Green Washing ข้อมูลอันตราย ทําลายระบบนิเวศความยั่งยืน
กรุงเทพธุรกิจศุภกร เอกชัยไพบูลย์ฝ่ายพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน 1ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การฟอกเขียวธุรกิจ หรือ Green Washing คือ การเปิดเผยข้อมูลหรือข้อความที่แสดงความเป็นมิตรต่อสังคมและ/หรือสิ่งแวดล้อมของธุรกิจที่เกินความเป็นจริง เพื่อหวังจะให้ธุรกิจสามารถขายของหรือสร้างกำไรบนความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม ผมเชื่อว่าผู้บริโภคยุคนี้รับรู้ได้ว่าข้อมูลแบบไหนที่เน้นขายบนความรู้สึกคนมากเกินไป และเมื่อบริษัทประพฤติไม่เหมาะสมหรือสร้างความเดือดร้อนให้ผู้มีส่วนได้เสีย เช่น การรั่วไหลของน้ำมันใน Deepwater Horizon ของ BP หรือเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการรายงานข้อมูลคาร์บอนและการปล่อยมลพิษของ Volkswagen ก็ทำให้เห็นแล้วว่า Green Wash เป็นความเสี่ยงที่ลบทุกความเชื่อมั่นจากธุรกิจ จนสร้างอิมแพคต่อเงินในกระเป๋าบริษัท สอดคล้องกับงานสำรวจของ Harvard Business Review (HBR)[1] ที่แสดงให้เห็นว่าผู้มีส่วนได้เสียจะลงโทษธุรกิจโดยการไม่ลงทุนหรือไม่ซื้อสินค้า และตีตราบริษัทนั้นว่าเป็นธุรกิจ Green Washing หากบริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามนโยบายและเป้าหมายที่สัญญาไว้ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ส่งผลเสียต่อทัศนคติทางสังคมที่มีต่อสินค้าและบริการของบริษัทในระยะยาว ในมิติการลงทุน ข้อมูล ESG ไม่ใช่ผงซักฟอกธุรกิจให้ขาวสะอาดใส ที่ทำให้ท่านมั่นใจว่าธุรกิจเก่ง ดี และพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในพอร์ตการลงทุนของท่าน การที่ทุกฝ่ายลุกขึ้นมาบอกให้ธุรกิจก็ต้องเปิดเผยข้อมูลที่เป็นด้านบวกและลบอย่างสมดุล โดยไม่มีกระบวนการตรวจสอบอย่างเป็นกลาง ยิ่งทับถมปัญหาการใช้ข้อมูล ESG ในการฟอกธุรกิจ ขณะที่คนเปิดเผยข้อมูลก็มองเป็นดาบสองคม เพราะถ้าเปิดข้อมูลที่ลบเกินไป คนก็ไม่กล้าลงทุนเพราะเสี่ยงสูง แต่ถ้าเปิดข้อมูลที่เป็นบวกเกินไป คนก็ไม่กล้าลงทุนอีกเพราะเห็นข้อมูลแค่ด้านเดียว มิหนำซ้ำการมีกระบวนการตรวจสอบทำให้ต้นทุนธุรกิจสูงขึ้นไปอีก ดังนั้น ถ้าต้องเลือก ธุรกิจก็จะเปิดเผยข้อมูลเท่าที่ทำได้ และรายงานแบบ propaganda “โปร ปะ กัน (โดน) ด่า” มากกว่า เราต้องมาขบคิดกันว่าจะจัดการปัญหา Green Washing แบบไหนที่ตอบโจทย์ทั้งธุรกิจและผู้บริโภคข้อมูล ผมอ่านแนวทางหลีกเลี่ยงปัญหาเบื้องต้น พบว่ามีหลากหลายวิธี เช่น การอ้างสิทธิ์ในสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ควรตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับของที่มาสินค้าได้ด้วย หรือบริษัทควรพิสูจน์ได้ว่าข้อมูลของสินค้า บริการ หรือการดำเนินธุรกิจมีหน่วยงานหรือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือเป็นผู้รับรองข้อมูลที่เป็นวิชาการ เป็นต้น คำว่า “ฟอกเขียว(Greenwashing)” อธิบายถึงพฤติกรรมและแนวปฏิบัติของกลุ่มองค์กรและหน่วยธุรกิจเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อใจและดีต่อโลก แต่กลับไม่ได้ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจริงตามที่กล่าวอ้าง
การฟอกเขียวช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถทำธุรกิจได้ปกติพร้อมกับแสร้งว่าตนใส่ใจสิ่งแวดล้อมไปด้วย หากเทียบกับการก่อมลพิษแล้วนั้นเทียบได้ว่าภาคธุรกิจไม่ได้ทำอะไรเพื่อสิ่งแวดล้อมเลย การทำธุรกิจรูปแบบนี้เป็นภัยต่อระบบเศรษฐกิจ สังคมและโลกมากกว่าที่เราคิด การฟอกเขียวทำให้กระบวนการเปลี่ยนผ่านระบบที่ยั่งยืนต่อผู้คนและโลกช้าลง กลยุทธ์ฟอกเขียวจากหลายบริษัททำให้เบี่ยงเบนความสนใจของผู้บริโภค และถูกทำให้เชื่อว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมได้รับการแก้ไขที่ถูกต้อง แต่จริง ๆ แล้วปัญหายังไม่ได้ถูกแก้เลย การฟอกเขียวอาจทำให้เราไม่ได้สนับสนุนบริษัทที่ตั้งใจลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง และไม่ได้ไปกดดันให้บริษัทที่ยังยังฟอกเขียวอยู่ให้เปลี่ยนแปลงไปแก้ปัญหาจริง ๆ กรีนพีซรณรงค์ให้รัฐและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เป็นผู้ก่อมลพิษหลักต้องหยุดดำเนินงานด้วยหลักการฟอกเขียว ซึ่งไม่ช่วยให้สภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมดีขึ้น ตรงกันข้ามกลับส่งผลกระทบต่อโลกและสิทธิชุมชนที่ถูกคุกคามจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วรวมถึงนโยบายการฟอกเขียวที่ลิดรอนสิทธิของประชาชน ความยั่งยืนยังคงสำคัญ... แต่ผู้บริโภคกำลังจับตา "Greenwashing"ในโลกธุรกิจปัจจุบัน ความยั่งยืน ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำศัพท์ที่น่าสนใจอีกต่อไป แต่กลายเป็นแกนหลักในการดำเนินธุรกิจที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางกระแสความตื่นตัวนี้ ผู้บริโภคก็มีความระมัดระวังและเริ่มตั้งคำถามกับสิ่งที่เรียกว่า "Greenwashing" หรือการที่ธุรกิจอ้างว่าตนเองเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือมีความยั่งยืน โดยปราศจากหลักฐานที่แท้จริง ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งแนวโน้ม: ทำไมความยั่งยืนจึงสำคัญ และ Greenwashing กำลังถูกจับตา?* ความตระหนักรู้ของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น: ผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z และ Millennials มีความตระหนักเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมและสังคมมากขึ้น พวกเขาพร้อมที่จะสนับสนุนแบรนด์ที่มีความรับผิดชอบต่อโลกและชุมชน และคาดหวังให้ธุรกิจทำมากกว่าแค่แสวงหาผลกำไร* การเข้าถึงข้อมูลที่ง่ายขึ้น: ด้วยอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และแนวปฏิบัติของบริษัทได้ง่ายขึ้น พวกเขาสามารถเปรียบเทียบข้อมูล, อ่านรีวิว, หรือแม้กระทั่งสืบค้นเบื้องหลังการผลิต* แรงกดดันจากสังคมและกฎหมาย: ทั้งองค์กรภาคประชาสังคมและหน่วยงานภาครัฐเริ่มให้ความสำคัญกับประเด็นความยั่งยืนมากขึ้น...
ปัจจุบันการเงินสีเขียวและการลงทุนอย่างยั่งยืนกลายเป็นประเด็นที่ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และนักลงทุนต่างให้ความสนใจ โดยผลสำรวจ YouGov Realtime Omnibus ปี 2022 พบว่าผู้บริโภคไทยราว 77% รู้จักฉลากสิ่งแวดล้อม เช่น ฉลากเขียว (Thai Green Label: TGL) คำถามสำคัญจึงอยู่ที่ว่า ความยั่งยืนเหล่านั้นเป็นของจริงหรือเพียงภาพลักษณ์ทางการตลาด แม้วลี ‘เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม’ หรือ ‘การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์’ จะมีอิทธิพลในโลกธุรกิจและการลงทุน แต่หากขาดเกณฑ์ที่รัดกุมและกลไกติดตามที่โปร่งใส ความหมายของคำว่า ‘ยั่งยืน’ อาจถูกบิดเบือน และกลายเป็น ‘การฟอกเขียว’ (Greenwashing) ได้ Thailand Taxonomy ถูกพัฒนาขึ้นในฐานะมาตรฐานกลางของประเทศไทยที่ใช้เป็นแนวทางในการจำแนกและจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (มาตรฐานการจัดกลุ่มฯ) โดยเฉพาะการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นหลัก ทว่าประสิทธิภาพของ Thailand Taxonomy ยังคงขึ้นอยู่กับความชัดเจนของเกณฑ์และการบังคับใช้อย่างจริงจัง ซึ่งเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการฟอกเขียวได้เช่นกัน Greenwashing คืออะไร ทำไมถึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม? Greenwashing หรือ ‘การฟอกเขียว’ หมายถึงการนำเสนอภาพลักษณ์ว่าธุรกิจหรือโครงการใส่ใจสิ่งแวดล้อม ทั้งที่ในทางปฏิบัติ ผลลัพธ์ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอย่างแท้จริง หรืออาจยิ่งสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ตัวอย่างเช่น: กิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงทำให้ผู้บริโภคและนักลงทุนเข้าใจผิด แต่ยังอาจบิดเบือนเป้าหมายของนโยบายสาธารณะ พร้อมทั้งชะลอการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน ที่มา : https://www.wealthythai.com/en/updates/sustainability/15439
Greenwashing หรือ การฟอกเขียว คือ การอ้างเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่รับผิดชอบต่อสังคมและใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่อาจไม่ได้มีการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจริง โดยมีการให้ข้อมูลเท็จหรือเกินจริงหรือไม่ครบตามความเป็นจริง Greenwashing จึงเป็นอุปสรรคที่สำคัญอย่างหนึ่งของพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน รวมถึงการลงทุนอย่างยั่งยืน Greenwashing เป็นเรื่องสำคัญและเป็นเรื่องที่ต้องระวัง เนื่องจาก -การให้ข้อมูลเท็จและบิดเบือนจะทำลายความน่าเชื่อถือของระบบการเปิดเผยข้อมูล ความถูกต้องและแม่นยำของข้อมูล ซึ่งล้วนเป็นกลไกที่แสดงถึงประสิทธิภาพของตลาดในการกำหนดราคา -เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของผู้บริโภคทำให้เชื่อว่าบริษัทได้ตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และปัญหากำลังได้รับการแก้ไขที่ถูกต้องซึ่งอาจไม่ได้ลดผลกระทบจริง
People Also Search
- Green Washing ข้อมูลอันตราย ทำลายระบบนิเวศความยั่งยืน
- ตอนที่ 5: Green Washing ข้อมูลอันตราย ทำลายระบบนิเวศความยั่งยืน
- การฟอกเขียว (Greenwashing) : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย - ศูนย์พัฒนา ...
- หยุดฟอกเขียว - Greenpeace Thailand
- CSR แบบใดที่เสี่ยงฟอก ... - SDG Move
- เส้นบางของ Greenwashing: เมื่อความยั่งยืนต้องพิสูจน์ด้วยตัวเลขและข้อมูล ...
- ความยั่งยืนยังคงสำคัญ... แต่ผู้บริโภคกำลังจับตา "Greenwashing"
- เขียวจริงไหม? Thailand Taxonomy กับการนิยามการเงินเพื่อความยั่งยืน
- 11 กุมภาพันธ์ 2566 รักษ์โลกจริง…ต้องหยุด Greenwashing
- PDF การฟอกเขียวผ่านมุมมองอาชญาวิทยา
กรุงเทพธุรกิจศุภกร เอกชัยไพบูลย์ฝ่ายพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน 1ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การฟอกเขียวธุรกิจ หรือ Green Washing คือ การเปิดเผยข้อมูลหรือข้อความที่แสดงความเป็นมิตรต่อสังคมและ/หรือสิ่งแวดล้อมของธุรกิจที่เกินความเป็นจริง เพื่อหวังจะให้ธุรกิจสามารถขายของหรือสร้างกำไรบนความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม
กรุงเทพธุรกิจศุภกร เอกชัยไพบูลย์ฝ่ายพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน 1ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การฟอกเขียวธุรกิจ หรือ Green Washing คือ การเปิดเผยข้อมูลหรือข้อความที่แสดงความเป็นมิตรต่อสังคมและ/หรือสิ่งแวดล้อมของธุรกิจที่เกินความเป็นจริง เพื่อหวังจะให้ธุรกิจสามารถขายของหรือสร้างกำไรบนความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม ผมเชื่อว่าผู้บริโภคยุคนี้รับรู้ได้ว่าข้อมูลแบบไหนที่เน้นขายบนค...
การฟอกเขียวช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถทำธุรกิจได้ปกติพร้อมกับแสร้งว่าตนใส่ใจสิ่งแวดล้อมไปด้วย หากเทียบกับการก่อมลพิษแล้วนั้นเทียบได้ว่าภาคธุรกิจไม่ได้ทำอะไรเพื่อสิ่งแวดล้อมเลย การทำธุรกิจรูปแบบนี้เป็นภัยต่อระบบเศรษฐกิจ สังคมและโลกมากกว่าที่เราคิด การฟอกเขียวทำให้กระบวนการเปลี่ยนผ่านระบบที่ยั่งยืนต่อผู้คนและโลกช้าลง กลยุทธ์ฟอกเขียวจากหลายบริษัททำให้เบี่ยงเบนความสนใจของผู้บริโภค และถูกทำให้เชื่อว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมได้รับการแก้ไขที่ถูกต้อง แต่จริง
การฟอกเขียวช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถทำธุรกิจได้ปกติพร้อมกับแสร้งว่าตนใส่ใจสิ่งแวดล้อมไปด้วย หากเทียบกับการก่อมลพิษแล้วนั้นเทียบได้ว่าภาคธุรกิจไม่ได้ทำอะไรเพื่อสิ่งแวดล้อมเลย การทำธุรกิจรูปแบบนี้เป็นภัยต่อระบบเศรษฐกิจ สังคมและโลกมากกว่าที่เราคิด การฟอกเขียวทำให้กระบวนการเปลี่ยนผ่านระบบที่ยั่งยืนต่อผู้คนและโลกช้าลง กลยุทธ์ฟอกเขียวจากหลายบริษัททำให้เบี่ยงเบนความสนใจของผู้บริโภค และถูกทำให้เชื่อว่าปั...
ปัจจุบันการเงินสีเขียวและการลงทุนอย่างยั่งยืนกลายเป็นประเด็นที่ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และนักลงทุนต่างให้ความสนใจ โดยผลสำรวจ YouGov Realtime Omnibus ปี 2022 พบว่าผู้บริโภคไทยราว
ปัจจุบันการเงินสีเขียวและการลงทุนอย่างยั่งยืนกลายเป็นประเด็นที่ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และนักลงทุนต่างให้ความสนใจ โดยผลสำรวจ YouGov Realtime Omnibus ปี 2022 พบว่าผู้บริโภคไทยราว 77% รู้จักฉลากสิ่งแวดล้อม เช่น ฉลากเขียว (Thai Green Label: TGL) คำถามสำคัญจึงอยู่ที่ว่า ความยั่งยืนเหล่านั้นเป็นของจริงหรือเพียงภาพลักษณ์ทางการตลาด แม้วลี ‘เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม’ หรือ ‘การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์’ ...
Greenwashing หรือ การฟอกเขียว คือ การอ้างเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่รับผิดชอบต่อสังคมและใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่อาจไม่ได้มีการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจริง โดยมีการให้ข้อมูลเท็จหรือเกินจริงหรือไม่ครบตามความเป็นจริง Greenwashing จึงเป็นอุปสรรคที่สำคัญอย่างหนึ่งของพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน รวมถึงการลงทุนอย่างยั่งยืน
Greenwashing หรือ การฟอกเขียว คือ การอ้างเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่รับผิดชอบต่อสังคมและใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่อาจไม่ได้มีการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจริง โดยมีการให้ข้อมูลเท็จหรือเกินจริงหรือไม่ครบตามความเป็นจริง Greenwashing จึงเป็นอุปสรรคที่สำคัญอย่างหนึ่งของพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน รวมถึงการลงทุนอย่างยั่งยืน Greenwashing เป็นเรื่องสำคัญและเป็นเรื่องที่ต้องระวัง เนื่องจาก -การให้ข้อมูลเท็จและบิดเบือนจะทำล...