การ ฟอก เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน Sdg Washing

Leo Migdal
-
การ ฟอก เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน sdg washing

เมื่อประชาชนถูกฟอกด้านความยั่งยืน จากกับดักการตลาดฉาบฉวย บนฉลากสินค้า ที่ระบุว่าผลิตจาก “ธรรมชาติ” ในความเป็นจริงอาจจะไม่ได้เป็นมิตรต่อ “สิ่งแวดล้อม” เสมอไป เพราะไม่สามารถการันตีได้ว่ากระบวนการผลิตจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนอย่างแท้จริง กลุ่มคำหลอกล่อเป็นเพียงการตลาดฉาบฉวยที่เราอาจจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการฟอกเขียวโดยไม่รู้ตัว บนฉลากระบุว่าผลิตจาก “ธรรมชาติ” ในความเป็นจริงอาจจะไม่ได้เป็นมิตรต่อ “สิ่งแวดล้อม” เสมอไป เพราะไม่สามารถการันตีว่ากระบวนการผลิตอาจจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ตัวอย่างงานสิ่งทอที่นำฝ้ายจากธรรมชาติมาผลิตเสื้อผ้าขายในอุตสาหกรรมแฟชั่น ฝ้ายยังคงต้องใช้ยาฆ่าแมลงและสารเคมีในการเพาะปลูกให้ทันต่อฤดูกาลสินค้า ซ้ำร้ายแล้วอาจจะมีแรงงานหรือเยาวชนจำนวนมากที่ถูกเอาเปรียบซึ่งพวกเขาไม่ได้รับสวัสดิการและความปลอดภัยจากบริษัทเลย บริษัทหรือหน่วยงานที่พยายามสร้างผลกระทบทางสังคมด้วยการประชาสัมพันธ์ตัวเลขสถิติ เช่น ปริมาณการชดเชยคาร์บอน ปริมาณต้นไม้จากกิจกรรมปลูกป่า ภาพของกิจกรรม CSR หรือ CSV การต้อนรับนักท่องเที่ยว LGBTQ+ ฯลฯ อันที่จริงแล้ว ตัวเลขที่ถูกประชาสัมพันธ์ได้เกิดขึ้นจากการดำเนินกิจการหรือเพียงแค่สร้างภาพเป็นมิตรต่อผู้บริโภคเท่านั้น ซึ่งมั่นใจได้อย่างไรว่าการกระทำเหล่านั้นไม่ใช่ SDG Washing หรือ การฟอกเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ปรับธุรกิจ รับแนวทางสหประชาชาติเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

ปรับธุรกิจ รับแนวทางสหประชาชาติเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน กรุงเทพฯ 22 มิถุนายน 2566 – รายงานขององค์การสหประชาชาติเรื่องการฟอกเขียวได้รับการเผยแพร่ ณ ที่ประชุมภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 27 (UN Climate Change Conference of the Parties: COP27) ภายใต้ชื่อ 'ความซื่อสัตย์: ความมุ่งมั่นสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) โดยธุรกิจ สถาบันการเงิน เมืองต่างๆ และภูมิภาค' รายงานดังกล่าวจัดทำโดยคณะทำงานซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างเป็นทางการในชื่อ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญระดับสูงด้าน Net Zero ของภาคเอกชนและองค์กรอิสระ นำเสนอคำตักเตือนต่อบริษัทที่อ้างว่าได้มีการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยไม่ได้ลงมือทำจริง และเปิดตัวการปราบปรามการฟอกเขียวครั้งใหญ่ขององค์กรที่อ้าง Net... รายงานสรุปคำแนะนำที่สำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าภาคเอกชนทำงานเต็มที่เพื่อลดปริมาณคาร์บอน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสานต่อโครงการ มุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Race to Zero) และเป้าหมายทางวิทยาศาสตร์ (Science-Based Targets) โดยให้กรอบเวลาและการทำงานแก่องค์กรและนักลงทุนเพื่อส่งมอบ Net Zero (ตามเป้าหมายระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว) รายงานนำเสนอแผนงานเพื่อป้องกันไม่ให้ Net Zero ถูกลดคุณค่าจากการกล่าวอ้างที่เป็นเท็จ ความคลุมเครือ หรือการฟอกเขียว โดยให้คำแนะนำ 10 ประการสำหรับองค์กรและ 'ภาคเอกชนและองค์กรอิสระ' อื่น ๆ เช่น เมืองต่างๆ และนักลงทุน เพื่อเป็นแนวทางสู่ Net Zero กรุงเทพธุรกิจศุภกร เอกชัยไพบูลย์ฝ่ายพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน 1ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การฟอกเขียวธุรกิจ หรือ Green Washing คือ การเปิดเผยข้อมูลหรือข้อความที่แสดงความเป็นมิตรต่อสังคมและ/หรือสิ่งแวดล้อมของธุรกิจที่เกินความเป็นจริง เพื่อหวังจะให้ธุรกิจสามารถขายของหรือสร้างกำไรบนความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม

ผมเชื่อว่าผู้บริโภคยุคนี้รับรู้ได้ว่าข้อมูลแบบไหนที่เน้นขายบนความรู้สึกคนมากเกินไป และเมื่อบริษัทประพฤติไม่เหมาะสมหรือสร้างความเดือดร้อนให้ผู้มีส่วนได้เสีย เช่น การรั่วไหลของน้ำมันใน Deepwater Horizon ของ BP หรือเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการรายงานข้อมูลคาร์บอนและการปล่อยมลพิษของ Volkswagen ก็ทำให้เห็นแล้วว่า Green Wash เป็นความเสี่ยงที่ลบทุกความเชื่อมั่นจากธุรกิจ จนสร้างอิมแพคต่อเงินในกระเป๋าบริษัท สอดคล้องกับงานสำรวจของ Harvard Business Review (HBR)[1] ที่แสดงให้เห็นว่าผู้มีส่วนได้เสียจะลงโทษธุรกิจโดยการไม่ลงทุนหรือไม่ซื้อสินค้า และตีตราบริษัทนั้นว่าเป็นธุรกิจ Green Washing หากบริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามนโยบายและเป้าหมายที่สัญญาไว้ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ส่งผลเสียต่อทัศนคติทางสังคมที่มีต่อสินค้าและบริการของบริษัทในระยะยาว ในมิติการลงทุน ข้อมูล ESG ไม่ใช่ผงซักฟอกธุรกิจให้ขาวสะอาดใส ที่ทำให้ท่านมั่นใจว่าธุรกิจเก่ง ดี และพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในพอร์ตการลงทุนของท่าน การที่ทุกฝ่ายลุกขึ้นมาบอกให้ธุรกิจก็ต้องเปิดเผยข้อมูลที่เป็นด้านบวกและลบอย่างสมดุล โดยไม่มีกระบวนการตรวจสอบอย่างเป็นกลาง ยิ่งทับถมปัญหาการใช้ข้อมูล ESG ในการฟอกธุรกิจ ขณะที่คนเปิดเผยข้อมูลก็มองเป็นดาบสองคม เพราะถ้าเปิดข้อมูลที่ลบเกินไป คนก็ไม่กล้าลงทุนเพราะเสี่ยงสูง แต่ถ้าเปิดข้อมูลที่เป็นบวกเกินไป คนก็ไม่กล้าลงทุนอีกเพราะเห็นข้อมูลแค่ด้านเดียว มิหนำซ้ำการมีกระบวนการตรวจสอบทำให้ต้นทุนธุรกิจสูงขึ้นไปอีก ดังนั้น ถ้าต้องเลือก ธุรกิจก็จะเปิดเผยข้อมูลเท่าที่ทำได้ และรายงานแบบ propaganda “โปร ปะ กัน (โดน) ด่า” มากกว่า เราต้องมาขบคิดกันว่าจะจัดการปัญหา Green Washing แบบไหนที่ตอบโจทย์ทั้งธุรกิจและผู้บริโภคข้อมูล ผมอ่านแนวทางหลีกเลี่ยงปัญหาเบื้องต้น พบว่ามีหลากหลายวิธี เช่น การอ้างสิทธิ์ในสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ควรตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับของที่มาสินค้าได้ด้วย หรือบริษัทควรพิสูจน์ได้ว่าข้อมูลของสินค้า บริการ หรือการดำเนินธุรกิจมีหน่วยงานหรือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือเป็นผู้รับรองข้อมูลที่เป็นวิชาการ เป็นต้น การฟอกเขียว ซึ่งหมายถึงการที่บริษัทพยายามสร้างภาพลักษณ์ว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือมีความรับผิดชอบต่อสังคม แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจไม่ได้ดำเนินการอย่างจริงจัง หรือทำแค่นิดหน่อยพอให้มีภาพลักษณ์ การฟอกเขียวมีหลายรูปแบบ ตั้งแต่การเลือกรายงานเฉพาะข้อมูลด้านบวก การใช้ภาษาที่คลุมเครือ ไปจนถึงการตั้งเป้าหมายที่ไกลเกินจริง ตัวอย่างเช่น บริษัทผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่แห่งหนึ่งประกาศว่าจะใช้ขวดพลาสติกรีไซเคิล 100% ภายในปี 2030 แต่กลับไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณพลาสติกที่ใช้ในปัจจุบัน หรือแผนการลดการใช้พลาสติกโดยรวม นี่เป็นตัวอย่างของการใช้เป้าหมายที่ฟังดูดีแต่ขาดความโปร่งใสในรายละเอียด

ในภาคพลังงาน เราอาจพบกรณีของบริษัทที่โฆษณาตัวเองว่าเป็น “ผู้นำด้านพลังงานสะอาด” โดยอ้างถึงการลงทุนในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และลม แต่ในความเป็นจริง รายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทยังคงมาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล การนำเสนอข้อมูลเช่นนี้อาจทำให้นักลงทุนและผู้บริโภคเข้าใจผิดเกี่ยวกับภาพรวมการดำเนินงานของบริษัท สำหรับภาคการเงิน เราอาจพบกรณีของธนาคารที่ประกาศนโยบาย “การให้สินเชื่อที่รับผิดชอบ” แต่ในทางปฏิบัติยังคงให้เงินกู้แก่โครงการที่ทำลายสิ่งแวดล้อมหรือละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยอ้างว่าเป็นเพียงส่วนน้อยของภาพรวมการปล่อยสินเชื่อทั้งหมด

People Also Search

เมื่อประชาชนถูกฟอกด้านความยั่งยืน จากกับดักการตลาดฉาบฉวย บนฉลากสินค้า ที่ระบุว่าผลิตจาก “ธรรมชาติ” ในความเป็นจริงอาจจะไม่ได้เป็นมิตรต่อ “สิ่งแวดล้อม” เสมอไป เพราะไม่สามารถการันตีได้ว่ากระบวนการผลิตจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนอย่างแท้จริง กลุ่มคำหลอกล่อเป็นเพียงการตลาดฉาบฉวยที่เราอาจจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการฟอกเขียวโดยไม่รู้ตัว

เมื่อประชาชนถูกฟอกด้านความยั่งยืน จากกับดักการตลาดฉาบฉวย บนฉลากสินค้า ที่ระบุว่าผลิตจาก “ธรรมชาติ” ในความเป็นจริงอาจจะไม่ได้เป็นมิตรต่อ “สิ่งแวดล้อม” เสมอไป เพราะไม่สามารถการันตีได้ว่ากระบวนการผลิตจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนอย่างแท้จริง กลุ่มคำหลอกล่อเป็นเพียงการตลาดฉาบฉวยที่เราอาจจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการฟอกเขียวโดยไม่รู้ตัว บนฉลากระบุว่าผลิตจาก “ธรรมชาติ” ในความเป็นจริงอาจจะไม่ได้เป็นมิตรต่...

ปรับธุรกิจ รับแนวทางสหประชาชาติเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน กรุงเทพฯ 22 มิถุนายน 2566 – รายงานขององค์การสหประชาชาติเรื่องการฟอกเขียวได้รับการเผยแพร่ ณ ที่ประชุมภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่

ปรับธุรกิจ รับแนวทางสหประชาชาติเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน กรุงเทพฯ 22 มิถุนายน 2566 – รายงานขององค์การสหประชาชาติเรื่องการฟอกเขียวได้รับการเผยแพร่ ณ ที่ประชุมภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 27 (UN Climate Change Conference of the Parties: COP27) ภายใต้ชื่อ 'ความซื่อสัตย์: ความมุ่งมั่นสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) โดยธุรกิจ สถาบันการเงิน เมืองต่างๆ แ...

ผมเชื่อว่าผู้บริโภคยุคนี้รับรู้ได้ว่าข้อมูลแบบไหนที่เน้นขายบนความรู้สึกคนมากเกินไป และเมื่อบริษัทประพฤติไม่เหมาะสมหรือสร้างความเดือดร้อนให้ผู้มีส่วนได้เสีย เช่น การรั่วไหลของน้ำมันใน Deepwater Horizon ของ BP หรือเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการรายงานข้อมูลคาร์บอนและการปล่อยมลพิษของ Volkswagen

ผมเชื่อว่าผู้บริโภคยุคนี้รับรู้ได้ว่าข้อมูลแบบไหนที่เน้นขายบนความรู้สึกคนมากเกินไป และเมื่อบริษัทประพฤติไม่เหมาะสมหรือสร้างความเดือดร้อนให้ผู้มีส่วนได้เสีย เช่น การรั่วไหลของน้ำมันใน Deepwater Horizon ของ BP หรือเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการรายงานข้อมูลคาร์บอนและการปล่อยมลพิษของ Volkswagen ก็ทำให้เห็นแล้วว่า Green Wash เป็นความเสี่ยงที่ลบทุกความเชื่อมั่นจากธุรกิจ จนสร้างอิมแพคต่อเงินในกระเป๋าบริษัท สอ...

ในภาคพลังงาน เราอาจพบกรณีของบริษัทที่โฆษณาตัวเองว่าเป็น “ผู้นำด้านพลังงานสะอาด” โดยอ้างถึงการลงทุนในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และลม แต่ในความเป็นจริง รายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทยังคงมาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล การนำเสนอข้อมูลเช่นนี้อาจทำให้นักลงทุนและผู้บริโภคเข้าใจผิดเกี่ยวกับภาพรวมการดำเนินงานของบริษัท สำหรับภาคการเงิน เราอาจพบกรณีของธนาคารที่ประกาศนโยบาย “การให้สินเชื่อที่รับผิดชอบ”

ในภาคพลังงาน เราอาจพบกรณีของบริษัทที่โฆษณาตัวเองว่าเป็น “ผู้นำด้านพลังงานสะอาด” โดยอ้างถึงการลงทุนในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และลม แต่ในความเป็นจริง รายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทยังคงมาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล การนำเสนอข้อมูลเช่นนี้อาจทำให้นักลงทุนและผู้บริโภคเข้าใจผิดเกี่ยวกับภาพรวมการดำเนินงานของบริษัท สำหรับภาคการเงิน เราอาจพบกรณีของธนาคารที่ประกาศนโยบาย “การให้สินเชื่อที่รับผิดชอบ” แต่ในทางปฏิบัติยังคงให้...