สันติธาร เสนอรัฐเดินหน้า4เสา รับเศรษฐกิจแนวใหม่ ในai และสังคมสูงวัย

Leo Migdal
-
สันติธาร เสนอรัฐเดินหน้า4เสา รับเศรษฐกิจแนวใหม่ ในai และสังคมสูงวัย

ในยุคที่ระเบียบโลกเก่ากำลังสั่นคลอนและโครงสร้างอำนาจถูกท้าทาย การมองหา "ทางรอด" และ "ประตูบานใหม่" จึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือความจำเป็นเร่งด่วน ดร. สันติธาร เสถียรไทย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจแห่งอนาคตของ TDRI ได้แบ่งปันข้อมุมมองที่น่าสนใจ หลังห่างหายจากการบรรยายที่ Harvard Kennedy School ไปนานถึง 15 ปี ซึ่งการกลับไปครั้งนี้ได้มอบภาพเปรียบเปรยที่ชัดเจนที่สุดของ "โลกาภิวัตน์ใหม่" ดร. สันติธาร เล่าถึงภาพแรกที่แทบไม่เชื่อสายตา คือตึกใหม่ที่ใหญ่โตงดงามซึ่งสร้างครอบทับตึกเก่าที่คุ้นเคยจนแทบจำไม่ได้ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปและสะดุดใจยิ่งกว่า คือ "ทางเข้าออก" อาคารที่ครั้งหนึ่งเคยมีหลายประตู เปิดโล่งให้ผู้คนเดินทะลุถึงกันอย่างง่ายดาย สะท้อนพลังการเคลื่อนไหวอันเสรีของนักศึกษาจากทั่วโลก วันนี้กลับเหลือประตูทางเข้าเพียง "บานเดียว" ที่ต้องผ่านการตรวจบัตรยืนยันตัวตนทุกครั้ง

เมื่อเข้าไปข้างใน เส้นทางกลับซับซ้อนกว่าเดิมชนิดที่นักศึกษาปัจจุบันยังยอมรับว่า "เรียนมาหนึ่งเทอมแล้วก็ยังหลงทาง" “สันติธาร เสถียรไทย” เผยไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย เป็นโรงงานขาดแคลนแรงงาน ดึง AI เพิ่มผลิตภาพ ช่วยดันจีดีพีเพิ่ม 0.8% ต่อปี ชี้ไม่อยากตกขบวนต้องเร่งทำ 3 ด้านทั้งระดับประเทศ-องค์กร วันที่ 21 มิถุนายน 2567 ดร.สันติธาร เสถียรไทย Future Economy Advisor สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) และกรรมการในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กล่าวในงานสัมมนาประชาชาติธุรกิจ “THE POWER OF AI เกมใหม่ โลกเปลี่ยน“ ในหัวข้อเรื่องเสวนาพิเศษ “THE POWER OF AI” ว่า โจทย์ของเทคโนโลยแม้จะพัฒนา (Advance) แค่ไหน และจะตอบโจทย์ได้มากแต่ไหนขึ้นอยู่กับบริบทของเศรษฐกิจด้วย ทั้งนี้ หากดูบริบทเศรษฐกิจไทยจะเห็นว่าอยู่ในสภาวะเข้าสูงสังคมสูงวัย เรากำลังขาดแคลนวัยแรงงาน เปรียบเหมือนโรงงานที่จะขาดแคลนแรงงาน และขาดแคลนมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากตัวเลขแรงงานติดลบแล้ว ซึ่งมองไปข้างหน้าอีก 10-20 ปี ไทยจะขาดแคลนแรงงานถึง 10-20 ล้านคน ซึ่งแตกต่างจากประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และอินเดีย ทำให้บริบทเศรษฐกิจแตกต่างกัน ดังนั้น แนวทางแก้ไขของการจขาดแคลนแรงงาน ไทยจะต้องเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) คือ แรงงาน 1 คน จะต้องผลิตสินค้าได้มากขึ้น ซึ่งหากไม่สามารถเพิ่มผลิตภาพได้ จะไม่สามารถสร้างหรือเพิ่มการเติบโตเศรษฐกิจไทย โดยการเข้ามาของปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์ในเรื่องของผลิตภาพ (Productivity) ซึ่งจากข้อมูลโกลด์แมนแซคส์ ระบุว่า การนำ AI มาใช้จะช่วยการเติบโตของเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นราว 1% สำหรับประเทศไทยจะอยู่ที่เฉลี่ย 0.7-0.8% ต่อปี จากระดับเศรษฐกิจที่ขยายตัวในปัจจุบันราว 3% อย่างไรก็ดี ตัวเลขจะเป็นไปตามคาดการณ์หรือไม่ จะขึ้นกับการปรับใช้ (Adoption)

การเข้ามาของ AI ทำให้เกิดข้อถกเถียงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามามีบทบาทแทนคน การเพิ่มความเหลื่อมล้ำระหว่างประเทศ หรือแม้แต่อันตรายจาก AI ที่ได้เข้ามาเป็นเครื่องมือในการหลอกลวงรูปแบบต่างๆ ซึ่งยังคงไร้กฎเกณฑ์ในการควบคุม และท่ามกลางความไม่แน่นอนดังกล่าวจึงไทยควรเตรียมพร้อมให้ได้มากที่สุดไม่ว่าจะในมิติของประเทศ องค์กรธุรกิจ หรือแม้แต่การพัฒนาคนเพื่อไม่ถูกเทคโนโลยีดิสรัปต์ในวันข้างหน้า Thairath Money สนทนากับ ดร.สันติธาร เสถียรไทย นักเศรษฐศาสตร์และกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ถึงสิ่งที่ต้องระวังจาก AI รวมถึงไขข้อสงสัยว่าสรุปแล้ว AI นั้นเป็นตัวเพิ่มความเหลื่อมล้ำจริงหรือไม่พร้อมข้อเสนอแนะไปยังผู้กำหนดนโยบายเพื่อเป็นแนวทางว่าประเทศไทยควรเดินเกมไหน เพื่อให้ได้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI มากที่สุด ก่อนอื่นเลยอาจจะยังมีบางมุมที่คนยังมองว่า AI เป็นเรื่องไกลตัว หรือเป็นเทคโนโลยีที่เป็นเรื่องของภาคธุรกิจ แต่ในความจริงแล้ว ดร.สันติธาร ระบุว่า Generative AI ที่เราได้ยินกันบ่อยขึ้นในยุคนี้ คือปัจจัยที่ได้เข้ามาเปลี่ยนให้ AI เป็นเรื่องใกล้ตัวคนมากกว่าเดิม และเป็นเทคโนโลยีที่มีสามารถเข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตคนได้ในทุกมิติ ซึ่งหากย้อนไปสักห้าหกปีที่แล้ว เรื่อง AI นั้นถูกพูดถึงว่าจะมาทำงานแทนที่คน แต่อาจจะเป็นอะไรที่ไม่เห็นภาพชัดมากนัก และคนยังคงมองว่าสุดท้ายแล้วงานที่ต้องใช้ความสร้างสรรค์ หรืองานที่ต้องใช้ทักษะการเขียนโค้ดคงยากเกินไปที่ AI จะสามารถทำได้ แต่ปัจจุบันภาพดังกล่าวได้เปลี่ยนแปลงไป AI ได้กลายมาเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของหลายคนและยังใช้งานง่ายห่างไกลจากความรู้สึกเข้าถึงยากในช่วงหลายปีก่อน พร้อมกันนี้ ดร.สันติธาร ยังได้บอกเล่าถึงการปรับใช้ Generative AI ที่ในยุคนี้กลับกลายเป็นว่ากลุ่มที่ปรับใช้ก่อนคือ ‘คนทั่วไป’ เนื่องจากความสามารถของ AI ที่ทั้งพูดได้หลายภาษา สามารถป้อนคำสั่งได้ด้วยภาษาปกติ และยังมีราคาถูกหรือแม้แต่ใช้แบบไม่เสียเงินก็ยังสามารถทำงานได้ดี และมีประโยชน์ตอบโจทย์การใช้งานได้จริง เมื่อวันที่ 7กุมภาพันธ์ 2568 ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท ดร.

สันติธาร เสถียรไทย ที่ปรึกษาด้าน FUTURE ECONOMY สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย เจ้าของผลงานหนังสือTwists & Turns กล่าวในงานสัมนา เศรษฐกิจไทยความท้าทาย และโอกาส ในปี 2025 (THAILAND ECONOMIC DRIVES 2025) และเนื่องในโอกาส โพสต์ทูเดย์ ก้าวสู่ปีที่ 23 นำเสนอมุมมองในอนาคตของเศรษฐกิจไทยกับ 4 เรื่องหักมุมของโลก (Twist) ที่อาจกลายเป็นโอกาสของประเทศไทยส่งให้เศรษฐกิจโตเกินกว่า 3% ได้ เริ่มจากเหตุการณ์ในปีนี้คือปีงูเล็กที่เปิดปีมาฉกแรงเหลือเกินด้วยเหตุการณ์มากมาย ทั้งเรื่องของภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) AI และ Climate Change 4 เรื่องหักมุมที่ประเทศไทยและโลกจะต้องเจอ ชวนคุยเกี่ยวกับเรื่องหักมุม หรือ Twist ต่างๆ 4 Twist ที่ประเทศไทยและโลกจะต้องเจอ พร้อมชวนหาโอกาสในความเสี่ยงและปัญหาเหล่านั้น โดยยกประสบการณ์ทำงานในต่างประเทศเกือบ 20 ปีในภาคการเงิน ว่ามีอยู่คำหนึ่งเมื่อพูดถึงเศรษฐกิจไทยเมื่อเกิดความผันผวน และถูกมองว่าไม่น่าจะเป็นอะไรมาก ก็คือคำว่า "Resilient" แปลว่ามีความอึด ถึก ทนอยู่ในระดับหนึ่ง โดยชวนให้คิดถึงอีกมุมของ Resilient ว่ามันมันดีพอหรือเปล่าสำหรับเศรษฐกิจไทย อาจจะไม่พอก็ได้หากดูตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่ผ่านมา "จริงอยู่ในแง่ Resilient ว่ามันไม่ตาย ก็อาจจะเลี้ยงไม่ค่อยโตเท่าไหร่เหมือนกัน เมื่อดูจากเศรษฐกิจในยุคที่ผ่านมาโตจากเดิม 7% กว่าแต่พอเจอวิกฤติต้มยำกุ้งลงมาเหลือ 5% หลังจากนั้นเจอวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์เหลือ 3% หลังจากวิกฤติโควิดเหลือ 2% กว่า ปีนี้เศรษฐกิจน่าจะดีขึ้นกว่านั้นคงไม่ใช่แค่ 2% แต่ว่านักเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญบอกว่า การเจริญเติบโตตามปกติของเศรษฐกิจไทยนั้นอย่างเก่งอยู่ที่ประมาณ 3% ถ้านี่คือปกติของไทยแต่เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านทำไมอินโดนีเซียถึงโต 5-6% ทำไมอินเดียโต 7-8% ทำไมเวียดนาม 6-7%"

People Also Search

ในยุคที่ระเบียบโลกเก่ากำลังสั่นคลอนและโครงสร้างอำนาจถูกท้าทาย การมองหา "ทางรอด" และ "ประตูบานใหม่" จึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือความจำเป็นเร่งด่วน ดร. สันติธาร เสถียรไทย

ในยุคที่ระเบียบโลกเก่ากำลังสั่นคลอนและโครงสร้างอำนาจถูกท้าทาย การมองหา "ทางรอด" และ "ประตูบานใหม่" จึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือความจำเป็นเร่งด่วน ดร. สันติธาร เสถียรไทย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจแห่งอนาคตของ TDRI ได้แบ่งปันข้อมุมมองที่น่าสนใจ หลังห่างหายจากการบรรยายที่ Harvard Kennedy School ไปนานถึง 15 ปี ซึ่งการกลับไปครั้งนี้ได้มอบภาพเปรียบเปรยที่...

เมื่อเข้าไปข้างใน เส้นทางกลับซับซ้อนกว่าเดิมชนิดที่นักศึกษาปัจจุบันยังยอมรับว่า "เรียนมาหนึ่งเทอมแล้วก็ยังหลงทาง" “สันติธาร เสถียรไทย” เผยไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย เป็นโรงงานขาดแคลนแรงงาน ดึง AI เพิ่มผลิตภาพ

เมื่อเข้าไปข้างใน เส้นทางกลับซับซ้อนกว่าเดิมชนิดที่นักศึกษาปัจจุบันยังยอมรับว่า "เรียนมาหนึ่งเทอมแล้วก็ยังหลงทาง" “สันติธาร เสถียรไทย” เผยไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย เป็นโรงงานขาดแคลนแรงงาน ดึง AI เพิ่มผลิตภาพ ช่วยดันจีดีพีเพิ่ม 0.8% ต่อปี ชี้ไม่อยากตกขบวนต้องเร่งทำ 3 ด้านทั้งระดับประเทศ-องค์กร วันที่ 21 มิถุนายน 2567 ดร.สันติธาร เสถียรไทย Future Economy Advisor สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (T...

การเข้ามาของ AI ทำให้เกิดข้อถกเถียงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามามีบทบาทแทนคน การเพิ่มความเหลื่อมล้ำระหว่างประเทศ หรือแม้แต่อันตรายจาก AI ที่ได้เข้ามาเป็นเครื่องมือในการหลอกลวงรูปแบบต่างๆ ซึ่งยังคงไร้กฎเกณฑ์ในการควบคุม และท่ามกลางความไม่แน่นอนดังกล่าวจึงไทยควรเตรียมพร้อมให้ได้มากที่สุดไม่ว่าจะในมิติของประเทศ

การเข้ามาของ AI ทำให้เกิดข้อถกเถียงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามามีบทบาทแทนคน การเพิ่มความเหลื่อมล้ำระหว่างประเทศ หรือแม้แต่อันตรายจาก AI ที่ได้เข้ามาเป็นเครื่องมือในการหลอกลวงรูปแบบต่างๆ ซึ่งยังคงไร้กฎเกณฑ์ในการควบคุม และท่ามกลางความไม่แน่นอนดังกล่าวจึงไทยควรเตรียมพร้อมให้ได้มากที่สุดไม่ว่าจะในมิติของประเทศ องค์กรธุรกิจ หรือแม้แต่การพัฒนาคนเพื่อไม่ถูกเทคโนโลยีดิสรัปต์ในวันข้างหน้า Thairath Money สน...

สันติธาร เสถียรไทย ที่ปรึกษาด้าน FUTURE ECONOMY สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย เจ้าของผลงานหนังสือTwists & Turns กล่าวในงานสัมนา

สันติธาร เสถียรไทย ที่ปรึกษาด้าน FUTURE ECONOMY สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย เจ้าของผลงานหนังสือTwists & Turns กล่าวในงานสัมนา เศรษฐกิจไทยความท้าทาย และโอกาส ในปี 2025 (THAILAND ECONOMIC DRIVES 2025) และเนื่องในโอกาส โพสต์ทูเดย์ ก้าวสู่ปีที่ 23 นำเสนอมุมมองในอนาคตของเศรษฐกิจไทยกับ 4 เรื่องหักมุมของโลก (Twist) ที่อาจกลายเป็นโอกาสของประเทศไทยส่งให้เศรษฐกิจโตเกินกว่า 3% ได้ เริ่มจากเหตุการณ์ในปี...