทหลายแห่งเลือกที่จะ นิ่งเงียบเกี่ยวกับความพยายามเพื่อความยั่งยืนของตน. ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “การกระซิบสีเขียว” หมายถึงบริษัทโดยเจตนา การลดความสำคัญหรือหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ความก้าวหน้าด้านสิ่งแวดล้อมของพวกเขาแม้ว่าสิ่งนี้อาจดูขัดกับสัญชาตญาณ แต่ก็มักเกิดจาก: แม้จะมีข้อกังวลเหล่านี้ แต่ธุรกิจที่ยอมรับ การสื่อสารด้านความยั่งยืนที่แท้จริงและโปร่งใส ไม่เพียงแต่สร้าง ความไว้วางใจของผู้บริโภค แต่ยัง วางตำแหน่งตัวเองเป็นผู้นำ ในการเปลี่ยนแปลงระดับโลก แนวทางแก้ไขเชิงบวกต่อสภาพอากาศและธรรมชาติ. สำหรับอุตสาหกรรมเช่น การเดินทางและการท่องเที่ยวที่นี่มี ความยั่งยืนและ การท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟู กำลังกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของนักเดินทางที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซ่อนเร้นความคิดริเริ่มด้านสิ่งแวดล้อม สามารถหมายถึง พลาดโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจและความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม. ปัจจัยหลายประการก่อให้เกิดความไม่เต็มใจที่จะสื่อสารถึงความสำเร็จด้านความยั่งยืน: Greenwashing หรือการฟอกเขียว เป็นคำที่บัญญัติขึ้นเพื่อเจาะกลุ่มธุรกิจหรืออุตสาหกรรมซึ่งอวดอ้างหรือตั้งเป้าหมายแสดงความมุ่งมั่นเพื่อบรรลุภารกิจด้านสิ่งแวดล้อมเกินความเป็นจริง ส่งผลให้เกิดการตรวจสอบจากสาธารณชนและอาจนำไปสู่เรื่องราวการฟ้องร้องสุดใหญ่โต
ขณะเดียวกัน ผลพวงจาก Greenwashing และเทรนด์สิ่งแวดล้อมที่บูมขึ้นเรื่อยๆ คำศัพท์ใหม่อย่าง ‘Green hushing’ จึงเกิดขึ้น โดยคำนี้มีความหมายสื่อถึงการที่บริษัทหรืออุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากข้อครหาว่า ‘ฟอกเขียวธุรกิจ’ ทำให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียง และนำไปสู่ข้อโต้แย้งทางกฎหมาย หลายบริษัทจึงเลือกที่จะปิดปากเงียบ ไม่แสดงเจตจำนงหรือทิศทางเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมและสภาพอากาศต่อสาธารณะ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้บริษัทอื่นๆไม่สามารถเลียนแบบความสำเร็จได้แล้ว ยังเปรียบเสมือนการป้องกันตัวเองจากปากสาธารณะชนอยู่กลายๆ Green hushing คืออะไร? ศัพท์ใหม่สายสิ่งแวดล้อมต้องรู้ Green hushing เป็นคำนิยามที่อ้างถึงบริษัทใดก็ตามที่จงใจปิดปากเงียบเกี่ยวกับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ไม่ว่าจะด้วยเจตนาดีหรือมีเหตุผลอันสมควรก็ตาม เพราะกลัวจะถูกตราหน้าว่าเป็นธุรกิจฟอกเขียว Xavier Font ศาสตราจารย์ด้านการตลาดเพื่อความยั่งยืน (sustainability marketing) แห่งมหาวิทยาลัย Surrey ในสหราชอาณาจักร ให้คำจำกัดความ Green hushing ว่า เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจมองข้ามแนวทางปฏิบัติด้านความยั่งยืนโดยเจตนา เพราะบริษัทมีความกังวลว่าอาจโดนมองว่าไร้ความสามารถหากไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ หรือส่งผลเสียต่อธุรกิจในภายหลัง ความยั่งยืนยังคงสำคัญ...
แต่ผู้บริโภคกำลังจับตา "Greenwashing"ในโลกธุรกิจปัจจุบัน ความยั่งยืน ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำศัพท์ที่น่าสนใจอีกต่อไป แต่กลายเป็นแกนหลักในการดำเนินธุรกิจที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางกระแสความตื่นตัวนี้ ผู้บริโภคก็มีความระมัดระวังและเริ่มตั้งคำถามกับสิ่งที่เรียกว่า "Greenwashing" หรือการที่ธุรกิจอ้างว่าตนเองเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือมีความยั่งยืน โดยปราศจากหลักฐานที่แท้จริง ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งแนวโน้ม: ทำไมความยั่งยืนจึงสำคัญ และ Greenwashing กำลังถูกจับตา?* ความตระหนักรู้ของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น: ผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z และ Millennials มีความตระหนักเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมและสังคมมากขึ้น พวกเขาพร้อมที่จะสนับสนุนแบรนด์ที่มีความรับผิดชอบต่อโลกและชุมชน และคาดหวังให้ธุรกิจทำมากกว่าแค่แสวงหาผลกำไร* การเข้าถึงข้อมูลที่ง่ายขึ้น: ด้วยอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และแนวปฏิบัติของบริษัทได้ง่ายขึ้น พวกเขาสามารถเปรียบเทียบข้อมูล, อ่านรีวิว, หรือแม้กระทั่งสืบค้นเบื้องหลังการผลิต* แรงกดดันจากสังคมและกฎหมาย: ทั้งองค์กรภาคประชาสังคมและหน่วยงานภาครัฐเริ่มให้ความสำคัญกับประเด็นความยั่งยืนมากขึ้น... Senior Lecturer in Marketing, University of Portsmouth; Universidad de Salamanca Senior Lecturer in Marketing, University of Bath PhD Candidate in Marketing, University of Portsmouth The authors do not work for, consult, own shares in or receive funding from any company or organization that would benefit from this article, and have disclosed no relevant affiliations beyond their academic appointment. Universidad de Salamanca provides funding as a founding partner of The Conversation ES.
เราจึงเห็นความพยายามของหน่วยงานกำกับดูแลต่างๆ ในการป้องกันและจัดการกับปัญหาเรื่องการฟอกเขียวหรือ Greenwashing เช่น กรณีของ EU ซึ่งเมื่อต้นปี 2566 เริ่มมีหลักเกณฑ์ Sustainable Finance Disclosure Regulation (SFDR) ซึ่งใช้กับธุรกิจการเงินต่าง ๆ รวมถึงบริษัทจัดการกองทุน รวมทั้งการออกหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูลและการจัดทำมาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจ (Taxonomy) ในทางกลับกัน ความเสี่ยงและภาระที่เกิดจากการถูกกล่าวหาเรื่อง Greenwashing และหลักเกณฑ์ที่เข้มข้นขึ้นทำให้เราเห็นแนวโน้มพฤติกรรมในทางตรงกันข้ามกันคือ Greenhushing กล่าวคือบริษัทงดการแสดงเจตจำนงเพื่อบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนด้านต่าง ๆ หรือในภาคการลงทุนก็มีพฤติกรรมที่เรียกกันว่า Green-bleaching ซึ่งคือการที่กองทุนรวมที่เกี่ยวกับความยั่งยืนได้ปรับลดระดับประเภทที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืน (Label) ของตนลง จากเดิมที่เคยเป็นการลงทุนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมหรือสังคม (สีเข้ม) กลายเป็นการลงทุนโดยมีปัจจัยเรื่องสิ่งแวดล้อมหรือสังคมเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น (สีอ่อนกว่า) จากกระแสต่อต้านการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (Anti-ESG) และคดีฟ้องร้องเรื่อง Greenwashing ที่พบมากขึ้นในต่างประเทศ ถึงแม้ว่าหลายคดียังไม่มีคำพิพากษาหรือได้รับคำตัดสินว่ามีการกระทำผิดจริงหรือไม่ แต่กระแสเหล่านี้ทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนแนวคิดการสื่อสารเรื่องการดำเนินการเกี่ยวกับความยั่งยืนของภาคธุรกิจและภาคการลงทุนเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของการให้ข้อมูลกับผู้บริโภค ความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ที่อาจจะเกี่ยวข้อง (เช่น คาร์บอนเครดิต) หรือการเปิดเผยข้อมูลต่อผู้ลงทุน ตัวอย่างเช่น ภาคธุรกิจเริ่มเลือกที่จะไม่กล่าวถึงการดำเนินการเพื่อเป้าหมายความยั่งยืนเพื่อลดการถูกกล่าวหาว่าทำไม่ได้ตามที่กล่าวไว้ (Greenhushing) หรือในกรณีของ SFDR ซึ่งมีหลักเกณฑ์การจัดลำดับประเภทตามความเข้มข้นของสินทรัพย์ที่แต่ละกองทุนรวมมีการลงทุน ก็นำไปสู่การที่กองทุนรวมที่เกี่ยวกับความยั่งยืนจำนวนมากได้ปรับลดระดับประเภทของตนลง (Green-bleaching) ทั้งนี้ บริษัทจัดการของกองทุนรวมเหล่านี้ส่วนใหญ่ได้ให้เหตุผลในการปรับลดระดับลงว่า เพื่อลดความเสี่ยงทางกฎหมายที่จะโดนกล่าวหาเรื่อง Greenwashing นั่นเอง ถึงแม้ Greenhushing และ Green-bleaching จะดูเป็นสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดผลร้ายแรงเมื่อเทียบกับ Greenwashing แต่ในอีกแง่หนึ่งก็เหมือนกับเรากำลังละเลยโอกาสที่แต่ละหน่วยของภาคธุรกิจหรือการลงทุนจะนำพาซึ่งกันและกันหรือก่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่จะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนเพราะความกลัวว่าข้อมูลที่เปิดเผยไปนั้นอาจจะนำไปสู่ความรับผิดทางกฎหมายซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง Australia is home to a growing number of carbon neutral certified firms, but many of them don’t advertise their credentials.
These firms measure, reduce and offset their carbon emissions but often decide to stay silent about their efforts, an emerging global trend called “greenhushing”. Greenhushing occurs when firms under report or strategically withhold information about their environmental goals and achievements. Greenhushing firms don’t advertise their green credentials or deliberately remain silent about their future commitments to environmental sustainability. Greenhushing can happen for different reasons. In the US, where public companies can be sued for violating their obligation to increase shareholder profits, firms stay silent about their environmental efforts to avoid costly litigation. In conservative states that have experienced a strong ESG (environmental, social, and governance) backlash, regulators have turned their attention to sustainable investments, prompting firms to stop talking about their green efforts.
In an era where sustainability is front and centre of public and regulatory discourse, companies are finding themselves walking a tightrope. Say too much about your green credentials and risk being accused of greenwashing. Say too little – and you may be guilty of greenhushing. So what is greenhushing, and why is it suddenly at the centre of conversations around ESG strategy and stakeholder trust? Greenhushing is essentially the inverse of greenwashing. Instead of overstating sustainability claims, companies deliberately under-communicate – or avoid talking altogether – about their environmental or social initiatives.
Why? This phenomenon may be a response to regulatory, social, or institutional pressure, with companies selectively choosing which information to share in order to maintain legitimacy in the eyes of some stakeholders and avoid raising... Over the past few years, EU legislation like the Corporate Sustainability Reporting Directive (CSRD) and the Corporate Sustainability Due Diligence Directive (CSDDD) have ramped up the pressure on companies to report on their sustainability... At the same time, new legislation is emphasising accurate communication on environmental issues, such as the upcoming Green Claims directive aimed at combating greenwashing within the EU. This infamous trend undoubtedly has led to growing scepticism about the credibility of corporate sustainability efforts and has also contributed to the proliferation of misinformation. In light of this, the importance of a well-thought-out approach to implementing ESG aspects in business is becoming increasingly crucial, while also creating uncertainty within companies about how to communicate with stakeholders.
Green Hushing กำลังได้รับความสนใจทั่วโลก เป็นวิธีหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบหรือถูกวิจารณ์ พบว่าบริษัทในไทยปกปิดข้อมูลในบางรูปแบบ ขณะที่รัฐเท็กซัสห้ามหน่วยงานท้องถิ่นทำธุรกิจกับบริษัทการเงินที่พิจารณา ESG สิ่งนี้กัดกร่อนการต่อสู้เพื่อแก้ปัญหา Climate Change Green Hushing (การปกปิดข้อมูลสีเขียว) กำลังได้รับความสนใจในวงการสิ่งแวดล้อมและธุรกิจทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา และกลายเป็นปัญหาสำคัญในความยั่งยืนขององค์กร โดย Green Hushing คือการที่บริษัทต่างๆ จงใจรายงานน้อยหรือไม่เผยแพร่โครงการด้านสิ่งแวดล้อมของตน เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบและการวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งการปฏิบัตินี้เป็นบ่อนทำลายความโปร่งใสและความรับผิดชอบต่อสังคม และการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) องค์กรต่างๆ รวมถึงองค์การสหประชาชาติ (UN) กำลังต่อต้านเรื่อง Green Hushing โดยล่าสุด UN ได้เรียกร้องให้ภาคธุรกิจและภาครัฐแต่ละประเทศ ประกาศต่อสาธารณะว่าจะดำเนินการอย่างไรเพื่อบรรลุเป้าหมายสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) การฟอกเขียว (Greenwashing) และการปกปิดข้อมูลสีเขียว (Green Hushing) เป็นสองแนวทางที่แตกต่างกัน แต่ก็เกี่ยวข้องกับการสื่อสารของบริษัทเกี่ยวกับความพยายามด้านสิ่งแวดล้อม ตัวอย่าง: บริษัทอาจอ้างว่าสินค้าของตน “เป็นธรรมชาติ 100%” โดยไม่มีหลักฐานหรือการรับรองที่ชัดเจน
People Also Search
- Greenhushing - เหตุใดบริษัทบางแห่งจึงยังคงนิ่งเฉยเกี่ยวกับความยั่งยืน ...
- รู้จัก 'Green hushing' พฤติกรรมพ่วงจากกลัวคำกล่าวหาว่า 'ฟอกเขียว'
- The remarkable rise of "greenhushing" - The Economist
- ความยั่งยืนยังคงสำคัญ... แต่ผู้บริโภคกำลังจับตา "Greenwashing"
- 'Greenhushing' is a trend that leaves businesses downplaying their ...
- เกราะคุ้มกันธุรกิจจาก Greenwashing และ Greenhushing & Green-bleaching
- ESG - Greenhushing: ความเงียบที่อาจกลายเป็นความเสี่ยงขององค์กรด้านความ ...
- Greenhushing Explained: Why Companies Stay Silent About Their ...
- Greenhushing: can silence be louder than words? - Grayling
- Green Hushing การปกปิดสีเขียว โรคระบาดเงียบในความยั่งยืนขององค์กร
ความยั่งยืนกลายเป็น จุดโฟกัสที่สำคัญ สำหรับธุรกิจทั่วโลก โดยมีองค์กรที่ลงทุนใน ความคิดริเริ่มเชิงบวกต่อสภาพภูมิอากาศ แนวทางแก้ปัญหาเชิงบวกต่อธรรมชาติ และการได้รับการรับรองด้านสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลก อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มที่น่าแปลกใจเกิดขึ้น
ความยั่งยืนกลายเป็น จุดโฟกัสที่สำคัญ สำหรับธุรกิจทั่วโลก โดยมีองค์กรที่ลงทุนใน ความคิดริเริ่มเชิงบวกต่อสภาพภูมิอากาศ แนวทางแก้ปัญหาเชิงบวกต่อธรรมชาติ และการได้รับการรับรองด้านสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลก อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มที่น่าแปลกใจเกิดขึ้น นั่นคือ บริษัทหลายแห่งเลือกที่จะ นิ่งเงียบเกี่ยวกับความพยายามเพื่อความยั่งยืนของตน. ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “การกระซิบส...
ขณะเดียวกัน ผลพวงจาก Greenwashing และเทรนด์สิ่งแวดล้อมที่บูมขึ้นเรื่อยๆ คำศัพท์ใหม่อย่าง ‘Green Hushing’ จึงเกิดขึ้น โดยคำนี้มีความหมายสื่อถึงการที่บริษัทหรืออุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากข้อครหาว่า
ขณะเดียวกัน ผลพวงจาก Greenwashing และเทรนด์สิ่งแวดล้อมที่บูมขึ้นเรื่อยๆ คำศัพท์ใหม่อย่าง ‘Green hushing’ จึงเกิดขึ้น โดยคำนี้มีความหมายสื่อถึงการที่บริษัทหรืออุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากข้อครหาว่า ‘ฟอกเขียวธุรกิจ’ ทำให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียง และนำไปสู่ข้อโต้แย้งทางกฎหมาย หลายบริษัทจึงเลือกที่จะปิดปากเงียบ ไม่แสดงเจตจำนงหรือทิศทางเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมและสภาพอากาศต่อสาธ...
แต่ผู้บริโภคกำลังจับตา "Greenwashing"ในโลกธุรกิจปัจจุบัน ความยั่งยืน ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำศัพท์ที่น่าสนใจอีกต่อไป แต่กลายเป็นแกนหลักในการดำเนินธุรกิจที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางกระแสความตื่นตัวนี้ ผู้บริโภคก็มีความระมัดระวังและเริ่มตั้งคำถามกับสิ่งที่เรียกว่า "Greenwashing" หรือการที่ธุรกิจอ้างว่าตนเองเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือมีความยั่งยืน
แต่ผู้บริโภคกำลังจับตา "Greenwashing"ในโลกธุรกิจปัจจุบัน ความยั่งยืน ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำศัพท์ที่น่าสนใจอีกต่อไป แต่กลายเป็นแกนหลักในการดำเนินธุรกิจที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางกระแสความตื่นตัวนี้ ผู้บริโภคก็มีความระมัดระวังและเริ่มตั้งคำถามกับสิ่งที่เรียกว่า "Greenwashing" หรือการที่ธุรกิจอ้างว่าตนเองเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือมีความยั่งยืน โดยปราศจากหลักฐานที่แท้จริง ...
เราจึงเห็นความพยายามของหน่วยงานกำกับดูแลต่างๆ ในการป้องกันและจัดการกับปัญหาเรื่องการฟอกเขียวหรือ Greenwashing เช่น กรณีของ EU ซึ่งเมื่อต้นปี 2566 เริ่มมีหลักเกณฑ์ Sustainable
เราจึงเห็นความพยายามของหน่วยงานกำกับดูแลต่างๆ ในการป้องกันและจัดการกับปัญหาเรื่องการฟอกเขียวหรือ Greenwashing เช่น กรณีของ EU ซึ่งเมื่อต้นปี 2566 เริ่มมีหลักเกณฑ์ Sustainable Finance Disclosure Regulation (SFDR) ซึ่งใช้กับธุรกิจการเงินต่าง ๆ รวมถึงบริษัทจัดการกองทุน รวมทั้งการออกหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูลและการจัดทำมาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจ (Taxonomy) ในทางกลับกัน ความเสี...
These Firms Measure, Reduce And Offset Their Carbon Emissions But
These firms measure, reduce and offset their carbon emissions but often decide to stay silent about their efforts, an emerging global trend called “greenhushing”. Greenhushing occurs when firms under report or strategically withhold information about their environmental goals and achievements. Greenhushing firms don’t advertise their green credentials or deliberately remain silent about their futu...