วัฏจักรของน้ํา ดาวน์โหลดหนังสือ 1 9 หน้า Fliphtml5
หนว่ ยท่ี 4 วัฏจกั ร วัฏจกั รนำ้ ช้ันประถมศกึ ษำปที ี่ 5 คุณครชู วลั กร ทรงสกลุเมฆ ไอน้า เกิดจากไอน้าในอากาศเกิดการ ควบแน่นเปน็ ละอองนา้ เลก็ ๆ จานวน มาก และเกาะกลมุ่ รวมกนั ลอย อยสู่ งู จากพื้นดนิ มากหมอก เกิดจากไอน ้าในอากาศเกิด ไอนา้การควบแน่นเป็นละอองน้าเล็ก ๆและเกาะกลุ่มรวมกันลอยอยู่ใกล้พนื้... Important AnnouncementPubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am. PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated! Copyright © 2025 Wonder Idea Technology Co., Ltd. All rights reserved หน่วยที่ 2 วัฏจักรของนำ้จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ (ปลำยทำง) ผู้เรยี นมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั ความหมายของคาว่า “วัฏจักรของนา” แหล่งนาชนิดต่างๆ คาว่า“Precipitation” ลักษณะนาท่าหรือผิวดิน ลักษณะนาใต้ดิน ชนิดของเครื่องมือท่ีใช้วัดนาฝน การหาค่านาฝนเฉล่ียปานกลางจดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ (นำ้ ทำง) 1.
สามารถอธบิ ายหมายของคาว่า “วัฏจกั รของนา” ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 2. สามารถบอกแหลง่ นาชนดิ ต่างๆ ไดอ้ ย่างถกู ต้อง 3. สามารถบอกความหมายของคาวา่ “Precipitation” ได้อย่างถกู ตอ้ งได้ 4. สามารถบอกลกั ษณะนาทา่ หรือผวิ ดินได้อย่างถูกตอ้ ง 5. สามารถบอกลกั ษณะนาใต้ดินได้อย่างถูกตอ้ ง 6. สามารถบอกเคร่ืองมอื ที่ใช้วัดนาฝนได้อยา่ งถูกตอ้ ง 7.
สามารถหาคา่ นาฝนเฉลย่ี ปานกลางได้อย่างถูกตอ้ งเนือหำสำระ 1. วฎั จักรของนา 2. แหล่งนาชนิดตา่ ง ๆ 3. นาในบรรยากาศ 4. นาผวิ พนื หรอื นาทา่ 5. นาใต้ดนิ 6.
เคร่อื งมอื วดั นาฝน 7. การหาคา่ นาฝนเฉล่ียปานกลางสำระสำ้ คัญ1. วัฎจกั รของนำ้ (Hydrological Cycle)มีผู้ประมาณการว่าบนโลกของเรานีมีปริมาณนา 3 ใน 4 ส่วนของโลก หรือปริมาณนาบนผิวโลกทังหมดประมาณ 1.3 – 1.4 พันล้านลูกบาศก์กิโลเมตร เป็นนาทะเลประมาณ 97.5 เปอร์เซ็นต์ เป็นนาแข็งท่ีจับตามขัวโลกเหนือและขัวใต้ประมาณ 1.75 เปอร์เซ็นต์ เป็นนาจืดบนผิวโลกและใต้ผิวโลกทังหมดประมาณ0.73 เปอรเ์ ซ็นต์ สว่ นท่ีเหลือเป็นนาที่อยใู่ นบรรยากาศในรปู ของไอนา เมฆ หมอกตา่ ง ๆตำรำงที่ 1 ปริมำณน้ำทมี่ ีอยใู่ นโลกแหลง่... ปรมิ าณนาทังหมด1.1 นาเคม็ ในทะเลและมหาสมุทร 1,347,900,000 x 109 97.31.2 นาเค็มในทะเลสาบ 105,000 x 109 0.0081.3 นาจืดและนาแข็งในขัวโลกแอนตาร์ติคและ 37,000,000 x 109 2.67 กรนี แลนด์2. ปริมาณนาจดื 2.67 % จะเปน็ นาตา่ ง ๆ ดังนี2.1 นาแขง็ ทีข่ ัวโลก 28,200,000 x 109 76.512.2 นาบาดาลที่ลกึ ไมเ่ กิน 800 เมตร 3,740,000 x 109 10.152.3 นาบาดาลที่ลึกระหว่าง 800 – 4,000 เมตร 4,710,000 x 109 12.782.4 ทะเลสาบนาจืด... แหล่งนำ้ (Source of Water) แหล่งนาโดยท่ัวๆ ไปเราจะไดร้ ับนาจาก 3 แหล่ง คือ 1.
นาในบรรยากาศ (Precipitation) 2. นาจากผิวพืนหรือนาทา่ (Surface Water) 3. นาใต้ดิน (Ground Water) 3. น้ำในบรรยำกำศ (Precipitation) หมายถึง นาท่เี กิดจากฝน ปรอยฝน หิมะ ลูกเหบ็ และหมอกท่สี ามารถนามาใชใ้ นการชลประทานเพอื่ การเกษตรได้ ในประเทศไทยนันจะได้รับนาฝนจากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ โดยลมมรสุมนีเป็นกระแสลมท่ีนาไอนามาจากอ่าวเบงกอล และอ่าวไทย เมื่อกระแสลมพัดปะทะภูเขาทาให้อากาศที่อุ้มไอนาไว้มากถูกผลักดนั ขึนไปตามลาดเนินเขา อากาศจะเย็นลงเม่ือลอยสงู ๆ ขนึ ไปตามลาดเขาในท่ีสุดก็กลั่นตัวเป็นเมฆและฝนทางดา้ นตน้ ลมภูเขา พายหุ มุนทางตะวันออกเนื่องจากกระแสอากาศจากทิศต่างๆ พัดส่อเข้าหากัน หรือปะทะกัน ทาให้เกิดการไหลลอยของอากาศขึนสู่เบืองบน แล้วเกิดเป็นเมฆ และฝนในบริเวณหรือแนวท่ีอากาศปะทะกัน ฝนเช่นนีเรียกว่าฝนท่ีเกิดจากพายุหมุน เช่นพายุโซนร้อน และฝนที่เกิดจากร่องความกดอากาศ โดยในกลางวันแผ่นดินไดร้... น้ำผิวพืนหรือน้ำท่ำ (Surface Water) หมายถึงนาท่ีไหลอยู่ตามผิวดิน เช่นนาที่ไหลตามแม่นา ห้วย หนองคลอง บึง ทะเลสาบ และอ่างเก็บนาต่างๆ นาผิวพืนจัดเป็นแหล่งทรัพยากรท่ีสาคัญสาหรับการชลประทาน หรือการเกษตรกรรม ลกั ษณะของนาผิวพืนจะมีความสัมพนั ธ์ใกล้ชิดกับนาบรรยากาศ และนาไต้ดิน เช่นนาฝนที่ตกลงมา บางส่วนจะไหลซึมลงใต้ดิน นาใต้ดินไหลซึมออกมาเป็นนาซับ และไหลออกมากลายเปน็ นาผวิ พนื นาฝนบางสว่ นจะไหลลงสูแ่ ม่นาลาธาร หรือขังอยู่ตามทล่ี มุ่ ตา่ ง ๆ แมน่ าลาธารในประเทศไทยจะแบง่ ออกเปน็ 2... พวกทไ่ี หลตลอดทังปี (Permanents Streams) ได้แก่แม่นาขนาดใหญ่ ในภาคเหนอื จะมีทังหมด15 ลุ่มนา ภาคกลาง 19 ลุม่ นา ภาคใต้ 20 ลมุ่ นา และภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ 3 ลุ่มนา แหล่งนาผิวพืนขนาดใหญ่ที่เกิดขึนเองตามธรรมชาติในไทยได้แก่ บึงบอระเพ็ด กว๊านพะเยา หนองหาร นอกนันเป็นแหล่ท่ีมนุษย์สร้างขึน เช่น อา่ งเกบ็ นาตา่ ง ๆ 2.
พวกท่ีไหลในช่วงฤดู (Intermittent Streams) ไดแ้ ก่นาในร่องเขา หรือลาหว้ ยที่จะไหลในฤดฝู นเท่านนั พอเข้าเขตฤดูร้อนมักจะแหง้ ไปตามธรรมชาติ 5. น้ำใต้ดิน (Ground Water) คือนาฝน หรือนาท่ีซึมอยู่ตามช่องว่างของรอยแตกร้าวของผิวเปลือกโลก นาท่ีแทรกซึมอยู่ตามชันหินได้แก่ นาบาดาล ส่วนมากเป็นนาที่สะอาดปราศจากเชือโรคนับว่ามีประโยชน์ ส่วนนาที่ซึมอยู่ในชันดินได้แก่ นาบ่อ นาประเภทนีไม่มีความสะอาด เพราะอาจมีส่ิงโสโครกปะปนอยู่ นาใต้ดินบางแห่งมีแร่ธาตุที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย บางท่ีมีรสเค็ม ไม่เหมาะท่ีจะนามาใช้ บ่อบาดาลบางแห่งจะมีความลึกมากโดยเฉพาะเขตแห้งแล้ง นาบาดาลจึงเป็นแหล่งนาใต้ดินท่ีสาคัญมากสามารถนามาใช้ประโยชน์ทังการบรโิ ภคและการเกษตร 6. เครื่องมือที่ใช้วัดปริมำณน้ำฝน (Rain Gauge) เครอื่ งมือท่ีใช้วัดปรมิ าณนาฝนปกตทิ ี่ใช้กันทัว่ ๆไปจะมี 2 ชนดิ คอื 1. เครอ่ื งมือวัดนาฝนแบบอ่าน (Standard Non Recording Rain Gauge) ประกอบด้วยภาชนะรูปทรงกระบอก 2 ชัน ชันนอกเปน็ ตวั รับนาฝนมีขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 8 นวิ เม่อื ฝนตกผ่านกระบอกชันนอกแล้วจะไหลลงสู่กระบอกชันใน ซ่ึงมีขนาดเล็กกว่าโดยมีพืนท่ีหน้าตัดเท่ากับ 1 ต่อ10 ของภาชนะทรงกระบอกภายนอก การอ่านนาฝนที่อยู่ในภาชนะภายในนันสามารถอ่านได้ถึง 1ต่อ 100 เช่นถ้าฝนตกจริง 0.1 นิวจะวัดความลึกของฝนในกระบอกชนั ในได้ 1.0 นิว... เครื่องวัดนาฝนแบบอัตโนมัติ (Automatic Rain Gauge) เป็นเคร่ืองวัดนาฝนแบบอัตโนมัติทางานโดยอาศัยนาหนักจากนาฝนท่ีรองรับไว้ในถ้วย นาหนักของนาฝนจะไปกดสปริงซึ่งมีปากกาต่อไปขีดท่ีกระดาษกราฟ รปู ท่ี 2.2 เครื่องมือวดั นำ้ ฝนแบบธรรมดำ รปู ที่ 2.3 เครอ่ื งมือวัดนำ้ ฝนแบบอัตโนมัติ7. กำรหำค่ำฝนเฉลี่ยปำนกลำง (Mean Rain Fall) สามารถทาไดห้ ลายวธิ ี เช่น 1.
การหาค่าเฉล่ียแบบตัวกลางเลขคณิต (The Arithmetical Mean) เป็นวิธีท่ีง่ายท่ีสุด คือเป็นการหาค่าเฉล่ียของผลรวมทังหมดของสถิตินาฝนท่ีวัดได้แต่ละสถานี ในพืนที่รับนานันๆ วิธีนีใช้ได้ดีถ้ามีสถานีวัดนาฝนตังอยู่อย่างท่ัวถึง และสม่าเสมอตลอดพืนท่ีรับนาฝน และอัตราการตกของฝนมีไม่มากนัก แต่หากลักษณะภูมิประเทศในพืนท่ีนันๆ แตกต่างกัน อาจจะทาให้เกิดการผันแปรของฝนท่ีได้มาก วิธีนีจะทาให้เกิดการผดิ พลาดได้มาก 2. การหาค่าเฉล่ียโดยนาตาแหน่งของสถานีวัดนาฝนเขียนลงบนแผนที่ (Thiessen Mean) คือการนาเอาตาแหน่งที่ตังของเครื่องวัดนาฝนแต่ละที่ไปเขียนลงบนแผนที่บริเวณรับนาฝน แล้วลากเส้นระหว่างเครื่องวัดนาฝนเช่ือมเข้าหากัน เส้นเหล่านีจะเกิดเป็นรูปสามเหล่ียมขึนในพืนท่ี ลากเส้นแบ่งคร่ึงตังฉากโดยให้เส้นแบง่ ครง่ึ ไปพบกนั แนวของเสน้ แบง่ ครงึ่ จะไปลอ้ มรอบบริเวณรับนาฝนในส่วนทท่ี ่เี คร่อื งวัดนาฝนนนั ๆ ตงั อยู่และใชพ้ ืนทนี่ ันในการคานวณหาปริมาณฝนตอ่ ไปตัวอย่ำง บนพนื ทีร่ ับนาแห่งหน่งึ สามารถวัดปริมาณนาฝนในแต่ละสถานีดังนี - สถานีวดั นาฝนที่ 1 มีพนื ที่ 65... ขันน้ำเขำ้ ส่บู ทเรยี น 1.1 ชีแจงคาอธิบายรายวิชา จุดประสงค์รายวิชา มาตรฐานรายวิชา และเกณฑ์การวัดผลประเมินผล 1.2 ครูผสู้ อนถามถึงความหมายของคาว่า “วฎั จกั รของนา” ในมโนทศั น์ของผเู้ รียน 1.3 ครูผู้สอนบรรยายเร่ืองวัฎจักรของนา และใหผ้ ู้เรียนอภิปรายถึงการเกิดวัฎจักรของนา 1.4 ครูผ้สู อนถามถึงแหล่งของนาโดยทวั่ ๆ ไป ในมโนทศั น์ของผเู้ รยี น 1.5 ครผู สู้... ขนั ดำ้ เนนิ กำรสอน 2.1 ครูผู้สอนบรรยายเนือหาตามหัวข้อ โดยใช้เอกสารประกอบการสอนหน่วยท่ี 2 ประกอบสื่อการเรียนการสอนคือสื่อเพาเวอร์พ้อยท์ เร่ือง การวัฎจักรของนาร่วม โดยใช้เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบบรรยายและแบบบรู ณาการ2.2 ครูผู้สอนบรรยายถึงเคร่ืองมือและอุปกรณ์ท่ีใช้ในการหาค่านาฝนเฉล่ียปานกลางให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่มระดมสมองแสดงความคิดเห็นในการหาค่านาฝนเฉล่ียปานกลางแตกต่างกนั อยา่ งไร โดยใช้เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบระดมสมอง 2.3 ครูผู้สอนให้ผู้เรียนแต่ละคนศึกษาเนือหารายละเอียดเร่ืองอุปกรณ์และเคร่ืองมือของวัดปรมิ าณนาฝนแตล่ ะแบบ แล้วสรุปจดบันทกึ ในหนว่ ยความร้ทู ่ี 2 2.4 ครผู ู้สอนแนะนาชื่อและคณุ สมบตั ิของเคร่ืองมือของวัดปริมาณนาฝนแต่ละแบบ 3. ขนั สรุป นักเรียนนาข้อสรุปจากความรู้ เร่ืองวัฎจักรของนา เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการหาค่านาฝนเฉล่ียปานกลาง คุณสมบัติของเคร่ืองมือของวัดปริมาณนาฝนใช้เป็นหัวข้อในการวิเคราะห์และยกตัวอย่าง โดยคัดจากหนงั ส่ือ สือ่ อนิ เตอรเ์ น็ต 4. ขนั วัดผลประเมินผล 4.1 ประเมินผล 4.2 ทดสอบหลงั เรยี น กระบวนกำรวัดผลและประเมินผล 1.
การวดั และประเมนิ ผล 1.1 ดา้ นความรู้ 20 คะแนน ข้อทดสอบหลังเรยี น 1.2 ด้านทกั ษะ 60 คะแนน 1) ประเมนิ ผลคุณภาพงาน กิจกรรมที่ 1 แบบฝกึ หดั ทา้ ยบท กิจกรรมที่ 2 แบบทดสอบหลังเรยี น กจิ กรรมที่ 3 แบบออกสารวจสถติ ิการเกบ็ นาฝนในพนื... เกณฑก์ ารพิจารณาผลงาน 2.1 ประเมินจิตพิสัยโดยสังเกตจากการทางานกลุ่มและพฤติกรรมรายบุคคลโดยใช้แบบประเมนิ 2.2 ประเมินผลด้านทักษะจากการตรวจผลงานจากการปฏิบัติใบงานและการนาเสนอผลงาน ถา้ นกั เรยี นทาคะแนนได้ร้อยละ 50 ถือว่าผา่ นการประเมนิ2.3 ประเมินผลความรู้และความเข้าใจจากการทดสอบหลังเรียน ถ้านักเรียนทาคะแนนได้ร้อยละ 50 ถือวา่ ผ่านการประเมิน 2.4 นักเรยี นท่ีไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ให้ประเมินใหม่ หรือ ขาด ลา ให้มาเรียนซ่อมเสริมหรอื นกั เรยี นนาสอ่ื E – Book ไปศกึ ษาดว้... ด้ำนควำมรู้ นักเรียนให้ความสนใจกับกิจกรรมกลุ่มและมีความรู้ในเรื่องวัฎจักรของนา และการเก็บสถิติปริมาณนาฝน การคานวณหาค่านาฝนเฉล่ียปานกลาง ซึ่งวัดผลจากเนือหาความรู้โดยการจัดทาแบ่งกลุ่มนกั เรียน ท่ีได้นาเสนอ และประเมินผลโดยใช้ข้อทดสอบหลังเรียน ปวส. 1 ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกคน ในส่วนของนักเรียนที่ขาด ลา ครูมอบหมายงานให้ทาและศึกษาด้วยตัวเอง และครูสรุปเพิ่มเติมแล้วให้ทดสอบหลังเรยี นจนผา่ นเกณฑ์ 2. ดำ้ นทักษะกระบวนกำร นักเรียนปฏิบัตงิ านจากใบงาน เร่ืองวัฎจักรของนา และการเก็บสถิติปริมาณนาฝน การคานวณหาค่านาฝนเฉลี่ยปานกลางผลงาน ในระดบั คณุ ภาพงาน นักเรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ทกุ คน 3. ด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม ค่ำนยิ ม นักเรียนสามารถทางานร่วมกับผู้อ่ืนได้ มีความรับผิดชอบในงานที่มอบหมายจนสาเร็จถึงแม้จะใช้เวลา นักเรยี นยังไมก่ ล้าแสดงออก 4.
ปัญหำและอปุ สรรค การให้กลุ่มนักเรียนร่วมกันศึกษาใบความรู้แล้วจัดทาแผนผังความคิด นักเรียนใช้เวลาศึกษานานเกินเวลาที่กาหนดไว้ ผลงานการนาเสนอยังอยู่ในคุณภาพผ่านเกณฑ์ การประเมินยังไม่จัดอยู่ในระดับพอใช้หรือดีและเนือหานักเรียนท่ีสรุป และนาเสนอ ครูต้องอธิบายซาโดยละเอียดอีกครัง และขันตอนการปฏิบัติงานครูต้องอธิบายหลายครังเพื่อให้นักเรียนเข้าใจในกิจกรรมท่ีทา และในนักเรียนในกลุ่มบางคนให้ไม่กล้าแสดงนาเสนอไดไ้ มช่ ดั เจน ทาใหก้ ลมุ่ อน่ื ๆ ใหค้ วามสนใจนอ้ ยลง 5. ข้อเสนอแนะ/แนวทำงแก้ไข ครูต้องคอยชีแจงให้นักเรียนเข้าใจการปฏิบัติกิจกรรมและกระตุ้นในการทางาน และครูต้องอธบิ ายเสรมิ เพ่ือให้ในนกั เรยี นเขา้ ใจในเนือหาความรู้ในส่วนท่ีขาดหายไป งำนทม่ี อบหมำยหรือกิจกรรมมอบหมำย 1. ให้นักเรียนศึกษาคนคว้าเอกสาร วารสารด้านเคร่ืองมือวัดปริมาณนาฝน เพ่ิมเติมจากแหล่งความรทู้ ว่ั ไป 2. ให้นักเรียนศกึ ษาฝกึ ปฏบิ ัตกิ ารใชเ้ คร่ืองมอื และอุปกรณ์จากของจรงิ 3. ผเู้ รียนประเมินดา้ นจิตพสิ ัย )คณุ ธรรม) ของตนเองโดยใช้ใบประเมินสอ่ื กำรเรียนกำรสอน 1. หน่วยความรทู้ ่ี 2 เรือ่ งเครอื่ งมอื และอุปกรณ์ในการวดั ปรมิ าณนาฝน )ส่อื เพาเวอร์พอ้ ยท์) 2.
ตวั อยา่ ง เครอื่ งมือและอปุ กรณใ์ นการวดั ปริมาณนาฝนท่ีเปน็ ของจริง 4. แบบทดสอบหลงั เรยี น 5. แบบเฉลยแบบทดสอบแหลง่ เรยี นรู้ 1. หอ้ งสมุดวิทยาลัยศูนยว์ ิทยบริการ อินเตอร์เน็ต/ 2. ห้องสมดุ ประชาชนบทปฏบิ ตั ิกำรท่ี 2 กำรเกบ็ สถติ ิน้ำฝนจุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 1. บอกวธิ กี ารเกบ็ สถิตนิ าฝนได้ 2.
บอกประโยชน์การเก็บสถิตนิ าฝนได้ 3. บอกอุปกรณ์การเกบ็ นาฝนแบบต่างๆ ได้เนอื หำกำรเรยี นรู้ 1. ตัวอย่างตารางแสดงวธิ ีการเก็บสถิตนิ าฝน 2. ประโยชน์ของการเกบ็ สถิตนิ าฝน 3. อปุ กรณ์ทใี่ ช้ในการเกบ็ สถิตนิ าฝนแบบตา่ งๆสอ่ื กำรสอน 1. สถานีตรวจวดั นาฝนหรือสถานีอุตุนยิ มวทิ ยาท่ใี กลท้ ส่ี ดุ 2.
ตารางการเกบ็ สถิตนิ าฝนแต่ละปขี องสถานีอตุ นุ ยิ มวทิ ยาทใี่ กล้ที่สดุกจิ กรรมเสนอแนะ 1. อาจารย์ผสู้ อนอธิบายวธิ กี ารและหลักการเกบ็ สถิตินาฝนให้เขา้ ใจ 2. แจกตารางการเกบ็ สถิตินาฝนให้นักเรยี นไปขอขอ้ มลู จากสถานีอตุ นุ ยิ มวิทยาทใี่ กล้ที่สดุ ให้ได้ข้อมลูมากทสี่ ุด ทงั สถติ ิประจาเดอื น และประจาปี 3. ใหน้ ักเรยี นทดลองคานวณสถิตินาฝนประจาเดือนส่งกำรประเมนิ ผล 1. ใหน้ ักเรียนเขยี นรายงานสรุปข้อมลู เกี่ยวกบั สถติ ิปริมาณนาฝนทเี่ กบ็ ได้ในแต่ละปี โดยชีให้เห็น และเปรียบเทียบชว่ งเวลาที่ฝนตกมากท่สี ุด และฝนตกน้อยทส่ี ุด 2. ให้นักเรียนอธบิ ายหลกั การทางานของเครื่องเก็บสถติ ินาฝนแต่ละแบบให้พอเข้าใจสอ่ื สิ่งพิมพ์ 1.
เอกสารประกอบการสอน, แหลง่ นาและการเก็บความชนื ในดนิ หน้าท่ี 21 – 22 2. กรมอาชวี ศึกษา 2523, คมู่ อื กำรสอนวชิ ำเกษตรกรรมและกำรอนรุ ักษ์ดนิ และนำ้ หนา้ 46 - 50ตัวอย่ำงกำรเก็บสถิตินำ้ ฝนปรมิ าณนาฝนของอาเภอ............................. จังหวัด....................................ปริมาณเป็นมลิ ลเิ มตร )ม.ม.) เดอื น ปี พ.ศ. ปี พ.ศ. ปี พ.ศ. มกราคม กมุ ภาพนั ธ์ มนี าคม เมษายน พฤษภาคม มถิ นุ ายน กรกฎาคม สิงหาคม กนั ยายน ตุลาคม พฤศจิกายน ธนั วาคมตวั อยำ่ งกำรเกบ็ สถติ ิน้ำฝนปริมาณนาฝนของ อาเภอ.............................
จังหวัด...............................ปรมิ าณเป็นมิลลเิ มตร)ม.ม.) เดือน ปี พ.ศ. ปี พ.ศ. ปี พ.ศ. มกราคม กมุ ภาพันธ์ มนี าคม เมษายน พฤษภาคม มถิ ุนายน กรกฎาคม สิงหาคม กันยายน ตลุ าคม พฤศจิกายน ธนั วาคม Important AnnouncementPubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am. PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!
["","","","","","","","","","","","","","","",""] วฏั จักร ของนำ้รู้หรือไมว่ ำ่ “นำ้ ” มำจำกท่ไหน ? ทำไมถึงไม่มวันหมดไป ?มำจำกแหล่งนำ้ ต่ำงๆท่ทุกคนรู้จกั ดังน้ห้วย เข่ือน แมน่ ้ำบึง คลอง ทะเลเมือ่ แหล่งนำ้ ได้รับควำมร้อนจำกแสงอำทิตย์ และลม ทำให้น้ำจำกแหล่งน้ำต่ำงๆเกิดกำร ระเหยกลำยเปน็ ไอนำ้ ลอยสู่อำกำศเชน่ เดยวกับแมข่ องเด็กๆ ต้มน้ำร้อนจะสังเกตเห็นได้วำ่ มควนั สขำวลอยขึ้นมำ จำกกหมอ้ ต้มนำ้ ร้อนส่ิงนั ้น เรยกวำ่ “ไอน้ำ”“ไอนำ้ ” ไม่ไ่ด้เกิดขน้ึ จำกแหล่งนำ้ เท่ำนั ้น แต่ยงั เกิดจำกกำรขบั... Important AnnouncementPubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am. PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated! WATER CYCLEหนังสอื อิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เล่มนี้ นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏสงขลา ไดจ้ ดั ทาข้ึนตามมาตรการฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.
2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 โดยมีเนื้อหา เกย่ี วกบั วัฏจักรนา้ ซง่ึ จะเปน็ ประโยชน์ต่อการนาไปใช้ในการดารงชวี ิต และร้เู ท่าทนั การเปลย่ี นแปลงของโลก รวมท้ังการ พฒั นาความรู้ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 ได้เป็นอย่างดี ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) เล่มน้ีจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนรู้ และเป็น สว่ นสาคัญในการพฒั นาคุณภาพและมาตรฐานการศกึ ษาบทน้ำ เร่อื... 0602 01 02 Let's Get Started 03 04 05 06น้าเป็นสิ่งที่จาเป็นต่อการดารงชีวิตของพืช สัตว์ และ 01 มนุษย์ เราไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ด่ืมน้า นอกจากน้ี 02 เราใช้ใช้น้าในกิจกรรมต่างๆ เช่น อาบน้า แปรงฟัน ซักผ้า 03 ล้างจาน น้าเหล่านี้มาจาก แหล่งน้าต่างๆ แหล่งน้าเป็น 04 บริเวณที่มีน้าอยู่รวมกันเป็นจานวนมากแหล่งน้ามีอยู่หลาย 05 ประเภท ทั้งแหล่งท่ีอยู่บนผิวดินและแหล่งท่ีอยู่ใต้ผิวดิน 06 น้าบางแหล่งเป็นน้าเค็ม... การระเหย (evaporation) เม่ือไดร้ ับพลงั งานความรอ้ นจากแสงอาทิตย์น้าในแหล่งนา้ ตา่ งๆ เช่น แมน่ า้ ทะเล มหาสมุทร 01 รวมถงึ การคายนา้ ของพชื จะกลายเปน็ ไอน้าลอยข้นึ ส่ชู ัน้ บรรยากาศ ไอน้าที่อย่ใู นชน้ั บรรยากาศเรยี กว่า Atmospheric 02 moisture 03 04 2. การควบแน่น (condensation) คือการรวมตัวของไอนา้ ในชั้นบรรยากาศ และเปลยี่ นสถานะเปน็ ของเหลวในรปู ของ “เมฆ” 05 เมื่อได้รบั ความเย็น 06 3. การเกิดฝนตก (precipitation) เม่ือไอน้าในบรรยากาศสะสมรวมตวั กันมากข้นึ จนถงึ “จดุ อิ่มตัว” จะเกดิ การ “กลน่ั ตวั ” และ”ควบแนน่ ” เป็นหยดน้าตกลงสู่พนื้ โลกในหลายรูปแบบ ได้แก่ น้าฝน น้าค้าง ลกู เห็บ และหิมะ 4. การรวมตวั ของนา้ (collection) หมายถงึ การท่ีปริมาณนา้ ไหลรวมกันสูแ่ หลง่ นา้ ต่างๆ เช่น แมน่ า้ ทะเล หรือมหาสมุทร และแหล่งอุปโภคและบรโิ ภคของส่งิ มีชีวติ น้าฝนทต่ี กลงมาจากชั้นบรรยากาศ สว่ นมากจะไหลรวมกันเปน็ แหลง่ น้าผิวดิน และไหลลงสูแ่ มน่ า้ ไปส้ินสุดทีม่ หาสมุทร ซง่ึ เรียกน้าท่ไี หลบนผวิ ดินนวี้ ่า “นา้...
05 06Compose word 01 02 RYN I A 03 04 Check the answers 05 06Compose word 01 02 RA I NY 03 04 Well done! 05 06Compose word 01 02 WNO S 03 04 Check the answers 05 06Compose word 01 02 S N OW 03 04 Well done! 05 06Compose word 01 02 TOR SM 03 04 Check the answers 05 06Compose word 01 02 S TORM 03 04 Well done! 05 06Thanks! 01 02 Do you have any questions? 03 04 [email protected] 05 +91 620 421 838 06 yourcompany.com CREDITS: This presentation template was created by Slidesgo, including icon by Flaticon, and infographics & images from Freepik Please keep this slide for...
People Also Search
- วัฏจักรของน้ำ = - ดาวน์โหลดหนังสือ | 1-9 หน้า | FlipHTML5
- วัฏจักรน้ำ - ดาวน์โหลดหนังสือ | 1-17 หน้า | AnyFlip
- วัฏจักรของน้ำ (1) - apisatha220643 - PubHTML5
- วัฏจักรของน้ำ ชั้นประถมศึกษาปี่ที่ 5 - ดาวน์โหลดหนังสือ | 1-9 หน้า ...
- วัฎจักรของน้ำ - ดาวน์โหลดหนังสือ | 1-12 หน้า | AnyFlip
- หนังสือเสริมประสิทธิภาพการเรียนรู้ เรื่องวัฏจักรน้ำ - ดาวน์โหลดหนังสือ ...
- วัฏจักรของน้ำ1 - ดาวน์โหลดหนังสือ | 1-16 หน้า | PubHTML5
- วัฎจักรของน้ำ e-book - ดาวน์โหลดหนังสือ | 1-12 หน้า | AnyFlip
- วัฏจักร - ดาวน์โหลดหนังสือ | 1-12 หน้า | FlipHTML5
- สื่อนวัตกรรม E-book วัฏจักรน้ำ - ดาวน์โหลดหนังสือ | 1-46 หน้า | PubHTML5
หนว่ ยท่ี 4 วัฏจกั ร วัฏจกั รนำ้ ช้ันประถมศกึ ษำปที ี่
หนว่ ยท่ี 4 วัฏจกั ร วัฏจกั รนำ้ ช้ันประถมศกึ ษำปที ี่ 5 คุณครชู วลั กร ทรงสกลุเมฆ ไอน้า เกิดจากไอน้าในอากาศเกิดการ ควบแน่นเปน็ ละอองนา้ เลก็ ๆ จานวน มาก และเกาะกลมุ่ รวมกนั ลอย อยสู่ งู จากพื้นดนิ มากหมอก เกิดจากไอน ้าในอากาศเกิด ไอนา้การควบแน่นเป็นละอองน้าเล็ก ๆและเกาะกลุ่มรวมกันลอยอยู่ใกล้พนื้... Important AnnouncementPubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8...
สามารถอธบิ ายหมายของคาว่า “วัฏจกั รของนา” ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 2. สามารถบอกแหลง่
สามารถอธบิ ายหมายของคาว่า “วัฏจกั รของนา” ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 2. สามารถบอกแหลง่ นาชนดิ ต่างๆ ไดอ้ ย่างถกู ต้อง 3. สามารถบอกความหมายของคาวา่ “Precipitation” ได้อย่างถกู ตอ้ งได้ 4. สามารถบอกลกั ษณะนาทา่ หรือผวิ ดินได้อย่างถูกตอ้ ง 5. สามารถบอกลกั ษณะนาใต้ดินได้อย่างถูกตอ้ ง 6. สามารถบอกเคร่ืองมอื ที่ใช้วัดนาฝนได้อยา่ งถูกตอ้ ง 7.
สามารถหาคา่ นาฝนเฉลย่ี ปานกลางได้อย่างถูกตอ้ งเนือหำสำระ 1. วฎั จักรของนา 2. แหล่งนาชนิดตา่ ง
สามารถหาคา่ นาฝนเฉลย่ี ปานกลางได้อย่างถูกตอ้ งเนือหำสำระ 1. วฎั จักรของนา 2. แหล่งนาชนิดตา่ ง ๆ 3. นาในบรรยากาศ 4. นาผวิ พนื หรอื นาทา่ 5. นาใต้ดนิ 6.
เคร่อื งมอื วดั นาฝน 7. การหาคา่ นาฝนเฉล่ียปานกลางสำระสำ้ คัญ1. วัฎจกั รของนำ้
เคร่อื งมอื วดั นาฝน 7. การหาคา่ นาฝนเฉล่ียปานกลางสำระสำ้ คัญ1. วัฎจกั รของนำ้ (Hydrological Cycle)มีผู้ประมาณการว่าบนโลกของเรานีมีปริมาณนา 3 ใน 4 ส่วนของโลก หรือปริมาณนาบนผิวโลกทังหมดประมาณ 1.3 – 1.4 พันล้านลูกบาศก์กิโลเมตร เป็นนาทะเลประมาณ 97.5 เปอร์เซ็นต์ เป็นนาแข็งท่ีจับตามขัวโลกเหนือและขัวใต้ประมาณ 1.75 เปอร์เซ็นต์ เป็นนาจืดบนผิวโลกและใต้ผิวโลกทังหมดประมาณ0.73 เปอรเ์ ซ็นต์ สว่ นท่ีเหลือเป็นนา...
นาในบรรยากาศ (Precipitation) 2. นาจากผิวพืนหรือนาทา่ (Surface Water) 3. นาใต้ดิน (Ground Water)
นาในบรรยากาศ (Precipitation) 2. นาจากผิวพืนหรือนาทา่ (Surface Water) 3. นาใต้ดิน (Ground Water) 3. น้ำในบรรยำกำศ (Precipitation) หมายถึง นาท่เี กิดจากฝน ปรอยฝน หิมะ ลูกเหบ็ และหมอกท่สี ามารถนามาใชใ้ นการชลประทานเพอื่ การเกษตรได้ ในประเทศไทยนันจะได้รับนาฝนจากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ โดยลมมรสุมนีเป็นกระแสลมท่ีนาไอนามาจากอ่าวเบงกอล และอ่าวไทย เมื่อกระแสลมพัดปะทะภูเขาทาให้อากาศที่อุ้มไอนาไว้มา...