โลกเจอลานีญา 3 ปีซ้อน ภัยเงียบต้นกําเนิดภัยพิบัติ ทําโลกเสียหายนับแสนล
เมื่อช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ได้ประกาศว่าปรากฏการณ์ลานีญา (La Niña) ซึ่งทำให้ฝนตกหนักและอากาศหนาวเย็นในแถบแปซิฟิก มีแนวโน้มจะดำเนินต่อไปอีกนานหลายเดือนในปีนี้และปีหน้า ทำให้นับเป็นปีที่สามแล้วที่สภาพภูมิอากาศแบบดังกล่าวเกิดขึ้นติดต่อกัน ปรากฏการณ์ลานีญารอบปัจจุบันนั้น เกิดขึ้นมาตั้งแต่ก.ย. 2020 และมีความเป็นไปได้ 55-70% ที่จะดำเนินต่อไปจนถึง ก.พ. 2023 หรือยาวนานยิ่งกว่านั้น การเกิดลานีญาถึง 3 ปีซ้อน จัดว่าเป็นปรากฏการณ์ที่หาพบได้ยากมาก โดยเคยมีการบันทึกไว้เพียง 2 ครั้งในประวัติศาสตร์ ระหว่างช่วงปี 1973-1976 และ 1998-2001 ล่าสุดทีมนักวิทยาศาสตร์จากหลายสถาบันการศึกษาในสหรัฐฯ นำโดยมหาวิทยาลัยวอชิงตัน (UW) ได้ตีพิมพ์เผยแพร่รายงานวิจัยว่าด้วยความผิดปกติของปรากฏการณ์ลานีญาดังข้างต้น ลงในวารสาร Geophysical Research Letters ฉบับวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา
ทีมผู้วิจัยระบุว่า หลักฐานจากการติดตามความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิผิวน้ำ ทั้งในมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก ชี้ว่าปรากฏการณ์ลานีญาที่รุนแรงและยาวนานเกินกว่าที่เคยเป็นมา ไม่ใช่วงจรความเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ แต่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยฝีมือมนุษย์ น้ำท่วมร้ายแรงในปากีสถาน ความร้อนแผดเผาและไฟป่าในสหรัฐอเมริกาฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักในออสเตรเลียและอินโดนีเซีย ภัยแล้งในบราซิลและอาร์เจนตินา ทั้งหมดนี้คือผลกระทบที่เกิดจากปรากฏการณ์ ‘ลานีญา’ ทั้งสิ้น บทความของ Bloomberg ระบุว่า ลานีญาจะกินเวลาทั้งสิ้นราว 3 ปี ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายจากภัยพิบัติสภาพอากาศมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือมากถึง 37 ล้านล้านบาท ภายในปี 2023 มาจากทั้งอุทกภัย ภัยแล้ง พายุ และไฟจะทำลายบ้านเรือน ทำลายพืชผล กระทบการขนส่งสินค้ามากขึ้น และสุดท้ายทำให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิต “วัฏจักรสภาพอากาศที่มาจากลานีญาจะยิ่งทำให้ปัญหาทั้งหมดที่มีอยู่แล้วในภาพรวมแย่ลงไปอีก เช่น สงครามในยูเครนและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มสูงขึ้น” Michael Pento ประธานและผู้ก่อตั้ง Pento Portfolio Strategies กล่าว “เมื่อมีปัจจัยสภาพอากาศที่รุนแรงเข้ามา จะทำให้เกิดสถานการณ์ราคาพลังงานที่สูงขึ้น ราคาอาหารที่สูงขึ้น และอัตราเงินเฟ้อที่มากขึ้น ซึ่งส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจโลก” การเกิดลานีญาครั้งนี้มีโอกาสเกิดความหายนะมากขึ้น เพราะเกิดขึ้นในภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่สุดโต่งซึ่งเกิดขึ้นบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น จากข้อมูลของ Aon ระบุว่า ภัยพิบัติจากสภาพอากาศทำให้โลกต้องสูญเสียเงินกว่า 2.68 แสนล้านดอลลาร์ ในปี 2020 และอีก 3.29 แสนล้านดอลลาร์ ในปี 2021
People Also Search
- โลกเจอลานีญา 3 ปีซ้อน ภัยเงียบต้นกำเนิดภัยพิบัติ ทำโลกเสียหายนับแสนล้าน
- ลานีญา 3 ปีซ้อน เกิดจากภูมิอากาศโลกรวนด้วยฝีมือมนุษย์ - BBC News ไทย
- จับตาลานีญา-เอลนีโญ 2025 ไทยเจอฝนหนักต้นปี แล้งรุนแรงปลายปี
- "ลานีญา" หายไปแล้วโลกเข้าสู่สภาวะความเป็นกลาง เปิดผลกระทบไทยอากาศป่วน ...
- 'วิกฤตลานีญา' ที่กินเวลา 3 ปี จะสร้างความเสียหายให้โลกกว่า 37 ล้านล้านบาท
- TNN Tech - 'ลานีญา' ภัยเงียบที่คนมองข้าม...
- ทำไมทั่วโลก 'น้ำท่วมหนักขึ้น'? รู้จักปรากฏการณ์ 'ลานีญา 3 ปีซ้อน'
- ปรากฏการณ์ลานีญา 3 ปีซ้อน สิ้นสุดแล้ว เตรียมต่อด้วยเอลนีโญรุนแรง
- Science Insights : ลานีญา 3 ปีซ้อน ตอนที่ 1/2 โดย ดร. บัญชา ธนบุญสมบัติ
เมื่อช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ได้ประกาศว่าปรากฏการณ์ลานีญา (La Niña) ซึ่งทำให้ฝนตกหนักและอากาศหนาวเย็นในแถบแปซิฟิก มีแนวโน้มจะดำเนินต่อไปอีกนานหลายเดือนในปีนี้และปีหน้า ทำให้นับเป็นปีที่สามแล้วที่สภาพภูมิอากาศแบบดังกล่าวเกิดขึ้นติดต่อกัน ปรากฏการณ์ลานีญารอบปัจจุบันนั้น
เมื่อช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ได้ประกาศว่าปรากฏการณ์ลานีญา (La Niña) ซึ่งทำให้ฝนตกหนักและอากาศหนาวเย็นในแถบแปซิฟิก มีแนวโน้มจะดำเนินต่อไปอีกนานหลายเดือนในปีนี้และปีหน้า ทำให้นับเป็นปีที่สามแล้วที่สภาพภูมิอากาศแบบดังกล่าวเกิดขึ้นติดต่อกัน ปรากฏการณ์ลานีญารอบปัจจุบันนั้น เกิดขึ้นมาตั้งแต่ก.ย. 2020 และมีความเป็นไปได้ 55-70% ที่จะดำเนินต่อไปจนถึง ก.พ. 2023 หรือยาวนาน...
ทีมผู้วิจัยระบุว่า หลักฐานจากการติดตามความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิผิวน้ำ ทั้งในมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก ชี้ว่าปรากฏการณ์ลานีญาที่รุนแรงและยาวนานเกินกว่าที่เคยเป็นมา ไม่ใช่วงจรความเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ แต่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยฝีมือมนุษย์ น้ำท่วมร้ายแรงในปากีสถาน ความร้อนแผดเผาและไฟป่าในสหรัฐอเมริกาฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักในออสเตรเลียและอินโดนีเซีย ภัยแล้งในบราซิลและอาร์เจนตินา
ทีมผู้วิจัยระบุว่า หลักฐานจากการติดตามความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิผิวน้ำ ทั้งในมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก ชี้ว่าปรากฏการณ์ลานีญาที่รุนแรงและยาวนานเกินกว่าที่เคยเป็นมา ไม่ใช่วงจรความเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ แต่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยฝีมือมนุษย์ น้ำท่วมร้ายแรงในปากีสถาน ความร้อนแผดเผาและไฟป่าในสหรัฐอเมริกาฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักในออสเตรเลียและอินโดนีเซีย ภัยแล้งในบราซิลและอาร์เจนตินา ...