ททท เปิดแผนปี 67 ฟื้นรายได้สะพัดทั่วไทย 3 ล้านล้าน ล็อกเป้าต่างชาติ 3
ททท. แถลงทิศทาง การส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 2567 ประกาศเร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยสู่บทต่อไปที่ดีขึ้น (Moving forward to Better) ทั้งฝั่ง Supply และ Demand ด้วยหัวใจหลักของการสร้างระบบนิเวศใหม่ที่มีคุณค่า สมดุลและยั่งยืน พร้อมเสริมภูมิคุ้มกันสร้างความมั่นคงทางการท่องเที่ยว ก้าวสู่ High Value and Sustainable Tourism อย่างแท้จริง มั่นใจฟื้นรายได้สูงสุด 3 ล้านล้านบาท เทียบเท่าปี 2562 โดยได้รับเกียรติจาก ‘พิพัฒน์ รัชกิจประการ’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานกล่าวเปิดงาน พร้อมด้วยนายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคณะกรรมการ ททท. รวมถึงภาคเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เข้าร่วมงาน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ปี พ.ศ.
2567 ถือเป็นปีแห่งการเร่ง “ฟื้นฟู” (Resilience) พร้อมพลิกโฉมสู่ High Value and Sustainable Tourism ที่เน้นคุณค่าและความยั่งยืน ททท. จึงได้ยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและ ททท. แบบ Moving forward to Better เดินหน้าต่อเนื่องสู่ก้าวต่อไปของการท่องเที่ยวไทยที่ดียิ่งขึ้น โดยมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การสร้างระบบนิเวศทางการท่องเที่ยวใหม่ New Ecosystem ด้วยการลดการพึ่งพานักท่องเที่ยวจำนวนมาก สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง พัฒนาห่วงโซ่อุปทานร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมฯ ให้พร้อมรับกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ รวมทั้งกระจายรายได้สู่ฐานรากอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม เพื่อให้เกิดความสมดุลทั้งมิติความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ มิติสังคมอยู่ดีมีสุข มิติสิ่งแวดล้อมที่ดี และมิติภูมิปัญญา อีกหนึ่งในความพยายามของ ททท. คือ การสร้าง“ความมั่นคงทางการท่องเที่ยว” หรือ Tourism Security เพื่อให้มั่นใจว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจะเติบโตอย่างเข้มแข็ง “ล้มให้เป็น” “ลุกให้ไว”และ “ไปต่อ” อย่างมีภูมิคุ้มกันระยะยาว สามารถเผชิญวิกฤติเชิงซ้อน (Polycrisis) ที่เกิดขึ้นได้ จึงมุ่งมั่นเสริมทัพด้วย 4 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ 1) เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทานบนพื้นฐานของคุณภาพและความยั่งยืน สอดรับกับความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ และกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม 2) พัฒนาปัจจัยสนับสนุนการท่องเที่ยวและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยว เอื้อต่อการเดินทางอย่างสะดวกและปลอดภัย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดี มีคุณค่าอย่างเท่าเทียม ทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ 3) ใช้ประโยชน์จากการปรับเปลี่ยนสู่โลกดิจิทัล เพิ่ม Digital Literacy ลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล เน้นการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มมูลค่าและความยั่งยืน และสุดท้าย 4) ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความเสี่ยงภายนอก อย่างมีประสิทธิภาพ
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.กำลังจัดทำแผนแผนท่องเที่ยวประจำปี 2567 โดยใช้กรอบนโยบายแผนวิสาหกิจ 5 ปี ระหว่างปี 2566-2570 เป็นแนวทางปฏิบัติ ขับเคลื่อนด้วยยุทธศาสตร์ภาพใหญ่ทำให้ไทยเป็นผู้นำการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ควบคู่กับการท่องเที่ยวยั่งยืน ด้วย 3 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 1 “กระตุ้นอุปสงค์/demand” โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวคุณภาพเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ยุทธศาสตร์ที่ 2 ผลักดัน “อุปทาน/supply side” โดยสร้าง Eco-system ใหม่เพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพเพิ่มมากขึ้น ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาคุณภาพบุคลากรภายในองค์กร ด้วยการนำเทคโนโลยีด้าน... ปี 2567 จะต้องทำให้ได้ไม่น้อยกว่าสถานการณ์ปกติปี 2562 ก่อนเกิดโควิด-19 ซึ่งไทยมีรายได้ท่องเที่ยวรวม 3 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้มาจากตลาดต่างประเทศ 1.8 ล้านล้านบาท และตลาดในประเทศ 1.2 ล้านล้านบาท สำหรับ “ตลาดต่างประเทศ” ปี 2567 จะเติบโตเพิ่มขึ้นจำนวนนักท่องเที่ยวรวมทั้งหมดกว่า 30 ล้านคน ตามแผน ของททท.จะล็อกเป้าหมายโดยเล็งตลาดไปยัง “ 3 พื้นที่” ประกอบด้วย พื้นที่ที่ 1 เอเชีย คือ “สาธารณรัฐประชาชนจีน” แนวโน้มน่าจะกลับมาฟื้นตัวเต็มที่เพิ่มขึ้นใกล้เคียงปี 2562 ซึ่งจะเห็นนักเดินทางจีนเข้าไทยเริ่มตั้งแต่วันชาติจีนปลายปี 2566 เป็นต้นไป ผนวกกับการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินช่วงตารางบินฤดูร้อนปลายเดือนตุลาคม 2566 เป็นต้นไป พื้นที่ที่ 2 ยุโรป มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง และนักเดินทางส่วนใหญ่ยังคงมีอารมณ์ “ท่องเที่ยวล้างแค้น” หรือ Revenge Travel เป็นลักษณะการเที่ยวชดเชยช่วงเวลาและประสบการณ์ที่เสียไปตอนสถานการณ์โควิด ตอนนี้มีสัญญาณการเพิ่มทั้งจำนวนที่นั่งและความถี่เที่ยวบินข้ามทวีป จะช่วยทำให้ “ราคาตั๋วเครื่องบิน” ลดลงได้ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วยนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท.
ร่วมแถลงทิศทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 2567 ประกาศเร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยสู่บทต่อไปที่ดีขึ้น (Moving forward to Better) ทั้งฝั่ง Supply และ Demand ด้วยหัวใจหลักของการสร้างระบบนิเวศใหม่ที่มีคุณค่า สมดุลและยั่งยืน พร้อมเสริมภูมิคุ้มกันสร้างความมั่นคงทางการท่องเที่ยว ก้าวสู่ High Value and Sustainable Tourism อย่างแท้จริง มั่นใจฟื้นรายได้สูงสุด 3 ล้านล้านบาท เทียบเท่าปี 2562 โดยได้รับเกียรติจากนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน กล่าวเปิดงาน พร้อมด้วยนายอารัญ บุญชัย... รวมถึงภาคเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เข้าร่วมงาน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ปี พ.ศ. 2567 ถือเป็นปีแห่งการเร่ง “ฟื้นฟู” (Resilience) พร้อมพลิกโฉมสู่ High Value and Sustainable Tourism ที่เน้นคุณค่าและความยั่งยืน ททท.
จึงได้ยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและ ททท. แบบ Moving forward to Better เดินหน้าต่อเนื่องสู่ก้าวต่อไปของการท่องเที่ยวไทยที่ดียิ่งขึ้น โดยมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การสร้างระบบนิเวศทางการท่องเที่ยวใหม่ New Ecosystem ด้วยการลดการพึ่งพานักท่องเที่ยวจำนวนมาก สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง พัฒนาห่วงโซ่อุปทานร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมฯ ให้พร้อมรับกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ รวมทั้งกระจายรายได้สู่ฐานรากอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม เพื่อให้เกิดความสมดุลทั้งมิติความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ มิติสังคมอยู่ดีมีสุข มิติสิ่งแวดล้อมที่ดี และมิติภูมิปัญญา อีกหนึ่งในความพยายามของ ททท. คือ การสร้าง“ความมั่นคงทางการท่องเที่ยว” หรือ Tourism Security เพื่อให้มั่นใจว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจะเติบโตอย่างเข้มแข็ง “ล้มให้เป็น” “ลุกให้ไว” และ “ไปต่อ” อย่างมีภูมิคุ้มกันระยะยาว สามารถเผชิญวิกฤติเชิงซ้อน (Polycrisis) ที่เกิดขึ้นได้จึงมุ่งมั่นเสริมทัพด้วย 4 ปัจจัย สำคัญ ได้แก่ 1) เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทานบนพื้นฐานของคุณภาพและความยั่งยืน สอดรับกับความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ และกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม 2) พัฒนาปัจจัยสนับสนุนการท่องเที่ยวและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวเอื้อต่อการเดินทางอย่างสะดวกและปลอดภัย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีคุณค่าอย่างเท่าเทียม ทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ
ททท. เปิดแผนตลาด ปี 67 เร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทย พร้อมดันรายได้ท่องเที่ยวให้ประเทศรวม 3 ล้านล้านบาท ส่วนปีนี้ ยังคงรายได้รวมที่ 2.38 ล้านล้านบาท พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อน Soft Power ต่อเนื่องตามนโยบายรัฐบาล 18 ก.ค.2566-นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยถึงทิศทาง การส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 2567ว่าได้ตั้งเป้าหมายอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ปี 2567 ผลักดันรายได้ในระดับใกล้เคียงกับรายได้ที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยได้รับในปี 2562 ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยบนพื้นฐานของสถานการณ์ท่องเที่ยวที่มีปัจจัยเอื้ออำนวยในทุกด้าน จะมีรายได้จากการท่องเที่ยว รวมทั้งสิ้น 3 ล้านล้านบาท ทั้งนี้แบ่งเป็นรายได้จากต่างประเทศ 1.92 ล้านล้านบาท ดึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าไทย จำนวน 35 ล้านคน ตลาดในประเทศ สร้างรายได้หมุนเวียน 1.08 ล้านล้านบาท จากการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทย 200 ล้านคน-ครั้ง ขณะที่ปี 2566 ยังคงยืนยันเป้าหมายรายได้รวมที่ 2.38 ล้านล้านบาท มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย ที่ 25-30 ล้านคน นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ปี 2567 จะเร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยสู่บทต่อไปที่ดีขึ้น ทั้งฝั่ง Supply และ Demand ด้วยหัวใจหลักของการสร้างระบบนิเวศใหม่ที่มีคุณค่า สมดุลและยั่งยืน พร้อมเสริมภูมิคุ้มกันสร้างความมั่นคงทางการท่องเที่ยว ก้าวสู่ High Value and Sustainable Tourism อย่างแท้จริง สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง พัฒนาห่วงโซ่อุปทานร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมฯ ให้พร้อมรับกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ รวมทั้งกระจายรายได้สู่ฐานรากอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ทั้งนี้ ททท.ได้วางฉากทัศน์ (Scenario) ของภาคท่องเที่ยวไทยปี 2567 ไว้ 3 กรณี โดยยึดกรณีที่ 1 ดีที่สุด หรือ Best Case คือ การสร้างรายได้รวม 3 ล้านล้านบาท ฟื้นตัว 100% แบ่งเป็นตลาดต่างประเทศ 1.92 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 35 ล้านคน และตลาดในประเทศ 1.08 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวไทย 200 ล้านคน-ครั้ง กรณีที่ 2...
เย็นวานนี้ (17 กรกฎาคม 2566) นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วยนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. ร่วมแถลงทิศทาง การส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 2567 ประกาศเร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยสู่บทต่อไปที่ดีขึ้น (Moving forward to Better) ทั้งฝั่ง Supply และ Demand ด้วยหัวใจหลักของการสร้างระบบนิเวศใหม่ที่มีคุณค่า สมดุลและยั่งยืน พร้อมเสริมภูมิคุ้มกันสร้างความมั่นคงทางการท่องเที่ยว ก้าวสู่ High Value and Sustainable Tourism อย่างแท้จริง มั่นใจฟื้นรายได้สูงสุด 3 ล้านล้านบาท เทียบเท่าปี 2562 โดยได้รับเกียรติจากนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานกล่าวเปิดงาน พร้อมด้วยนายอารัญ บุญชัย... รวมถึงภาคเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เข้าร่วมงาน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทั้งนี้ ททท. ตั้งเป้าหมายอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ปี 2567 ผลักดันรายได้ในระดับใกล้เคียงกับรายได้ที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยได้รับในปี 2562 ก่อนสถานการณ์การเผยแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยบนพื้นฐานของสถานการณ์ท่องเที่ยวที่มีปัจจัยเอื้ออำนวยในทุกด้าน (Best Case Scenario) จะมีรายได้จากการท่องเที่ยว รวมทั้งสิ้น 3 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากต่างประเทศ 1.92 ล้านล้านบาท ดึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าไทยจำนวน 35 ล้านคน ขณะที่ตลาดในประเทศ สร้างรายได้หมุนเวียน 1.08 ล้านล้านบาท จากการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทย 200 ล้านคน-ครั้ง 17 กรกฎาคม 2566 นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วยนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท.
ร่วมแถลงทิศทาง การส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 2567 ประกาศเร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยสู่บทต่อไปที่ดีขึ้น (Moving forward to Better) ทั้งฝั่ง Supply และ Demand ด้วยหัวใจหลักของการสร้างระบบนิเวศใหม่ที่มีคุณค่า สมดุลและยั่งยืน พร้อมเสริมภูมิคุ้มกันสร้างความมั่นคงทางการท่องเที่ยว ก้าวสู่ High Value and Sustainable Tourism อย่างแท้จริง มั่นใจฟื้นรายได้สูงสุด 3 ล้านล้านบาท เทียบเท่าปี 2562 โดยได้รับเกียรติจากนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานกล่าวเปิดงาน พร้อมด้วยนายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคณะกรรมการ ททท. รวมถึงภาคเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เข้าร่วมงาน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ปี พ.ศ. 2567 ถือเป็นปีแห่งการเร่ง “ฟื้นฟู” (Resilience) พร้อมพลิกโฉมสู่ High Value and Sustainable Tourism ที่เน้นคุณค่าและความยั่งยืน ททท.
จึงได้ยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและ ททท. แบบ Moving forward to Better เดินหน้าต่อเนื่องสู่ก้าวต่อไปของการท่องเที่ยวไทยที่ดียิ่งขึ้น โดยมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การสร้างระบบนิเวศทางการท่องเที่ยวใหม่ New Ecosystem ด้วยการลดการพึ่งพานักท่องเที่ยวจำนวนมาก สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง พัฒนาห่วงโซ่อุปทานร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมฯ ให้พร้อมรับกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ รวมทั้งกระจายรายได้สู่ฐานรากอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม เพื่อให้เกิดความสมดุลทั้งมิติความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ มิติสังคมอยู่ดีมีสุข มิติสิ่งแวดล้อมที่ดี และมิติภูมิปัญญา อีกหนึ่งในความพยายามของ ททท. คือ การสร้าง“ความมั่นคงทางการท่องเที่ยว” หรือ Tourism Security เพื่อให้มั่นใจว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจะเติบโตอย่างเข้มแข็ง “ล้มให้เป็น” “ลุกให้ไว” และ “ไปต่อ” อย่างมีภูมิคุ้มกันระยะยาว สามารถเผชิญวิกฤติเชิงซ้อน (Polycrisis) ที่เกิดขึ้นได้ จึงมุ่งมั่นเสริมทัพด้วย 4 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ 1) เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทานบนพื้นฐานของคุณภาพและความยั่งยืน สอดรับกับความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ และกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.
ตั้งเป้าหมายรายได้ในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ปี 67 อยู่ที่ 3 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากต่างประเทศ 1.92 ล้านล้านบาท ดึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าไทยจำนวน 35 ล้านคน ขณะที่ตลาดในประเทศ สร้างรายได้หมุนเวียน 1.08 ล้านล้านบาท จากการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทย 200 ล้านคน-ครั้ง ทั้งนี้ ททท. จะผลักดันรายได้ให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับรายได้ที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยได้รับในปี 62 ก่อนสถานการณ์การเผยแพร่ระบาดของโควิด-19 บนพื้นฐานของสถานการณ์ท่องเที่ยว ที่มีปัจจัยเอื้ออำนวยในทุกด้าน (Best Case Scenario) โดยในปี 67 ททท. ตั้งเป้านำการท่องเที่ยวกลับมาในแง่ของรายได้ โดยตั้งเป้ารายได้จากตลาดต่างประเทศ มาจากนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ เพิ่มการใช้จ่ายให้มากขึ้นอยู่ที่ 54,800 บาท/คน ส่วนตลาดในประเทศ เพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 4,000 บาท/คน อย่างไรก็ดี หากสถานการณ์ท่องเที่ยวเกิดกรณีเลวร้ายสุด จะมีรายได้เท่าปี 66 หรือเท่ากับ 80% ที่ทำได้ในปี 62 กรณีตีฐาน คือ 90% ของปี 62 และกรณีที่ดีที่สุดคือกลับมา 100% เท่ากับปี 62 ในส่วนของอุตสาหกรรมการบิน มองว่าน่าจะฟื้นตัวเต็มที่เร็วที่สุดในไตรมาส 4/67 หรืออย่างช้าสุดไฟล์ททั้งหมดจะกลับมาในปี 1/68 อย่างไรก็ดี ททท. ไม่เน้นเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยว แต่จะให้ความสำคัญต่อนักท่องเที่ยวคุณภาพ และรายจ่ายต่อทริปที่เพิ่มขึ้น พร้อมจับตาการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน ที่ล่าสุดจำนวนไฟล์ทเริ่มเพิ่มขึ้นแล้ว แต่เศรษฐจีนยังชะลอตัว นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ปี 67 ถือเป็นปีแห่งการเร่งฟื้นฟู (Resilience) พร้อมพลิกโฉมสู่ High Value and Sustainable Tourism ที่เน้นคุณค่าและความยั่งยืน ททท.
จึงได้ยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและ ททท. แบบ Moving forward to Better เดินหน้าต่อเนื่องสู่ก้าวต่อไปของการท่องเที่ยวไทยที่ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ หัวใจสำคัญอยู่ที่การสร้างระบบนิเวศทางการท่องเที่ยวใหม่ New Ecosystem ด้วยการลดการพึ่งพานักท่องเที่ยวจำนวนมาก สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง พัฒนาห่วงโซ่อุปทานร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมฯ ให้พร้อมรับกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ รวมทั้งกระจายรายได้สู่ฐานรากอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม เพื่อให้เกิดความสมดุลทั้งมิติความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ มิติสังคมอยู่ดีมีสุข มิติสิ่งแวดล้อมที่ดี และมิติภูมิปัญญา ททท. ยังพยายามสร้างความมั่นคงทางการท่องเที่ยว (Tourism Security) เสริมทัพด้วย 4 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ 1. เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทาน 2. พัฒนาปัจจัยสนับสนุนการท่องเที่ยวและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยว 3. ใช้ประโยชน์จากการปรับเปลี่ยนสู่โลกดิจิทัล และ 4.
ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความเสี่ยงภายนอก อย่างมีประสิทธิภาพ ด้าน น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวว่า ในปี 67 ททท. จะให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการสานต่อการสร้างประสบการณ์ทรงคุณค่า เพื่อส่งมอบให้กับกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีความต้องการแตกต่างกัน โดยคำนึงถึง Sub-culture Movement และ Partnership 360 ประสานความร่วมมือกับทุกพันธมิตรผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในห่วงโซ่อุปทาน เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยมุ่งสู่ความยั่งยืน ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลที่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างนั้น ในช่วงนี้ยังไม่ส่งผลต่อภาคท่องเที่ยว มองว่า ตอนนี้ด่วนเกินไปที่จะสรุปว่าความไม่นิ่งทางการเมืองจะส่งผลต่อการเดินทางท่องเที่ยวหรือไม่ อย่างไร การท่องเที่ยวอาจเป็นปัจจัยพิเศษ ที่อาจไม่ขึ้นกับความไม่แน่นอนทางการเมือง ประกอบกับต่างประเทศไม่ได้ฟื้นตัวพร้อมกัน ในส่วนของความคาดหวังต่อรัฐบาลใหม่ คือ เนื่องจาก ททท. ตั้งเป้าพัฒนาการท่องเที่ยวที่มีความยั่งยืน จึงอยากให้รัฐบาลผลักดันไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ เข้าใจเรื่องงบประมาณที่ล่าช้า แต่ททท. ก็อยากได้งบประมาณที่เคยจัดสรรไว้ เพื่อความต่อเนื่องของการดำเนินการ .
เมื่อค่ำวันที่ 17 กรกฎาคม 2566 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ททท. เปิดแผนตลาดฯ ปี 67 เร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยสู่บทต่อไปที่เน้นคุณค่า สมดุลและยั่งยืน พร้อมดันรายได้ท่องเที่ยวให้ประเทศรวม 3 ล้านล้านบาท โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วยนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. ร่วมแถลงทิศทาง การส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 2567 ประกาศเร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยสู่บทต่อไปที่ดีขึ้น (Moving forward to Better) ทั้งฝั่ง Supply และ Demand ด้วยหัวใจหลักของการสร้างระบบนิเวศใหม่ที่มีคุณค่า สมดุลและยั่งยืน พร้อมเสริมภูมิคุ้มกันสร้างความมั่นคงทางการท่องเที่ยว ก้าวสู่ High Value and Sustainable Tourism อย่างแท้จริง มั่นใจฟื้นรายได้สูงสุด 3 ล้านล้านบาท เทียบเท่าปี 2562 โดยได้รับเกียรติจากนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานกล่าวเปิดงาน พร้อมด้วยนายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคณะกรรมการ ททท.
รวมถึงภาคเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เข้าร่วมงาน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ปี พ.ศ. 2567 ถือเป็นปีแห่งการเร่ง “ฟื้นฟู” (Resilience) พร้อมพลิกโฉมสู่ High Value and Sustainable Tourism ที่เน้นคุณค่าและความยั่งยืน ททท. จึงได้ยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและ ททท. แบบ Moving forward to Better เดินหน้าต่อเนื่องสู่ก้าวต่อไปของการท่องเที่ยวไทยที่ดียิ่งขึ้น โดยมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การสร้างระบบนิเวศทางการท่องเที่ยวใหม่ New Ecosystem ด้วยการลดการพึ่งพานักท่องเที่ยวจำนวนมาก สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง พัฒนาห่วงโซ่อุปทานร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมฯ ให้พร้อมรับกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ รวมทั้งกระจายรายได้สู่ฐานรากอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม เพื่อให้เกิดความสมดุลทั้งมิติความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ มิติสังคมอยู่ดีมีสุข มิติสิ่งแวดล้อมที่ดี และมิติภูมิปัญญา
People Also Search
- ททท. เปิดแผนตลาดฯ ปี 67 เร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยสู่บทต่อไปที่เน้น ...
- ททท. เปิดแผนตลาดฯ ปี 67 เร่งฟื้นฟูเที่ยวไทย สู่เป้าหมาย 3 ล้านล้านบาท
- ททท.เปิดแผนปี'67 ฟื้นรายได้สะพัดทั่วไทย 3 ล้านล้าน ล็อกเป้าต่างชาติ 3 ...
- ททท. กางแผนปี 67 Moving Forward to Better หวังรายได้กลับมา 100%
- ททท.ปักธงท่องเที่ยวไทยปี 67 โกยราย3 ล้านล้าน
- ททท. เร่งฟื้นฟูท่องเที่ยวไทย เปิดแผนตลาดฯ ปี67 ดันรายได้ให้ประเทศรวม 3 ...
- ททท. หวังเป้าปี 67 ต่างชาติเที่ยวไทย 35 ล้านคน โกยรายได้ 3 ล้านล้านบาท
- ททท. เปิดแผนตลาดฯ ปี 67 เร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยสู่บทต่อไป
ททท. แถลงทิศทาง การส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 2567 ประกาศเร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยสู่บทต่อไปที่ดีขึ้น (Moving Forward To Better)
ททท. แถลงทิศทาง การส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 2567 ประกาศเร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยสู่บทต่อไปที่ดีขึ้น (Moving forward to Better) ทั้งฝั่ง Supply และ Demand ด้วยหัวใจหลักของการสร้างระบบนิเวศใหม่ที่มีคุณค่า สมดุลและยั่งยืน พร้อมเสริมภูมิคุ้มกันสร้างความมั่นคงทางการท่องเที่ยว ก้าวสู่ High Value and Sustainable Tourism อย่างแท้จริง มั่นใจฟื้นรายได้สูงสุด 3 ล้านล้านบาท เทียบเท่าปี 2562 โดยได้รับเกีย...
2567 ถือเป็นปีแห่งการเร่ง “ฟื้นฟู” (Resilience) พร้อมพลิกโฉมสู่ High Value And Sustainable Tourism
2567 ถือเป็นปีแห่งการเร่ง “ฟื้นฟู” (Resilience) พร้อมพลิกโฉมสู่ High Value and Sustainable Tourism ที่เน้นคุณค่าและความยั่งยืน ททท. จึงได้ยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและ ททท. แบบ Moving forward to Better เดินหน้าต่อเนื่องสู่ก้าวต่อไปของการท่องเที่ยวไทยที่ดียิ่งขึ้น โดยมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การสร้างระบบนิเวศทางการท่องเที่ยวใหม่ New Ecosystem ด้วยการลดการพึ่งพานักท่องเที่ยวจำนวนมาก สร้างรายได้จากนักท่อง...
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.กำลังจัดทำแผนแผนท่องเที่ยวประจำปี 2567 โดยใช้กรอบนโยบายแผนวิสาหกิจ 5 ปี
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.กำลังจัดทำแผนแผนท่องเที่ยวประจำปี 2567 โดยใช้กรอบนโยบายแผนวิสาหกิจ 5 ปี ระหว่างปี 2566-2570 เป็นแนวทางปฏิบัติ ขับเคลื่อนด้วยยุทธศาสตร์ภาพใหญ่ทำให้ไทยเป็นผู้นำการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ควบคู่กับการท่องเที่ยวยั่งยืน ด้วย 3 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 1 “กระตุ้นอุปสงค์/demand” โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวคุณภาพเดินทา...
ร่วมแถลงทิศทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 2567 ประกาศเร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยสู่บทต่อไปที่ดีขึ้น (Moving Forward To Better) ทั้งฝั่ง Supply
ร่วมแถลงทิศทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 2567 ประกาศเร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยสู่บทต่อไปที่ดีขึ้น (Moving forward to Better) ทั้งฝั่ง Supply และ Demand ด้วยหัวใจหลักของการสร้างระบบนิเวศใหม่ที่มีคุณค่า สมดุลและยั่งยืน พร้อมเสริมภูมิคุ้มกันสร้างความมั่นคงทางการท่องเที่ยว ก้าวสู่ High Value and Sustainable Tourism อย่างแท้จริง มั่นใจฟื้นรายได้สูงสุด 3 ล้านล้านบาท เทียบเท่าปี 2562 โดยได้รับเกียรต...
จึงได้ยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและ ททท. แบบ Moving Forward To Better เดินหน้าต่อเนื่องสู่ก้าวต่อไปของการท่องเที่ยวไทยที่ดียิ่งขึ้น โดยมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การสร้างระบบนิเวศทางการท่องเที่ยวใหม่ New
จึงได้ยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและ ททท. แบบ Moving forward to Better เดินหน้าต่อเนื่องสู่ก้าวต่อไปของการท่องเที่ยวไทยที่ดียิ่งขึ้น โดยมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การสร้างระบบนิเวศทางการท่องเที่ยวใหม่ New Ecosystem ด้วยการลดการพึ่งพานักท่องเที่ยวจำนวนมาก สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง พัฒนาห่วงโซ่อุปทานร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมฯ ให้พร้อมรับกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ รวมทั้งกระจายรายได้สู่ฐาน...