Noaa ประกาศ ปะการังฟอกขาวระดับ หายนะ ใน 3 มหาสมุทร 53 ประเทศ

Leo Migdal
-
noaa ประกาศ ปะการังฟอกขาวระดับ หายนะ ใน 3 มหาสมุทร 53 ประเทศ

"ปะการังฟอกขาว" เกิดจากภาวะโลกร้อน อุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้น ทำให้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศใต้ท้องทะเลและสัตว์ทะเล ปัจจุบันมี 53 ประเทศใน 3 มหาสมุทร เกิดปะการังฟอกขาวและจะมีเพิ่มขึ้นอีก ในทะเลไทย ดร.ธรณ์ เผย NOAA ประกาศ "ปะการังฟอกขาวระดับหายนะ" ถือเป็นครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์ แสดงถึงความรุนแรงของโลกร้อนทะเลเดือด ล่าสุดมี 53 ประเทศใน 3 มหาสมุทร ไทยต้องเฝ้าระวัง ช่วงสิ้นเดือน เม.ย. ถึง พ.ค. เป็นช่วงวิกฤต แนะควบคุมการท่องเที่ยวบางพื้นที่ มีส่วนช่วยได้ ก่อนหน้านี้มีข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ปะการังฟอกขาวในประเทศไทย โดยคาดการณ์ว่าอุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้นจากปัจจัยต่างๆ รวมถึง ภาวะโลกรวน อาจทำให้เกิดเหตุปะการังฟอกขาวได้ในปีนี้ผลมาจากความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศใต้ท้องทะเลอย่างหนักโดยเฉพาะกับปะการังที่พบการเกิดปรากฏการณ์ฟอกขาวขึ้นเป็นวงกว้างในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อสัตว์ทะเลที่ใช้ประโยชน์จากแนวปะการังให้ขาดที่อยู่อาศัย แหล่งอาหาร และที่หลบภัย

ล่าสุด ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า NOAA ประกาศ "ปะการังฟอกขาวระดับหายนะ" (Global Coral Bleaching Event) อย่างเป็นทางการ ถือเป็นครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์ สองครั้งหลังเกิดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แสดงถึงความรุนแรงของโลกร้อนทะเลเดือด เมื่อโลกร้อนทะเลเดือด อุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อแนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลไทย ภาพแนวปะการังขาวโพลนที่เกิดขึ้นตามจุดต่างๆ ในทะเล สะท้อนวิกฤตปะการังฟอกขาวและสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง ว่าปะการังจะอยู่หรือตายหมดทะเล ขณะที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ทยอยประกาศปิดจุดดำน้ำท่องเที่ยวในอุทยานฯ ทางทะเล หลายแห่งแล้ว เพื่อลดผลกระทบต่อปะการัง จากการสำรวจปะการังฟอกขาวของคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) นำโดย ผศ.ดร. ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มก. มีการบันทึกภาพและรายงานข้อมูลที่สำคัญ พบว่า เกาะบริเวณชายฝั่งแกลง เช่น เกาะมันใน หินต่อยหอย เกาะขี้ปลา มีปะการังฟอกขาวรุนแรง ในเขตน้ำตื้นการฟอกขาว 90% และพบปะการังตายแล้ว 10 % ไม่พบปะการังปกติ ขณะที่เกาะอื่นๆ เช่น เกาะทะลุ มีการฟอกขาวลักษณะเดียวกัน แล้วยังมีรายงานจากหาดเจ้าหลาวว่าฟอกขาวรุนแรงก่อนหน้านี้ ผศ.ดร.ธรณ์ กล่าวว่า ประเทศไทยเกิดปะการังฟอกขาวครั้งแรกปี 2534 แต่ฟอกขาวรุนแรงโดนหนักทั้งอ่าวไทยและอันดามัน ปี 2553 จากนั้นเกิดถี่ขึ้นๆ ปี 2558 อันดามันฟอกขาวหนัก คณะประมงติดตามสถานภาพและเห็นภาพการเปลี่ยนแปลงปะการังที่น่าเศร้ามาตลอด ปี 2562 ปรากฎการณ์ปะการังฟอกขาวเกิดถี่ขึ้นและภาวะโลกร้อนรุนแรงมากขึ้น ปี 2564 เกิดปะการังฟอกขาวระดับเบา ซึ่งคณะประมงจัดจุดติดตามปะการังถาวร เพื่อศึกษาวิจัยระยะยาว โดยตั้งสถานีในทะเลตะวันออก จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี สำรวจและติดตั้งอุปกรณ์วัดอุณหภูมิน้ำ โดยมีการสำรวจ 2-3 ครั้งต่อปี สำรวจปะการังฟอกขาวแบบใช้โดรนกันน้ำติดกล้องถ่ายคลิปใต้น้ำ เก็บพิกัดพร้อมบันทึกภาพรอบด้าน บวกกับการใช้โดรนใหญ่บินสูงเพื่อถ่ายภาพ ควบคู่กับการดำน้ำบางจุด เป้าหมายให้ได้แผนที่ปะการังฟอกขาวในภาพรวม

“ จากการสำรวจปะการังฟอกขาวถี่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ฟอกขาวเบาเกิดขึ้นปีเว้นปี ทำให้ปะการังไม่ฟื้นตัวแม้ขณะนี้อุณหภูมิน้ำทะเลเริ่มลดลงแล้ว แต่ปะการังแช่น้ำร้อนจัดต่อเนื่อง 6-7 สัปดาห์ น้ำที่เย็นลงก็ยังร้อนอยู่ดี หนนี้เป็นการฟอกขาวรุนแรงที่สุดในรอบ 14 ปี นับจากปี 53 ปะการังฟอกขาวระดับหายนะ ถามว่า ปะการังจะรอดหรือไม่ คำตอบ คือ ยังบอกไม่ได้แต่น่าเป็นห่วงมาก น้ำร้อนมากและร้อนนาน ปะการังอ่อนแอถึงขีดสุด เทียบเป็นมนุษย์ก็เข้าไอซียู จะอยู่จะไปก็ไม่รู้ ต้องเฝ้าระวัง แนวปะการังบางส่วนกลายเป็นสุสานใต้น้ำไปแล้ว ปลาในแนวปะการังลดลง จำนวนชนิดของปลาลดลง ถึงตอนนี้แม้น้ำเย็นลง แต่ยังเกินเส้นวิกฤต 31 องศาเซลเซียส หากสถานการณ์ยังลากยาวไปเรื่อยๆ อีก 2-3... ผู้เชี่ยวชาญทางทะเลระบุ ปี 64 เกาะมันในและหินต่อยหอย จ.ระยอง ฟอกขาวพร้อมกัน เกาะมันใน ปะการังในน้ำตื้นตายเรียบหมด จนต้องปิดสถานี เพราะไม่สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงได้ ขณะที่หินตอยหอยปะการังน้ำตื้นโทรม แต่ปีนี้รุนแรงมาก ทั้งสองจุดปะการังขาวโพลนไปหมด แม้แต่หินต่อยหอยก็ทนทะเลเดือดไม่ได้ ถ้าไม่ตายทั้งหมด ก็โทรมลง ที่เลือกหินต่อยหอยเป็นจุดสำรวจเพราะเป็นแนวกลางน้ำ มีร่องน้ำตรงกลาง มีปะการังเยอะ น้ำไหลเวียนดี น้ำลึกกว่า สำคัญมากต่อการทนฟอกขาว เจอน้ำร้อนประจำทุกปี ถือเป็นปะการังที่อึดทน แต่ปีนี้เผชิญน้ำร้อนระดับไม่เคยพบเห็น ข้อมูลช่วงต้นเมษายน น้ำร้อนเกิน 34 องศา เกือบแตะ 35 องศา ในรายงานอย่างเป็นทางการจากองค์การบริหารมหาสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NOAA) ที่ร่วมมือกับโครงการอนุรักษ์แนวปะการังนานาชาติ (ICRI) ซึ่งมีมากกว่า 101 ประเทศเข้าร่วม รวมถึงประเทศไทย ได้ยืนยันว่าทั่วโลกกำลังพบเจอกับปรากฏการณ์ ‘ปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่’ เป็นครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์ และเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 10 ปี ชี้ให้เห็นว่าปัญหานี้กำลังเกิดบ่อยขึ้นอย่างน่ากังวล “ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2023 ถึงเดือนเมษายน 2024 มีการบันทึกไว้ว่า ปะการังเกิดการฟอกขาวอย่างมีนัยสำคัญทั้งในซีกโลกเหนือและใต้ของแอ่งมหาสมุทรหลักแต่ละแห่ง” เดเร็ก แมนเซลโล ผู้ประสานงานองค์กร ‘Coral Reef Watch (CRW)’ ของ NOAA กล่าว จนถึงขณะนี้ มีการยืนยันปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่แล้วใน 53 ประเทศทั่วโลกซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก ขณะเดียวกัน นักวิทยาศาสตร์ก็ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าพื้นที่ปะการังฟอกขาวกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ประมาณร้อยละ 1 ต่อสัปดาห์ นับเป็นการฟอกขาวครั้งใหญ่ที่สุดครั้งที่ 4 ของโลก และเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 10 ปี รายงานระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกี่ยวข้องโดยตรงกับอุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลที่สูงขึ้น โดยเมื่อเดือนที่แล้ว ตัวเลขนี้ได้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 21.07 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อปรากฎการณ์เอลนีโญ แม้ว่าเมื่อไม่นานมานี้ สัญญาณของเอลนีโญจะค่อย ๆ อ่อนลงแล้ว แต่การฟอกขาวของปะการังยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

คลื่นความร้อนที่ยังหลงเหลือในมหาสมุทรทำให้สิ่งมีชีวิตนี้เผชิญกับความเครียดตลอดเวลา จนในที่สุด เมื่อพวกมันไม่อาจดิ้นรนได้อีกต่อไป ปะการังจะคายสาหร่ายซูแซนเทลลี (zooxanthellae) ที่อาศัยอยู่ในเนื้อเยื่อออกมา ซึ่งสาหร่ายชนิดนี้ให้ทั้งสีและพลังงานที่สำคัญแก่ปะการัง เมื่อมันหลุดออกไป ปะการังจะสีซีดจางจนกลายเป็นที่มาของชื่อปรากฏการณ์ ‘ปะการังฟอกขาว’ องค์การบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติ หรือ NOAA ประกาศเมื่อเดือนเมษายน 2567 ว่า โลกกำลังเข้าสู่วิกฤตปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่ กระทบอย่างน้อย 53 ประเทศทั่วโลก รวมถึงไทย แนวปะการังที่เคยสวยงามของออสเตรเลีย เวลานี้ สีสันได้หายไป กลายเป็นซากศพสีขาว จากอุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้นจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ซ้ำเติมด้วยปรากฎการณ์เอลนีโญ ศาสตราจารย์ โอเว โฮกห์ กุลด์เบิร์ก นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยแห่งรัฐควีนส์แลนด์ในออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นไว้ว่า อุณหภูมิน้ำทะเลพุ่งสูงทำลายสถิติ น้ำทะเลร้อนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันเหมือนเป็นการล้างบางปะการัง “โทษประหารชีวิต” คือคำที่ศาสตราจารย์กุลด์เบิร์ก เรียก ปะการังฟอกขาวใหญ่ครั้งนี้ และไม่ได้ทำให้ปะการังตายเท่านั้น แต่ระบบนิเวศน์ทางทะเลที่เสี่ยงล่มสลาย จะเป็นอันตรายต่อสปีชีส์สิ่งมีชีวิตราว 1 ใน 4 ของโลก ที่ต้องพึ่งพาแนวปะการังเพื่อการอยู่รอด รวมถึงประชากรโลกกว่าพันล้านคน ที่ต้องอาศัยการประมงปลาจากแนวปะการังเหล่านี้ เพื่อเป็นอาหารและหาเลี้ยงชีพ แนวปะการัง ยังปกป้องแนวชายฝั่ง ลดผลกระทบจากอุทกภัย พายุ และการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลด้วย แต่มหันตภัยเหล่านี้ กลับเป็นสิ่งที่ศาสตราจารย์กุลด์เบิร์ก ชี้ว่า “มนุษย์ยังไม่เข้าใจและไม่ตระหนักถึง”

People Also Search

"ปะการังฟอกขาว" เกิดจากภาวะโลกร้อน อุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้น ทำให้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศใต้ท้องทะเลและสัตว์ทะเล ปัจจุบันมี 53 ประเทศใน 3 มหาสมุทร เกิดปะการังฟอกขาวและจะมีเพิ่มขึ้นอีก

"ปะการังฟอกขาว" เกิดจากภาวะโลกร้อน อุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้น ทำให้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศใต้ท้องทะเลและสัตว์ทะเล ปัจจุบันมี 53 ประเทศใน 3 มหาสมุทร เกิดปะการังฟอกขาวและจะมีเพิ่มขึ้นอีก ในทะเลไทย ดร.ธรณ์ เผย NOAA ประกาศ "ปะการังฟอกขาวระดับหายนะ" ถือเป็นครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์ แสดงถึงความรุนแรงของโลกร้อนทะเลเดือด ล่าสุดมี 53 ประเทศใน 3 มหาสมุทร ไทยต้องเฝ้าระวัง ช่วงสิ้นเดือน เม.ย. ถึง พ.ค. เป็นช่วงวิก...

ล่าสุด ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า NOAA ประกาศ "ปะการังฟอกขาวระดับหายนะ" (Global

ล่าสุด ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า NOAA ประกาศ "ปะการังฟอกขาวระดับหายนะ" (Global Coral Bleaching Event) อย่างเป็นทางการ ถือเป็นครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์ สองครั้งหลังเกิดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แสดงถึงความรุนแรงของโลกร้อนทะเลเดือด เมื่อโลกร้อนทะเลเดือด อุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อแนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลไทย ภาพแนวป...

“ จากการสำรวจปะการังฟอกขาวถี่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ฟอกขาวเบาเกิดขึ้นปีเว้นปี ทำให้ปะการังไม่ฟื้นตัวแม้ขณะนี้อุณหภูมิน้ำทะเลเริ่มลดลงแล้ว แต่ปะการังแช่น้ำร้อนจัดต่อเนื่อง 6-7 สัปดาห์ น้ำที่เย็นลงก็ยังร้อนอยู่ดี หนนี้เป็นการฟอกขาวรุนแรงที่สุดในรอบ 14

“ จากการสำรวจปะการังฟอกขาวถี่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ฟอกขาวเบาเกิดขึ้นปีเว้นปี ทำให้ปะการังไม่ฟื้นตัวแม้ขณะนี้อุณหภูมิน้ำทะเลเริ่มลดลงแล้ว แต่ปะการังแช่น้ำร้อนจัดต่อเนื่อง 6-7 สัปดาห์ น้ำที่เย็นลงก็ยังร้อนอยู่ดี หนนี้เป็นการฟอกขาวรุนแรงที่สุดในรอบ 14 ปี นับจากปี 53 ปะการังฟอกขาวระดับหายนะ ถามว่า ปะการังจะรอดหรือไม่ คำตอบ คือ ยังบอกไม่ได้แต่น่าเป็นห่วงมาก น้ำร้อนมากและร้อนนาน ปะการังอ่อนแอถึงขีดสุด เที...

คลื่นความร้อนที่ยังหลงเหลือในมหาสมุทรทำให้สิ่งมีชีวิตนี้เผชิญกับความเครียดตลอดเวลา จนในที่สุด เมื่อพวกมันไม่อาจดิ้นรนได้อีกต่อไป ปะการังจะคายสาหร่ายซูแซนเทลลี (zooxanthellae) ที่อาศัยอยู่ในเนื้อเยื่อออกมา ซึ่งสาหร่ายชนิดนี้ให้ทั้งสีและพลังงานที่สำคัญแก่ปะการัง เมื่อมันหลุดออกไป ปะการังจะสีซีดจางจนกลายเป็นที่มาของชื่อปรากฏการณ์ ‘ปะการังฟอกขาว’

คลื่นความร้อนที่ยังหลงเหลือในมหาสมุทรทำให้สิ่งมีชีวิตนี้เผชิญกับความเครียดตลอดเวลา จนในที่สุด เมื่อพวกมันไม่อาจดิ้นรนได้อีกต่อไป ปะการังจะคายสาหร่ายซูแซนเทลลี (zooxanthellae) ที่อาศัยอยู่ในเนื้อเยื่อออกมา ซึ่งสาหร่ายชนิดนี้ให้ทั้งสีและพลังงานที่สำคัญแก่ปะการัง เมื่อมันหลุดออกไป ปะการังจะสีซีดจางจนกลายเป็นที่มาของชื่อปรากฏการณ์ ‘ปะการังฟอกขาว’ องค์การบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติ หรือ NOAA ป...