นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศการศึกษา ูผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร ทิพย์ ขัน

Leo Migdal
-
นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศการศึกษา ูผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร ทิพย์ ขัน

Important AnnouncementPubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am. PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated! Copyright © 2025 Wonder Idea Technology Co., Ltd. All rights reserved นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศการศึกษา(Innovation and Information Technology in Education)ผแู้ ตง่ : นายนเรศร์ บญุ เลศิคณะบรรณาธกิ าร : ดร.ศศิธร ศรเี ฟอื้ งฟงุ้ผูท้ รงคุณวฒุ ติ รวจสอบ : รศ.ดร.ธงชยั ธนะสงิ ห์นวัตกรรมและเทคโนโลยสี ารสนเทศการศกึ ษาInnovation and Information Technology in Educationศลิ ปะและจดั รูปเลม่ :... ทฤษฎีจากกลุ่มพฤตกิ รรมนิยม นกั จติ วิทยาการศกึ ษากลมุ่ ในน้ี เชน่ chafe WatsonPavlov, Thorndike, Skinner ทฤษฎขี องนกั จิตวิทยามหี ลายทฤษฎี เชน่ ทฤษฎีการวางเงื่อนไข(Conditioning Theory) ทฤษฎคี วามสัมพันธ์ตอ่ เนือ่ ง (Connectionism Theory) ทฤษฎีการวางเงอื่ นไข (Conditioning Theory) และทฤษฎกี ารเสรมิ แรง (Stimulus Response...

กฎแหง่ การผล (Law of Effect)๒. กฎแห่งการฝึกหดั (Law of Exercise)๓. กฎแหง่ ความพรอ้ ม (Law of Readiness)ทฤษฎกี ารวางเง่ือนไขหรอื ทฤษฎีการเสรมิ แรง (S-R Theory /Operant Conditioning)เจา้ ของทฤษฎีนีค้ อื สกินเนอร์ ( Skinner) กลา่ ววา่ ปฏิกริ ิยาตอบสนองหน่ึงอาจไมใ่ ชเ่ นือ่ งมาจากสิง่ เร้าสงิ่ เดยี ว สง่ิ เร้านั้นๆ กค็ งจะทาใหเ้ กิดการตอบสนองเชน่ เดียวกันได้... Carpenter and Edgar Dale) ได้ประมวลหลักการและทฤษฏีเทคโนโลยที างการศกึ ษาในลักษณะของการเรยี นรู้ท่ีมีประสิทธภิ าพ คือ หลกั การจูงใจสือ่ เทคโนโลยีทางการศกึ ษาจะมีพลงั จงู ใจท่ีสาคญั ในกจิ กรรมการเรียนการสอน เพราะเป็นสิ่งท่ีสามารถผลกั ดนั ส่งเสรมิ และเพมิ่ พนู กระบวนการจูงใจท่ีมีอิทธพิ ลตอ่ พลงั ความสนใจความ กดิ านนั ท์ มลทิ อง , เทคโนโลยีและการส่ือสารการศกึ... ทฤษฎพี ฤติกรรมนิยมมงุ่ เนน้ ในเรือ่ งของพฤตกิ รรมหรือการกระ ทาภายนอกซ่งึสามารถสังเกตได้ ในขณะท่ีทฤษฎีปญั ญานิยมมุ่งเน้นถงึ สง่ิ ท่ีอยูภ่ ายในจิตใจมนุษย์ ๒. ทฤษฎีพฤตกิ รรมนิยมมุ่งชี้ความ สาคัญขององค์ประกอบยอ่ ย ๆ แต่ละส่วนจากสว่ นหนงึ่ ไปยังอีกส่วนหนึ่งและจากสว่ นประกอบตา่ ง ๆ ไปส่ภู าพรวมหรอื วตั ถปุ ระสงค์รวมในทส่ี ุดในทางกลับกันนั้น ทฤษฎปี ญั ญานยิ มพยายามชใ้ี นภาพรวมเปน็ หลกั จากภาพรวมหรือวตั ถปุ ระสงคร์ วมไปสู่สว่ นประกอบและตาด้วยการมองจากสว่ นประกอบต่าง ๆ ไปส่ภู าพรวมหรือวตั ถปุ ระสงคร์...

ทฤษฎีพฤตกิ รรมนิยมมุ่งเน้นสง่ิ ที่เป็นรูปธรรมซ่งึ สามารถจับต้องได้ ในขณะท่ที ฤษฎีปัญญานยิ มมุง่ เน้นในสง่ิ ท่เี ปน็ นามธรรมซง่ึ ไมส่ ามารถจับต้องได้ ๔. ทฤษฎีพฤติกรรมนยิ มมีความเช่อื เกย่ี วกบั เร่อื งของความรขู้ องมนษุ ยใ์ นลกั ษณะของสิง่ท่ีมีอยแู่ ลว้ และรอให้มนษุ ย์ค้นพบและเรียกกลบั มาใช้ใหม่ ในขณะท่ีทฤษฎีปญั ญานิยมมีความเชอ่ืเกย่ี วกับเรอ่ื งของความร้ใู นลกั ษณะของสิง่ ทีม่ นษุ ยจ์ าเป็นต้องสรา้ งให้เกดิ ขน้ึ และหากต้องนาความรกู้ ลับมาใช้อีกกจ็ าเปน็ จะต้องมีการสรา้ งขน้ึ มาใหม่ ๕. ทฤษฎีพฤตกิ รรมนิยมเปรยี บเทียบกบั จิตใจมนุษยเ์ ปน็ เสมือนโรงงานประกอบชนิ้ ส่วนตา่ ง ๆ ซง่ึ หมายถึงความเชือ่ ทีว่ ่าส่ิงท่ีอยภู่ ายในจิตใจมนษุ ย์น้นั เกิดจากการประกอบขึ้นของมนุษย์น่นั เอง ไม่มคี วามสลับซบั ซ้อน ชน้ิ สว่ นในการประกอบเปน็ อย่างไรผลผลติ ท่ไี ด้ก็จะเป็นเช่นนนั้ในขณะท่ีทฤษฎปี ญั ญานยิ มเปรยี บเทียบจติ ใจเปน็ เสมอื นคอมพิวเตอร์ซ่งึ หมายถงึ... ทฤษฎีพฤตกิ รรมนิยมมุ่งเนน้ ในผลลพั ธ์ ในขณะท่ที ฤษฎีปัญญานยิ มมุ่งเน้นในกระบวนการตารางสรุปความแตกตา่ งของแนวความคิดระหว่างพฤตกิ รรมนิยม และปัญญานยิ ม พฤตกิ รรมนิยม (Behaviorism) ปญั ญานยิ ม (Cognitivism)- เรอ่ื งของการกระทาภายนอก (Behavior) - เร่อื งของภายในจติ ใจ (Internal Representtation)- องคป์ ระกอบ (Parts) - ภาพรวม (Wholes)- ความรู้เป็นสง่ิ... ทฤษฏีการเรียนรขู้ องกลุม่ เกสตลั ท์ ( Gestalt Theory) นกั จิตวทิ ยาคนสาคัญของทฤษฎนี ้ี คือ แมกซ์ เวอรไ์ ทมเ์ มอร์ (Max Wertheimer) วลุ ฟ์ แกงค์ โคห์เลอร์ (WolfgangKohler) เคริ ท์ คอฟฟก์ า (Kurt Koffka) ๒. ทฤษฎเี ครอ่ื งหมาย (Sign Theory) ของทอลแมน (Tolman) ๓.

ทฤษฎพี ฒั นาการทางสตปิ ัญญา (Intellectual Development Theory) นกั จิตวิทยาคนสาคัญ คือ เพยี เจต์ (Piaget) และ บรเุ นอร์ (Bruner) ๔. ทฤษฎกี ารเรียนรู้อย่างมคี วามหมาย (A Theory of Meaningful Verbal Learning)ของออซเู บล (Ausubel) ๕. ทฤษฎีสนาม (Field Theory) นกั จิตวิทยาคนสาคญั คอื เคิรท์ เลวิน (Kurt Lewin)ซึ่งเคยอยใู่ นกลมุ่ ทฤษฎขี องเกสตลั ท์ และได้แยกตวั ออกมาในภายหลัง ๖. ทฤษฎคี วามยืดหย่นุ ทางปัญญา (Cognitive Flexibility Theory) ๗. ทฤษฎีโครงสรา้ งความรู้ ( Schema Theory) มีนักจติ วทิ ยาท่สี าคญั คือ รเู มลฮารท์และออโทน่ี (Rumelhart and Ortony) ทฤษฎี การเรยี นร้ใู นกลุ่มปัญญานิยมมีรายละเอียดของทฤษฎีและการประยกุ ตน์ าทฤษฎีเหลา่ น้นั มาใชใ้ นการจัดการเรยี นการสอน-๑๕- ๑.๔.๑ ทฤษฏีการเรียนรูข้ องกลมุ่ เกสตลั ท์ กลุ่มเกสตัลทน์ ้เี รมิ่ กอ่... ๑๙๑๒ ในระยะใกล้เคยี งกับกล่มุ พฤติกรรมนิยมกาลังแพรห่ ลาย ไดร้ บั ความนิยมอยใู่ นประเทศสหรัฐอเมริกาผนู้ าของกลมุ่ คอืแมกซ์เวอร์ไทมเ์ มอร์, วลุ ฟ์ แกงค์ โคหเ์ ลอร์ , เคริ ์ท คอฟฟก์ า, และ เคิร์ท เลวิน ซ่งึ ตอ่ มาภายหลงัเลอวินไดน้ าทฤษฎขี องกลุ่มเกสตัลทม์ าปรบั ปรุงดัดแปลงเป็นทฤษฎีใหม่เป็นทฤษฎีสนาม เกสตัลท์เปน็ คาศพั...

การเรียนรู้เป็นกระบวนการทางความคดิ ซึ่งเปน็ กระบวนการภายในตัวของมนุษย์ ๒. บคุ คลจะเรยี นรจู้ ากสง่ิ เรา้ ทีเ่ ปน็ สว่ นรวมไดด้ กี ว่าสว่ นยอ่ ย๓ . การเรียนรู้เกดิ ข้ึนได้ ๒ ลกั ษณะ ๓.๑) การรับรู้ ( perception) การรบั รู้เป็นกระบวนการทบี่ ุคคลใชป้ ระสาทสัมผัสรบั ส่ิงเรา้ แล้วถ่ายโยงเขา้ สู่สมองเพือ่ ผา่ นเข้าส่กู ระบวนการคดิ สมองหรอื จิตจะใช้ประสบการณ์เดิมตีความหมายของสิ่งเร้าและแสดงปฏิกริ ยิ าตอบ สนองออกไปตามทสี่ มอง จิตตคี วามหมาย ๓.๒) การหยง่ั เห็น ( Insight) เปน็ การค้นพบหรือเกิดความเข้าใจในช่องทางแก้ปญั... กฎการจดั ระเบยี บการรบั รขู้ องเกสตลั ทม์ ี ดงั น้ี ๔ .๑ กฎการรับรู้สว่ นรวมและส่วนยอ่ ย (Law of Pragnanz) ประสบการณ์ เดิมมีอทิ ธพิ ลต่อการรบั รขู้ องบคุ คล การรบั รู้ของบุคคลตอ่ สิง่ เรา้ เดยี วกนั อาจแตกต่างกนั ได้เพราะการใช้ ประสบการณเ์ ดมิ... ดสู ั้นกวา่ เสน้ ตรงในภาพ ข. ทง้ั ๆทีย่ าวเท่ากัน เสน้ ก.

เส้น ข.๕ . การเรียนร้แู บบหยั่งเห็น (Insight) โคหเ์ ลอร์ ไดส้ งั เกตการเรยี นรู้ของลิงในการทดลองลงิ พยายามท่ีจะเอากล้วยที่ซึ่งแขวนอยู่สูงเกนิ กว่าจะเอ้ือมถงึ ในทส่ี ดุ ลงิ ก็เกดิ ความคดิ ท่จี ะเอาไม่ไปสอยกลว้ ยทีแ่ ขวนเอามากนิ ได้ สรปุ ไดว้ า่ ลิงมีการเรียนรแู้ บบหยง่ั เห็น การหยั่งเห็นเปน็ การคน้ พบหรือเกิดความเข้าใจในชอ่ งทางแกป้ ัญหาอยา่ งฉบั พลัน... กระบวน การคิดเปน็ กระบวนการสาคัญในการเรียนรู้ การสง่ เสริมกระบวนการคดิ จงึเปน็ สิง่ จาเปน็ และเปน็ สงิ่ สาคัญในการช่วยใหผ้ ู้ เรียนเกดิ การเรียนรู้ ๒. การสอนโดยการเสนอภาพรวมใหผ้ ูเ้ รียนเห็นและเข้าใจกอ่ นการเสนอสว่ นย่อย จะช่วยให้ผเู้ รยี นเกิดการเรยี นรูไ้ ด้ดี ๓. การส่งเสริมให้ผูเ้ รยี นมีประสบการณม์ าก ไดร้ บั ประสบการณ์ทหี่ ลากหลายจะช่วยให้ผเู้ รยี นสามารถคดิ แก้ปญั หาและคดิ ริเร่มิ ได้มากขนึ้ ๔. การจัดประสบการณใ์ หม่ ใหม้ ีความสมั พนั ธก์ บั ประสบการณ์เดมิ ของผูเ้ รยี นจะชว่ ยให้ผเู้ รียนสามารถเรยี นร้ไู ดง้ ่ายขึน้ ๕.

การจดั ระเบยี บสงิ่ เรา้ ทีต่ อ้ งการใหผ้ ู้เรียนเกิดการเรียนรู้ใหด้ ีคือ การจดั กลุม่ ส่ิงเรา้ ท่ีเหมอื นกันหรือคลา้ ยคลงึ กนั ไว้เป็นกลุ่มเดยี วกัน ๖. ในการสอนครูไมจ่ าเปน็ ตอ้ งเสยี เวลาเสนอการสอนทั้งหมดท่ีสมบรู ณค์ รูสามารถเสนอเนือ้ หาแตเ่ พียงบางส่วนได้ หากผเู้ รยี นสามารถใชป้ ระสบการณ์เดมิ มาเติมใหส้ มบูรณ์-๑๗- ๗. การเสนอบทเรยี นหรือ เสนอเนื้อหาควรจัดใหม้ คี วามต่อเนื่องกนั จะช่วยใหผ้ ู้เรยี นเกดิการเรียนรู้ได้ดี และรวดเร็ว ๘. การสง่ เสริมให้ผู้เรียนไดร้ บั ประสบการณท์ ี่ มคี วามหลากหลาย จะช่วยใหน้ กั เรยี นเกิดการเรียนรู้แบบหยง่ั เห็นได้มากข้นึ๑.๔.๒ ทฤษฎเี ครือ่ งหมาย แนวคิดหลักของทฤษฎี เป็นการเรียนรเู้ กิดจากการใชเ้ คร่ืองหมายเปน็ ตวั ช้ที างใหแ้ สดงพฤติกรรมไปสูจ่ ุดหมายปลายทางการเรยี นรู้สงิ่ ต่าง ๆ ผูเ้ รยี นมีความคาดหมายรางวัล หรือผ้เู รยี นคาดวา่ จะได้รับตามความตอ้... ทอลแมน (Edward C. Taolman) เป็นนักจติ วิทยาชาวอเมริกนั ไดเ้ สนอถงึทฤษฎเี คร่อื งหมาย หรอื ทฤษฎีความคาดหมาย (Expectancy Theory) ซงึ่ ปรับปรงุ มาจากทฤษฎีการแสดงพฤตกิ รรมสจู่ ุดหมาย (Purposive behaviorism) ทอลแมน กล่าวว่าการเรยี นรู้เกดิ จากการใช้เครอื่ งหมายเปน็ ตวั ชที้ างใหแ้ สดงพฤตกิ รรมไปสจู่ ุดหมายปลายทาง ทฤษฎขี องทอลแมนสรปุ ดงั น้ี ๑.

ในการเรียนรู้ผู้เรยี นมีการคาดหมายรางวลั ( reward expectancy) หากรางวลั ทค่ี าดวา่ จะไดร้ บั ไมต่ รงตามความพอใจและความตอ้ งการ ผเู้ รยี นจะพยายามแสวงหารางวัลหรือสง่ิ ที่ต้องการตอ่ ไป ๒. ขณะทีผ่ ู้เรยี นจะพยายามไปให้ถงึ จดุ หมายปลายทางทต่ี อ้ งการ ผ้เู รยี นจะ ต้องเกดิ การเรียนรเู้ คร่อื งหมาย สัญลักษณ์ สถานที่ (place learning) และส่ิงอน่ื ๆทีเ่ ปน็ เคร่อื งช้ีตามไปด้วย ๓. ผู้เรียนมคี วามสามารถทีจ่ ะปรบั การเรยี นรขู้ องตนไปตามสถานการณ์ทเี่ ปลีย่ นไปจะไม่กระทาซ้า ๆ ในทางที่ไม่สามารถสนองความต้องการ หรอื วัตถปุ ระสงค์ของตน ๔. การเรียนรทู้ ่เี กิดข้นึ ในบุคคลใดบุคคลหนึง่ น้ัน บางครงั้ จะไม่แสดงออกในทนั ที อาจจะแฝงอยใู่ นตวั ผเู้ รียนไปกอ่ นจนกวา่ จะถึงเวลาทเ่ี หมาะสมหรอื จาเปน็ จึงจะ แสดงออก ( latentlearning) หลกั การจัดการศึกษาการสอนตามแนวคดิ ของทฤษฎเี คร่อื งหมาย ๑. การสร้างแรงขบั หรอื แรงจงู ใจให้เกิดขน้ึ กบั ผู้เรยี นจะกระต้นุ ให้ผู้เรยี นไปให้ถงึ จุดมงุ่หมายทต่ี ้องการ-๑๘- ๒. ในการสอนให้ผูเ้ รยี นบรรลจุ ุดม่งุ หมายนัน้ ครูควรให้เครอื่ งหมายสัญลกั ษณ์หรือส่ิงอ่ืนๆท่ีเปน็ เคร่อื งชี้ทางควบคไู่ ปด้วย ๓.

การปรบั เปลย่ี นสถานการณ์การเรยี นรู้ สามารถช่วยใหผ้ เู้ รยี นปรบั เปลี่ยนพฤตกิ รรมของตนได้ ๔. การเรียนรบู้ างอยา่ งอาจไม่สามารถแสดงออกไดใ้ นทันที การใชว้ ิธกี ารทดสอบหลายๆวธิ ี ทดสอบบอ่ ย ๆ หรอื ติดตามผลระยะยาว จึงเปน็ ส่ิงจาเป็นในการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ในลักษณะน้ี๑.๔.๓ ทฤษฎพี ัฒนาการทางสตปิ ัญญา (Intellectual Development Theory) ทฤษฎพี ัฒนาการทางสตปิ ัญญานักจติ วิทยาชาวสวิสทีเ่ ป็นทร่ี ู้จักในฐานะผู้เช่ยี วชาญในทฤษฎีพฒั นาการทางดา้ นสติปญั ญา ผลงานของเขาเกยี่... พฒั นาการทางสติปัญญาของบคุ คลเป็นไปตามวยั ตา่ งๆ เป็นลาดับข้นั ๑.๑ ขัน้ รบั รู้ดว้ ยประสาทสมั ผสั ( Sensorimotor period) เป็นข้ันพฒั นาการในชว่ ง ๐ - ๒ ปี ความคดิ ของเด็กวยั น้ขี ้นึ กบั การรับร้แู ละการกระทาเดก็ ยดึ ตวั เองเปน็ ศูนย์กลางและยงั ไม่สามารถเขา้... ภาษาและกระบวนการคดิ ของเด็กแตกตา่ งจากผู้ใหญ่ ๓. กระบวนการทางสตปิ ัญญา มลี ักษณะ ดังน้ี ๓ .๑ การซึมซบั หรือการดดู ซมึ ( assimilation) เป็นกระบวนการทางสมองในการรบั ประสบการณ์เร่อื งราวและขอ้ มลู ตา่ ง ๆ เขา้ มาสะสมเกบ็ ไว้ เพอื่ ใชเ้ ป็นประโยชน์ตอ่ ไป ๓ .๒ การปรับและจดั ระบบ ( accommodation) คือกระบวนการทางสมองในการปรบั ประสบการณ์เดมิ... ในการพัฒนาเดก็ ควรคานงึ ถงึ พฒั นาการทางสติปัญญาของเดก็ และจดั ประสบการณ์ใหเ้ ดก็ อยา่ งเหมาะสม กับพฒั นาการนนั้ ไม่ควรบังคบั ใหเ้ ดก็ เรยี นในสิ่งที่ยังไมพ่ รอ้ ม หรือยากเกินพัฒนาการตามวยั ของตน เพราะจะก่อใหเ้ กิดเจตคติท่ไี ม่ดีได้ ๑ .๑ การจดั สภาพแวดลอ้ มท่เี อ้อื ให้เด็กเกดิ การเรียนรตู้ ามวัยของตนสามารถช่วยให้เด็กพฒั นาไปสูพ่...

การใหค้ วามสนใจสงั เกตเด็กอย่างใกลช้ ิดจะชว่ ยให้ทราบลักษณะเฉพาะตวั ของเดก็ ๓. ในการสอนเด็กเล็ก ๆ เด็กจะรบั รู้ส่วนรวม ( whole) ไดด้ กี วา่ สว่ นย่อย ( part) ดงั น้ันครจู ึงควรสอนภาพรวมก่อนแล้วจึงแยกสอนท่ีละสว่ น ๔. ในการสอนสง่ิ ใดให้กบั เด็ก ควรเริ่มจากสิ่งทเี่ ดก็ ค้นุ เคยหรอื มีประสบการณ์มากอ่ นแลว้ จงึ เสนอสิ่งใหม่ที่มีความสัมพนั ธก์ บั สิง่ เกา่ การกระทาเช่นนชี้ ่วยให้กระบวนการซึมซับและการจดั ระบบความรูข้ องเด็กเปน็ ไปด้วยดี-๒๐- ๕. การเปิดโอกาสให้เดก็ ไดร้ บั ประสบการณ์ และมีปฏสิ มั พันธ์กบั ส่ิงแวดลอ้ มมาก ๆ ชว่ ยใหเ้ ด็กดูดซึมข้อมลู เข้าสูโ่ ครงสร้างทางสตปิ ัญญาของเดก็ อันเปน็ การสง่ เสรมิ พัฒนาทางสติปัญญาของเด็ก ทฤษฎีพฒั นาการทางสติปญั ญาของบรนุ เนอร์บรนุ เนอร์ ( Bruner) นกั จิตวิทยาที่สนใจเร่อื งของพัฒนาการทางสตปิ ัญญาต่อเน่อื งจากเพยี เจต์ บรุนเนอร์เชือ่... การจดั โครงสร้างความรู้ให้มคี วามสมั พนั ธ์และสอดคล้องกับพัฒนาการทางสติปญั ญาของเดก็ มผี ลตอ่ การเรียนรู้ของเดก็ ๒. การจัดหลักสูตรการเรียนการสอนใหเ้ หมาะสมกับระดบั ความพรอ้ มของผู้เรยี น และสอดคล้องกบั พัฒนาการทางสติปญั ญาของผู้เรียนจะชว่ ยใหก้ ารเรียนรเู้ กิด ประสิทธิภาพ ๓.

การคดิ แบบหยงั่ รู้ เการคดิ หาเหตผุ ลต่าง ๆ อยา่ งอสิ ระทสี่ ามารถพัฒนาความคดิ รเิ ร่ิมสร้างสรรคไ์ ด้๔ . แรงจงู ใจภายในเปน็ ปจั จัยสาคัญที่จะชว่ ยให้ผูเ้ รียนประสบผลสาเร็จในการเรียนรู้๕ . ทฤษฎีพฒั นาการทางสติปญั ญาของมนษุ ย์ แบง่ ได้เปน็ ๓ ขั้น ใหญ่ ๆ คือ ๕.๑ ขัน้ การเรียนรู้จากการกระทา ( Enactive Stage) คือ ขัน้ ของการเรยี นรู้จากการใช้ประสาทสัมผัสรบั รู้สิ่งตา่ งๆ การลงมือกระทาช่วยให้เด็กเกดิ การเรยี นรู้ไดด้ ี การเรยี นรู้เกิดจากการกระทา ๕ .๒ ขนั้ การเรียนรู้จากความคดิ (Iconic... การเรียนรู้เกิดได้จากการท่คี นเราสามารถสร้างความคดิ รวบยอด หรอื สามารถสรา้ งหรือสามารถจัดประเภทของสงิ่ ต่างๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม-๒๑- ๗. การเรียนรทู้ ่ีได้ผลดที ีส่ ดุ คอื การให้ผู้เรยี นค้นพบการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง (discoverylearning) ๑.๔.๔ ทฤษฎกี ารเรยี นรู้อย่างมีความหมาย ทฤษฎีการเรียนรูอ้ ย่างมคี วามหมาย (A Theory of Meaningful Verbal Learning)เป็นทฤษฎีการเรยี นรู้ในกลมุ่ จติ วิทยาการเรยี นรู้กลุ่มพทุ ธนิ ยิ ม (Cognitivism) กลมุ่ ความรคู้ วามเข้าใจหรอื กล่มุ... การเรียนร้โู ดยเรยี นรอู้ ยา่ งมีความหมาย ๒.

การเรียนรโู้ ดยการท่องจา ๓. การเรยี นรโู้ ดยการคน้ พบอย่างมคี วามหมาย ๔. การเรียนรูโ้ ดยการค้นพบแบบท่องจา การเรียนร้ทู ัง้ ๔ รปู แบบ ออซูเบลเนน้ ความสาคัญของการเรยี นรู้อยา่ งมคี วามหมาย และพยายามที่จะสรา้ งหลักการเพอ่ื อธิบายกระบวนการเรยี นรู้ดงั กล่าว หลกั การ Ausubel เช่ือว่าจะทาใหเ้ กดิ การเรียนรู้อย่างมคี วามหมาย โดยเรียกหลักการดงั กลา่ วนว้ี า่ การจัดวางโครงสร้างเนื้อหา หลกั การสาคัญประการหนึง่ ท่นี ักจิตวิทยาในกลุ่มน้มี ิได้กลา่... พฤตกิ รรมของคนมพี ลังและทิศทาง สิง่ ใดท่อี ยู่ในความสนใจและความต้องการของตน จะมพี ลังเปน็ บวกสงิ่ ที่นอกเหนือจากความสนใจจะมพี ลังงานเป็น ลบในขณะใดขณะหน่งึ ทุกคนจะมี โลกหรอื อวกาศชีวติ (life space) ของตนซง่ึ จะประกอบไปดว้ ยส่ิงแวดล้อมทางกายภาพ(physical environment) คน สตั ว์ ส่งิ ของ สถานท่ี สิ่งแวดลอ้ มอื่น ๆ และสงิ่ แวดลอ้ มทางจิตวิทยา Kurt... เพิ่มขนาดของแรงเสริม ๒. ลดขนาดของแรงตา้ น ๓.

เพม่ิ ขนาดของแรงเสริม ขณะเดียวกนั กล็ ดขนาดของแรงต้าน Lewin ได้ เสนอแนวทางเพือ่ ดาเนนิ การเปลี่ยนแปลงโดยมีขัน้ ตอน ดังนี้ ๑. ละลายพฤตกิ รรมเดมิ ๒. การวิเคราะห์ปญั หา ๓. การตั้งเปา้ หมาย ๔. การมพี ฤติกรรมใหม่ ๕. การทาให้พฤตกิ รรมใหม่นน้ั คงอยู่๑.๔.๖ ทฤษฎีความยืดหยุน่ ทางปัญญา (Cognitive Flexibility Theory) เป็นแนวคดิ ทเี่ ชอื่ วา่ ความรู้แตล่ ะองค์ความรู้นัน้ มโี ครงสรา้ งท่แี นช่ ัดและสับซบั ซ้อนมากน้อยทม่ี คี วามแตกต่างกนั โดยองค์ความรูบ้ างประเภทสาขาวิชา เชน่ วิทยาศาสตร์ ถือวา่ เป็นองค์ความรูป้ ระเภททไ่ี มม่ โี ครงสรา้ งตายตัว ไม่สลบั...

การออกแบบให้เหมาะสมกับรปู แบบความคิดของผใู้ ช้ ชว่ ยให้ผู้ใช้มองเห็นภาพของระบบ๒. มีความสมา่ เสมอแตต่ อ้ งไมน่ า่ เบ่อื ความสม่าเสมออยูใ่ นลักษณะของคาสั่งทใ่ี ช้กระบวนการทผ่ี ้ใู ชใ้ ช้ ในการควบคมุ และการเคลอื่ นไหว๓. จัดให้มีขัน้ ตอนที่สั้นสาหรับผู้ทมี่ ีประสบการณ์ และมรี ายละเอียดสาหรับผทู้ เ่ี พงิ่ เริ่มใช้๔. ใหข้ ้อมลู ย้อนกลบั ในสง่ิ ท่ผี ู้ใชท้ า ไมใ่ หผ้ ใู้ ชม้ องเห็นจอภาพทวี่ ่าง๕. ทาหนา้ จอภาพใหส้ ามารถแสดงส่งิ ตา่ ง ๆ ได้อยา่ งมีความหมายและใช้อย่างคมุ้ คา่-๒๕-๖. ใชข้ อ้ ความท่เี ปน็ ทางบวก สามารถสอื่ หรือนาไปสู่การกระทาได้ โดยหลีกเลี่ยงการใช้ข้อความรกู้ นั เฉพาะคนบางกล่มุ หรือเคร่อื งหมายทที่ าใหส้ บั สนหรอื คายอ่ ทไ่ี ม่สื่อความหมาย๗.

พยายามจัดหน้าจอภาพให้เหมาะสม น่าอ่านและใช้การต่อไปยังเว็บเพจหน้าถดั ไปมากกว่าทจี่ ะใชก้ ารเลอ่ื นหน้าจอภาพไปทางขวามือ๘. พยายามไมใ่ หม้ ีข้อผิดพลาด๙. ถา้ มีการเชื่อมโยงภายในเพจผูใ้ ช้เข้าใจและสามารถทาไดอ้ ย่างสะดวก๑๐. ถา้ มกี ารเช่อื มโยงกบั ภายนอกจะต้องมีขอ้ ความบอกไว้เมอื่ เรยี กใช้จะแสดงสิง่ ใดใหก้ ับผูใ้ ชเ้ พ่อื ใหผ้ ้ใู ช้สามารถตดั สินใจได้๑๑. ตอ้ งมีเหตุผลท่ีสมควรในการนาส่ิงภายนอกมาเชอ่ื มโยงกบั เพจจะต้องทดสอบการเชอ่ื มโยงสมา่ เสมอ๑๒. หลกี เล่ียงการทาเว็บเพจทยี่ าวแบง่ สาระอยา่ งเหมาะสมหรือมกี ารจดั ทาเป็นกล่มุ๑๓.

การจดั ทาข้อความและภาพ จะต้อ งมวี ัตถุประสงค์ มกี ารจัดเตรียมวางแบบขนาดของตัวอักษร สี การกาหนดปมุ่ และการใชเ้ นอื้ ท่ี๑๔. ภาพที่ใชต้ ้องไมใ่ หญ่เกินไปและต้องไม่ใชเ้ วลานานในการเชอ่ื มโยงภาพมาสเู่ ว็บเพจ๑๕. การเช่อื มโยงภาพมาสูเ่ วบ็ เพจควรบอกขนาดของภาพเพอ่ื ใหผ้ ู้ใช้ตดั สินใจกอ่ นทจ่ี ะเลือกใช้ หรือสง่ั พิมพไ์ ดอ้ ย่างสะดวก๑๖. จัดทาสว่ นท้ายของเว็บเพจให้มชี ่อื ผู้ทา E-mail จะตดิ ต่อได้วนั ทีท่ มี่ กี ารจดั ทาแก้ไขเปลี่ยนแปลงแนวการเลอื กต่าง ๆ เพ่อื ให้สามารถเห็นภาพรวมทง้ั หมด๑๗. หลกั สาคัญ คือ การทาใหเ้ ว็บเพจนา่ สนใจ โดยการใชก้ ารเชอื่ มโยงศักยภาพในการที่จะดึงดดู ความสนใจของผูใ้ ช้ โดยการใช้ภาพทใี่ ห้คณุ ค่าในการเรียนรู้๑๘. ตอ้ งมกี ารปรับปรุงเว็บเพจอยู่เสมอ๑.๕ ความหมาย ความเปน็ มาเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศกึ ษา เทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ การศึกษา เป็น การนาเอาเทคโนโลยีสารสนเทศ ไดแ้ ก่เทคโนโลยที างคอมพิวเตอร์ เครอื ข่ายโทรคมนาคมท่เี ชื่อมตอ่ กัน นามาประยกุ ต์ใชใ้ นการส่งข้อมูลและรบั ขอ้ มลู และมัลตมิ เี ดีย ที่เก่ยี วกบั ความรู้ โดยผา่ นกระบวนการประมวลหรอื รูปแบบท่ี มีความสะดวกนาไปใชป้ ระโยชน์ในชวี...

เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ จดั เปน็ เทคโนโลยหี ลกั ของเทคโนโลยีสารสนเทศมีคณุ สมบตั ิด้านการบนั ทึก จดั เกบ็ ข้อมูล การประมวลผล การแสดงผล และการสบื คน้ หาข้อมู ลสารสนเทศเทคโนโลยี คอมพวิ เตอรแ์ บง่ เป็นเทคโนโลยที ี่ ย่อย ๆ สาคญั ได้ ๒ สว่ น คือ เทคโนโลยฮี... เทคโนโลยีการสือ่ สารโทรคมนาคมใช้นิยมใช้ตดิ ตอ่ สอ่ื สาร เชน่ ระบบโทรศพั ท์ ระบบดาวเทยี ม ระบบเครอื ข่ายเคเบลิ และระบบส่อื สารอนื่ ๆ ๑.๕.๒ เทคโนโลยสี ารสนเทศทางการศกึ ษา เทคโนโลยสี ารสนเทศ (Information Technology) ตรงกบั คาศัพทท์ ว่ี ่า Informatiqueหมายถงึ การนาเทคโนโลยคี อมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยมี าใชใ้ นงานท่ีเกย่ี วข้องกบั... เปน็ ข้อมูลท่ผี ่านการประมวลผลแลว้๒. เป็นรปู แบบทมี่ ีประโยชน์ นาไปใช้งานได้๓. มคี ณุ ค่าสาหรับใชใ้ นการดาเนนิ งานและการตัดสินใจ เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง เทคโนโลยีท่ีเกย่ี วขอ้ งกับการจัดเกบ็ ประมวลผล และเผยแพร่สารสนเทศ ได้แก่ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีการสื่อสาร และเทคโนโลยคี มนาคม เทคโนโลยสี ารสนเทศ เป็นการประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศกบั งานดา้ นการศึกษาไดแ้ ก่ การจดั เก็บขอ้ มลู และประมวลผลฐานข้อมูล การพฒั นาระบบสารสนเทศชว่ ยการเรียนการสอน การวางแผนและการบรหิ ารการศกึ ษา... ๒๕๓๕ ตามระเบียบสานกั นายกรฐั มนตรี ต่อมาเมื่อวันท่ี ๒๐ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๓๙ คณะรฐั มนตรีไดม้ ติใหป้ ระกาศใช้หรอื IT - ๒๐๐๐ โดยมเี สาหลักในการพัฒนา ๓ ประการ คอื๑ .

People Also Search

Important AnnouncementPubHTML5 Scheduled Server Maintenance On (GMT) Sunday, June 26th,

Important AnnouncementPubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am. PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated! Copyright © 2025 Wonder Idea Technology Co., Ltd. All rights reserved นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศการศึกษา(Innovation and Information Technology in Education)ผแู้ ตง่ : นายนเรศร์ บญุ เลศิคณะบรรณาธกิ าร : ดร.ศศิธร ศรเี ฟอื้ งฟงุ้ผูท...

กฎแหง่ การผล (Law Of Effect)๒. กฎแห่งการฝึกหดั (Law Of Exercise)๓. กฎแหง่

กฎแหง่ การผล (Law of Effect)๒. กฎแห่งการฝึกหดั (Law of Exercise)๓. กฎแหง่ ความพรอ้ ม (Law of Readiness)ทฤษฎกี ารวางเง่ือนไขหรอื ทฤษฎีการเสรมิ แรง (S-R Theory /Operant Conditioning)เจา้ ของทฤษฎีนีค้ อื สกินเนอร์ ( Skinner) กลา่ ววา่ ปฏิกริ ิยาตอบสนองหน่ึงอาจไมใ่ ชเ่ นือ่ งมาจากสิง่ เร้าสงิ่ เดยี ว สง่ิ เร้านั้นๆ กค็ งจะทาใหเ้ กิดการตอบสนองเชน่ เดียวกันได้... Carpenter and Edgar Dale) ได้ประมวลหลักก...

ทฤษฎีพฤตกิ รรมนิยมมุ่งเน้นสง่ิ ที่เป็นรูปธรรมซ่งึ สามารถจับต้องได้ ในขณะท่ที ฤษฎีปัญญานยิ มมุง่ เน้นในสง่ิ ท่เี ปน็

ทฤษฎีพฤตกิ รรมนิยมมุ่งเน้นสง่ิ ที่เป็นรูปธรรมซ่งึ สามารถจับต้องได้ ในขณะท่ที ฤษฎีปัญญานยิ มมุง่ เน้นในสง่ิ ท่เี ปน็ นามธรรมซง่ึ ไมส่ ามารถจับต้องได้ ๔. ทฤษฎีพฤติกรรมนยิ มมีความเช่อื เกย่ี วกบั เร่อื งของความรขู้ องมนษุ ยใ์ นลกั ษณะของสิง่ท่ีมีอยแู่ ลว้ และรอให้มนษุ ย์ค้นพบและเรียกกลบั มาใช้ใหม่ ในขณะท่ีทฤษฎีปญั ญานิยมมีความเชอ่ืเกย่ี วกับเรอ่ื งของความร้ใู นลกั ษณะของสิง่ ทีม่ นษุ ยจ์ าเป็นต้องสรา...

ทฤษฎพี ฒั นาการทางสตปิ ัญญา (Intellectual Development Theory) นกั จิตวิทยาคนสาคัญ คือ

ทฤษฎพี ฒั นาการทางสตปิ ัญญา (Intellectual Development Theory) นกั จิตวิทยาคนสาคัญ คือ เพยี เจต์ (Piaget) และ บรเุ นอร์ (Bruner) ๔. ทฤษฎกี ารเรียนรู้อย่างมคี วามหมาย (A Theory of Meaningful Verbal Learning)ของออซเู บล (Ausubel) ๕. ทฤษฎีสนาม (Field Theory) นกั จิตวิทยาคนสาคญั คอื เคิรท์ เลวิน (Kurt Lewin)ซึ่งเคยอยใู่ นกลมุ่ ทฤษฎขี องเกสตลั ท์ และได้แยกตวั ออกมาในภายหลัง ๖. ทฤษฎคี วามยืดหย่นุ ทางปัญญ...

การเรียนรู้เป็นกระบวนการทางความคดิ ซึ่งเปน็ กระบวนการภายในตัวของมนุษย์ ๒. บคุ คลจะเรยี นรจู้ ากสง่ิ เรา้ ทีเ่

การเรียนรู้เป็นกระบวนการทางความคดิ ซึ่งเปน็ กระบวนการภายในตัวของมนุษย์ ๒. บคุ คลจะเรยี นรจู้ ากสง่ิ เรา้ ทีเ่ ปน็ สว่ นรวมไดด้ กี ว่าสว่ นยอ่ ย๓ . การเรียนรู้เกดิ ข้ึนได้ ๒ ลกั ษณะ ๓.๑) การรับรู้ ( perception) การรบั รู้เป็นกระบวนการทบี่ ุคคลใชป้ ระสาทสัมผัสรบั ส่ิงเรา้ แล้วถ่ายโยงเขา้ สู่สมองเพือ่ ผา่ นเข้าส่กู ระบวนการคดิ สมองหรอื จิตจะใช้ประสบการณ์เดิมตีความหมายของสิ่งเร้าและแสดงปฏิกริ ยิ าตอบ ...