โลกร้อนรันทุกวงการ วิจัยเผยน้ําแข็งขั้วโลกละลาย ส่งผลเวลาเดินช้าลง
โลกที่ร้อนขึ้นกำลังส่งผลกระทบกับสิ่งมีชีวิต ระบบนิเวศต่างๆ รวมถึงเวลา นี่เป็นสิ่งที่คนคาดไม่ถึงว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการละลายของน้ำแข็งขั้วโลกอาจส่งผลกระทบเวลาของโลกด้วย เฝ้าระวัง แม่น้ำโขง - น้ำประปา หลังรถบรรทุก กรดซัลฟิวริก พลิกคว่ำ ไหลลงแม่น้ำ ทช. จับมือ UNDP ร่อนแผนรับมือผลกระทบ "โลกร้อน" ใน 4 จังหวัดติดชายฝั่งอ่าวไทย เพ้นท์กระดองเต่า ความสวยงามที่แลกมาด้วยความพิการตลอดชีวิต ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เวลาแต่ละวันจะหายไปเสี้ยววินาที อาจไม่ได้มี 24 ชั่วโมงอีกต่อไป เพราะการวิจัยล่าสุดพบว่า “น้ำแข็งขั้วโลกละลาย” ทำให้การหมุนของโลกเปลี่ยนแปลงไป จนส่งผลต่อ “เวลา” ลดลงไปด้วยเช่นกัน
“โลกหมุนรอบตัวเอง” 1 รอบใช้เวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งเท่ากับ 1 วันโดยประมาณ ซึ่งการหมุนของโลกเราไม่คงที่ สามารถเปลี่ยนแปลงได้เล็กน้อยตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนโลก เช่น การเคลื่อนที่ของเปลือกโลก แผ่นดินไหว ปริมาณน้ำในมหาสมุทร กระแสน้ำ ตลอดจนแรงดึงดูดของดวงจันทร์ สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้อัตราการหมุนของโลกช้าลงหรือเร็วขึ้น และแน่นอนว่าทำให้ “นาฬิกาเวลาโลก” เปลี่ยนไป เพื่อรักษามาตรฐานการประกาศเวลาให้ใกล้เคียงกับเวลาสุริยะ (UT1) โดยเฉลี่ย นักวิทยาศาสตร์จึงมีการใช้ “อธิกวินาที” (Leap Second) วินาทีที่ปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงในการทดแทนเวลาที่หายไป ทั้งนี้ช่วงหลายปีที่ผ่านมาอธิกวินาทีเพิ่มขึ้นมาตลอด แต่ในตอนนี้โลกอาจสูญเสียเวลาไป เพราะโลกเริ่มหมุนช้าลง และมีช่วงกลางวันยาวนานขึ้น “เราไม่เคยปรับลดเวลามาก่อน ดังนั้นมันอาจเกิดปัญหาใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบคอมพิวเตอร์” ปาตริเซีย ทาเวลลา สมาชิกแผนกเวลาสำนักงานชั่ง ตวง วัด ระหว่างประเทศ กล่าว การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature ของดันแคน แอกนิว ศาสตราจารย์ด้านธรณีฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก พบว่า “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” ที่ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล ทำให้ “น้ำแข็งขั้วโลกละลาย” เร็วขึ้น และส่งผลต่อแบบเป็นลูกโซ่ต่อการนับเวลา นักวิทยาศาสตร์นานาชาติ คาดการณ์ว่าปัญหาโลกร้อนมีผลทำให้น้ำแข็งขั้วโลกมีปริมาณลดลงและอาจหายไปหมดในอีก 100 ปีข้างหน้า ซึ่งจะส่งผลให้ระบบนิเวศได้รับผลกระทบรุนแรง เพราะเมื่อน้ำแข็งขั้วโลกละลาย น้ำจืดจะเพิ่มขึ้น การไหลเวียนของกระแสน้ำในมหาสมุทรจะเปลี่ยนไป ซึ่งนำมาสู่ภัยพิบัติในอนาคตที่อาจรุนแรงกว่าเดิม โดยนักวิทยาศาสตร์ NASA พบว่า น้ำแข็งในขั้วโลกเหนืออย่างกรีนแลนด์ และขั้วโลกใต้แอนตาร์กติกา ละลายเร็วขึ้นน้ำแข็งในกรีนแลนด์ละลายไวขึ้น 6-7 เท่า เมื่อเทียบกับ 25 ปีก่อน และ น้ำแข็งกรีนแลนด์ได้หายไปถึง 4,700 ล้านตัน มีส่วนทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 1.2 เซนติเมตร
สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งฝั่งทะเลจีนใต้และทะเลอันดามัน ก็มีผลกระทบเช่นกัน เช่นปัจจุบันมีงานวิจัยพบว่า ลมมรสุมที่มีกำลังแรงขึ้น และทำให้ระดับน้ำทะเลบริเวณชายฝั่งเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งอุณหภูมิที่สูงขึ้นจากภาวะโลกร้อนจะทำให้มวลอากาศชื้นจากทะเลสูง และพัดเข้าชายฝั่งมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณฝนตกสูง มีการคาดการณ์กันว่า จะทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นกว่า 40 เซนติเมตร ในอีก 100 ปีข้างหน้า ซึ่งประชากรในภูมิภาคนี้ร้อยละ 10 ที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งทะเล ประมาณร้อยละ 70 ของประเทศในเอเชีย-แปซิฟิก มีความเสี่ยงสูงต่อปัญหาน้ำท่วมและไร้ที่อยู่อาศัยหรือแม้แต่ เกาะขนาดเล็กเสี่ยงจมใต้ทะเล ซึ่งอาจทำให้คนประมาณ 200 ล้านคน ในภูมิภาคนี้ต้องหาที่อยู่ใหม่ในอีกไม่เกิน 50 ปีข้างหน้า ขณะที่ กทม. เป็น 1 ใน 7 เมืองเสี่ยงจะจมน้ำในอีกไม่กี่ปีด้วย จากข้อมูลของ กรีนพีซ พบว่า 7 เมืองในเอเชีย ที่อาจได้รับผลกระทบ จากการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล หรือมีความเสี่ยงจมน้ำ ภายในปี 2573 สำหรับ 3 อันดับแรก เสี่ยงสุด คือ กรุงเทพมหานคร คือ ร้อยละ 96 อาจถูกน้ำท่วมจากอุทกภัยใน 10 ปี มีการคาดการณ์ถึงพื้นที่ ที่จะได้รับผลกระทบ 1,512.94 ตารางกิโลเมตร ซึ่งอาจมีประชากรที่จะได้รับผลกระทบ 10.45 ล้านคน รองลงมาเป็นกรุงจาการ์ตา จะได้รับผลกระทบ 109.38 ตารางกิโลเมตร ประชาชนอาจได้รับผลกระทบ... ผลการวิเคราะห์ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่รอบด้านที่สุดในขณะนี้ชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ส่งผลให้ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่หลายแห่งทั่วโลกละลายเร็วที่สุดกว่าที่เคยบันทึกมา ธารน้ำแข็งที่ทอดตัวบนเทือกเขาทำหน้าที่เป็นเสมือนแหล่งน้ำจืดที่หล่อเลี้ยงผู้คนหลายล้านทั่วโลก พวกมันยังกักเก็บน้ำปริมาณมหาศาลเอาไว้ ซึ่งหากละลายเป็นน้ำทั้งหมดจะทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้นถึง 32 ซม.
นับตั้งแต่ย่างเข้าสู่ศตวรรษใหม่ มีรายงานว่าธารน้ำแข็งเหล่านั้นได้ละลายไปแล้วเป็นปริมาณกว่า 6.5 ล้านล้านตัน หรือราว 5% ของปริมาณน้ำแข็งในธารน้ำแข็งทั้งหมด นอกจากนี้ อัตราความเร็วในการละลายยังเพิ่มสูงขึ้นด้วย โดยในทศวรรษที่ผ่านมา ธารน้ำแข็งได้ละลายหายไปในอัตราที่เร็วกว่าการละลายในช่วงปี 2000-2011 ถึง 1 ใน 3 การศึกษานี้รวบรวมข้อมูลจากการประเมินในระดับภูมิภาคถึง 230 แห่ง จากคณะวิจัย 35 คณะทั่วโลก นี่ทำให้เหล่านักวิทยาศาสตร์มีความมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับความเร็วในการละลายของธารน้ำแข็ง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของพวกมันในอนาคต “วิกฤติสภาพภูมิอากาศ” กำลังทำให้ความยาวของแต่ละวันนานขึ้น งานวิจัยชิ้นใหม่แสดงให้เห็นว่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของมนุษย์ไม่กี่ร้อยปี ได้ทำให้โลกเปลี่ยนแปลงไปหลายล้านปีตามธรรมชาติ ตามการศึกษาที่ตีพิมพ์ในรายงานสืบเนื่องการประชุมวิชาการของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติของสหรัฐ พบว่า น้ำแข็งขั้วโลกละลายจากภาวะโลกร้อนกำลังเปลี่ยนความเร็วการหมุนของโลก และเพิ่มความยาวในแต่ละวัน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นภายในศตวรรษนี้ หากมนุษย์ยังคงปล่อย “ก๊าซเรือนกระจก” ในอัตราเท่าเดิม แม้ความเร็วในการหมุนของโลกจะทำให้ในแต่ละวันโลกมีเวลาเพิ่มขึ้นเพียงแค่ระดับ “มิลลิวินาที” แต่ก็สามารถสร้างผลกระทบสำคัญต่อระบบคอมพิวเตอร์ เครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ และระบบ GPS นับเป็นอีกผลกระทบที่เกิดขึ้นกับโลกด้วยน้ำมือของมนุษย์
“นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังเกิดขึ้นมีความรุนแรงมากเพียงใด” สุเรนทรา อธิการี นักธรณีฟิสิกส์จากห้องปฏิบัติการแรงขับเคลื่อนไอพ่น ผู้เขียนรายงานกล่าว จำนวนชั่วโมง นาที และวินาทีที่เกิดขึ้นในแต่ละวันบนโลกถูกกำหนดโดยความเร็วของการหมุนของโลก ซึ่งได้รับอิทธิพลจากปัจจัยที่ซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นอิทธิพลจากการแกนโลก ผลกระทบจากการละลายของธารน้ำแข็งขนาดใหญ่หลังยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้ายที่ยังคงส่งผลมาถึงปัจจุบัน รวมถึงการละลายของน้ำแข็งขั้วโลกเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นักวิจัยจุฬาฯ เผยหลังร่วมทีมนักวิจัยจีนกลับสู่ไทย ชี้ผลกระทบภาวะโลกร้อนทำน้ำแข็งละลายมากขึ้น แนวโน้มอาร์กติก (ขั้วโลกเหนือ) อาจถึงขั้นวิกฤติ จากการที่ประเทศไทยได้มีโอกาสส่งนักวิจัยไทยไปที่อาร์กติก และแอนตาร์กติก กับประเทศจีน ภายใต้โครงการวิจัยขั้วโลกตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ของ มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สองนักวิจัยไทยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้กลับมาจากการไปสำรวจที่อาร์กติกแล้ว พบภาวะโลกร้อนทำให้น้ำแข็งละลายมากขึ้น และในเดือนมกราคมในปีหน้า ทางโครงการฯ เตรียมส่งนักวิจัยมุ่งหน้าสู่แอนตาร์กติก ขยายผลศึกษาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อระบบนิเวศแอนตาร์กติกต่อเนื่อง ดร.สุจารี บุรีกุล อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วยนายอานุภาพ พานิชผล นักวิจัยจากสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เดินทางไปอาร์กติก (ขั้วโลกเหนือ) พร้อมกับคณะสำรวจอาร์กติกจากประเทศจีนรุ่นที่ 13 เป็นเวลา 3 เดือน ภายใต้โครงการวิจัยขั้วโลกตามพระราชดำริ ฯ ของ มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้กลับสู่ประเทศไทยแล้วในช่วงเดือนที่ผ่านมา
นักวิจัยได้ทำการสำรวจเก็บตัวอย่าง ตะกอนดิน น้ำทะเล และ ปลา เพื่อศึกษาถึงผลกระทบของมลพิษเช่น ไมโครพลาสติก และการหมุนเวียนของคาร์บอนของน้ำทะเลบริเวณขั้วโลก โดยนักวิจัยไทยสองคน ได้เดินทางโดยเรือตัดน้ำแข็งชื่อ ซูหลง 2 ของประเทศจีน ซึ่งในปีนี้ เป็นปีแรกที่คณะสำรวจของประเทศจีนสามารถเดินทางไปถึงจุดที่เป็นขั้วโลกเหนือ ณ ละติจูด 90 องศาได้สำเร็จ แสดงให้เห็นว่าน้ำแข็งที่ขั้วโลกในปีนี้บางลงกว่าปีก่อนๆ มาก เนื่องจากน้ำแข็งที่หายไปสามารถคืนกลับมาได้น้อยลง ทำให้เรือตัดน้ำแข็งสามารถเดินทางเข้าไปสู่จุดที่เป็นขั้วโลกเหนือได้ไม่ยากนัก
People Also Search
- โลกร้อนรันทุกวงการ! วิจัยเผยน้ำแข็งขั้วโลกละลาย ส่งผลเวลาเดินช้าลง
- 'โลกหมุนช้าลง - เวลาเดินช้าลง' เหตุจาก 'น้ำแข็งขั้วโลกละลาย'
- "นักวิจัย จุฬา" เผย ภาวะโลกร้อนทำน้ำแข็งละลายมากขึ้น แนวโน้มอาร์กติก ...
- โลกเดือด-น้ำแข็งขั้วโลกละลาย-น้ำทะเลสูงขึ้นสัญญาณอันตรายภัยพิบัติโลก
- น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ระเบิดเวลาที่กำลังเดินหน้า อาจนำไปสู่การอพยพครั้งใหญ่
- โลกร้อน: นักวิจัยพบ ธารน้ำแข็งทั่วโลกกำลังละลายเร็วที่สุดกว่าที่เคย ...
- นักวิจัยจุฬาฯ ชี้ผลกระทบภาวะโลกร้อนรุนแรงกว่าที่คิด สำรวจพบน้ำแข็งขั้ว ...
- วิกฤติสภาพภูมิอากาศ-น้ำแข็งละลาย ทำโลกหมุนช้าลง แต่ละวันยาวนานขึ้น
- นักวิจัยจุฬาฯ ชี้ผลกระทบภาวะโลกร้อนทำน้ำแข็งขั้วโลกเหนือละลายมากขึ้น
โลกที่ร้อนขึ้นกำลังส่งผลกระทบกับสิ่งมีชีวิต ระบบนิเวศต่างๆ รวมถึงเวลา นี่เป็นสิ่งที่คนคาดไม่ถึงว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการละลายของน้ำแข็งขั้วโลกอาจส่งผลกระทบเวลาของโลกด้วย เฝ้าระวัง แม่น้ำโขง - น้ำประปา หลังรถบรรทุก กรดซัลฟิวริก
โลกที่ร้อนขึ้นกำลังส่งผลกระทบกับสิ่งมีชีวิต ระบบนิเวศต่างๆ รวมถึงเวลา นี่เป็นสิ่งที่คนคาดไม่ถึงว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการละลายของน้ำแข็งขั้วโลกอาจส่งผลกระทบเวลาของโลกด้วย เฝ้าระวัง แม่น้ำโขง - น้ำประปา หลังรถบรรทุก กรดซัลฟิวริก พลิกคว่ำ ไหลลงแม่น้ำ ทช. จับมือ UNDP ร่อนแผนรับมือผลกระทบ "โลกร้อน" ใน 4 จังหวัดติดชายฝั่งอ่าวไทย เพ้นท์กระดองเต่า ความสวยงามที่แลกมาด้วยความพิการตลอดชีวิต ในอีก...
“โลกหมุนรอบตัวเอง” 1 รอบใช้เวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งเท่ากับ 1 วันโดยประมาณ ซึ่งการหมุนของโลกเราไม่คงที่ สามารถเปลี่ยนแปลงได้เล็กน้อยตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนโลก
“โลกหมุนรอบตัวเอง” 1 รอบใช้เวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งเท่ากับ 1 วันโดยประมาณ ซึ่งการหมุนของโลกเราไม่คงที่ สามารถเปลี่ยนแปลงได้เล็กน้อยตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนโลก เช่น การเคลื่อนที่ของเปลือกโลก แผ่นดินไหว ปริมาณน้ำในมหาสมุทร กระแสน้ำ ตลอดจนแรงดึงดูดของดวงจันทร์ สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้อัตราการหมุนของโลกช้าลงหรือเร็วขึ้น และแน่นอนว่าทำให้ “นาฬิกาเวลาโลก” เปลี่ยนไป เพื่อรักษามาตรฐานการประกาศเวลาให้ใกล้เคียงกับ...
สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งฝั่งทะเลจีนใต้และทะเลอันดามัน ก็มีผลกระทบเช่นกัน เช่นปัจจุบันมีงานวิจัยพบว่า ลมมรสุมที่มีกำลังแรงขึ้น และทำให้ระดับน้ำทะเลบริเวณชายฝั่งเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งอุณหภูมิที่สูงขึ้นจากภาวะโลกร้อนจะทำให้มวลอากาศชื้นจากทะเลสูง และพัดเข้าชายฝั่งมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณฝนตกสูง มีการคาดการณ์กันว่า
สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งฝั่งทะเลจีนใต้และทะเลอันดามัน ก็มีผลกระทบเช่นกัน เช่นปัจจุบันมีงานวิจัยพบว่า ลมมรสุมที่มีกำลังแรงขึ้น และทำให้ระดับน้ำทะเลบริเวณชายฝั่งเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งอุณหภูมิที่สูงขึ้นจากภาวะโลกร้อนจะทำให้มวลอากาศชื้นจากทะเลสูง และพัดเข้าชายฝั่งมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณฝนตกสูง มีการคาดการณ์กันว่า จะทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นกว่า 40 เซนติเมตร ในอีก 100 ปีข้างหน้า ซึ่งประชา...
นับตั้งแต่ย่างเข้าสู่ศตวรรษใหม่ มีรายงานว่าธารน้ำแข็งเหล่านั้นได้ละลายไปแล้วเป็นปริมาณกว่า 6.5 ล้านล้านตัน หรือราว 5% ของปริมาณน้ำแข็งในธารน้ำแข็งทั้งหมด นอกจากนี้ อัตราความเร็วในการละลายยังเพิ่มสูงขึ้นด้วย โดยในทศวรรษที่ผ่านมา
นับตั้งแต่ย่างเข้าสู่ศตวรรษใหม่ มีรายงานว่าธารน้ำแข็งเหล่านั้นได้ละลายไปแล้วเป็นปริมาณกว่า 6.5 ล้านล้านตัน หรือราว 5% ของปริมาณน้ำแข็งในธารน้ำแข็งทั้งหมด นอกจากนี้ อัตราความเร็วในการละลายยังเพิ่มสูงขึ้นด้วย โดยในทศวรรษที่ผ่านมา ธารน้ำแข็งได้ละลายหายไปในอัตราที่เร็วกว่าการละลายในช่วงปี 2000-2011 ถึง 1 ใน 3 การศึกษานี้รวบรวมข้อมูลจากการประเมินในระดับภูมิภาคถึง 230 แห่ง จากคณะวิจัย 35 คณะทั่วโลก นี่ท...
“นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังเกิดขึ้นมีความรุนแรงมากเพียงใด” สุเรนทรา อธิการี นักธรณีฟิสิกส์จากห้องปฏิบัติการแรงขับเคลื่อนไอพ่น ผู้เขียนรายงานกล่าว จำนวนชั่วโมง นาที และวินาทีที่เกิดขึ้นในแต่ละวันบนโลกถูกกำหนดโดยความเร็วของการหมุนของโลก ซึ่งได้รับอิทธิพลจากปัจจัยที่ซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นอิทธิพลจากการแกนโลก
“นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังเกิดขึ้นมีความรุนแรงมากเพียงใด” สุเรนทรา อธิการี นักธรณีฟิสิกส์จากห้องปฏิบัติการแรงขับเคลื่อนไอพ่น ผู้เขียนรายงานกล่าว จำนวนชั่วโมง นาที และวินาทีที่เกิดขึ้นในแต่ละวันบนโลกถูกกำหนดโดยความเร็วของการหมุนของโลก ซึ่งได้รับอิทธิพลจากปัจจัยที่ซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นอิทธิพลจากการแกนโลก ผลกระทบจากการละลายของธารน้ำแข็งขนาดใหญ่หลังยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้ายที...