8 เรื่องที่ Eu แบน Greenwashing เน้นปรับปรุงข้อมูลความทนทานผลิตภัณฑ์

Leo Migdal
-
8 เรื่องที่ eu แบน greenwashing เน้นปรับปรุงข้อมูลความทนทานผลิตภัณฑ์

The EU aims to put an end to greenwashing, when companies claim to be greener than they are, and provide more information to consumers on the durability of products they buy. In order to better protect consumers’ rights, promote environmentally-friendly decisions and create a circular economy that reuses and recycles materials, the European Parliament is working on an update of existing rules regarding commercial practices... Natural, eco, environmentally-friendly... Many products have these labels, but very often those claims are not proven. The EU wants to make sure that all information on a product’s impact on the environment, longevity, reparability, composition, production and usage is backed up by verifiable sources. Parliament wants to make sure that consumers are fully aware of the guarantee period during which consumers can request a repair of faulty products at the expense of the seller.

Under EU law, products have a guarantee of minimum two years. Updated consumer protection rules introduce a new label for products with an extended guarantee period. In March 2022, the European Commission proposed to update EU consumer rules to support the green transition. In September 2023, Parliament and Council reached a provisional agreement on the updated rules. คำว่า Climate Neutral ซึ่งหมายถึงการลดก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดจนเป็นศูนย์ ในขณะที่กำจัดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในเชิงลบอื่นๆ ทั้งหมดที่องค์กรอาจก่อให้เกิดเช่นกัน หรือ Climate positive คือ กิจกรรมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์เพื่อสร้างประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมโดยการกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากชั้นบรรยากาศ ที่ใช้การชดเชย จะถูกแบนจากสหภาพยุโรปภายในปี 2569 โดยเป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามการกล่าวอ้างด้านสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เข้าใจผิด เมื่อวันพุธที่ 17 มกราคม 67 สมาชิกรัฐสภายุโรป [MEPs] ลงมติห้ามการใช้คำต่างๆ เช่น "เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" "ธรรมชาติ" "ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ" "เป็นกลางทางสภาพอากาศ" หรือ "นิเวศน์วิทยา" โดยไม่มีหลักฐาน ขณะเดียวกันก็ออกคำสั่งห้ามทั้งหมด โดยใช้แผนการชดเชยคาร์บอนเพื่อยืนยันข้อเรียกร้อง

ภายใต้คำสั่งใหม่นี้จะอนุญาตเฉพาะ "ฉลากด้านความยั่งยืน" ที่ได้รับอนุมัติเท่านั้น ประเด็นนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากแผน "การชดเชยคาร์บอน" ซึ่งมักถูกนำมาใช้เพื่ออ้างเหตุผลในการติดฉลากผลิตภัณฑ์ว่า "คาร์บอนเป็นกลาง" หรือบอกเป็นนัยว่าผู้บริโภคสามารถซื้อเสื้อผ้าใหม่ หรือกินอาหารบางอย่างได้โดยไม่ทำให้วิกฤตสภาพภูมิอากาศแย่ลง "กฎหมายใหม่นี้ยุติการโฆษณาที่ทำให้เข้าใจผิดสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่ยั่งยืน" Anna Cavazzini สมาชิก Green MEP และประธานคณะกรรมการตลาดภายในและการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าว ตามรายงานของ เดอะการ์เดียน คำสั่งดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการเจรจาหลายเดือนเกี่ยวกับวิธีการควบคุมด้านสิ่งแวดล้อมในสหภาพยุโรป โดยบรรลุข้อตกลงในเดือนกันยายน ขณะนี้ประเทศสมาชิกมีเวลา 2 ปีในการแนะนำกฎใหม่ ล่าสุดรัฐสภาสหภาพยุโรปอนุมัติข้อกฎหมายใหม่ที่มุ่งเน้นการปรับปรุงข้อกำหนดการติดฉลากสำหรับผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ และลดการอ้างสิทธิ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด พร้อมกับข้อจำกัดในการส่งซ่อมแซมอุปกรณ์ ข้อกฎหมายในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อต่อต้านการกล่าวอ้างด้านสิ่งแวดล้อมที่ไม่ได้รับการพิสูจน์โดยผู้ผลิตที่รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ และโฆษณาเช่น “ความเป็นกลางต่อสภาพอากาศ” และ “เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” ที่จำเป็นต้องมีหลักฐาน และรายละเอียดที่ชัดเจน วัตถุประสงค์ของการออกข้อกฎหมายใหม่ในครั้งนี้คือ แก้ไขปัญหาสินค้าที่เสียหายหลังจากสิ้นสุดระยะเวลารับประกันของผู้ผลิต โดยที่ผู้ผลิตจำเป็นต้องให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับทางเลือกในการส่งซ่อม และค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดความสับสนต่อผู้บริโภคที่อาจเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องความยั่งยืนสิ่งแวดล้อม

ในท้ายที่สุดข้อกฎหมายดังกล่าวยังระบุว่าผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ต้องทำงานร่วมกับอุปกรณ์เสริมของ Third Party ได้เต็มประสิทธิภาพโดยไม่จำกัดฟังก์ชันการทำงาน ซึ่งดูแล้วข้อกฎหมายนี้ออกมาเพื่อหยุด Apple โดยเฉพาะที่เคยมีข่าวลือว่า iPhone 15 รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับ USB-C อาจจะทำงานไม่ได้เต็มประสิทธิภาพทั้งชาร์จไฟ และเชื่อมต่อถ่ายโอนข้อมูลเมื่อใช้อุปกรณ์เสริมที่ไม่มีมาตรฐาน MFI (Made For iPhone) ที่มา : .css-uexnnu,.css-uexnnu:focus,.css-uexnnu:visited{color:var(--color-character-base-link);}@media (hover: hover){.css-uexnnu:hover{color:var(--color-character-base-link);}}@media (pointer: coarse){.css-uexnnu:active{color:var(--color-character-base-link);}}GSMArena, EU, 9To5Mac ที่มา : https://www.wealthythai.com/en/updates/sustainability/15439 Greenwashing หรือ การฟอกเขียว คือ การอ้างเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่รับผิดชอบต่อสังคมและใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่อาจไม่ได้มีการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจริง โดยมีการให้ข้อมูลเท็จหรือเกินจริงหรือไม่ครบตามความเป็นจริง Greenwashing จึงเป็นอุปสรรคที่สำคัญอย่างหนึ่งของพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน รวมถึงการลงทุนอย่างยั่งยืน Greenwashing เป็นเรื่องสำคัญและเป็นเรื่องที่ต้องระวัง เนื่องจาก -การให้ข้อมูลเท็จและบิดเบือนจะทำลายความน่าเชื่อถือของระบบการเปิดเผยข้อมูล ความถูกต้องและแม่นยำของข้อมูล ซึ่งล้วนเป็นกลไกที่แสดงถึงประสิทธิภาพของตลาดในการกำหนดราคา

-เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของผู้บริโภคทำให้เชื่อว่าบริษัทได้ตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และปัญหากำลังได้รับการแก้ไขที่ถูกต้องซึ่งอาจไม่ได้ลดผลกระทบจริง ความยั่งยืนยังคงสำคัญ... แต่ผู้บริโภคกำลังจับตา "Greenwashing"ในโลกธุรกิจปัจจุบัน ความยั่งยืน ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำศัพท์ที่น่าสนใจอีกต่อไป แต่กลายเป็นแกนหลักในการดำเนินธุรกิจที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางกระแสความตื่นตัวนี้ ผู้บริโภคก็มีความระมัดระวังและเริ่มตั้งคำถามกับสิ่งที่เรียกว่า "Greenwashing" หรือการที่ธุรกิจอ้างว่าตนเองเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือมีความยั่งยืน โดยปราศจากหลักฐานที่แท้จริง ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งแนวโน้ม: ทำไมความยั่งยืนจึงสำคัญ และ Greenwashing กำลังถูกจับตา?* ความตระหนักรู้ของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น: ผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z และ Millennials มีความตระหนักเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมและสังคมมากขึ้น พวกเขาพร้อมที่จะสนับสนุนแบรนด์ที่มีความรับผิดชอบต่อโลกและชุมชน และคาดหวังให้ธุรกิจทำมากกว่าแค่แสวงหาผลกำไร* การเข้าถึงข้อมูลที่ง่ายขึ้น: ด้วยอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และแนวปฏิบัติของบริษัทได้ง่ายขึ้น พวกเขาสามารถเปรียบเทียบข้อมูล, อ่านรีวิว, หรือแม้กระทั่งสืบค้นเบื้องหลังการผลิต* แรงกดดันจากสังคมและกฎหมาย: ทั้งองค์กรภาคประชาสังคมและหน่วยงานภาครัฐเริ่มให้ความสำคัญกับประเด็นความยั่งยืนมากขึ้น... Sign up to our weekly and monthly, easy-to-digest recap of climate news from around the world. In January 2024, the European Parliament formally approved a new greenwashing directive, requiring member states to introduce stricter rules surrounding the use of environmental claims by companies. Here’s a breakdown of the new directive and what it means for European countries going forward.

In an effort to protect consumers from misleading corporate greenwashing tactics, the Directive on Empowering Consumers for the Green Transition clamps down on unfair commercial practices where environmental claims cannot be sufficiently substantiated by... Intended to be supported by the Green Claims Directive, both legislative acts will work jointly to strengthen consumer rights by putting traders under increased scrutiny on companies’ environmental claims about their business and/or products. In recent years, environmental labels and sustainability comparisons have become increasingly used as marketing tools by companies to persuade consumers into thinking that, by buying their product, they are contributing to the development of... Such claims, however, are often purposefully vague, lacking sufficient elaboration while still creating the illusion of sustainability in order to appeal to a market of consumers who are becoming increasingly concerned about the impact... A 2020 study analysing green online claims conducted by the European Commission found that in over half of the claims surveyed, insufficient information was provided by the trader to enable an accurate assessment of... กรุงเทพธุรกิจศุภกร เอกชัยไพบูลย์ฝ่ายพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน 1ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

การฟอกเขียวธุรกิจ หรือ Green Washing คือ การเปิดเผยข้อมูลหรือข้อความที่แสดงความเป็นมิตรต่อสังคมและ/หรือสิ่งแวดล้อมของธุรกิจที่เกินความเป็นจริง เพื่อหวังจะให้ธุรกิจสามารถขายของหรือสร้างกำไรบนความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม ผมเชื่อว่าผู้บริโภคยุคนี้รับรู้ได้ว่าข้อมูลแบบไหนที่เน้นขายบนความรู้สึกคนมากเกินไป และเมื่อบริษัทประพฤติไม่เหมาะสมหรือสร้างความเดือดร้อนให้ผู้มีส่วนได้เสีย เช่น การรั่วไหลของน้ำมันใน Deepwater Horizon ของ BP หรือเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการรายงานข้อมูลคาร์บอนและการปล่อยมลพิษของ Volkswagen ก็ทำให้เห็นแล้วว่า Green Wash เป็นความเสี่ยงที่ลบทุกความเชื่อมั่นจากธุรกิจ จนสร้างอิมแพคต่อเงินในกระเป๋าบริษัท สอดคล้องกับงานสำรวจของ Harvard Business Review (HBR)[1] ที่แสดงให้เห็นว่าผู้มีส่วนได้เสียจะลงโทษธุรกิจโดยการไม่ลงทุนหรือไม่ซื้อสินค้า และตีตราบริษัทนั้นว่าเป็นธุรกิจ Green Washing หากบริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามนโยบายและเป้าหมายที่สัญญาไว้ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ส่งผลเสียต่อทัศนคติทางสังคมที่มีต่อสินค้าและบริการของบริษัทในระยะยาว ในมิติการลงทุน ข้อมูล ESG ไม่ใช่ผงซักฟอกธุรกิจให้ขาวสะอาดใส ที่ทำให้ท่านมั่นใจว่าธุรกิจเก่ง ดี และพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในพอร์ตการลงทุนของท่าน การที่ทุกฝ่ายลุกขึ้นมาบอกให้ธุรกิจก็ต้องเปิดเผยข้อมูลที่เป็นด้านบวกและลบอย่างสมดุล โดยไม่มีกระบวนการตรวจสอบอย่างเป็นกลาง ยิ่งทับถมปัญหาการใช้ข้อมูล ESG ในการฟอกธุรกิจ ขณะที่คนเปิดเผยข้อมูลก็มองเป็นดาบสองคม เพราะถ้าเปิดข้อมูลที่ลบเกินไป คนก็ไม่กล้าลงทุนเพราะเสี่ยงสูง แต่ถ้าเปิดข้อมูลที่เป็นบวกเกินไป คนก็ไม่กล้าลงทุนอีกเพราะเห็นข้อมูลแค่ด้านเดียว มิหนำซ้ำการมีกระบวนการตรวจสอบทำให้ต้นทุนธุรกิจสูงขึ้นไปอีก ดังนั้น ถ้าต้องเลือก ธุรกิจก็จะเปิดเผยข้อมูลเท่าที่ทำได้ และรายงานแบบ propaganda “โปร ปะ กัน (โดน) ด่า” มากกว่า เราต้องมาขบคิดกันว่าจะจัดการปัญหา Green Washing แบบไหนที่ตอบโจทย์ทั้งธุรกิจและผู้บริโภคข้อมูล ผมอ่านแนวทางหลีกเลี่ยงปัญหาเบื้องต้น พบว่ามีหลากหลายวิธี เช่น การอ้างสิทธิ์ในสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ควรตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับของที่มาสินค้าได้ด้วย หรือบริษัทควรพิสูจน์ได้ว่าข้อมูลของสินค้า บริการ หรือการดำเนินธุรกิจมีหน่วยงานหรือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือเป็นผู้รับรองข้อมูลที่เป็นวิชาการ เป็นต้น

People Also Search

The EU Aims To Put An End To Greenwashing, When

The EU aims to put an end to greenwashing, when companies claim to be greener than they are, and provide more information to consumers on the durability of products they buy. In order to better protect consumers’ rights, promote environmentally-friendly decisions and create a circular economy that reuses and recycles materials, the European Parliament is working on an update of existing rules rega...

Under EU Law, Products Have A Guarantee Of Minimum Two

Under EU law, products have a guarantee of minimum two years. Updated consumer protection rules introduce a new label for products with an extended guarantee period. In March 2022, the European Commission proposed to update EU consumer rules to support the green transition. In September 2023, Parliament and Council reached a provisional agreement on the updated rules. คำว่า Climate Neutral ซึ่งหมา...

ภายใต้คำสั่งใหม่นี้จะอนุญาตเฉพาะ "ฉลากด้านความยั่งยืน" ที่ได้รับอนุมัติเท่านั้น ประเด็นนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากแผน "การชดเชยคาร์บอน" ซึ่งมักถูกนำมาใช้เพื่ออ้างเหตุผลในการติดฉลากผลิตภัณฑ์ว่า "คาร์บอนเป็นกลาง" หรือบอกเป็นนัยว่าผู้บริโภคสามารถซื้อเสื้อผ้าใหม่ หรือกินอาหารบางอย่างได้โดยไม่ทำให้วิกฤตสภาพภูมิอากาศแย่ลง "กฎหมายใหม่นี้ยุติการโฆษณาที่ทำให้เข้าใจผิดสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ภายใต้คำสั่งใหม่นี้จะอนุญาตเฉพาะ "ฉลากด้านความยั่งยืน" ที่ได้รับอนุมัติเท่านั้น ประเด็นนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากแผน "การชดเชยคาร์บอน" ซึ่งมักถูกนำมาใช้เพื่ออ้างเหตุผลในการติดฉลากผลิตภัณฑ์ว่า "คาร์บอนเป็นกลาง" หรือบอกเป็นนัยว่าผู้บริโภคสามารถซื้อเสื้อผ้าใหม่ หรือกินอาหารบางอย่างได้โดยไม่ทำให้วิกฤตสภาพภูมิอากาศแย่ลง "กฎหมายใหม่นี้ยุติการโฆษณาที่ทำให้...

ในท้ายที่สุดข้อกฎหมายดังกล่าวยังระบุว่าผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ต้องทำงานร่วมกับอุปกรณ์เสริมของ Third Party ได้เต็มประสิทธิภาพโดยไม่จำกัดฟังก์ชันการทำงาน ซึ่งดูแล้วข้อกฎหมายนี้ออกมาเพื่อหยุด Apple โดยเฉพาะที่เคยมีข่าวลือว่า IPhone

ในท้ายที่สุดข้อกฎหมายดังกล่าวยังระบุว่าผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ต้องทำงานร่วมกับอุปกรณ์เสริมของ Third Party ได้เต็มประสิทธิภาพโดยไม่จำกัดฟังก์ชันการทำงาน ซึ่งดูแล้วข้อกฎหมายนี้ออกมาเพื่อหยุด Apple โดยเฉพาะที่เคยมีข่าวลือว่า iPhone 15 รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับ USB-C อาจจะทำงานไม่ได้เต็มประสิทธิภาพทั้งชาร์จไฟ และเชื่อมต่อถ่ายโอนข้อมูลเมื่อใช้อุปกรณ์เสริมที่ไม่มีมาตรฐาน MFI (Made For iPhone) ที่มา : .css-uexnnu,....

-เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของผู้บริโภคทำให้เชื่อว่าบริษัทได้ตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และปัญหากำลังได้รับการแก้ไขที่ถูกต้องซึ่งอาจไม่ได้ลดผลกระทบจริง ความยั่งยืนยังคงสำคัญ... แต่ผู้บริโภคกำลังจับตา "Greenwashing"ในโลกธุรกิจปัจจุบัน ความยั่งยืน ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำศัพท์ที่น่าสนใจอีกต่อไป แต่กลายเป็นแกนหลักในการดำเนินธุรกิจที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางกระแสความตื่นตัวนี้

-เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของผู้บริโภคทำให้เชื่อว่าบริษัทได้ตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และปัญหากำลังได้รับการแก้ไขที่ถูกต้องซึ่งอาจไม่ได้ลดผลกระทบจริง ความยั่งยืนยังคงสำคัญ... แต่ผู้บริโภคกำลังจับตา "Greenwashing"ในโลกธุรกิจปัจจุบัน ความยั่งยืน ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำศัพท์ที่น่าสนใจอีกต่อไป แต่กลายเป็นแกนหลักในการดำเนินธุรกิจที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางกระแสความตื่นต...