นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ดาวน์โหลดหนังสือ 1 50 หน้า Pubhtml5

Leo Migdal
-
นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ดาวน์โหลดหนังสือ 1 50 หน้า pubhtml5

Important AnnouncementPubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am. PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated! นวตั กรรมและเทคโนโลยสี ารสนเทศ เพ่ือการสื่อสารการศึกษาและการเรยี นรู้ Innovation and Information Technology for Educational Communication Learning สาขาวชิ าเทคโนโลยดี จิ ิทลั เพือ่ การศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั บ้านสมเด็จเจ้าพระยานวตั กรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่อื การส่อื สารการศกึ ษาและการเรยี นรู้ (Innovation and Information Technology for Educational Communication... ธัชกร สวุ รรณจรัส ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดเิ รก อัคฮาด ผู้ช่วยศาสตราจารย์ จรยิ า วิชัยดิษฐ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ศศกิ ญั ชณา เยน็ เอง ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.รวยทรพั ย์ เดชชยั ศรี ISBN : 978-974-373-635-3 ขอ้ มลู ทางบรรณานุกรมหอสมุดแห่งชาติ... 210 หน้า. 1.

นวัตกรรมทางการศกึ ษา. I. ศักดเิ์ รศ ประกอบผล. II. ช่อื เรือ่ ง. 371.33 ISBN 978-974-373-635-3 พิมพ์ครง้ั ที่ 1 สิงหาคม 2563 จ�ำนวน 1,000 เลม่ ออกแบบปก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ แฝงกมล เพชรเกลย้ี ง สงวนลิขสิทธติ์ ามพระราชบญั ญัตลิ ิขสิทธ์ิ (ฉบบั เพ่มิ เตมิ ) พ.ศ.

2558 หา้ มลอกเลียนแบบ หรือคดั ลอกสว่ นใดส่วนหนึ่งของหนงั สอื เลม่ น้ี ยกเว้นแต่ไดร้ ับอนุญาตเป็นลายลักษณอ์ กั ษรจากผู้เขียน หนังสอื ยมื เรยี น หรอื แจกฟรี (ห้ามจำ� หน่าย) จัดท�ำโดย คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา 1061 ซอย 15 ถนนอสิ รภาพ แขวงหิรญั รจู ี เขตธนบรุ... 02-473-7000 ต่อ 5000 โทรสาร : 02-472-5712 E-mail : [email protected] https://www.edu.bsru.ac.th พิมพ์ท ่ี โรงพมิ พ์ หจก.วรานนท์ เอ็นเตอร์ไพรส์ 6, 8 ซอย 13 ถนนสะแกงาม แขวงแสมด�ำ เขตบางขนุ เทียน กรุงเทพมหานคร 10150 โทร. 02-894-9050-3 E-mail : [email protected]3 คำนำ เพื่อให้การจัดการศึกษาสอดคล้องกับการพัฒนาในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ และตอบสนองตาม พระราชบญั ญตั ิการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 หมวด 9 มาตรา 65 ใหม้ ีการพัฒนาบุคลากรทั้งดา้ นผู้ผลิตและ ผใู้ ช้ เทคโนโลยเี พือ่ การศกึ ษา ประกอบกบั มาตรา 66 ผู้เรียนมีสิทธไิ์ ด้รับการพัฒนาขีดความสามารถในการใช้ เทคโนโลยเี พื่อการศึกษา คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา โดยสาขาวิชาเทคโนโลยี ดิจิทัลเพื่อการศึกษา ได้พัฒนาหลักสูตรการผลิตครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้ให้ความสำคัญในการวาง พ้ืนฐานด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยีการศึกษา ให้กับกระบวนการผลิตครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อ สร้างความรู้ความเข้าใจในการสร้างนวัตกรรมและการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ รวมทั้งการประยุกต์ใช้ทั้ง... อินเทอรเ์ น็ต (Internet) 126 ตัวอยา่ งด้านการศกึ ษาในเรื่องการเรยี นการสอนออนไลน์ที่ใชอ้ ินเทอร์เน็ต 130 1.1 LMS (Learning Management System) 130 1.2 Moodle (Modular Object Oriented Dynamic Learning Environment)132 1.3 MOOC (Massive Open Online Course) 133 2. เทคโนโลยี Augmented Reality หรือ AR 136 3.

คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer-Assisted Instruction) 139 4. ระบบการเรยี นการสอนทางไกล (Distance Learning) 142 5. M-Learning 143 สรุป 146 แบบฝึกหัดทา้ ยบท 147 เอกสารอ้างองิ 148 บทท่ี 6 กฎหมาย จรยิ ธรรมและจรรยาบรรณในการใชเ้ ทคโนโลยีดิจิทลั 151 กฎหมาย จริยธรรมและจรรยาบรรณ 151 จรยิ ธรรมเกีย่ วกับการใชเ้ ทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ ICT ETHICS 152 กฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ 159ง หนา้ 160 สารบัญ (ตอ่ ) 161... 2550 169 สรปุ 169 แบบฝกึ หดั ทา้ ยบท 173 เอกสารอ้างองิ 175 177 บทท่ี 7 โครงงานพฒั นานวัตกรรมเพอ่ื การเรยี นรู้ 179 ความหมายของโครงงาน นวตั กรรม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร 182 เพ่อื การเรยี นรู้ 189 ประเภทของโครงงาน 189 ขนั้ ตอนการทำโครงงาน... ความคดิ หรือการกระทำนั้นใหม่ในบ้านเรา ทัง้ ๆ ท่ีเกา่ มาจากท่ีอื่น 2. ความคดิ หรือการกระทำนั้นใหมใ่ นขณะน้ี ท้ัง ๆ ท่ีเคยใช้มาแล้วในอดีตแต่ไม่ได้ผลและ ลม้ เลิกไป เน่ืองจากขาดสง่ิ อำนวยความสะดวกตา่ ง ๆ ในขณะนน้ั2 3.

ความคดิ หรือการกระทำนน้ั ใหมเ่ น่ืองจากมีความคดิ หรือการกระทำอยแู่ ล้วในขณะนน้ั ประจวบเหมาะกบั การสนับสนุนทางเทคโนโลยีท่ีเขา้ มาพรอ้ มๆกัน จึงทำให้ส่งิ เหลา่ นั้นดำเนินไปอย่าง ไดผ้ ล 4. ความคิดหรือการกระทำนัน้ ใหม่ เน่อื งจากส่งิ เคยทำอยู่ หรือของเดิมถูกตัด หรือไม่ ได้รับ การสนบั สนุนจากผบู้ ริหารจึงตอ้ งเลิกลม้ แตบ่ ัดนก้ี ลบั ไดร้ ับการสนับสนนุ และไดเ้ ริ่มกระทำตอ่ ไป 5. ความคดิ หรือการกระทำนั้นใหม่จรงิ ๆ ยงั ไมเ่ คยมีใครกระทำมาก่อน ดงั น้ันจึงกล่าวโดยสรุปได้ว่า นวัตกรรม หมายถึง สิ่งประดิษฐ์ (วัสดุ อุปกรณ์) หรือเทคนิค (วธิ กี าร) ใหม่ๆ ซง่ึ อาจปรับปรุงของเกา่ ทีม่ ีอยเู่ ดิมใหใ้ หมห่ รือดีขึ้นแลว้ นำมาใช้ในการปฏิบัตงิ านเพ่ือให้ งานมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากข้ึน และนวัตกรรมน้ันถ้านำมาใช้ในสายงานใดก็จะเรียกชื่อ นวัตกรรมตามสายงานนั้น ๆ เช่น ถ้านำมาใช้ทางการแพทย์ ก็เรียกว่านวัตกรรมการแพทย์... มีการประดิษฐ์คดิ ค้นสิ่งใหมห่ รอื ปรับปรุงของเกา่ ให้เหมาะสมกับสภาพงาน 2. มีการตรวจสอบ หรือทดลอง และปรบั ปรุงพฒั นา 3. มกี ารนำมาใช้หรือปฏบิ ัตใิ นสถานการณจ์ ริงซ่งึ แตกตา่ งจากการปฏิบัตทิ เี่ คยปฏบิ ัติมา จึงเปน็ นวัตกรรมทสี่ มบรู ณ์ การท่ีจะพิจารณาว่า สิ่งใดเป็นนวัตกรรมท่ีสมบูรณ์หรือไม่ ต้องมีคุณลักษณะผ่าน กระบวนการครบทัง้ 3 ขั้นตอนตามที่กล่าวมาแล้ว เช่น การใช้เครื่องคอมพวิ เตอรช์ ่วยสอน (CAI) เป็น นวัตกรรมท่ีสมบูรณ์ เพราะผ่านกระบวนการครบท้ัง 3 ข้ันตอน กล่าวคือ ขั้นที่หน่ึงมีการประดิษฐ์ คิดค้น ขั้นท่ีสองมีการทดลองใช้และพัฒนามาแล้ว...

นวัตกรรมที่เปน็ ผลิตภณั ฑ์ (Product Innovation) หรือสิ่งประดิษฐ์ ซ่ึงผลิตภณั ฑ์ท่ไี ด้ ถือ ว่าเป็นผลผลิต (Outputs) เช่น ผลผลิตท่ีเป็นนวัตกรรมด้านสือ่ การศึกษา ได้แก่ หนังสอื เสริมการอ่าน ชดุ กิจกรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ชุดการสอน แบบฝึกทักษะ บทเรียนสำเร็จรปู นวัตกรรมด้านไอซี ทีเพื่อการศึกษา ได้แก่ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน บทเรียนวีดิทัศน์ช่วยสอน ฯลฯ โดยออกแบบ และพัฒนาตามหลักการที่เน้นใหผ้ ู้เรยี นได้เรียนรู้ด้วยตนเอง... นวัตกรรมท่ีเป็นกระบวนการ (Process Innovation) หรือ วิธีการ (Technique) คือ การ ประยุกต์ใช้ แนวคิด วิธีการ หรือกระบวนการใหม่ ๆ ท่ีส่งผลให้เกิดกระบวนการผลิต และการทำงาน โดยรวมให้มีประสิทธภิ าพและมีประสทิ ธผิ ลยงิ่ ขนึ้ ได้แก่ 2.1 นวัตกรรมด้านวิธีจัดการเรียนการสอน เช่น วิธีสอนแบบใช้ปัญหาเป็นฐาน วิธีการสอนคดิ วิธีสอนแบบบรูณาการ วธิ สี อนโครงงาน ฯลฯ เป็นต้น 2.2 นวตั... ขั้นความรู้ (Knowledge Stage) เป็นข้ันตอนแรกของกระบวนการตัดสินใจยอมรับ นวัตกรรม โดย บุคคลจะได้รับรู้ข่าวสารเบื้องต้นของนวัตกรรมและแสวงหาความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับนวัตกรรมนั้น แบ่งออกเปน็ 3 ลักษณะ ไดแ้ ก่4 1.1 การตระหนักรู้ว่ามีนวัตกรรม (Awareness Knowledge) เป็นการรับรู้ว่ามี นวตั กรรมอะไรเกดิ ขึ้นบา้ ง และรู้วา่ นวัตกรรมนน้ั มคี วามสำคัญอยา่ งไร 1.2 ความร้เู กย่ี วกับวิธใี ชน้ วัตกรรม (How-to-Knowledge) เปน็... ข้ันจูงใจ (Persuasion Stage) เป็นขั้นท่ีจะทำให้บุคคลมีความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบ นวัตกรรม เมื่อบุคคลมีความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมน้ันมาพอสมควรแล้วจากระดับแรก ผู้ท่ีมีส่วน เกี่ยวข้องเช่น ผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน ควรจูงใจโน้มน้าวโดยให้ความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมนั้น เพ่ิมเติม เช่น ความรู้ในรายละเอียดเกี่ยวกับนวัตกรรมในแง่ของประโยชน์ท่ีได้รับ ความเป็นไปได้ใน การนำไปปฏิบัติความยากง่ายในการนำไปทดลองใช้ ตลอดจนความสามารถเข้ากันได้กับของเดิมที่มี อย่เู ดิม สิ่งเหลา่ นีม้ ีผลทจี่ ะจงู ใจใหบ้ ุคคลชอบหรอื ไมช่ อบนวัตกรรม 3. ขั้นการตัดสินใจ (Decision Stage) เป็นข้ันท่ีบุคคลเลือกว่าจะยอมรับหรือไม่ยอมรับ นวตั กรรม การท่ีบุคคลจะตัดสินใจอย่างไรนั้น ข้ึนอยู่กับข้ันความรู้และขั้นการจูงใจว่า บุคคลมีความรู้ และชอบนวัตกรรมน้ันหรือไม่ ซึ่งหากบุคคลบรรลุผ่าน 2 ข้ันตอนไปในทางท่ีดี ก็มีแนวโน้มท่ีจะ ตัดสินใจยอมรับนวัตกรรมน้ัน และหากนวัตกรรมนั้นสามารถนำไปทดลองใช้ได้ ก็จะยิ่งทำให้มี แนวโน้มในการตัดสินใจยอมรับนวัตกรรมนั้นมากขึ้น การตัดสินใจในข้ันตอนนี้ยังมีโอกาสการ เปลี่ยนแปลงได้ จากไม่ยอมรับเป็นยอมรับ หรือจากไม่ยอมรับเป็นยอมรับ ข้ึนอยู่กับบริบทและ สถานการณ์ แต่บางคนตัดสินใจรับหรือไม่รับนวัตกรรมไปแล้วก็ไม่เปล่ียนแปลงยึดมั่นในการตัดสินใจ นนั้ ตลอดไป 4. ขั้นการนำไปใช้ (Implementation Stage) เมื่อบุคคลตัดสนิ ใจยอมรับนวัตกรรม ก็จะ นำนวัตกรรมไปใช้ในบริบทของตนเอง ซึ่งการนำไปใช้จะทำให้บุคคลได้รับรู้วา่ นวัตกรรมนั้นใช้อย่างไร มีปัญหาอะไรจากการใช้ และสามารถแก้ปัญหาน้ันได้หรือไม่ และหากมีการนำไปใช้อย่างสม่ำเสมอ เป็นที่น่าพึงพอใจการตัดสินใจยอมรับนวัตกรรมก็สามารถจบลงได้ในขั้นตอนนี้ หรือจะดำเนินต่อไป ไปสู่ขั้นตอนการยนื ยันเป็นข้ันตอนสดุ ทา้ ยก็จะสมบรู ณ์ 5.

ขั้นการยืนยัน (Confirmation Stage) เป็นขั้นท่ีบุคคลจะเสาะแสวงหาการสนับสนุน ส่งเสริมแนวร่วมในการใช้นวัตกรรมเพื่อให้เกิดความม่ันใจและยืนยันท่ีจะนำนวัตกรรมไปใช้อย่าง ตอ่ เนื่องโดยบุคคลจะแสวงหาข่าวสารเพ่ิมเติมเพื่อสนับสนนุ การตัดสนิ ใจของเขา และหากได้รบั ข้อมูล ใหม่ท่ีขัดแย้งกับข้อมูลเดิมซ่ึงอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อการตัดสินใจ บุคคลจะพยายามลด ความขัดแยง้ โดยอาจเข้ารบั การศึกษาอบรมเพิม่ เติมเพ่ือลดความขัดแย้งและเพมิ่ แรงกระตุ้นให้เกิดการ ยืนยนั ในการตดั สนิ ใจยอมรบั นวตั กรรมนนั้ ข้นั ตอนการตัดสนิ ใจยอมรับนวัตกรรมทง้ั 5 ขั้นนั้น Roger ไดเ้ ขยี นแผนภูมเิ พ่ืออธิบาย... 2003 : 213 ปจั จยั ที่ส่งผลตอ่ การยอมรับนวัตกรรม การเผยแพร่นวัตกรรมจะประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับของบุคคลหรือไม่น้ันขึ้นอยู่กับ ปัจจยั ทส่ี ำคัญ 4 ประการ ดังนี้ (Rogers. 2003 : 277-308) 1. คุณลกั ษณะของนวัตกรรม 2. ผรู้ ับนวตั กรรม 3. การสื่อสาร 4.

ระบบสังคม คณุ ลักษณะของนวตั กรรม คุณลักษณะของนวัตกรรม เป็นปัจจัยสำคัญในการยอมรับหรือไม่ยอมรับนวัตกรรม แม้ว่า นวัตกรรมนั้นมีประโยชน์มากแต่ถ้าบุคคลเห็นว่าไม่ดี ไม่มีประโยชน์ ก็อาจไม่ยอมรับนวัตกรรมน้ัน คณุ ลกั ษณะของนวตั กรรมท่สี ง่ ผลตอ่ การยอมรับ มีดังน้ี 1. การไดร้ ับประโยชน์จากนวตั กรรม (Relation Advantage) หมายความวา่ นวตั กรรมใดทบ่ี ุคคลเชื่อ ว่าสามารถใช้ได้ดีและมีประโยชน์ สามารถนำมาทดแทนของเกา่ ไดจ้ ริงหรือดกี วา่ ของเก่ากจ็ ะทำใหม้ ี โอกาสไดร้ บั การยอมรับสูง6 2. การเข้ากันได้กับสิ่งที่มีอยเู่ ดิม (Compatibility) หมายความวา่ นวตั กรรมท่ีนำมาใช้ถ้า มีความ สอดคล้องกับความต้องการ เขา้ กันไดก้ บั กับ ค่านิยม ความเชื่อทางสังคม วัฒนธรรม และแนวปฏิบัติท่ี เปน็ อยู่ นวัตกรรมนนั้ ก็มโี อกาสไดร้ บั การยอมรับง่ายข้นึ 3. ความซับซ้อน (Complexity) หมายความว่า นวัตกรรมใดมีความยุ่งยากซับซ้อนและ เขา้ ใจยาก บุคคล อาจหมดความอดทนท่ีจะเรียนรู้ทำให้ไม่ค่อยอยากนำมาใช้ โอกาสที่จะได้รับการยอมรับก็น้อยกว่า นวัตกรรมทไี่ ม่ยงุ่ ยากซบั ซ้อนในการใช้งาน 4. ทดลองปฏิบัติได้ (Trainability) หมายความว่า นวัตกรรมทจ่ี ะนำมาใช้ถ้าสามารถ นำมาทดลอง หรือทดสอบให้ดูได้ นวัตกรรมนั้นก็จะได้รับการยอมรับได้ง่ายกว่านวัตกรรมที่ไม่สามารถทดลองหรือ ทดสอบใหด้ ูได้ 5. สังเกตเห็นผลได้ (Observability) หมายความว่า นวัตกรรมใดหากทดลองใช้แล้ว สามารถเหน็ ผลได้ ชดั เจนจะทำให้นวัตกรรมน้ันมโี อกาสไดร้ ับการยอมรบั ง่ายกว่านวตั กรรมท่สี ังเกตเห็นผลไดย้ าก ผรู้ ับนวตั กรรม ตวั ของผู้รับนวัตกรรม ถึงแม้วา่ นวตั กรรมจะมีลักษณะท่ีดีและเหมาะสมเพียงใด แต่ถ้าผู้รับ นวัตกรรมนั้นไม่มีความพร้อมท่ีจะยอมรับและปฏิบัติ นวัตกรรมนั้นก็ไร้ความหมาย ปัจจัยด้านผู้รับ นวัตกรรมเก่ียวข้องกับสถานภาพทางเศรษฐกิจสังคม เช่น ระดับการศึกษา รายได้ ฐานะทาง เศรษฐกิจ อาชีพ การมีตำแหน่งเป็นผู้นำในสังคมล้วนเป็นปัจจัยท่ีสำคัญที่มีผลต่อการยอมรับ...

กลุ่มนวัตกร (Innovator) เป็นกลุม่ ที่ยอมรับนวัตกรรมเร็วที่สุด มักเป็นผู้มีฐานะทาง เศรษฐกจิ ดี มี การศึกษาสูง มีความกล้าท่ีจะเสี่ยงทดลอง ชอบลองของแปลกใหม่ ซ่ึงมีปริมาณน้อยประมาณร้อย ละ 2.5 ของผู้รับนวตั กรรม 2. กลุ่มผู้รับเร็ว ( Early Adopters) เป็นผู้นำความคิดเห็นในท้องถ่ิน ส่วนใหญ่เป็นผู้มี เจตคตทิ ีด่ ตี อ่ การ เปล่ียนแปลง มีเหตุผล มักเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่อง และนับถือจากผู้คนในสังคม ซ่ึงมีปริมาณ ค่อนขา้ งนอ้ ย คอื ประมาณรอ้ ยละ 13.5 ของผูร้ ับนวัตกรรม 3. กลุ่มผู้รับค่อนข้างเร็ว (Early Majority) เป็นผู้ที่ยอมรับนวัตกรรมหลังจากที่พิจารณา อยา่ งรอบคอบ โดยคอยดูผลการใช้จากกลุ่มแรก ๆ ก่อน เม่ือแน่ใจว่าใช้ได้ผลแล้วจึงจะยอมรับมาปฏิบัติ มี ประมาณรอ้ ยละ 34 ของผู้รบั นวตั กรรม7 4. กลุ่มผู้รับค่อนขา้ งช้า (Late Majority) เปน็ ผทู้ ่มี คี วามระแวง ช่างสงสยั ลงั เลใจ จะ ยอมรับความคดิ ใหม่ ๆ หลงั จากคนส่วนใหญย่ อมรบั ไปใช้กนั แล้ว มีประมาณรอ้ ยละ 34 ของผู้รบั นวัตกรรม 5. กลุ่มผู้ล้าหลัง (Laggards) เป็นพวกท่ียอมรับรับนวัตกรรมช้าท่ีสุด มักจะเป็นผู้ที่มี ความยดึ มน่ั อยู่กบั ประเพณีอยา่ งเหนียวแน่น ไม่สนใจโลกภายนอก ไม่ยอมรบั การเปลยี่ นแปลงอะไรงา่ ย ๆ มีประมาณ รอ้ ยละ 16 ของผูร้ ับนวัตกรรม การสอ่ื สาร การเผยแพร่นวัตกรรมให้เกิดการยอมรบั เป็นการติดต่อสื่อสารประเภทหนึ่ง กระบวนการ ส่ือสารต้องมีประสิทธิภาพ สามารถส่งข้อมูลข่าวสารจากผู้ส่งสารผ่านช่องทางหรือส่ือตัวกลางไปยัง ผู้รับสารอย่างถูกต้อง ถ้าสือ่ สารได้ดีโอกาสที่ผูร้ ับจะยอมรับนวตั กรรมก็เป็นไปไดส้ ูง... แนวคิดทางวทิ ยาศาสตร์กายภาพ 2.

แนวคดิ ทางพฤติกรรมศาสตร์ เทคโนโลยีการศึกษาตามแนวคิดทางวิทยาศาสตร์กายภาพ เป็นการประยุกต์วิทยาศาสตร์ กายภาพ (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ) กับเทคโนโลยีการช่างหรือวศิ วกรรม (เคร่ืองฉายต่าง ๆ เคร่ืองบันทึกเสียง วทิ ยุ โทรทศั น์ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ) มาใช้เป็นอุปกรณก์ ารเรียนการสอน เทคโนโลยีการศกึ ษาตามแนวคิดทางพฤติกรรมศาสตร์ จะพิจารณาเทคโนโลยีการศึกษาใน เชิงการปฏิบัติทางการศึกษาให้สอดคล้องกับพฤติกรรมมนุษย์โดยนำความร้ทู างวทิ ยาศาสตร์ จิตวิทยา9 มานุษยวิทยา สงั คมวิทยา กระบวนการกล่มุ การส่อื สาร... ความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคลในการเรียนรู้ 2. ทฤษฎีการเรียนรูต้ า่ ง ๆ ทเ่ี กี่ยวข้อง เชน่ การเสรมิ แรง การวางเง่อื นไข เป็นต้น 3. เคร่ืองมืออุปกรณท์ ี่เป็นประดิษฐ์กรรมทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ สมาคมเทคโนโลยีและสอื่ สารการศึกษา (Association for Educational Communications and Technology : AECT) แห่งสหรัฐอเมริกาได้ให้ความหมายไว้เมื่อปี พ.ศ. 2537 ว่า (Seels & Richey, 1994 : 9) “เทคโนโลยีการศึกษาเป็นทฤษฏีและการปฏิบัติของ การ ออกแบบ การพัฒนา การใช้ การจัดการ และการประเมิน ของกระบวนการและทรัพยากรสำหรับการ เรียนร”ู้ ดงั นน้ั โดยสรุปแลว้ เทคโนโลยีการศึกษาจึงเปน็ การประยุกต์เอา แนวความคิด หลักการ ทฤษฎี เทคนคิ วธิ ีการ วัสดุ อปุ กรณ์ต่าง ๆ เขา้ มาใช้ในการศึกษาอย่างเป็นระบบ... การออกแบบ (Design) คอื กระบวนการกำหนดสภาพการเรยี นรู้ แบง่ ออกเป็น 1.1 การออกแบบระบบการสอน (Instructional Systems Design) เปน็ วธิ กี ารจัดการ ที่รวมข้ันตอนของการสอนประกอบด้วย การวิเคราะห์ (Analysis) คือกระบวนการที่กำหนดว่า ตอ้ งการใหผ้ ู้เรียนได้รับอะไร เรยี นเน้ือหาอะไร การออกแบบ (Design) คอื กระบวนการท่ีต้องระบุ ว่าให้ผู้เรียนเรียนอย่างไร การพัฒนา (Development) คือกระบวนการสร้างผลิตสื่อวัสดุการสอน การนำไปใช้...

การพัฒนา (Development) เป็นกระบวนการของการนำการออกแบบไปสู่การ ผลิตและพัฒนาให้ดขี น้ึ โดยอาศัยเทคโนโลยีเปน็ ตัวช่วย ประกอบด้วย 2.1 เทคโนโลยีส่ิงพิมพ์ (Print Technologies) เป็นการผลิตส่ือด้านวัสดุ เช่น หนังสือ โสตทัศนวัสดุพื้นฐานประเภท ภาพนิ่ง ภาพถ่าย รวมถึงสื่อข้อความ กราฟิก วัสดุภาพสิ่งพิมพ์ ทัศน วสั ดุ สง่ิ เหลา่ นเ้ี ปน็ พน้ื ฐานของการพฒั นาการใชว้ สั ดกุ ารสอนอ่ืนๆ... การใช้ (Utilization) เปน็ การใชก้ ระบวนการและแหล่งทรัพยากรเพื่อการเรียนการ สอน ประกอบดว้ ย 3.1 การใช้สื่อ (Media Utilization) เป็นระบบของการใช้สื่อ แหล่งทรัพยากรเพ่ือ การเรียน โดยใช้กระบวนการตามท่ผี ่านการออกแบบการสอน 3.2 การแพร่กระจายนวัตกรรม (Diffusion of Innovations) เป็นกระบวนการสื่อ ความหมาย รวมถงึ การวางยุทธศาสตรห์ รอื จุดประสงคใ์ ห้เกิดการยอมรบั นวตั กรรม 3.3 การใช้งานและความเป็นองค์การ (Implementation... การจดั การ (Management) เปน็ การควบคมุ กระบวนการทางเทคโนโลยีการศึกษา ตลอดจนการวางแผน การจดั การ การประสานงาน และการให้คำแนะนำ ประกอบด้วย 4.1 การจัดการโครงการ (Project Management) เป็นการวางแผน กำกบั ควบคุม การออกแบบ และพัฒนาโครงการสอน 4.2 การจัดการแหลง่ ทรพั ยากร(Resource Management) เปน็ การวางแผน กำกับ ควบคุมแหล่งทรัพยากร ที่ช่วยระบบและการบรกิ าร 4.3 การจัดการระบบสง่... การประเมิน (Evaluation) เปน็ กระบวนการหาข้อมูลเพือ่ กำหนดความเหมาะสม ของการเรยี น การสอน ประกอบดว้ ย 5.1 การวเิ คราะห์ปัญหา (Problem Analysis) เป็นการทำให้ปญั หาสน้ิ สดุ โดยการใช้ ขอ้ มลู ต่างๆ และวธิ ีการที่จะช่วยตัดสินใจ 5.2 การวัดผลแบบองิ เกณฑ์ (Criterion-Reference Measurement) เป็นเทคนิคการใช้ เกณฑเ์ พ่ือการประเมินการสอนหรอื ประเมินโครงการเทคโนโลยีการศึกษา 5.3... ช่วยนำมวลประสบการณเ์ ข้ามาจดั การศึกษา มวลประสบการณ์ท่ีเราจะจัดการศึกษานั้นมีอยู่มากมายและหลากหลาย ถึงแม้จะอยู่ ห่างไกลตัวผู้เรียน ถูกจำกัดด้วยระยะทางและกาลเวลา เทคโนโลยีการศึกษาก็ช่วยให้เราสามารถนำ ประสบการณ์ต่าง ๆ เหล่านม้ี าในโรงเรียนให้ผูเ้ รียนไดศ้ กึ ษาโดยสะดวกรวดเรว็ 2. ช่วยขยายแหล่งวทิ ยากรมนุษย์ ซงึ่ มอี ยอู่ ย่างจำกดั ให้สามารถใช้ไดอ้ ยา่ งกว้างขวาง แหล่งวิทยากรมนุษย์ท่ีจะใช้ประโยชน์ในทางการศึกษานั้นมีอยู่จำกัด จึงต้องหา เคร่ืองมือท่ีจะต้องขยายการใช้แหล่งวิทยากรมนุษย์ให้สามารถใช้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น เทคโนโลยี การศกึ ษาสามารถขยายการใช้แหล่งวทิ ยากรมนษุ ยใ์ ห้ใชไ้ ดอ้ ย่างกว้างขวาง 3.

ช่วยจดั สภาวะการเรียนไดอ้ ย่างหลากหลาย ความคดิ ใหม่ในด้านการเรยี นรขู้ องคนนน้ั เราถอื วา่ คนเรียนได้ดีดว้ ยการกระทำ แก้ปัญหาดว้ ยการเรยี นเป็นกล่มุ ใหญ่ เรียนเป็นกลมุ่ เล็ก และเรยี นเปน็ รายบคุ คล ส่งิ ทีจ่ ะทำให้สามารถ จดั สภาวะการเรยี นเชน่ นี้ได้ คือเทคโนโลยีการศึกษา 4. ทำให้คุณภาพของสถานศกึ ษาเทา่ เทียมกัน รัฐบาลมนี โยบาย ท่จี ะทำใหส้ ถานศึกษาทกุ หนทุกแห่งมคี ุณภาพเท่าเทียมกัน เทคโนโลยี การศกึ ษาจะเปน็ วธิ หี นึ่งท่ดี ีที่จะทำใหค้ ณุ ภาพของสถานศึกษามีความเท่าเทยี มกนั14 5. ทำให้เกดิ ผลการเรยี นรูห้ ลายดา้ น ความคิดในด้านการเรียนรู้อีกประการหนึ่ง การเรียนรู้คือการเปล่ียนแปลงพฤติกรรม ซ่ึง การเรียนรูท้ ่ีจะทำให้เกิดการเปลย่ี นแปลงพฤติกรรมได้น้ัน จะตอ้ งมีผลการเรียนรู้ท่ีเกิดข้ึนทงั้ พุทธิพสิ ัย จิตพิสัย และทกั ษะพิสยั เทคโนโลยกี ารศกึ ษาจะช่วยใหเ้ กิดผลการเรียนรู้ดังกลา่ วได้เป็นอยา่ งดี 6. ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นกั เรียน ไดล้ งมือกระทำดว้ ยตนเองจนเกดิ การเรยี นรู้ ความคิดเรื่องบทบาทของครูในการสอนนั้น ปัจจุบันเห็นว่าการสอนนั้นมิใช่การบอก กลา่ วแตอ่ ย่างเดยี ว แต่การสอนนั้นเป็นการจัดอำนวยความสะดวกใหแ้ ก่นักเรียน เพ่ือนักเรียนได้ลงมือ กระทำด้วยตนเองจนเกิดการเรยี นรู้ ความคดิ เช่นน้ยี ่อมมีความจำเปน็ ท่จี ะต้องนำเทคโนโลยกี ารศึกษา เข้ามาในโรงเรียน 7. ช่วยทำให้เกิดเหตุการณส์ อนท่สี ำคัญ ที่ทำใหก้ ารเรยี นรู้มีประสิทธภิ าพ การสอนท่ีเปน็ ระบบนัน้ ยอ่ มประกอบด้วยเหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างน้อย 9 ประการคือ 7.1 ดงึ ความตัง้ ใจ 7.2 ใหผ้ ้เู รียนทราบจุดม่งุ หมาย 7.3 กระตุ้นนักเรียนใหร้ ะลึกถงึ ส่ิงทเ่ี รยี นมาแล้ว ซง่ึ เป็นสงิ่ ท่จี ำเปน็... ช่วยทำใหเ้ กิด ภาวะเบ้ืองต้น ท่ีจำเป็นสำหรบั การเรียนการสอน นักจิตวิยาการศึกษายอมรับกันว่า ภาวะเบื้องต้น อันสำคัญต่อการเรียนรู้ทุกประเภทนั้น ไดแ้ ก่ 8.1 การเกิดข้ึนไล่เลีย่ กนั ของสง่ิ เรา้ และการตอบสนอง 8.2 การปฏิบัติ 8.3 การเสริมแรง 8.4 การไดข้ ้อสรปุ 8.5 การจำแนกแยกแยะ ภาวะเชน่ นจ้ี ะเกดิ ขึน้ ได้อย่างสมบูรณต์ อ้ งอาศัยเทคโนโลยกี ารศกึ ษาเข้าชว่...

แนวคิดด้านความแตกต่างระหวา่ งบุคคล (Individual Difference) นักจิตวิทยาเชื่อ วา่ การเรยี นรู้ ของบคุ คลมคี วามสนใจ ความถนัด และความสามารถท่แี ตกต่างกนั ออกไปทง้ั ดา้ นร่างกาย จิตใจ ความ ต้องการ สติปัญญา ความแตกต่างน้ีส่งผลให้บุคคลมีการเรียนรู้ไม่เท่าเทียมกัน นักการศึกษาจึงมุ่งหาแนวทางและ วธิ ีการเรยี นไปตามความสามารถของแต่ละคน ทำให้เกิดนวัตกรรมต่าง ๆ ข้ึน เช่น บทเรียนสำเร็จรูปหรือบทเรียน ดว้ ยตนเอง (Programmed... แนวคิดด้านความพร้อม (Readiness) นักจิตวิทยาทางการศึกษาได้ค้นพบว่า การ เรยี นรู้จะได้ผลดี เมื่อผู้เรียนมีความพร้อม ความพร้อมเป็นพัฒนาการตามธรรมชาติ ความพร้อมในการเรียนเป็นสิ่งท่ี สร้างข้ึนมาได้ถ้าได้จัดองค์ประกอบทางการเรียนให้เหมาะสม เช่น นำสื่อหรือเทคนิควิธีมาสร้างความ พร้อมในตัวผเู้ รียน นวัตกรรมทเี่ กดิ ตามแนวคิดนี้ เช่น ศูนย์การเรยี น ( Learning Center) เปน็ ตน้ 3. แนวคิดในด้านการใช้เวลาในการศึกษา (Unit of Time) นักจิตวิทยาทางการศึกษา พบวา่ การเรียนรู้ ของบคุ คลจะใช้เวลาไม่เท่ากัน บางคนใช้เวลาช่วงส้ัน ๆ บางคนต้องมีเวลานาน ๆ จงึ จะทำความเข้าใจ เน้ือหาได้ ดังนั้นผู้สอนควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนใช้เวลาเรียนอย่างอิสระตามความสามารถและความ ต้องการ นวัตกรรมท่ีเกิดจากแนวคิดนี้ได้แก่ บทเรียนแบบโปรแกรม มหาวิทยาลัยเปิด (Open University) เปน็ ต้น 4. แนวคิดในด้านความก้าวหน้าทางวิชาการ (Academical Progress) และอัตราการ เพิ่มของประชากร ปจั จบุ ันเทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วเขา้ สู่ยคุ โลกไรพ้ รมแดน สภาพภูมิศาสตร์และเวลาจะไม่ เป็นอปุ สรรคต่อการเรยี นรู้ ดงั นัน้ เพือ่ เปดิ โอกาสให้แต่ละคนมีโอกาสได้ศึกษาอยา่ งกว้างขวางทั่วถึง จึง ทำให้เกิดนวัตกรรม เช่น มหาวิทยาลัยเปิด การสอนทางวิทยุ โทรทัศน์ การสอนทางทางเว็บไซต์ เป็นตน้ หลักการ ทฤษฎี การรับรู้ ความหมายของการรบั รู้... อาการรับสัมผัส หมายถึง อวัยวะรับสัมผัสต่าง ๆ ได้รับกระตุ้นจากสิ่งเร้าแล้วจะแปล ความหมายโดยอาศัยประสบการณเ์ ข้ามาช่วย 2. การแปลความหมายของอาการสัมผัส การแปลความหมายของส่ิงเร้าที่รับเข้ามาจะ ถูกต้องเพียงใดขน้ึ อย่กู บั ปจั จัย 2 ประการ คือ 2.1 ปัจจัยทางด้านสรีระ (Physiological Factor) เป็นขีดจำกัดความสามารถของ อวัยวะรับสมั ผสั ที่ตอบสนองต่อสงิ่ เร้า เช่น ขนาดของส่ิงเร้า ความสกึ หรอของอวยั วะรบั สัมผัส เปน็ ต้น 2.2 ปัจจยั ทางจิตวิทยา (Psychological Factor) เนื่องจากสิ่งเร้าท่ีมากระทบกับอวัยวะรับ สัมผัสมีมาก...

ประสบการณ์เดิม บุคคลจะรับรู้ส่ิงต่าง ๆ ด้วยการคาดคะเนหรือตั้งสมมติฐานไว้ก่อน เมือ่ ได้รับส่ิงเรา้ ที่เกิดข้นึ แลว้ ประสบการณ์เดิมท่ีเคยมีมาก่อนจะช่วยใหส้ ามารถยืนยันการคาดคะเนได้ หรือทำการแก้ไขการคาดคะเนเสียใหม่กรณีที่สิ่งท่ีเกิดข้ึนใหม่เข้มแข็งกว่า และสามารถพิสูจน์ได้ว่า ประสบการณ์นั้นผิดพลาดอย่างแน่นอน การรับรู้ของคนแต่ละคนอาจจะรับรู้ในสิ่งแวดล้อมที่ เหมือนกันแตกต่างกันออกไป ข้ึนอยู่กับพื้นฐานทางจิตใจ ความคิด ประสบการณ์เดิม ของแต่ละคนที่ แตกต่างกันออกไป ดังเช่น การมองดูภาพที่ 1.7 ด้านล่างนี้ แต่ละคนจะมองเห็นแตกต่างกัน บางคน มองเห็นเป็นแม่มดหรือยายแก่ แต่บางคนมองเห็นเป็นหญิงสาว ทั้งน้ีขึ้นอยู่กับประสบการณ์เดิม มมุ มองและจนิ ตนาการของแตล่ ะคน18 ภาพที่... : 25) ให้ข้อคิดเห็นสรุปได้ว่า การรับรู้ที่ถูกต้องนับว่าเป็นพื้นฐานอัน สำคัญย่ิงของการเรียนรู้ คนเราจะคิดได้ถูกต้อง มีความเข้าใจ มีเจตคติท่ีถูกต้องได้นั้นจะต้องเร่ิมจาก การรบั รทู้ ีด่ ี การรับรู้เร่ิมจากการสมั ผัส เม่ือมกี ารสัมผัสที่ดีกย็ อ่ มทำใหเ้ กิดการรับรู้ทดี่ ไี ด้ดว้ ย ดังน้ัน การรับรู้จงึ เป็นพืน้ ฐานของการเรียนรู้ ถ้าไม่มีการรับรเู้ กดิ ข้ึน การเรียนรู้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะการรับรู้เป็นหนทางท่ีนำไปสู่การแปลความหมายท่ีเข้าใจกันได้ การรับรู้จึงเป็นองค์ประกอบที่ สำคัญท่ีทำให้เกดิ ความคดิ... กลมุ่ พฤติกรรมนยิ ม (Behaviorism) 2. กลุ่มความรคู้ วามเข้าใจ (Cognitive ) กล่มุ พฤติกรรมนิยม การเรียนรู้ตามแนวคิดกลุ่มพฤติกรรมนิยม บางทีเรียกว่าทฤษฎีความสัมพันธ์ต่อเน่ือง ทฤษฎีของกลุ่มนี้มีแนวคิดว่าการเปล่ียนแปลงพฤติกรรม เป็นผลมาจากประสบการณ์เก่ียวกับความ เช่ือมโยงระหว่างส่ิงเร้าและการตอบสนองท่ีก่อให้เกิดความเคยชินจนเป็นนิสัย นักจิตวิทยากลุ่ม พฤติกรรมนิยมมีความเชื่อว่าการเรียนรู้เกิดจากการสร้างพันธะเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้ากับปฏิกิริยา ตอบสนองหรือสถานการณ์แวดล้อมกับพฤติกรรม เช่น เด็กเห็นเทียนสว่างสวยดีเป็นสิ่งเร้า19 (S = Stimulus) จึงเอื้อมมือจับ (R = Response) ผลคือร้อนเกิดความเจ็บปวด ต่อไปเมอ่ื พบเทียนมี แสงสวา่ งจะไมจ่ บั อีก แสดงว่าเด็กเกิดการเรยี นรจู้ ึงเปล่ียนพฤติกรรม นักจิตวิทยากลุ่มนี้... ทดลองเคาะสอ้ มเพือ่ ใหเ้ กดิ เสียงเพยี งอยา่ งเดียว พบวา่ สุนขั กระดิกหู สะบัดขา กระดิกหาง แตไ่ มม่ นี ำ้ ลายไหลออกมา 2. พน่ ผงเนอ้ื เข้าปากสุนัข พบว่า สุนขั นำ้ ลายไหล เน่ืองจากการตอบสนองตาม ธรรมชาติ 3.

เคาะส้อมพร้อม ๆ กับพ่นผงเนื้อเข้าปากสุนัขในขณะสุนัขกำลังหิวสุนัขจะ น้ำลายไหล ทำเช่นนซ้ี ้ำหลาย ๆ คร้ังชวั่ ระยะเวลาหนึ่ง 4. เคาะส้อมอย่างเดียวโดยไม่ไดพ้ ่นผงเน้ือเข้าปากอีกเลย ปรากฏว่าสุนัขนำ้ ลาย ไหลออกมาทันที น่ันแสดงว่าเสียงจากการเคาะส้อมสามารถดึงการตอบสนองของสุนัขให้น้ำลายไหลออกมาได้ แทน นำ้ ลายไหลทเี่ กดิ จากผงเนอื้ ภาพที่ 1.8 การทดลองของพฟั ลอฟ ที่มา : http://www.tikshuv.org.il/moodle/file.php/382/pavlov_conditioning_dogs พัฟลอฟ จึงสรุปวา่ “ปฏิกิริยาอยา่ งใดอย่างหน่ึงของอินทรีย์ อาจไม่ใชม่ าจากสิ่ง เร้าใด ส่ิงเร้าหนึ่งแต่เพียงอย่างเดียว สิ่งเร้าอ่ืนๆ ก็อาจทำให้มีการตอบสนอง เชน่ นัน้ ได้ ถ้าหากมกี ารวางเงอื่ นไขทถ่ี... กฎแห่งผล หรือกฎแห่งความพึงพอใจ (Law of Effect) การตอบสนองจะมี กำลังเข้มแข็งขึ้นถ้าหากเกิดความพึงพอใจ และจะอ่อนกำลังลงถ้าไม่ได้รับความพึงพอใจ หรืออาจ กลา่ วได้ว่ากิจกรรมการเรียนรจู้ ะได้ผลดีถ้าหากผู้เรยี นเกิดความพึงพอใจ และถา้ ไม่ได้รบั ความพอใจจะ เกดิ ผลน้อย21 2. กฎแหง่ การฝึกหัด (Law of Exercise) ถา้ มีการตอบสนองต่อสิ่งเรา้ บ่อยครงั้ กจ็ ะทำใหก้ ารตอบสนองน้ันเข้มแขง็ และมนั่ คงขนึ้ น่นั ก็คือในกิจกรรมการเรียนถ้าไดม้ ีการฝึกกระทำ บอ่ ยๆ กจ็ ะเกดิ ทกั ษะหรือมคี วามชำนาญ แตถ่ า้ หากขาดการฝกึ หัดความชำนาญก็จะลดลง 3. กฎแห่งความพรอ้ ม (Law of Readiness) การตอบสนองจะได้ผลดีเม่ืออินทรีย์ มีความพร้อม ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า การเรยี นรจู้ ะมีประสทิ ธิภาพมากที่สุดเมื่อผู้เรียนพร้อมท่ีจะเรียนหรือ พร้อมทจี่ ะตอบสนอง สกินเนอร์ (Skinner) เป็นเจ้าของทฤษฎีการวางเงื่อนไข/ทฤษฎีการเสริมแรง (S-R Theory หรือ Operant Conditioning) ได้ทำการทดลองกับหนูขาว โดยจับหนูขาวใส่หีบ ทดลองและคอยดูสิง่ ต่างๆ ที่จะเกดิ ขึน้ หนูขาวถูกขังอยู่ในหีบทดลองอยูร่ ะยะเวลาหนงึ่ ก็จะหวิ แล้ววิ่ง วนุ่ วายดุนน่ีป่ายโน่นเปะปะไปหมด... การเรียนร้เู ป็นข้นั เปน็ ตอน (Step by Step) 2.

การมีสว่ นร่วมในการเรียนรู้ของผเู้ รียน (Interaction) 3. การได้ทราบผลการเรียนร้ทู นั ที (Feedback) 4. การได้รับการเสริมแรง (Reinforcement) 5. ในการเรียนการสอนแต่ละคาบ ผู้สอนต้องสร้างบรรยากาศในช้ันเรียนให้มี บรรยากาศทด่ี ี มี บรรยากาศเชิงวิชาการ มีสิง่ แวดลอ้ มท่ีดี ซึง่ จะเปน็ การวางเงือ่ นไขในการเรยี นการสอนอกี แบบหนึ่ง 6. ก่อนจะเริ่มดำเนินการสอนในแต่ละคาบ ผู้สอนควรเตรียมตัวให้พร้อมและกระตุ้นให้ ผู้เรียนมีความพร้อมที่จะเรียนเสียก่อนโดยมีการนำเข้าสู่บทเรียน อาจจะใช้ส่ือการสอนหรือทำ กิจกรรมนำเขา้ สู่บทเรียนได้23 7. ต้องให้ผู้เรียนทำกิจกรรมด้วยตนเอง โดยการจัดประสบการณ์ในการเรียนรู้ด้วยการ ใช้สื่อการสอนหลายๆ แบบ ที่ให้ผู้เรียนทำกิจกรรมและสนองตอบได้ด้วยตนเองโดยมีผู้สอนคอย แนะนำช่วยเหลอื ตามความเหมาะสม 8.

ทำให้เกิดความสนใจด้วยการจูงใจ โดยท่ีผู้สอนต้องคำนึงถึงความแตกต่างระหว่าง บุคคลของผู้เรียนให้คำนึงถึงความต้องการ ความถนัด ความสามารถ สติปัญญา อารมณ์และสังคม เป็นตน้ กลุ่มความรู้ความเขา้ ใจ นักจิตวิทยาในกลุ่มน้ี บางทีเรียกว่ากลุ่มปัญญานิยม มีความเช่ือว่าบุคคลหรือผู้เรียนเกิด การเรียนรู้ได้ต้องใช้ประสาทสัมผัส และใช้สติปัญญาเป็นตัววิเคราะห์ข้อมูลแล้วเก็บสะสม ประสบการณไ์ วเ้ พ่อื นำไปใชใ้ นการแกป้ ญั หาใหม่ นกั จติ วทิ ยาท่ีสำคัญในกลมุ่ น้ี ได้แก่ กลุ่มเกสตัลท์ (Gestalt’s Learning Theory) ผู้นำกลุ่มคนสำคัญคือ คือ... ผลลัพธ์ของการแกป้ ัญหา (แบบการหยั่งเห็น) จะเกดิ ขึ้นอย่างทันทีทนั ใดเสมอ เสมือน หนึ่งวา่ ได้เกิดความกระจา่ งแจ้งในใจ หรอื การหยง่ั รหู้ ยง่ั เหน็ วาบขน้ึ มาในจติ ใจนนั่ เอง24 2. ประสบการณ์ในอดีตหรือความรู้เดิม มีส่วนสำคัญท่ีช่วยให้อินทรีย์เกิดการหยั่งรู้หย่ัง เห็น หรือมองเห็นช่องทาง ในเหตุการณ์ทปี่ ระกอบขน้ึ เป็นรูปของปัญหาน้นั ๆ ด้วย 3. การหย่ังรู้หยั่งเห็นดังกล่าว เกิดจากอินทรีย์ของผู้เรียนมองเห็น หรือรับรู้ ความสัมพันธ์ของเหตุการณ์ที่ปรากฏอยู่ หาใช่เกิดจากการตอบสนองต่อส่ิงเร้าท่ีมาเร้าอย่างใด อย่าง หน่ึงเพียงอย่างเดียวไม่ (หมายความว่าลิงซิมแฟนซีตัวนี้ เกิดการหยั่งรู้หย่ังเห็น สามารถแก้ปัญหาท่ี ต้องเผชิญอยู่ให้ตกไป โดยท่ีมันมองเห็นความสัมพันธ์ของมือเอ้ือมกับไม้ยาวต่อจากมือเอื้อม และ กลว้ ยทีแ่ ขวนอย่สู ุดเออ้ื มนน้ั ได้นัน่ เอง) จาการทดลองนี้โคเลอร์สรุปว่า ลิงใช้สติปัญญาในการแก้ปัญหา พิจารณาจากส่ิงเร้า ประสบการณเ์ ดิม ทำใหเ้ กดิ การหยั่งเหน็ ถึงวธิ ีการแก้ปญั หา ภาพท่ี 1.12 การแก้ปัญหาของลงิ... ควรให้ผเู้ รียนทราบจุดมุง่ หมายในการเรยี น25 2. ผู้สอนควรชี้แนะถึงขอบข่ายกว้างๆ ของวิชาที่จะสอน เพ่ือให้ผู้เรียนได้มองเห็น ภาพโครงสร้างโดยสว่ นรวมกอ่ นทจ่ี ะศึกษารายละเอียด 3.

People Also Search

Important AnnouncementPubHTML5 Scheduled Server Maintenance On (GMT) Sunday, June 26th,

Important AnnouncementPubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am. PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated! นวตั กรรมและเทคโนโลยสี ารสนเทศ เพ่ือการสื่อสารการศึกษาและการเรยี นรู้ Innovation and Information Technology for Educational Communication Learning สาขาวชิ าเทคโนโลยดี จิ ิทลั เพือ่ การศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั บ้านสมเด็จ...

นวัตกรรมทางการศกึ ษา. I. ศักดเิ์ รศ ประกอบผล. II. ช่อื เรือ่ ง.

นวัตกรรมทางการศกึ ษา. I. ศักดเิ์ รศ ประกอบผล. II. ช่อื เรือ่ ง. 371.33 ISBN 978-974-373-635-3 พิมพ์ครง้ั ที่ 1 สิงหาคม 2563 จ�ำนวน 1,000 เลม่ ออกแบบปก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ แฝงกมล เพชรเกลย้ี ง สงวนลิขสิทธติ์ ามพระราชบญั ญัตลิ ิขสิทธ์ิ (ฉบบั เพ่มิ เตมิ ) พ.ศ.

2558 หา้ มลอกเลียนแบบ หรือคดั ลอกสว่ นใดส่วนหนึ่งของหนงั สอื เลม่ น้ี ยกเว้นแต่ไดร้

2558 หา้ มลอกเลียนแบบ หรือคดั ลอกสว่ นใดส่วนหนึ่งของหนงั สอื เลม่ น้ี ยกเว้นแต่ไดร้ ับอนุญาตเป็นลายลักษณอ์ กั ษรจากผู้เขียน หนังสอื ยมื เรยี น หรอื แจกฟรี (ห้ามจำ� หน่าย) จัดท�ำโดย คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา 1061 ซอย 15 ถนนอสิ รภาพ แขวงหิรญั รจู ี เขตธนบรุ... 02-473-7000 ต่อ 5000 โทรสาร : 02-472-5712 E-mail : [email protected] https://www.edu.bsru.ac.th พิมพ์ท ่ี โรงพมิ พ์ ...

คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer-Assisted Instruction) 139 4. ระบบการเรยี นการสอนทางไกล (Distance Learning) 142

คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer-Assisted Instruction) 139 4. ระบบการเรยี นการสอนทางไกล (Distance Learning) 142 5. M-Learning 143 สรุป 146 แบบฝึกหัดทา้ ยบท 147 เอกสารอ้างองิ 148 บทท่ี 6 กฎหมาย จรยิ ธรรมและจรรยาบรรณในการใชเ้ ทคโนโลยีดิจิทลั 151 กฎหมาย จริยธรรมและจรรยาบรรณ 151 จรยิ ธรรมเกีย่ วกับการใชเ้ ทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ ICT ETHICS 152 กฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ 159ง หนา้ 160 สารบัญ (ตอ่ ) 161...

ความคดิ หรือการกระทำนน้ั ใหมเ่ น่ืองจากมีความคดิ หรือการกระทำอยแู่ ล้วในขณะนน้ั ประจวบเหมาะกบั การสนับสนุนทางเทคโนโลยีท่ีเขา้ มาพรอ้ มๆกัน

ความคดิ หรือการกระทำนน้ั ใหมเ่ น่ืองจากมีความคดิ หรือการกระทำอยแู่ ล้วในขณะนน้ั ประจวบเหมาะกบั การสนับสนุนทางเทคโนโลยีท่ีเขา้ มาพรอ้ มๆกัน จึงทำให้ส่งิ เหลา่ นั้นดำเนินไปอย่าง ไดผ้ ล 4. ความคิดหรือการกระทำนัน้ ใหม่ เน่อื งจากส่งิ เคยทำอยู่ หรือของเดิมถูกตัด หรือไม่ ได้รับ การสนบั สนุนจากผบู้ ริหารจึงตอ้ งเลิกลม้ แตบ่ ัดนก้ี ลบั ไดร้ ับการสนับสนนุ และไดเ้ ริ่มกระทำตอ่ ไป 5. ความคดิ หรือการกระทำนั้น...