นายกฯ เผย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดําเนินเยือนจีนอย่างเป

Leo Migdal
-
นายกฯ เผย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดําเนินเยือนจีนอย่างเป

วันนี้ (13 พ.ย.2568) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีเกียรติยศ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือน สาธารณรัฐประชาชนจีน อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 13-17 พ.ย.2568 ว่า ทุกครั้งที่องค์พระประมุขของชาติ เสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ รัฐบาลก็จะต้องมีรัฐมนตรีเกียรติยศตามเสด็จพระราชดำเนิน ซึ่งในครั้งนี้ก็มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้นายกรัฐมนตรี​ และนายสีหศักดิ์​ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ ตามเสด็จในฐานะรัฐมนตรีเกียรติยศ เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรี จะมีภารกิจนอกเหนือจากนี้ ที่จะหารือกับจีนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่มี เพราะนี่เป็นองค์ประกอบของขบวนเสด็จ นายกรัฐมนตรี เผยว่า การเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เยือนประเทศจีนในครั้งนี้ ก็ต้องถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ เป็นครั้งแรกที่พระมหากษัตริย์ของไทย ได้เสด็จพระราชดำเนินไปประเทศจีน ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การทรงจำ เป็นการเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งในปีนี้ก็ครบรอบ 50 ปี โดยเป็นความสัมพันธ์ทางการทูต แต่ที่จริงแล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ มีสืบเนื่องกันมาเป็นหลายร้อยปี อ่านข่าว : "กัมพูชา" ติดโผ 20 อันดับ ประเทศแห่งอาชญากรรมโลก ปี 2025 สส.เดโมแครตเปิดหลักฐาน อ้าง "ทรัมป์" รู้เรื่อง "เอปสตีน" ละเมิดเด็ก "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" และ "สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี" เสด็จฯ เยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.20 น.

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังท่าอากาศยานทหารดอนเมือง เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่งของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เที่ยวบินที่ ทีจี 8886 เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ (State Visit) ระหว่างวันที่ 13-17 พฤศจิกายน 2568 ตามคำทูลเชิญของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน การเสด็จพระราชดำเนินเยือนในครั้งนี้ จะเป็นการกระชับสัมพันธไมตรีที่ใกล้ชิดระหว่างประเทศทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้น อีกประการหนึ่งที่สำคัญคือจะเป็นวาระแห่งการเฉลิมฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ครบ 50 ปี เวลา 16.03 น. (เวลาท้องถิ่น) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยเครื่องบินพระที่นั่งของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เที่ยวบินที่ ทีจี 8886 ถึงยังท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ในการนี้ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล เอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท และกราบบังคมทูลเบิก นายหง เหล่ย (Mr. Hong Lei) ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและอธิบดีกรมพิธีการทูต สาธารณรัฐประชาชนจีน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลเชิญเสด็จลงจากเครื่องบินพระที่นั่ง โดยมี นายหวัง อี้ (Mr.

Wang Yi) สมาชิกกรมการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านกิจการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมด้วยข้าราชการระดับสูง สาธารณรัฐประชาชนจีน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ โอกาสนี้ เด็กชายชาวจีนทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายช่อดอกไม้แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเด็กหญิงชาวจีนทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายช่อดอกไม้แด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสร็จแล้ว ทรงพระดำเนินผ่านแถวกองทหารเกียรติยศ เสร็จแล้ว นายหวัง อี้ (Mr. Wang Yi) สมาชิกกรมการเมือง ฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน ส่งเสด็จ วันนี้ (13 พฤศจิกายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 07.40 น. อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีเกียรติยศ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 13-17 พฤศจิกายนว่า ทุกครั้งที่องค์พระประมุขของชาติ เสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ รัฐบาลก็จะต้องมีรัฐมนตรีเกียรติยศตามเสด็จพระราชดำเนิน ซึ่งในครั้งนี้ก็มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้นายกรัฐมนตรี และสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ติดตามขบวนเสด็จในฐานะรัฐมนตรีเกียรติยศ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรี จะมีภารกิจนอกเหนือจากนี้ ที่จะหารือกับจีนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่มี เพราะนี่เป็นองค์ประกอบของขบวนเสด็จ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การเดินทางเยือนจีนครั้งนี้ จะเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เยือนประเทศจีนในครั้งนี้ ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์เป็นครั้งแรกที่พระมหากษัตริย์ของสยาม ได้เสด็จพระราชดำเนินไปประเทศจีน ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การทรงจำ เป็นการเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งในปีนี้ก็ครบรอบ 50 ปี โดยเป็นความสัมพันธ์ทางการทูต แต่ที่จริงแล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ มีสืบเนื่องกันมาเป็นหลายร้อยปี นายกฯ เผย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเยือนจีนอย่างเป็นทางการ เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ไทย ย้ำสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี และโปรดเกล้าฯ นายกฯ ตามเสด็จฯ ในฐานะรัฐมนตรีเกียรติยศ (13 พ.ย. 68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีเกียรติยศ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินเยือน สาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 13 - 17 พฤศจิกายน 2568 ว่า ทุกครั้งที่องค์พระประมุขของชาติเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ รัฐบาลจะต้องมีรัฐมนตรีเกียรติยศตามเสด็จพระราชดำเนิน ซึ่งในครั้งนี้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ตนและนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ตามเสด็จในฐานะรัฐมนตรีเกียรติยศ ยืนยันว่าไม่มีภารกิจเพิ่มเติม แต่เป็นเพียงองค์ประกอบของขบวนเสด็จเท่านั้น การเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนในครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรไทยเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ อันเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่ความทรงจำ และเป็นการเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี... นายกฯ กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์บริเวณชายแดน ขณะนี้ได้มีการเปิดช่องทางการสื่อสารกับผู้ที่เกี่ยวข้องตลอด 24 ชั่วโมง ยืนยันว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างดีที่สุด โดยไม่มีความประสงค์ที่จะรุกรานหรือสร้างความขัดแย้งกับประเทศใด แต่ในขณะเดียวกันก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมาคุกคามอธิปไตยของชาติ รวมถึงจะไม่ยอมให้พี่น้องประชาชนหรือเจ้าหน้าที่ทหารต้องประสบภัยอันตราย ทั้งนี้ กองทัพมียุทธวิธีและแผนปฏิบัติการที่ชัดเจน ขณะที่รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทั้งด้านการปฏิบัติการและการเยียวยาประชาชน โดยได้เตรียมความพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว “แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อม เป็นคำสอนจากบรรพบุรุษที่ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย ยืนยันว่าตั้งแต่วันที่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้มอบอำนาจการตัดสินใจทางยุทธวิธีให้กับกองทัพอย่างเต็มที่ โดยมีการสั่งการผ่านสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งจะประชุมเพื่อรับฟังรายงานสถานการณ์ การเตรียมความพร้อม และพิจารณาการสนับสนุนตามที่กองทัพร้องขอ รวมถึงการปรับแผนปฏิบัติการให้เหมาะสมตามสถานการณ์ ขอยืนยันว่ากองทัพมีความพร้อมเต็มที่ในการรับมือกับทุกสถานการณ์ เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินและอธิปไตยของชาติ รวมทั้งดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลัง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายอนุทิน กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยมีนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ประสานงานระหว่างฝ่ายรัฐบาลและรัฐสภา ซึ่งขณะนี้รัฐสภาได้เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดประชุมวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่สองและวาระที่สามให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขในบันทึกความเข้าใจ (MOA) ระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชน ซึ่งถือเป็นข้อผูกพันที่ทั้งสองพรรคต้องดำเนินการให้เป็นไปตามข้อตกลงดังกล่าว โดยยืนยันว่าไม่มีสิ่งใดต้องกังวล ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมขอให้สอบถามนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในวันศุกร์ (14 พ.ย.) ซึ่งเสด็จพระราชดำเนินเยือนจีนอย่างเป็นทางการ ณ มหาศาลาประชาชนกรุงปักกิ่ง นายกรัฐมนตรี หลี่ เฉียง กล่าวว่า จีนและไทยผูกพันกันดั่งครอบครัว จีนจะยินดีรักษาการแลกเปลี่ยนระดับสูงกับไทย เสริมสร้างมิตรภาพการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี สนับสนุนกันและกันอย่างแน่วแน่ และกระชับความร่วมมืออันเป็นประโยชน์ร่วมกัน เพื่อบรรลุผลลัพธ์เพิ่มเติมในการสร้างประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกัน นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง กล่าวถึงความเกื้อหนุนกันทางเศรษฐกิจของสองประเทศ โดยจีนพร้อมเดินหน้าขยับขยายการค้าทวิภาคีและการลงทุนสองทางกับไทยต่อไป รวมถึงขยับขยายความร่วมมือด้านใหม่ๆ ซึ่งครอบคลุมเศรษฐกิจสีเขียว ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการบินอวกาศ ขณะที่ความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์และความรู้สึกร่วมทางวัฒนธรรมของจีนและไทยจะเป็นโอกาสในการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือด้านต่างๆ เช่น วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเพื่อวางรากฐานอันมั่นคงสำหรับมิตรภาพระหว่างประชาชนของสองประเทศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตรัสว่า ไทยและจีนมีมิตรภาพอันดีกันมาอย่างยาวนาน และความร่วมมือทวิภาคีในด้านต่างๆ สัมฤทธิ์ผลเป็นรูปธรรม โดยไทยชื่นชมความสำเร็จอันโดดเด่นของจีนในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยินดีจะเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนฉันมิตรกับจีน กระชับความร่วมมือเชิงปฏิบัติ และก้าวไปข้างหน้าด้วยกันบนวิถีทางของการพัฒนาร่วมกัน

People Also Search

วันนี้ (13 พ.ย.2568) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีเกียรติยศ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

วันนี้ (13 พ.ย.2568) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีเกียรติยศ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือน สาธารณรัฐประชาชนจีน อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 13-17 พ.ย.2568 ว่า ทุกครั้งที่องค์พระประมุขของชาติ เสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ รัฐบาลก็จะต้องมีรัฐมนตรีเกียรติยศตามเสด็จพระราชดำเนิน ซึ่งใ...

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังท่าอากาศยานทหารดอนเมือง เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่งของบริษัท การบินไทย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังท่าอากาศยานทหารดอนเมือง เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่งของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เที่ยวบินที่ ทีจี 8886 เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ (State Visit) ระหว่างวันที่ 13-17 พฤศจิกายน 2568 ตามคำทูลเชิญของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบด...

Wang Yi) สมาชิกกรมการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านกิจการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมด้วยข้าราชการระดับสูง สาธารณรัฐประชาชนจีน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ โอกาสนี้

Wang Yi) สมาชิกกรมการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านกิจการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมด้วยข้าราชการระดับสูง สาธารณรัฐประชาชนจีน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ โอกาสนี้ เด็กชายชาวจีนทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายช่อดอกไม้แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเด็กหญิงชาวจีนทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายช่อดอกไม้แด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมร...

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การเดินทางเยือนจีนครั้งนี้ จะเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เยือนประเทศจีนในครั้งนี้ ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์เป็นครั้งแรกที่พระมหากษัตริย์ของสยาม ได้เสด็จพระราชดำเนินไปประเทศจีน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การเดินทางเยือนจีนครั้งนี้ จะเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เยือนประเทศจีนในครั้งนี้ ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์เป็นครั้งแรกที่พระมหากษัตริย์ของสยาม ได้เสด็จพระราชดำเนินไปประเทศจีน ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การทรงจำ เป็นการเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งในปีนี้ก็ครบรอบ 50 ปี โ...

นายอนุทิน กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยมีนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ประสานงานระหว่างฝ่ายรัฐบาลและรัฐสภา ซึ่งขณะนี้รัฐสภาได้เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดประชุมวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่สองและวาระที่สามให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้

นายอนุทิน กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยมีนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ประสานงานระหว่างฝ่ายรัฐบาลและรัฐสภา ซึ่งขณะนี้รัฐสภาได้เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดประชุมวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่สองและวาระที่สามให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขในบันทึกความเข้าใจ (MOA) ระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคปร...