หลุมพรางของการฟอกเขียว Greenwashing Greenpeace Thailand

Leo Migdal
-
หลุมพรางของการฟอกเขียว greenwashing greenpeace thailand

ในขณะที่เราทุกคนออกมาปกป้องโลก หลายบริษัทกลับใช้กลยุทธ์ “การฟอกเขียว” เพื่อสร้างภาพลักษณ์ดูเป็นมิตรต่อโลกและเพิ่มยอดขายให้กับตัวเอง ทุกวันนี้หลายคนออกมาปกป้องโลก หลายฝ่ายออกมาเรียกร้องเพื่อยุติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังเลวร้ายลงอย่างต่อเนื่อง เราเรียนรู้ว่าการเริ่มเปลี่ยนแปลงจากสิ่งเล็ก ๆ สามารถชะลอการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้และหลายบริษัทเอกชนก็รู้เช่นกัน การนำจริยธรรมมาเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจกำลังมาแรงอย่างมากในสหราชอาณาจักร ในปี 2563-2564 มีค่าใช้จ่ายด้านจริยธรรมสำหรับธุรกิจมากขึ้น24% ตีเป็นมูลค่าสูงถึง 122 พันล้านปอนด์ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทต่อประชาชนทั่วไป แต่บางบริษัทเลือกที่จะใช้วิธีง่าย ๆ อย่างการฟอกเขียวเพื่อให้พวกเขามีภาพลักษณ์ที่ดี การฟอกเขียวเป็นหนึ่งในวิธีการสร้างภาพลักษณ์ของบริษัทที่ผลิตสินค้าต่าง ๆ ว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ไม่ได้หมายถึงว่าจะมีการลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจริง ๆ ปัญหาการฟอกเขียวของผู้ประกอบการที่ใช้เรื่องสิ่งแวดล้อมมาเป็นจุดขาย ทั้งๆที่ไม่เป็นความจริง หรือการเผยแพร่ข้อมูลเพียงบางส่วนหรือบิดเบือน เพื่อลวงให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด

กรุงเทพธุรกิจศุภกร เอกชัยไพบูลย์ฝ่ายพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน 1ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การฟอกเขียวธุรกิจ หรือ Green Washing คือ การเปิดเผยข้อมูลหรือข้อความที่แสดงความเป็นมิตรต่อสังคมและ/หรือสิ่งแวดล้อมของธุรกิจที่เกินความเป็นจริง เพื่อหวังจะให้ธุรกิจสามารถขายของหรือสร้างกำไรบนความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม ผมเชื่อว่าผู้บริโภคยุคนี้รับรู้ได้ว่าข้อมูลแบบไหนที่เน้นขายบนความรู้สึกคนมากเกินไป และเมื่อบริษัทประพฤติไม่เหมาะสมหรือสร้างความเดือดร้อนให้ผู้มีส่วนได้เสีย เช่น การรั่วไหลของน้ำมันใน Deepwater Horizon ของ BP หรือเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการรายงานข้อมูลคาร์บอนและการปล่อยมลพิษของ Volkswagen ก็ทำให้เห็นแล้วว่า Green Wash เป็นความเสี่ยงที่ลบทุกความเชื่อมั่นจากธุรกิจ จนสร้างอิมแพคต่อเงินในกระเป๋าบริษัท สอดคล้องกับงานสำรวจของ Harvard Business Review (HBR)[1] ที่แสดงให้เห็นว่าผู้มีส่วนได้เสียจะลงโทษธุรกิจโดยการไม่ลงทุนหรือไม่ซื้อสินค้า และตีตราบริษัทนั้นว่าเป็นธุรกิจ Green Washing หากบริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามนโยบายและเป้าหมายที่สัญญาไว้ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ส่งผลเสียต่อทัศนคติทางสังคมที่มีต่อสินค้าและบริการของบริษัทในระยะยาว ในมิติการลงทุน ข้อมูล ESG ไม่ใช่ผงซักฟอกธุรกิจให้ขาวสะอาดใส ที่ทำให้ท่านมั่นใจว่าธุรกิจเก่ง ดี และพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในพอร์ตการลงทุนของท่าน การที่ทุกฝ่ายลุกขึ้นมาบอกให้ธุรกิจก็ต้องเปิดเผยข้อมูลที่เป็นด้านบวกและลบอย่างสมดุล โดยไม่มีกระบวนการตรวจสอบอย่างเป็นกลาง ยิ่งทับถมปัญหาการใช้ข้อมูล ESG ในการฟอกธุรกิจ ขณะที่คนเปิดเผยข้อมูลก็มองเป็นดาบสองคม เพราะถ้าเปิดข้อมูลที่ลบเกินไป คนก็ไม่กล้าลงทุนเพราะเสี่ยงสูง แต่ถ้าเปิดข้อมูลที่เป็นบวกเกินไป คนก็ไม่กล้าลงทุนอีกเพราะเห็นข้อมูลแค่ด้านเดียว มิหนำซ้ำการมีกระบวนการตรวจสอบทำให้ต้นทุนธุรกิจสูงขึ้นไปอีก ดังนั้น ถ้าต้องเลือก ธุรกิจก็จะเปิดเผยข้อมูลเท่าที่ทำได้ และรายงานแบบ propaganda “โปร ปะ กัน (โดน) ด่า” มากกว่า เราต้องมาขบคิดกันว่าจะจัดการปัญหา Green Washing แบบไหนที่ตอบโจทย์ทั้งธุรกิจและผู้บริโภคข้อมูล ผมอ่านแนวทางหลีกเลี่ยงปัญหาเบื้องต้น พบว่ามีหลากหลายวิธี เช่น การอ้างสิทธิ์ในสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ควรตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับของที่มาสินค้าได้ด้วย หรือบริษัทควรพิสูจน์ได้ว่าข้อมูลของสินค้า บริการ หรือการดำเนินธุรกิจมีหน่วยงานหรือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือเป็นผู้รับรองข้อมูลที่เป็นวิชาการ เป็นต้น คำว่า “ฟอกเขียว(Greenwashing)” อธิบายถึงพฤติกรรมและแนวปฏิบัติของกลุ่มองค์กรและหน่วยธุรกิจเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อใจและดีต่อโลก แต่กลับไม่ได้ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจริงตามที่กล่าวอ้าง

การฟอกเขียวช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถทำธุรกิจได้ปกติพร้อมกับแสร้งว่าตนใส่ใจสิ่งแวดล้อมไปด้วย หากเทียบกับการก่อมลพิษแล้วนั้นเทียบได้ว่าภาคธุรกิจไม่ได้ทำอะไรเพื่อสิ่งแวดล้อมเลย การทำธุรกิจรูปแบบนี้เป็นภัยต่อระบบเศรษฐกิจ สังคมและโลกมากกว่าที่เราคิด การฟอกเขียวทำให้กระบวนการเปลี่ยนผ่านระบบที่ยั่งยืนต่อผู้คนและโลกช้าลง กลยุทธ์ฟอกเขียวจากหลายบริษัททำให้เบี่ยงเบนความสนใจของผู้บริโภค และถูกทำให้เชื่อว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมได้รับการแก้ไขที่ถูกต้อง แต่จริง ๆ แล้วปัญหายังไม่ได้ถูกแก้เลย การฟอกเขียวอาจทำให้เราไม่ได้สนับสนุนบริษัทที่ตั้งใจลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง และไม่ได้ไปกดดันให้บริษัทที่ยังยังฟอกเขียวอยู่ให้เปลี่ยนแปลงไปแก้ปัญหาจริง ๆ กรีนพีซรณรงค์ให้รัฐและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เป็นผู้ก่อมลพิษหลักต้องหยุดดำเนินงานด้วยหลักการฟอกเขียว ซึ่งไม่ช่วยให้สภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมดีขึ้น ตรงกันข้ามกลับส่งผลกระทบต่อโลกและสิทธิชุมชนที่ถูกคุกคามจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วรวมถึงนโยบายการฟอกเขียวที่ลิดรอนสิทธิของประชาชน

People Also Search

ในขณะที่เราทุกคนออกมาปกป้องโลก หลายบริษัทกลับใช้กลยุทธ์ “การฟอกเขียว” เพื่อสร้างภาพลักษณ์ดูเป็นมิตรต่อโลกและเพิ่มยอดขายให้กับตัวเอง ทุกวันนี้หลายคนออกมาปกป้องโลก หลายฝ่ายออกมาเรียกร้องเพื่อยุติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังเลวร้ายลงอย่างต่อเนื่อง เราเรียนรู้ว่าการเริ่มเปลี่ยนแปลงจากสิ่งเล็ก ๆ สามารถชะลอการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้และหลายบริษัทเอกชนก็รู้เช่นกัน การนำจริยธรรมมาเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจกำลังมาแรงอย่างมากในสหราชอาณาจักร

ในขณะที่เราทุกคนออกมาปกป้องโลก หลายบริษัทกลับใช้กลยุทธ์ “การฟอกเขียว” เพื่อสร้างภาพลักษณ์ดูเป็นมิตรต่อโลกและเพิ่มยอดขายให้กับตัวเอง ทุกวันนี้หลายคนออกมาปกป้องโลก หลายฝ่ายออกมาเรียกร้องเพื่อยุติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังเลวร้ายลงอย่างต่อเนื่อง เราเรียนรู้ว่าการเริ่มเปลี่ยนแปลงจากสิ่งเล็ก ๆ สามารถชะลอการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้และหลายบริษัทเอกชนก็รู้เช่นกัน การนำจริยธรรมมาเป็นส่วนหนึ่งขอ...

กรุงเทพธุรกิจศุภกร เอกชัยไพบูลย์ฝ่ายพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน 1ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การฟอกเขียวธุรกิจ หรือ Green Washing คือ การเปิดเผยข้อมูลหรือข้อความที่แสดงความเป็นมิตรต่อสังคมและ/หรือสิ่งแวดล้อมของธุรกิจที่เกินความเป็นจริง เพื่อหวังจะให้ธุรกิจสามารถขายของหรือสร้างกำไรบนความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม

กรุงเทพธุรกิจศุภกร เอกชัยไพบูลย์ฝ่ายพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน 1ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การฟอกเขียวธุรกิจ หรือ Green Washing คือ การเปิดเผยข้อมูลหรือข้อความที่แสดงความเป็นมิตรต่อสังคมและ/หรือสิ่งแวดล้อมของธุรกิจที่เกินความเป็นจริง เพื่อหวังจะให้ธุรกิจสามารถขายของหรือสร้างกำไรบนความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม ผมเชื่อว่าผู้บริโภคยุคนี้รับรู้ได้ว่าข้อมูลแบบไหนที่เน้นขายบนค...

การฟอกเขียวช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถทำธุรกิจได้ปกติพร้อมกับแสร้งว่าตนใส่ใจสิ่งแวดล้อมไปด้วย หากเทียบกับการก่อมลพิษแล้วนั้นเทียบได้ว่าภาคธุรกิจไม่ได้ทำอะไรเพื่อสิ่งแวดล้อมเลย การทำธุรกิจรูปแบบนี้เป็นภัยต่อระบบเศรษฐกิจ สังคมและโลกมากกว่าที่เราคิด การฟอกเขียวทำให้กระบวนการเปลี่ยนผ่านระบบที่ยั่งยืนต่อผู้คนและโลกช้าลง กลยุทธ์ฟอกเขียวจากหลายบริษัททำให้เบี่ยงเบนความสนใจของผู้บริโภค และถูกทำให้เชื่อว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมได้รับการแก้ไขที่ถูกต้อง แต่จริง

การฟอกเขียวช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถทำธุรกิจได้ปกติพร้อมกับแสร้งว่าตนใส่ใจสิ่งแวดล้อมไปด้วย หากเทียบกับการก่อมลพิษแล้วนั้นเทียบได้ว่าภาคธุรกิจไม่ได้ทำอะไรเพื่อสิ่งแวดล้อมเลย การทำธุรกิจรูปแบบนี้เป็นภัยต่อระบบเศรษฐกิจ สังคมและโลกมากกว่าที่เราคิด การฟอกเขียวทำให้กระบวนการเปลี่ยนผ่านระบบที่ยั่งยืนต่อผู้คนและโลกช้าลง กลยุทธ์ฟอกเขียวจากหลายบริษัททำให้เบี่ยงเบนความสนใจของผู้บริโภค และถูกทำให้เชื่อว่าปั...