Six Sigma ศาสตร์สําคัญสู่สายการผลิตไร้ที่ติ
Six Sigma คือแนวทางการปรับปรุงกระบวนการเชิงสถิติที่มีเป้าหมายหลักในการลดข้อบกพร่องและความผันแปรภายในกระบวนการให้ใกล้เคียงกับศูนย์มากที่สุด แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากความต้องการขององค์กรในการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มข้น เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ เสริมสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าในระยะยาว และลดต้นทุนที่เกิดจากความสูญเสียในกระบวนการผลิตหรือการดำเนินงานต่าง ๆ Sigma (σ) ในทางสถิติหมายถึงส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (standard deviation) ซึ่งชี้วัดการกระจายตัวของค่าข้อมูลรอบค่าเฉลี่ย กระบวนการที่อยู่ในระดับ Six Sigma ไม่เพียงแต่ลดข้อบกพร่องให้เหลือไม่เกิน 3.4 หน่วยต่อหนึ่งล้านโอกาสเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความสามารถในการควบคุมการเปลี่ยนแปลงของกระบวนการให้อยู่ภายในขอบเขตที่กำหนด ตามหลักสถิติอย่างเข้มงวด การเริ่มต้นจากการวัดค่าเบื้องต้นเกี่ยวกับ ‘ค่าเฉลี่ย (mean)’ และค่า ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน นี้ช่วยให้มองเห็นภาพรวมของการกระจายตัว หลังจากนั้นจึงนำข้อมูลมาสร้างแผนภูมิการควบคุม (Control Chart) เพื่อตรวจสอบความผันแปรในแต่ละช่วงเวลาและกำหนดขีดจำกัดบน–ล่าง (Upper and Lower Control Limits) ที่อ้างอิงจากค่าเฉลี่ยบวกหรือลบทวีคูณของค่า σ เมื่อพบว่าค่าต่าง ๆ เกินขอบเขตที่กำหนดไว้ จะต้องวิเคราะห์หาสาเหตุรากลึกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ กระบวนการยังพิจารณาถึงแนวคิดการเบี่ยงเบนระยะยาว (Long‑term shift) ที่อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมการทำงานหรือการเสื่อมสภาพของเครื่องจักร ทำให้ต้องเผื่อความคลาดเคลื่อนไว้ล่วงหน้าและออกแบบกรอบควบคุมให้ครอบคลุมปัจจัยเหล่านี้ การประยุกต์ใช้หลักสถิติที่ซับซ้อน เช่น การคำนวณดัชนีศักยภาพกระบวนการ (Process Capability Indices: Cp, Cpk) ยิ่งช่วยยืนยันว่ากระบวนการสามารถส่งมอบงานที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างสม่ำเสมอและมั่นคงตลอดช่วงเวลาการดำเนินงาน Six Sigma วางกรอบการดำเนินงานสำคัญสองชุดเพื่อรองรับความต้องการทั้งใน ’การปรับปรุงกระบวนการที่มีอยู่ ‘ และ การออกแบบกระบวนการใหม่ให้สอดคล้องกับความต้องการทางธุรกิจ เคยสงสัยไหมว่าบริษัทชั้นนำของโลกอย่าง Motorola หรือ General Electric หรือ บริษัทชั้นนำอื่น ๆ สามารถผลิตสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูงอย่างสม่ำเสมอได้อย่างไร?
คำตอบสำคัญส่วนหนึ่งอยู่ที่หลักการที่เรียกว่า Six Sigma (6σ) ซึ่งเป็นกลยุทธ์การบริหารจัดการที่มุ่งเน้นการปรับปรุงคุณภาพและลดข้อบกพร่องในกระบวนการให้เหลือน้อยที่สุด โดยหากจะตอบคำถามว่า Six Sigma คืออะไรให้เข้าใจง่ายที่สุด มันคือ “เป้าหมายและแนวทางในการทำให้กระบวนการทำงานเกิดข้อผิดพลาดไม่เกิน 3.4 ครั้งต่อการดำเนินงานหนึ่งล้านครั้ง” ซึ่ง Six Sigma นั้นเป็นระดับความสมบูรณ์แบบในระดับ 99.99966% ทั้งนี้ แนวคิดนี้ไม่ได้เป็นเพียงทฤษฎีที่สวยหรู แต่เป็นชุดเครื่องมือทางสถิติและหลักการที่จับต้องได้ เพื่อใช้ในการค้นหาและกำจัดสาเหตุของความผิดพลาด ซึ่งนำไปสู่การลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และที่สำคัญที่สุดคือการเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า Six Sigma คือ แนวทางและเป้าหมายในการควบคุมคุณภาพให้เกิดความผิดพลาดในการดำเนินงานให้น้อยกว่า 3.4 ครั้ง ต่อการดำเนินงาน 1 ล้านครั้ง เรียกว่า Defects Per Million Opportunities หรือ DPMO ซึ่งหมายความว่า Six Sigma เป็นระดับความสมบูรณ์แบบในการดำเนินงานที่ระดับ 99.99966% กล่าวคือ ถ้าหากสายการผลิตมี Six Sigma เป็นเป้าหมาย นั่นหมายความว่าในการผลิต 1 ล้านชิ้น จะเกิดความผิดพลาดในการผลิตได้ไม่เกิน 3.4 ชิ้น สารานุกรมการบริหารและการจัดการ Six Sigma: แนวคิดและการนำไปปฏิบัติ
Six Sigma คือแนวคิดและเทคนิคการพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการด้วยการปรับปรุงกระบวนการผลิตและกระบวนการทำงาน (ต่อไปในบทความนี้ใช้คำว่ากระบวนการเพื่อไม่ให้เยิ่นเย้อ) Six Sigma เป็นแนวคิดที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าสามารถลดงานที่บกพร่อง (defect), ความสูญเปล่า (waste), และความไม่แน่นอน (variation) ในกระบวนการได้จริง Dr. Mikel Harry ผู้ได้ชื่อว่าเป็นบิดาของ Six Sigma ร่วมกับ Bill Smith และทีมวิศวกรของบริษัท Motorolla พัฒนาแนวคิดนี้ในปี ค.ศ. 1986 จดลิขสิทธิ์เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ค.ศ. 1991 บริษัท Motorola ได้กำหนดให้ใช้ Six Sigma เป็นแนวทางการผลิตสินค้าของบริษัท ส่งผลให้ สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในกระบวนการต่างๆ ของบริษัทจนถึงปี 2005 ได้มากกว่า 17,000 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจาก Motorolla แล้ว ยังมีบริษัทขนาดใหญ่อีกหลายแห่งที่นำ Six Sigma ไปใช้ เช่น Honeywell, General Electric ในต้นทศวรรษที่ 2000 พบว่าสองในสามขององค์กรทั้งหมดใน Fortune 500 ได้เริ่มนำแนวคิดนี้ไปใช้เพื่อลดต้นทุนและปรับปรุงคุณภาพสินค้าบริการในธุรกิจของตน Six Sigma ปรับปรุงคุณภาพของผลผลิตด้วยการระบุและกำจัดสาเหตุของงานที่บกพร่อง รวมทั้งลดความไม่แน่นอนในกระบวนการให้เหลือน้อยที่สุด การบริหารงานคุณภาพตามหลัก Six Sigma จะใช้การสังเกต, วิธีการทางสถิติ, และการพัฒนาบุคลากรในองค์กรให้มีความชำนาญในการปฏิบัติ โครงการ Six Sigma แต่ละโครงการจะประกอบด้วยกิจกรรมซึ่งมีเป้าหมายกำหนดไว้เป็นการเฉพาะ ตัวอย่างกิจกรรมในโครงการ Six Sigma เช่น ลดรอบระยะเวลาที่ใช้ในการผลิต (cycle time), ลดงานที่บกพร่อง, ลดมลพิษ, ลดต้นทุนการผลิต, สร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า, เพิ่มผลกำไร
ความหมาย Sigma เป็นพยัญชนะตัวหนึ่งในภาษากรีกที่นักสถิตินำมาใช้แสดงระดับความเชื่อมั่นในกระบวนการ รวมถึงระดับความสามารถของกระบวนการในการผลิตงานให้ครบถ้วนตามข้อกำหนด (specification) กระบวนการที่มีคุณภาพระดับ Six Sigma คือกระบวนการที่คาดหมายได้ว่าจะมีโอกาสเกิดงานที่บกพร่องไม่เกิน 3.4 ส่วนต่อล้านส่วน (เนื่องจากงานที่ผลิตในโครงการ Six Sixma มีหลายรูปแบบ จึงใช้คำว่าส่วน แทนคำว่าชิ้น) แต่เนื่องจากในการปรับปรุงกระบวนการไม่จำเป็นจะต้องตั้งเป้าหมายให้มีงานที่บกพร่องไม่เกิน 3.4 ส่วนต่อล้านส่วนในทุกขั้นตอน จึงเป็นหน้าที่ของผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญในกระบวนการที่จะต้องจัดลำดับความสำคัญและกำหนดระดับ Sigma ที่เหมาะสมในแต่ละขั้นตอนหรือแต่ละกระบวนการย่อย Six Sigma (6σ) is a set of techniques and tools for process improvement. It was introduced by American engineer Bill Smith while working at Motorola in 1986.[1][2] Six Sigma strategies seek to improve manufacturing quality by identifying and removing the causes of defects and minimizing variability in manufacturing and business processes. This is done by using empirical and statistical quality management methods and by hiring people who serve as Six Sigma experts. Each Six Sigma project follows a defined methodology and has specific value targets, such as reducing pollution or increasing customer satisfaction.
The term Six Sigma originates from statistical quality control, a reference to the fraction of a normal curve that lies within six standard deviations of the mean, used to represent a defect rate. Motorola pioneered Six Sigma, setting a "six sigma" goal for its manufacturing business. It registered Six Sigma as a service mark on June 11, 1991 (U.S. Service Mark 1,647,704); on December 28, 1993, it registered Six Sigma as a trademark. In 2005, Motorola attributed over $17 billion in savings to Six Sigma.[3] Honeywell and General Electric were also early adopters of Six Sigma.
As GE's CEO, in 1995 Jack Welch made it central to his business strategy.[4] In 1998, GE announced $350 million in cost savings thanks to Six Sigma, which was an important factor in the...
People Also Search
- Six Sigma ศาสตร์สำคัญสู่สายการผลิตไร้ที่ติ
- Six Sigma คืออะไร? เข้าใจง่ายสำหรับผู้เริ่มต้น
- Six Sigma คืออะไร? ไขความลับการปรับปรุงคุณภาพสู่กระบวนการที่สมบูรณ์แบบ ...
- "Lean Six Sigma: เส้นทางสู่ความเป็นเลิศด้านคุณภาพและประสิทธิภาพองค์กร"
- 6 Sigma Principles - ดร. ปิยนันท์ สวัสดิ์ศฤงฆาร
- การบริหารคุณภาพด้วย Six Sigma | ข้อมูลด้านการบริหารจัดการ โดย SIAMHRM.COM
- MM Modern Manufacturing - Six Sigma คืออะไร ... - Facebook
- Six Sigma - Wikipedia
- PDF Six Sigma เบื้องต้น และการประยุกต์ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ
Six Sigma คือแนวทางการปรับปรุงกระบวนการเชิงสถิติที่มีเป้าหมายหลักในการลดข้อบกพร่องและความผันแปรภายในกระบวนการให้ใกล้เคียงกับศูนย์มากที่สุด แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากความต้องการขององค์กรในการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มข้น เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ เสริมสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าในระยะยาว และลดต้นทุนที่เกิดจากความสูญเสียในกระบวนการผลิตหรือการดำเนินงานต่าง ๆ Sigma (σ)
Six Sigma คือแนวทางการปรับปรุงกระบวนการเชิงสถิติที่มีเป้าหมายหลักในการลดข้อบกพร่องและความผันแปรภายในกระบวนการให้ใกล้เคียงกับศูนย์มากที่สุด แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากความต้องการขององค์กรในการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มข้น เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ เสริมสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าในระยะยาว และลดต้นทุนที่เกิดจากความสูญเสียในกระบวนการผลิตหรือการดำเนินงานต่าง ๆ Sigma (σ) ในทางสถิติหมายถึงส่ว...
คำตอบสำคัญส่วนหนึ่งอยู่ที่หลักการที่เรียกว่า Six Sigma (6σ) ซึ่งเป็นกลยุทธ์การบริหารจัดการที่มุ่งเน้นการปรับปรุงคุณภาพและลดข้อบกพร่องในกระบวนการให้เหลือน้อยที่สุด โดยหากจะตอบคำถามว่า Six Sigma คืออะไรให้เข้าใจง่ายที่สุด มันคือ
คำตอบสำคัญส่วนหนึ่งอยู่ที่หลักการที่เรียกว่า Six Sigma (6σ) ซึ่งเป็นกลยุทธ์การบริหารจัดการที่มุ่งเน้นการปรับปรุงคุณภาพและลดข้อบกพร่องในกระบวนการให้เหลือน้อยที่สุด โดยหากจะตอบคำถามว่า Six Sigma คืออะไรให้เข้าใจง่ายที่สุด มันคือ “เป้าหมายและแนวทางในการทำให้กระบวนการทำงานเกิดข้อผิดพลาดไม่เกิน 3.4 ครั้งต่อการดำเนินงานหนึ่งล้านครั้ง” ซึ่ง Six Sigma นั้นเป็นระดับความสมบูรณ์แบบในระดับ 99.99966% ทั้งนี้ แ...
Six Sigma คือแนวคิดและเทคนิคการพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการด้วยการปรับปรุงกระบวนการผลิตและกระบวนการทำงาน (ต่อไปในบทความนี้ใช้คำว่ากระบวนการเพื่อไม่ให้เยิ่นเย้อ) Six Sigma เป็นแนวคิดที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าสามารถลดงานที่บกพร่อง (defect), ความสูญเปล่า (waste),
Six Sigma คือแนวคิดและเทคนิคการพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการด้วยการปรับปรุงกระบวนการผลิตและกระบวนการทำงาน (ต่อไปในบทความนี้ใช้คำว่ากระบวนการเพื่อไม่ให้เยิ่นเย้อ) Six Sigma เป็นแนวคิดที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าสามารถลดงานที่บกพร่อง (defect), ความสูญเปล่า (waste), และความไม่แน่นอน (variation) ในกระบวนการได้จริง Dr. Mikel Harry ผู้ได้ชื่อว่าเป็นบิดาของ Six Sigma ร่วมกับ Bill Smith และทีมวิศวกรขอ...
ความหมาย Sigma เป็นพยัญชนะตัวหนึ่งในภาษากรีกที่นักสถิตินำมาใช้แสดงระดับความเชื่อมั่นในกระบวนการ รวมถึงระดับความสามารถของกระบวนการในการผลิตงานให้ครบถ้วนตามข้อกำหนด (specification) กระบวนการที่มีคุณภาพระดับ Six Sigma คือกระบวนการที่คาดหมายได้ว่าจะมีโอกาสเกิดงานที่บกพร่องไม่เกิน 3.4
ความหมาย Sigma เป็นพยัญชนะตัวหนึ่งในภาษากรีกที่นักสถิตินำมาใช้แสดงระดับความเชื่อมั่นในกระบวนการ รวมถึงระดับความสามารถของกระบวนการในการผลิตงานให้ครบถ้วนตามข้อกำหนด (specification) กระบวนการที่มีคุณภาพระดับ Six Sigma คือกระบวนการที่คาดหมายได้ว่าจะมีโอกาสเกิดงานที่บกพร่องไม่เกิน 3.4 ส่วนต่อล้านส่วน (เนื่องจากงานที่ผลิตในโครงการ Six Sixma มีหลายรูปแบบ จึงใช้คำว่าส่วน แทนคำว่าชิ้น) แต่เนื่องจากในการปรั...
The Term Six Sigma Originates From Statistical Quality Control, A
The term Six Sigma originates from statistical quality control, a reference to the fraction of a normal curve that lies within six standard deviations of the mean, used to represent a defect rate. Motorola pioneered Six Sigma, setting a "six sigma" goal for its manufacturing business. It registered Six Sigma as a service mark on June 11, 1991 (U.S. Service Mark 1,647,704); on December 28, 1993, it...