11 กุมภาพันธ์ 2566 รักษ์โลกจริง ต้องหยุด Greenwashing
ที่มา : https://www.wealthythai.com/en/updates/sustainability/15439 Greenwashing หรือ การฟอกเขียว คือ การอ้างเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่รับผิดชอบต่อสังคมและใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่อาจไม่ได้มีการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจริง โดยมีการให้ข้อมูลเท็จหรือเกินจริงหรือไม่ครบตามความเป็นจริง Greenwashing จึงเป็นอุปสรรคที่สำคัญอย่างหนึ่งของพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน รวมถึงการลงทุนอย่างยั่งยืน Greenwashing เป็นเรื่องสำคัญและเป็นเรื่องที่ต้องระวัง เนื่องจาก -การให้ข้อมูลเท็จและบิดเบือนจะทำลายความน่าเชื่อถือของระบบการเปิดเผยข้อมูล ความถูกต้องและแม่นยำของข้อมูล ซึ่งล้วนเป็นกลไกที่แสดงถึงประสิทธิภาพของตลาดในการกำหนดราคา -เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของผู้บริโภคทำให้เชื่อว่าบริษัทได้ตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และปัญหากำลังได้รับการแก้ไขที่ถูกต้องซึ่งอาจไม่ได้ลดผลกระทบจริง Greenwashing หรือ การฟอกเขียว คือ การอ้างเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่รับผิดชอบต่อสังคมและใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่อาจไม่ได้มีการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจริง โดยมีการให้ข้อมูลเท็จหรือเกินจริงหรือไม่ครบตามความเป็นจริง Greenwashing จึงเป็นอุปสรรคที่สำคัญอย่างหนึ่งของพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน รวมถึงการลงทุนอย่างยั่งยืนGreenwashing เป็นเรื่องสำคัญและเป็นเรื่องที่ต้องระวัง เนื่องจาก-การให้ข้อมูลเท็จและบิดเบือนจะทำลายความน่าเชื่อถือของระบบการเปิดเผยข้อมูล ความถูกต้องและแม่นยำของข้อมูล ซึ่งล้วนเป็นกลไกที่แสดงถึงประสิทธิภาพของตลาดในการกำหนดราคา-เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของผู้บริโภคทำให้เชื่อว่าบริษัทได้ตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และปัญหากำลังได้รับการแก้ไขที่ถูกต้องซึ่งอาจไม่ได้ลดผลกระทบจริง-ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมระหว่างผู้เล่นในตลาด บริษัทที่ทำการฟอกเขียวไม่ได้มีค่าใช้จ่ายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจริง นอกจากไม่ได้รับโทษแต่กลับได้สิทธิประโยชน์เท่ากับบริษัทอื่น ๆ เช่น สิทธิประโยชน์ทางภาษี เป็นต้น-ในระยะยาว บริษัทที่มีการดำเนินการเรื่อง ESG จริง อาจถูกกีดกันออกจากตลาดเนื่องจากผู้บริโภคไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างว่าบริษัททำจริงหรือไม่จริง
-การระบุข้อความบนฉลากว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ไม่ได้ระบุส่วนประกอบที่ทำให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน-ยังคงดำเนินการผลิตโดยไม่ใส่ต่อการลดการปล่อยคาร์บอนเนื่องจากสามารถชดเชยได้ด้วยการซื้อคาร์บอนเครดิต ซึ่งทำให้ไม่ได้เกิดการลดก๊าซเรือนกระจกอย่างแท้จริง-แสดงถึงการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง ราคาแพง แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงไม่ได้สูงเท่าที่ลงทุนไป-ไม่มีเอกสารที่ยืนยันได้ว่า ดำเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เท่าไรการป้องกันไม่ให้เกิด Greenwashing หัวใจสำคัญคือ การเปิดเผยข้อมูลและการเข้าถึงข้อมูลด้าน ESG ที่ครบถ้วน ถูกต้อง และโปร่งใส ทำให้ทั้งบริษัท นักลงทุน และผู้บริโภคเองมั่นใจได้ว่า Greenwashing จะลดน้อยลง อีกทั้งมีกิจกรรมที่สร้างผลกำไรและลดผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น -ไม่สนับสนุนผลิตภัณฑ์/สินค้าที่แสดงข้อมูลไม่ชัดเจนว่าไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมจริง ๆ-หลีกเลี่ยงการลงทุนในบริษัทที่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างชัดเจน-เข้าถึงข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมจากแหล่งที่มีความน่าเชื่อถือ คำว่า “ฟอกเขียว(Greenwashing)” อธิบายถึงพฤติกรรมและแนวปฏิบัติของกลุ่มองค์กรและหน่วยธุรกิจเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อใจและดีต่อโลก แต่กลับไม่ได้ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจริงตามที่กล่าวอ้าง การฟอกเขียวช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถทำธุรกิจได้ปกติพร้อมกับแสร้งว่าตนใส่ใจสิ่งแวดล้อมไปด้วย หากเทียบกับการก่อมลพิษแล้วนั้นเทียบได้ว่าภาคธุรกิจไม่ได้ทำอะไรเพื่อสิ่งแวดล้อมเลย การทำธุรกิจรูปแบบนี้เป็นภัยต่อระบบเศรษฐกิจ สังคมและโลกมากกว่าที่เราคิด การฟอกเขียวทำให้กระบวนการเปลี่ยนผ่านระบบที่ยั่งยืนต่อผู้คนและโลกช้าลง กลยุทธ์ฟอกเขียวจากหลายบริษัททำให้เบี่ยงเบนความสนใจของผู้บริโภค และถูกทำให้เชื่อว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมได้รับการแก้ไขที่ถูกต้อง แต่จริง ๆ แล้วปัญหายังไม่ได้ถูกแก้เลย การฟอกเขียวอาจทำให้เราไม่ได้สนับสนุนบริษัทที่ตั้งใจลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง และไม่ได้ไปกดดันให้บริษัทที่ยังยังฟอกเขียวอยู่ให้เปลี่ยนแปลงไปแก้ปัญหาจริง ๆ
กรีนพีซรณรงค์ให้รัฐและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เป็นผู้ก่อมลพิษหลักต้องหยุดดำเนินงานด้วยหลักการฟอกเขียว ซึ่งไม่ช่วยให้สภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมดีขึ้น ตรงกันข้ามกลับส่งผลกระทบต่อโลกและสิทธิชุมชนที่ถูกคุกคามจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วรวมถึงนโยบายการฟอกเขียวที่ลิดรอนสิทธิของประชาชน ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผู้นำของประเทศไทยได้มีโอกาสเข้าร่วมการประชุมเจรจาด้านสภาพภูมิอากาศระดับโลก หรือที่เรารู้จักในนามประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Conference of Parties : COP) ตั้งแต่การเข้าร่วมในความตกลงปารีส (Paris Agreement) เมื่อปี พ.ศ.2559 (รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) จนกระทั่งตอนนี้ในปี 2567 ที่รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร กำลังจะเข้าร่วมการประชุม COP29 ที่อาร์เซอรไบจานในเดือนพฤศจิกายนนี้ อย่างไรก็ตาม นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลนั้นยังคงเอื้อประโยชน์ให้กับบรรษัทยักษ์ใหญ่ เช่น อุตสาหกรรมฟอสซิล อุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร และอุตสาหกรรมขุดเจาะทรัพยากรธรรมชาติเดินหน้าก่อวิกฤตโลกเดือดผ่านการฟอกเขียว ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมต่อประชาชน ชุมชนท้องถิ่นที่เป็นกลุ่มคนที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยที่สุด แต่เป็นกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศมากที่สุด การเอื้อประโยชน์ให้กับบรรษัทยักษ์ใหญ่ทำให้ประชาชนกลุ่มเปราะบางต้องเผชิญกับสารพัดวิกฤต (poly crisis) ทั้งผลกระทบจากหายนะจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศและการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งพวกเขาไม่ได้มีส่วนก่อขึ้น ผลกระทบเหล่านี้ซ้ำเติมให้ความเหลื่อมล้ำทางสังคมและความยากจนที่มีอยู่เดิมทวีความรุนแรงขึ้นไปอีก ขณะที่แผน Net Zero และความเป็นกลางทางคาร์บอนกลายเป็นเครื่องมือของบรรษัทอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ใช้แก้ปัญหาไม่ตรงจุด ทำให้อุตสาหกรรมฟอสซิลและผู้ก่อมลพิษยังเดินหน้าปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อไปได้ ในเวที ยุติภาวะโลกเดือดที่ต้นเหตุ: System Change Not Climate Crisis โดย เครือข่ายประชาชนเพื่อความเป็นธรรมทางสภาพภูมิอากาศและหยุดคาร์บอนเครดิต ได้จัดเวทีเสวนาในประเด็น วิพากษ์นโยบายโลกเดือด :จากความตกลงปารีสถึงยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีมรดก คสช.
ส่งต่อรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง พร้อมผู้เข้าร่วมการเสวนา บารมี ชัยรัตน์ สมัชชาคนจน เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ สุภาภรณ์ มาลัยลอย มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม ธารา บัวคำศรี กรีนพีซ ประเทศไทย ดำเนินรายการโดย วิภาพร วัฒนวิทย์ นักข่าวพลเมือง Thai PBS โลกร้อนขึ้นทุกวันในระดับที่เชื่อว่าหลายคนก็คงสัมผัสได้ ทั้งยังมีปัญหาสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เรื่องนี้จึงกลายเป็นอีกประเด็นที่ผู้บริโภคให้ความสนใจกันมากขึ้น โดยเราจะเห็นได้จากเทรนด์ต่าง ๆ เช่น #Wearวนไป ที่ชวนกันมาใส่เสื้อผ้าซ้ำเพื่อลดการบริโภคแบบ Fast Fashion หรือจากรายงานพฤติกรรมผู้บริโภคที่เห็นได้ชัดว่าพฤติกรรมของทุกคนเริ่มเปลี่ยนไปใส่ใจเรื่องความยั่งยืนมากขึ้น อย่างกระแสของรถยนต์ไฟฟ้าที่ Google Year in Search Thailand 2022 ระบุว่าผู้บริโภคในไทยค้นหาเพิ่มมากขึ้นกว่า 90% ด้วยเช่นกันเมื่อพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ความคาดหวังที่มีต่อแบรนด์ก็มีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากรายงานของ BBDO Asia พบว่าผู้บริโภคในเอเชีย 44% ชื่นชอบแบรนด์ที่ทำสิ่งที่ดีต่อชุมชนและต่อโลกของเรา ในขณะที่อีก 40% ชอบแบรนด์ที่มีจุดยืนและสนับสนุนในประเด็นที่พวกเขาให้ความสนใจ ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ เริ่มออกมาทำแคมเปญ... จากตัวอย่างเหล่านี้ จะเห็นได้ว่าแม้แบรนด์จะมีกิจกรรม มีการรณรงค์ต่าง ๆ ให้ดูเหมือนแบรนด์ใส่ใจโลกมากขึ้น แต่เมื่อมองอย่างรอบด้าน ผู้บริโภคที่สนใจสิ่งแวดล้อมจริง ๆ ก็จะดูออกได้ทันทีว่านี้เป็นเพียงความฉาบฉวยที่แบรนด์สร้างขึ้นมาเพื่ออยากเอาใจ ในขณะที่ผู้บริโภคทั่วไปก็อาจเข้าใจผิดได้จากการที่แบรนด์ใช้คำเพียงว่า “เพื่อสิ่งแวดล้อม”สุดท้าย เมื่อการตลาดแบบฟอกเขียวถูกเปิดเผยความจริง แบรนด์ก็จะสูญเสียความน่าเชื่อถือลงไปทันที ทำให้อาจไม่มีผู้บริโภคมาสนับสนุนสินค้า และอาจสร้างการบอกต่อในแง่ลบที่เกี่ยวกับแบรนด์ได้แล้วจะทำอย่างไรถึงจะถูกใจผู้บริโภคสายรักษ์โลก และไม่ให้การตลาดของแบรนด์เป็นเพียงการฟอกเขียว? ลองมาดูคำแนะนำที่เราเอามาฝากกันครับ เริ่มจากเป้าหมายเล็กสู่เป้าหมายใหญ่การสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมอาจต้องใช้เวลา แต่แบรนด์ของคุณเองก็สามารถทำให้ผู้บริโภคเห็นว่าเราตั้งใจจริงด้วยการเริ่มจากเป้าหมายเล็ก ๆ ก่อนได้ครับ เพราะการทำแบบนี้จะช่วยให้แบรนด์สามารถประเมินตัวเองได้ว่า ตอนนี้แบรนด์ทำได้มากน้อยแค่ไหน รวมทั้งยังเป็นการค่อย ๆ ทำให้ผู้บริโภคเชื่อใจจากการที่แบรนด์สามารถทำได้จริงตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ ทั้งนี้เป้าหมายนั้น ๆ ควรเป็นเป้าหมายที่ชัดเจนด้วยนะครับ ทุกคนในแบรนด์ควรทำให้เหมือนกันที่ต้องพูดถึงการปฎิบัติเป็นทิศทางเดียวกันของแบรนด์ นั่นเป็นเพราะว่าบางครั้งเมื่อแบรนด์ประกาศเป้าหมายหรือแนวทางการปฎิบัติออกไปแล้ว แต่มีคนในองค์กรที่ไม่ได้เคร่งครัดทำตาม หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่แบรนด์กำลังจะทำ เช่น แบรนด์ประกาศงดแจกถุงพลาสติก แต่ถ้ามีคนขอ พนักงานหน้าร้านก็แอบให้ ก็อาจทำให้แบรนด์ต้องเผชิญกับ Crisis ได้เหมือนกัน เพราะผู้บริโภคอาจเข้าใจผิดและคิดว่าแบรนด์ไม่จริงใจกันได้แบบง่าย ๆการทำให้ทุกคนในแบรนด์ของคุณเข้าใจและปฎิบัติตรงกัน ตั้งแต่ผู้บริหารไปจนพนักงานในทุกระดับ รวมไปทั้งคนที่ทำหน้าที่ดูแลภาพลักษณ์ของแบรนด์ เช่น แอดมินเพจที่ช่วยตอบปัญหาของผู้บริโภค ก็จะช่วยให้ผู้บริโภคเห็นว่าแบรนด์ของคุณไม่ได้คิดจะทำฟอกเขียวแต่อย่างใด แบรนด์นี้ทำจริง และช่วยกันทำทุกคนทั้งบริษัท ทุกเป้าหมายต้องตรวจสอบได้ความโปร่งใสถือเป็นหัวใจสำคัญเลยก็ว่าได้ครับ เพราะไม่ว่าแบรนด์จะโชว์ผลลัพธ์เป็นตัวเลขว่าทำได้จริง หรือโชว์ภาพกิจกรรมสวย ๆ แต่หากตรวจสอบไม่ได้ก็อาจทำให้เสียความน่าเชื่อถือลงไปได้มากเหมือนกันการที่แบรนด์ของคุณจะทำอะไรจึงควรต้องมีการระบุวิธีที่ชัดเจน มีใบรับรองจากองค์กรที่เชื่อถือได้ หรือมีการรายงานผลการทำงานให้ติดตาม เช่น หากแบรนด์มีเป้าหมายใช้วัสดุรีไซเคิล 100% ภายในปี 2023 ก็ควรระบุความคืบหน้า ที่มาของวัสดุ วิธีการรีไซเคิล หรือแม้แต่รายงานปัญหาก็ได้ครับ เพื่อให้ผู้บริโภคได้เห็นว่าแบรนด์พร้อมที่จะเปลี่ยน มีการวางแผน และลงมือทำจริงแบบไม่ได้มาเล่น ๆ นะครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก: / ////.#CreatexHouse #Greenwashing #GreenMarketing
People Also Search
- 11 กุมภาพันธ์ 2566 รักษ์โลกจริง…ต้องหยุด Greenwashing
- รักษ์โลกจริง...ต้องหยุด Greenwashing | Wealthy Thai | LINE TODAY
- หยุดฟอกเขียว - Greenpeace Thailand
- การฟอกเขียว (Greenwashing) : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย - ศูนย์พัฒนา ...
- Wealthy - รักษ์โลกจริง...ต้องหยุด Greenwashing . Greenwashing หรือ การ ...
- ยุติภาวะโลกเดือดที่ต้นเหตุ: นโยบายรัฐไทยต้องเลิกเอื้อฟอกเขียวนายทุน ยก ...
- ประชาสัมพันธ์ - หน้า 81 - สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและ ...
- [Esguniverse] กรณีศึกษา 15 แบรนด์ที่ถูกกล่าวว่า 'ฟอกเขียว' รักษ์โลกไม่ ...
- การลงทุนยั่งยืน (ESG) 4/4: "Greenwashing" คืออะไร? วิธีดูว่า "หุ้น ...
- เพื่อคนรักษ์โลกต้องทำยังไง ไม่ให้กลยุทธ์แบรนด์กลายเป็น #Greenwashing
ที่มา : Https://www.wealthythai.com/en/updates/sustainability/15439 Greenwashing หรือ การฟอกเขียว คือ การอ้างเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่รับผิดชอบต่อสังคมและใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่อาจไม่ได้มีการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจริง โดยมีการให้ข้อมูลเท็จหรือเกินจริงหรือไม่ครบตามความเป็นจริง
ที่มา : https://www.wealthythai.com/en/updates/sustainability/15439 Greenwashing หรือ การฟอกเขียว คือ การอ้างเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่รับผิดชอบต่อสังคมและใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่อาจไม่ได้มีการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจริง โดยมีการให้ข้อมูลเท็จหรือเกินจริงหรือไม่ครบตามความเป็นจริง Greenwashing จึงเป็นอุปสรรคที่สำคัญอย่างหนึ่งของพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน รวมถึงการลงทุนอย่างยั่งยืน Greenwashing เป็นเรื่องสำคัญแ...
-การระบุข้อความบนฉลากว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ไม่ได้ระบุส่วนประกอบที่ทำให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน-ยังคงดำเนินการผลิตโดยไม่ใส่ต่อการลดการปล่อยคาร์บอนเนื่องจากสามารถชดเชยได้ด้วยการซื้อคาร์บอนเครดิต ซึ่งทำให้ไม่ได้เกิดการลดก๊าซเรือนกระจกอย่างแท้จริง-แสดงถึงการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง ราคาแพง แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงไม่ได้สูงเท่าที่ลงทุนไป-ไม่มีเอกสารที่ยืนยันได้ว่า ดำเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เท่าไรการป้องกันไม่ให้เกิด Greenwashing หัวใจสำคัญคือ การเปิดเผยข้อมูลและการเข้าถึงข้อมูลด้าน ESG
-การระบุข้อความบนฉลากว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ไม่ได้ระบุส่วนประกอบที่ทำให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน-ยังคงดำเนินการผลิตโดยไม่ใส่ต่อการลดการปล่อยคาร์บอนเนื่องจากสามารถชดเชยได้ด้วยการซื้อคาร์บอนเครดิต ซึ่งทำให้ไม่ได้เกิดการลดก๊าซเรือนกระจกอย่างแท้จริง-แสดงถึงการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง ราคาแพง แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงไม่ได้สูงเท่าที่ลงทุนไป-ไม่มีเอกสารที่ยืนยันได้ว่า ดำเนิ...
กรีนพีซรณรงค์ให้รัฐและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เป็นผู้ก่อมลพิษหลักต้องหยุดดำเนินงานด้วยหลักการฟอกเขียว ซึ่งไม่ช่วยให้สภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมดีขึ้น ตรงกันข้ามกลับส่งผลกระทบต่อโลกและสิทธิชุมชนที่ถูกคุกคามจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วรวมถึงนโยบายการฟอกเขียวที่ลิดรอนสิทธิของประชาชน ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผู้นำของประเทศไทยได้มีโอกาสเข้าร่วมการประชุมเจรจาด้านสภาพภูมิอากาศระดับโลก หรือที่เรารู้จักในนามประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Conference Of
กรีนพีซรณรงค์ให้รัฐและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เป็นผู้ก่อมลพิษหลักต้องหยุดดำเนินงานด้วยหลักการฟอกเขียว ซึ่งไม่ช่วยให้สภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมดีขึ้น ตรงกันข้ามกลับส่งผลกระทบต่อโลกและสิทธิชุมชนที่ถูกคุกคามจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วรวมถึงนโยบายการฟอกเขียวที่ลิดรอนสิทธิของประชาชน ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผู้นำของประเทศไทยได้มีโอกาสเข้าร่วมการประชุมเจรจาด้านสภาพภูมิอากาศระดับโลก หรือที่เรารู้จักในนามประชุมร...
ส่งต่อรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง พร้อมผู้เข้าร่วมการเสวนา บารมี ชัยรัตน์ สมัชชาคนจน เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ สุภาภรณ์ มาลัยลอย
ส่งต่อรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง พร้อมผู้เข้าร่วมการเสวนา บารมี ชัยรัตน์ สมัชชาคนจน เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ สุภาภรณ์ มาลัยลอย มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม ธารา บัวคำศรี กรีนพีซ ประเทศไทย ดำเนินรายการโดย วิภาพร วัฒนวิทย์ นักข่าวพลเมือง Thai PBS โลกร้อนขึ้นทุกวันในระดับที่เชื่อว่าหลายคนก็คงสัมผัสได้ ทั้งยังมีปัญหาสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เรื่องนี้จึงกลายเป็นอี...
ขอบคุณข้อมูลจาก: / ////.#CreatexHouse #Greenwashing #GreenMarketing
ขอบคุณข้อมูลจาก: / ////.#CreatexHouse #Greenwashing #GreenMarketing