เปรียบเทียบ คะแนน การเงินที่เป็นธรรม ของธนาคารไทย กับนานาชาติ
จากการเปิดเผย ผลการประเมินคะแนนการเงินที่เป็นธรรมด้านต่างๆของสถาบันการเงินไทย 11 แห่ง ประกอบด้วยธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย 8 แห่ง และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 3 แห่ง ที่เปิดเผยสู่สาธารณะ โดย แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand) ได้ประเมินจากแนวนโยบายของแต่ละสถาบันการเงินไทย ตลอดปี พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา โดยใช้ "แนวปฏิบัติการเงินที่เป็นธรรมนานาชาติ" (Fair Finance Guide International) มาเป็นเกณฑ์ประเมินนโยบายด้านต่างๆ ของ 8 ธนาคารพาณิชย์ไทย ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงไทย,... ผลการประเมินของธนาคารไทยพบว่า ทั้ง 11 แห่ง พบว่าธนาคารได้คะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 30.66 คะแนนในปีพ.ศ. 2564 เป็น 33.94 คะแนน ในปีพ.ศ.2565 (เพิ่มขึ้น 11.94%) โดยธนาคารที่ได้คะแนนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ธนาคารทหารไทยธนชาต (42.56%) ธนาคารกสิกรไทย (34.03%) ธนาคารกรุงไทย (33.43%)ธนาคารไทยพาณิชย์(32.00%) และธนาคารกรุงศรีอยุธยา(29.68%) ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) ครองอันดับหนึ่งธนาคารไทยที่มีคะแนนรวมสูงสุดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 จากการประเมินโดยแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand) ปี 2565 ด้วยคะแนน 55.33 คะแนน หรือ 42.56% เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.59% ยังคงโดดเด่นในหมวด “สิทธิมนุษยชน” ที่ได้คะแนนสูงถึง 73.33% และหมวด “การคุ้มครองผู้บริโภค” มีคะแนน 68.42% อีกทั้งในหมวด “สุขภาพ” ทีเอ็มบีธนชาตเป็นธนาคารแห่งเดียวที่มีการตั้งเป้าหมายการให้สินเชื่อแก่อุตสาหกรรมยาสูบเป็นศูนย์ภายในปี 2566 พร้อมกันนี้ ธนาคารยังได้รับรางวัลพัฒนาการสูงสุด 5... 2561-2565 ตอกย้ำในการขับเคลื่อนองค์กรสู่การธนาคารที่ยั่งยืน (Sustainable Banking) อย่างแท้จริง นายกมลพันธ์ ลักษณา หัวหน้าการพัฒนาที่ยั่งยืน ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า ทีเอ็มบีธนชาตพยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินเกี่ยวกับ ESG เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นธนาคารแห่งแรกที่ออกตราสารหนี้สีเขียว (Green Bond) และตราสารหนี้สีฟ้า (Blue Bond) รวมถึงสินเชื่อสีเขียว นอกจากนี้ ยังช่วยผู้คนในสังคมผ่านบริการทางการเงินต่าง ๆ เช่น การรวมหนี้ให้ลูกค้า เพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้สินในภาพรวม และทำให้ทุกคนเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้น ด้วยการปลดล็อกเกณฑ์ความเสี่ยงเปิดให้เพศเดียวกันสามารถกู้ร่วมกันได้ เป็นต้น โดยธนาคารพร้อมปรับเปลี่ยนตัวเองพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนและทุกบริบทของการเปลี่ยนแปลง
“รางวัลธนาคารที่มีคะแนน ESG รวม สูงสุดเป็นอันดับ 1 ติดต่อกัน 4 ปี และรางวัลพัฒนาการสูงสุด 5 ปี ต่อเนื่อง ถือเป็นความภาคภูมิใจของทุกภาคส่วนในองค์กรที่ช่วยกันทำเรื่องนี้ให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งการประเมินของ Fair Finance Thailand ค่อนข้างเจาะลึกและมีความเข้มข้นในเรื่อง ESG โดยหนึ่งประเด็นที่ทีเอ็มบีธนชาตเห็นว่ามีผลกระทบต่อสังคมคือ การปล่อยสินเชื่อให้ธุรกิจที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ จึงอยากให้ยาสูบพ้นไปจากสังคมไทยและพอร์ตสินเชื่อ โดยธนาคารได้ตั้งเป้าหมายการให้สินเชื่อแก่อุตสาหกรรมยาสูบเป็นศูนย์ภายในปี 2566 ครอบคลุมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยาสูบตั้งแต่การปลูก การผลิต และการค้ายาสูบและผลิตภัณฑ์ยาสูบ แม้จะทำได้ยาก เพราะมีธุรกิจอื่น ๆ เกี่ยวข้องในซัพพลาย เชน อีกมากมาย แต่ก็ต้องทำเพราะมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอย่างมาก”... ในยุคที่คำว่า Net Zero, ESG, SDG, Climate Change เข้าสู่กระแสสำนึกของสังคม ธุรกิจถูกคาดหวังมากขึ้นเรื่อยๆ ให้เปลี่ยนผ่านสู่วิถี “ธุรกิจที่ยั่งยืน” อย่างแท้จริง นั่นจึงทำให้ แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand) ซึ่งประกอบไปด้วย บริษัท ป่าสาละ จำกัด มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLaw) มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH) และ International Rivers จึงได้มีการประเมินนโยบายด้าน ESG ของธนาคารและสถาบันการเงินเฉพาะกิจไทย ประจำปี 2566 ทั้ง 11 แห่ง โดยใช้เกณฑ์มาตรฐานของแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมนานาชาติ (Fair Finance Guide International) เพื่อผลักดันให้ภาคการเงินการธนาคารของไทยก้าวสู่แนวคิดและวิถีปฏิบัติของ ‘การธนาคารที่ยั่งยืน’ (sustainable banking) อย่างแท้จริง โดยในที่นี้ได้มีการจัดทำการประเมินนโยบายของธนาคารไทยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา และปีนี้ก็ถือเป็นปีที่ 6 ซึ่งจากผลประเมินธนาคารไทยประจำปี 2566 พบว่า “ธนาคารไทย” ให้ความสำคัญกับการประเมินมากขึ้น โดยเป็นโครงการที่ประเมินผลประกอบการด้าน ESG ที่เฉพาะเจาะจง รอบด้าน และละเอียดที่สุดในประเทศไทย รวม 13 หมวด ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, การทุจริตคอร์รัปชัน ความเท่าเทียมทางเพศ สุขภาพ สิทธิมนุษยชน สิทธิแรงงาน ธรรมชาติ ภาษี อาวุธ การคุ้มครองผู้บริโภค การขยายบริการทางการเงิน นโยบายค่าตอบแทน และความโปร่งใสและความรับผิดชอบ สฤณี อาชวานันทกุล หัวหน้าคณะวิจัยแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย กล่าวว่า การประเมินธนาคารในปีที่ 6 นี้ เป็นปีแรกที่แนวร่วมฯ สามารถเข้าพบธนาคารไทยเพื่อหารือในกระบวนการรับฟังความคิดเห็น ครบทั้ง 11 แห่ง คือ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารออมสิน, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร, ธนาคารทหารไทยธนชาต, ธนาคารเกียรตินาคินภัทร, ธนาคารทิสโก้ และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
'ทหารไทยธนชาต-ออมสิน' สองธนาคารรับรางวัลคะแนนสูงสุดจากการประเมิน ESG ธนาคารไทย ปี 2566 โดยแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand) เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2567 แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand) ประกอบไปด้วย บริษัท ป่าสาละ จำกัด มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH) และ International Rivers จัดเวทีสาธารณะ “เปิดคะแนน ESG ธนาคารไทย ปีที่ 6 : โอกาสและความท้าทายสำคัญ” สฤณี อาชวานันทกุล หัวหน้าคณะวิจัยแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand) กล่าวว่า แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand) เป็นองค์กรสมาชิกเครือข่ายแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมนานาชาติ (Fair Finance International) ซึ่งมีจุดมุ่งหมายคือ การผลิตชุดดัชนีและเครื่องมือให้ภาคประชาสังคม และประชาชนในประเทศต่างๆ ได้ใช้ในการติดตาม และขับเคลื่อนการทำงานด้านการธนาคารที่ยั่งยืนของสถาบันการเงินในแต่ละประเทศ โดยมีหมวดที่ใช้ในการประเมิน 13 หมวด ได้แก่ 1. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 2.
การทุจริตคอร์รัปชัน 3. ความเท่าเทียมทางเพศ 4. สุขภาพ 5. สิทธิมนุษยชน 6. สิทธิแรงงาน 7. ธรรมชาติ 8.
ภาษี 9. อาวุธ 10. การคุ้มครองผู้บริโภค 11. การขยายบริการทางการเงิน 12. นโยบายค่าตอบแทน และ 13. ความโปร่งใสและความรับผิด
สฤณี กล่าวว่า การประเมินคะแนนจะพิจารณาจากเนื้อหานโยบายและแนวปฏิบัติในการลงทุนและการให้บริการทางการเงินของสถาบันการเงินที่เปิดเผยต่อสาธารณะของแต่ละธนาคาร เปรียบเทียบกับมาตรฐานสากลด้านความยั่งยืนที่เกี่ยวข้อง จากนั้นจะส่งร่างการประเมินอย่างละเอียดไปที่ธนาคารแต่ละแห่ง และมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากธนาคารต่างๆ โดยปีนี้เป็นปีแรกที่คณะวิจัยได้เข้าพบธนาคารทั้ง 11 แห่ง เพื่อหารือในช่วงรับฟังความคิดเห็น ประกอบด้วยสถาบันการเงินพาณิชย์ 8 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารทหารไทยธนชาต ธนาคารเกียรตินาคินภัทร และธนาคารทิสโก้ และสถาบันการเงินของรัฐอีก 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2561 สมาชิกประกอบด้วยบริษัทวิจัย 1 บริษัท และองค์กรภาคประชาสังคม 4 องค์กร ที่มีความสนใจร่วมกันในการติดตามผลกระทบและความท้าทายของธุรกิจธนาคาร และประสงค์จะร่วมกันผลักดันภาคธนาคารไทยให้ก้าวสู่แนวคิดและวิถีปฏิบัติของ “การธนาคารที่ยั่งยืน” (sustainable banking) อย่างแท้จริง ผ่านการนำมาตรฐาน Fair Finance Guide International (แนวปฏิบัติของแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมนานาชาติ เว็บไซต์ www.fairfinanceguide.org) มาใช้ในการประเมินนโยบายด้านต่าง ๆ ของธนาคารพาณิชย์ไทยที่เปิดเผยสู่สาธารณะ เริ่มจากปี พ.ศ. 2562 เป็นปีแรก ผลการประเมินธนาคารไทย 11 แห่ง ตามเกณฑ์ Fair Finance Guide International 13 หมวด ประจำปี พ.ศ. 2567 พบว่าคะแนนเฉลี่ยของธนาคารทั้ง 11 แห่ง ลดลงเล็กน้อยจาก 32.92 คะแนนในปี พ.ศ.
2566 เป็น 35.76 คะแนนในปี พ.ศ. 2567 โดยธนาคารที่ได้คะแนนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ธนาคารทหารไทยธนชาต (42.96%) ธนาคารไทยพาณิชย์ (38.65%) ธนาคารกสิกรไทย (37.25%) ธนาคารกรุงเทพ (30.63%) และธนาคารกรุงไทย (29.57%) โดยธนาคารไทยพาณิชย์ขยับจากอันดับที่ 4 มาเป็นอันดับที่ 2 แทนที่ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงเทพขยับจากอันดับที่ 5 มาเป็นอันดับที่ 4 แทนที่ธนาคารกรุงไทย ไทม์ไลน์สรุปการเคลื่อนไหวของประชาชนและภาคประชาสังคมต่อโครงการเขื่อนปากแบง แม่น้ำโขง ตลอด 9 ปี วันที่ 18 สิงหาคม 2568 Fair Finance Thailand ได้ส่งจดหมายถึงธนาคารไทยเพื่อแสดงความกังวลและตั้งคำถามถึงการประเมินผลกระทบของโครงการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำปากแบง Taxonomy ที่ไม่รัดกุมมากพอตามมาตรฐานสากลอาจสุ่มเสี่ยงต่อการ 'ฟอกเขียว' จากการเปิดเผย ผลการประเมินคะแนนการเงินที่เป็นธรรม 9 ธนาคารไทย โดย แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand) ที่ได้ประเมินจากแนวนโยบายของแต่ละธนาคาร ตลอดปี พ.ศ.
2562 ที่ผ่านมา โดยใช้ "แนวปฏิบัติการเงินที่เป็นธรรมนานาชาติ" (Fair Finance Guide International) มาเป็นเกณฑ์ประเมินนโยบายด้านต่างๆ ของ 9 ธนาคารไทย ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารธนชาต, ธนาคารทหารไทย, ธนาคารทิสโก้ และธนาคารเกียรตินาคิน เพื่อติดตามผลกระทบและความท้าทายของธุรกิจธนาคาร ต่อสิ่งแวดล้อมและผู้บริโภค มุ่งผลักดันการธนาคารที่ยั่งยืนให้เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยการประเมินนี้ ทีมงานได้พิจารณาคะแนนจากเนื้อหานโยบายและแนวปฏิบัติในการลงทุนและการให้บริการทางการเงินของสถาบันการเงิน เปรียบเทียบกับมาตรฐานสากลด้านความยั่งยืนที่เกี่ยวข้องหัวข้อประเมิน มีทั้งสิ้น 12 หัวข้อ ประกอบด้วย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การทุจริตคอร์รัปชัน ความเท่าเทียมทางเพศ สิทธิมนุษยชน สิทธิแรงงาน ธรรมชาติ ภาษี ความเกี่ยวข้องกับธุรกิจค้าอาวุธ การคุ้มครองผู้บริโภค การขยายบริการทางการเงิน การตอบแทน และความโปร่งใสและความรับผิดชอบ ผลการประเมินพบว่า ทั้ง 9 ธนาคารมีคะแนนโดยภาพรวมเพิ่มขึ้น โดย TMB-KBank-SCB ขึ้นท็อปลิสต์การประเมินในปีนี้ พบว่าธนาคารทั้ง 9 แห่ง ได้คะแนนเฉลี่ย 21.31 คะแนน จากคะแนนเต็ม 120 คะแนน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีแรก 5.1% สำหรับ ธนาคารที่ได้คะแนนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ธนาคารทหารไทย (22.6%) ธนาคารกสิกรไทย (20.7%) ธนาคารไทยพาณิชย์ (20.3%) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (17.2%) และ ธนาคารกรุงเทพ (17.0%) โดยในปีนี้ ธนาคารที่ทำอันดับได้ดีขึ้นมีสองแห่ง คือ TMB ที่ไต่จากอันดับ 9 มาสู่อันดับ 1 และ BBL ที่ขยับจากอันดับ 6 มาเป็นอันดับ 5 ส่วนธนาคารสี่แห่งที่มีอันดับร่วงลงจากปีแรกได้แก่ SCB, TISCO, KTB และ KKP (เกียรตินาคิน) ขณะที่อีกสามแบงก์ที่เหลือ คือ KBank Krungsri และ TBANK (ธนชาต) ยังคงรักษาอันดับในการประเมินได้เท่าเดิมจากปีแรก (ดูผลคะแนนของแต่ละธนาคารที่ด้านล่างของบทความ)
People Also Search
- PDF การประเมินธนาคารไทยตามเกณฑ์ "แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมนานาชาติ" รายงาน ...
- เปรียบเทียบ คะแนน 'การเงินที่เป็นธรรม' ของธนาคารไทย กับนานาชาติ
- ผลการประเมินธนาคารพาณิชย์ไทยตามเกณฑ์ Fair Finance Guide International ...
- 11 สถาบันการเงินไทยได้คะแนนการเงินที่เป็นธรรม - สยามรัฐ
- ESG ธนาคารไทย 2566 ประเมินครบ 11 แบงก์ "ttb-ออมสิน" นำโด่ง "คุ้มครอง ...
- 'แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรม' เผย 'ทหารไทยธนชาต-ออมสิน' คะแนนสูงสุด Esg ...
- แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย
- 11 สถาบันการเงินไทย ได้คะแนนการเงินที่เป็นธรรม?
- '9 แบงก์ไทย' ได้คะแนน 'การเงินที่เป็นธรรม' แค่ไหน
- ร่วงหรือรอด! เปิดผลประเมินการเงินที่เป็นธรรม ' 9 ธนาคารไทย ' รับผิดชอบ ...
จากการเปิดเผย ผลการประเมินคะแนนการเงินที่เป็นธรรมด้านต่างๆของสถาบันการเงินไทย 11 แห่ง ประกอบด้วยธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย 8 แห่ง และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 3 แห่ง
จากการเปิดเผย ผลการประเมินคะแนนการเงินที่เป็นธรรมด้านต่างๆของสถาบันการเงินไทย 11 แห่ง ประกอบด้วยธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย 8 แห่ง และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 3 แห่ง ที่เปิดเผยสู่สาธารณะ โดย แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand) ได้ประเมินจากแนวนโยบายของแต่ละสถาบันการเงินไทย ตลอดปี พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา โดยใช้ "แนวปฏิบัติการเงินที่เป็นธรรมนานาชาติ" (Fair Finance Guide Inte...
“รางวัลธนาคารที่มีคะแนน ESG รวม สูงสุดเป็นอันดับ 1 ติดต่อกัน 4 ปี และรางวัลพัฒนาการสูงสุด 5
“รางวัลธนาคารที่มีคะแนน ESG รวม สูงสุดเป็นอันดับ 1 ติดต่อกัน 4 ปี และรางวัลพัฒนาการสูงสุด 5 ปี ต่อเนื่อง ถือเป็นความภาคภูมิใจของทุกภาคส่วนในองค์กรที่ช่วยกันทำเรื่องนี้ให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งการประเมินของ Fair Finance Thailand ค่อนข้างเจาะลึกและมีความเข้มข้นในเรื่อง ESG โดยหนึ่งประเด็นที่ทีเอ็มบีธนชาตเห็นว่ามีผลกระทบต่อสังคมคือ การปล่อยสินเชื่อให้ธุรกิจที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ จึงอยากให้ยาสูบพ้นไปจากส...
'ทหารไทยธนชาต-ออมสิน' สองธนาคารรับรางวัลคะแนนสูงสุดจากการประเมิน ESG ธนาคารไทย ปี 2566 โดยแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand)
'ทหารไทยธนชาต-ออมสิน' สองธนาคารรับรางวัลคะแนนสูงสุดจากการประเมิน ESG ธนาคารไทย ปี 2566 โดยแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand) เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2567 แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand) ประกอบไปด้วย บริษัท ป่าสาละ จำกัด มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH) และ International Rivers จัดเวทีสาธารณะ “เปิดคะแนน ...
การทุจริตคอร์รัปชัน 3. ความเท่าเทียมทางเพศ 4. สุขภาพ 5. สิทธิมนุษยชน 6. สิทธิแรงงาน 7.
การทุจริตคอร์รัปชัน 3. ความเท่าเทียมทางเพศ 4. สุขภาพ 5. สิทธิมนุษยชน 6. สิทธิแรงงาน 7. ธรรมชาติ 8.
ภาษี 9. อาวุธ 10. การคุ้มครองผู้บริโภค 11. การขยายบริการทางการเงิน 12. นโยบายค่าตอบแทน และ
ภาษี 9. อาวุธ 10. การคุ้มครองผู้บริโภค 11. การขยายบริการทางการเงิน 12. นโยบายค่าตอบแทน และ 13. ความโปร่งใสและความรับผิด