Ai ไทย โตแรง สตาร์ทอัพนําโด่ง พัฒนานวัตกรรมเร็วกว่าองค์กรใหญ่ 2 เท่า

Leo Migdal
-
ai ไทย โตแรง สตาร์ทอัพนําโด่ง พัฒนานวัตกรรมเร็วกว่าองค์กรใหญ่ 2 เท่า

นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager ของ บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส ประเทศไทย (Amazon Web Services: AWS) บริษัทในเครือของ Amazon.com เปิดเผยว่าธุรกิจในประเทศไทยมีความตื่นตัวและมุ่งมั่น อย่างมากในการพัฒนานวัตกรรมด้วยเทคโนโลยี AI โดยระดับการนำไปใช้ที่สูงสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดชี้ให้เห็นว่ายังมีอุปสรรคสำคัญหลายประการ โดยเฉพาะในองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการพัฒนาการใช้งาน AI ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น เพื่อรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันของประเทศไทยบนเวทีด้าน AI ระดับโลก ทั้งภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมจำเป็นต้องร่วมมือกันแก้ไขอุปสรรคที่ภาคธุรกิจกำลังเผชิญอยู่อย่างเป็นระบบ ทาง AWS ยังคงมุ่งมั่นสนับสนุนการใช้งาน Generative AI อย่างแพร่หลาย ผ่านการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและโครงการพัฒนาทักษะบุคลากรอย่างต่อเนื่อง โดยผลการศึกษา “Unlocking Thailand’s AI Potential” AWS ล่าสุดพบว่า แม้การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในไทยจะเติบโตต่อเนื่อง แต่เกิดช่องว่างที่กว้างขึ้นระหว่างบริษัทสตาร์ทอัพและบริษัทขนาดใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจมานาน ในด้านการประยุกต์ใช้ AI ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดเศรษฐกิจสองระดับ โดยสตาร์ทอัพที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีสามารถพัฒนานวัตกรรมได้เร็วกว่าและแซงหน้าธุรกิจดั้งเดิม การใช้ AI ในไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีธุรกิจ 150,000 รายนำ AI มาใช้ในปี 2567 หรือเฉลี่ยเกือบทุก 3 นาทีจะมีธุรกิจใหม่นำ AI มาใช้ ปัจจุบันมีธุรกิจ 600,000 ราย หรือ 32% ของธุรกิจทั้งประเทศที่นำ AI มาใช้แล้ว เพิ่มขึ้น 33% จากปีก่อน ด้านผลลัพธ์ทางธุรกิจ 67% ของธุรกิจที่ใช้ AI มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 17% ในขณะที่ 78% คาดว่าจะสามารถประหยัดต้นทุนได้เฉลี่ย... แม้การใช้ AI ในไทยจะแพร่หลายขึ้น แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ในระดับก้าวหน้า สะท้อนถึงความจำเป็นในการพัฒนาการใช้ AI ให้ลึกซึ้งขึ้นเพื่อปลดล็อกศักยภาพของประเทศ โดย 72% ของธุรกิจยังใช้ AI เพียงขั้นพื้นฐาน เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงกระบวนการทำงาน มากกว่าการสร้างนวัตกรรมใหม่ มีเพียง 18% ที่ใช้ในระดับกลาง และ 10% ที่ผสาน AI เข้าเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตัดสินใจ และโมเดลธุรกิจ ถ้าย้อนมอง Amazon Web Services (AWS) ไปที่ต้นทางของธุรกิจ ภาพของ Amazon.com อดีตร้านหนังสือออนไลน์ที่จัดเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพยุคบุกเบิก ขยายสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และวิวัฒนาการเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ จนขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในเจ็ดหุ้นนางฟ้า หรือ Magnificent 7 ที่ทั้งโลกรู้จัก และไม่ว่าจะมาไกลแค่ไหน หรือมูลค่าหุ้น Amazon (AMZN) จะอยู่ที่เท่าไหร่ ยักษ์ใหญ่รายนี้ก็ยังคงให้ความสำคัญและทุ่มเงินทุนสนับสนุนเทคสตาร์ทอัพเรื่อยมา

ไม่นานมานี้ เทคซอสมีโอกาสสัมภาษณ์ คุณวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager, AWS ประเทศไทย ในด้านการสนับสนุนสตาร์ทอัพ คุณวัตสันเล่าว่า หลังจากที่ Amazon เริ่มให้บริการเทคโนโลยีคลาวด์ ผู้ใช้งานกลุ่มแรก ๆ ที่ให้การตอบรับอย่างดีก็คือ กลุ่มสตาร์ทอัพ ซึ่งมีรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างจากองค์กรขนาดใหญ่ และตั้งแต่ตอนนั้น Amazon ก็ให้ความสำคัญและปักธงสนับสนุนสตาร์ทอัพทั่วโลก สำหรับประเทศไทย Amazon จัดตั้งทีมงานเพื่อดูแลสตาร์ทอัพโดยเฉพาะ ทั้งยังจัดหาบุคลากรจาก AWS ทั้งในและต่างประเทศ กับเชิญรุ่นพี่สตาร์ทอัพมาแชร์ Success Story และ Case Study โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจฟินเทค โดยให้ผู้มีประสบการณ์จากอุตสาหกรรมในประเทศและต่างประเทศ จับคู่แบ่งปันประสบการณ์การเติบโตจากสตาร์ทอัพสู่องค์กรระดับบิ๊ก รวมถึงบทเรียนที่ได้ ไม่ว่าจะมาจากความสำเร็จหรือล้มเหลว คุณวัตสันให้รายละเอียดว่า 'สตาร์ทอัพในระยะเริ่มต้น' ต้องการความช่วยเหลือทั้งด้านเงินทุน เทคนิค เทคโนโลยี และการเชื่อมต่อกับเครือข่ายเพื่อช่วยให้ประสบความสำเร็จ ทาง AWS จึงสร้างทางเชื่อมให้สตาร์ทอัพพบปะนักลงทุน (VC) และผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ผ่าน AWS Activate โครงการที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2556 โดยสตาร์ทอัพที่เข้าโครงการจะได้ AWS Credits เพื่อใช้ทดลองและพัฒนาไอเดียเป็นรูปธรรม จนปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมโครงการแล้วราว 330,000 รายทั่วโลก "ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา เราให้การสนับสนุนโครงการ AWS Activate ทั่วโลกไปแล้วกว่า 7,000 ล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะปีที่แล้วเพียงปีเดียว เราสนับสนุนไป 2,000 ล้านดอลลาร์ แสดงให้เห็นถึงการเร่งการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดคือ มากกว่า 80% ของบริษัทระดับยูนิคอร์นทั่วโลกใช้บริการ AWS" คุณวัตสันให้ข้อมูลตัวเลข อัตราการใช้ AI ในภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 33% จากปีที่ผ่านมา โดยมีเพียง 16% ของบริษัทขนาดใหญ่ที่นำ AI มาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ เทียบกับสตาร์ทอัพที่มีสัดส่วนสูงถึง 40% 47% ของธุรกิจระบุว่า การขาดทักษะดิจิทัลเป็นอุปสรรคสำคัญในการขยายการใช้ AI

กรุงเทพฯ 6 ตุลาคม 2568 – อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) บริษัทในเครือของ Amazon.com เปิดเผยผลการศึกษาพบว่า แม้การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในไทยจะเติบโตต่อเนื่อง แต่เกิดช่องว่างที่กว้างขึ้นระหว่างบริษัทสตาร์ทอัพและบริษัทขนาดใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจมานาน ในด้านการประยุกต์ใช้ AI ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดเศรษฐกิจสองระดับ โดยสตาร์ทอัพที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีสามารถพัฒนานวัตกรรมได้เร็วกว่าและแซงหน้าธุรกิจดั้งเดิม การใช้ AI ในไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีธุรกิจ 150,000 รายนำ AI มาใช้ในปี 2567 หรือเฉลี่ยเกือบทุก 3 นาทีจะมีธุรกิจใหม่นำ AI มาใช้ ปัจจุบันมีธุรกิจ 600,000 ราย หรือ 32% ของธุรกิจทั้งประเทศที่นำ AI มาใช้แล้ว เพิ่มขึ้น 33% จากปีก่อน ด้านผลลัพธ์ทางธุรกิจ 67% ของธุรกิจที่ใช้ AI มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 17% ในขณะที่ 78% คาดว่าจะสามารถประหยัดต้นทุนได้เฉลี่ย... AWS ร่วมกับ Strand Partners สำรวจการใช้ AI ในไทยผ่านการศึกษา “Unlocking Thailand's AI Potential” โดยเก็บข้อมูลจากผู้นำธุรกิจและประชาชนทั่วไป กลุ่มละ 1,000 รายในประเทศไทย AWS ร่วมกับ Strand Partners สำรวจการใช้ AI ในไทยผ่านการศึกษา “Unlocking Thailand’s AI Potential” โดยเก็บข้อมูลจากผู้นำธุรกิจและประชาชนทั่วไป พบว่า แม้การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในไทยจะเติบโตต่อเนื่อง แต่เกิดช่องว่างที่กว้างขึ้นระหว่างบริษัทสตาร์ทอัพและบริษัทขนาดใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจมานานในด้านการประยุกต์ใช้ AI สตาร์ทอัพไทยมีความกระตือรือร้นและสร้างสรรค์ในการใช้ AI โดยนำ AI ขั้นสูงมาใช้เร็วกว่าบริษัทที่มีมานาน โดย 50% ของสตาร์ทอัพใช้ AI ในรูปแบบต่าง ๆ และ 40% กำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างเต็มศักยภาพ ในขณะที่บริษัทขนาดใหญ่จะใช้ AI แต่กว่า 75% ยังใช้แค่ระดับพื้นฐาน มีเพียง 16% ที่สร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ด้วย AI และ 18% ที่มีกลยุทธ์ AI ครอบคลุม

ส่วนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) มีเพียง 9% ที่ใช้ในระดับก้าวหน้าที่สุด ช่องว่างด้านนวัตกรรม AI นี้อาจส่งผลสำคัญต่ออนาคตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย คุณวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager ของ AWS ประเทศไทย กล่าวว่า “ธุรกิจในประเทศไทยมีความตื่นตัวและมุ่งมั่น อย่างมากในการพัฒนานวัตกรรมด้วยเทคโนโลยี AI โดยระดับการนำไปใช้ที่สูงสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดนี้ ชี้ให้เห็นว่ายังมีอุปสรรคสำคัญหลายประการ โดยเฉพาะในองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการพัฒนาการใช้งาน AI ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น” กระแสการปรับใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในภาคธุรกิจไทยปี 2025 กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ผลสำรวจล่าสุดที่ทาง AWS (Amazon Web Services) ทำร่วมกับพันธมิตร ซึ่งระบุว่า อัตราการนำ AI ไปใช้ในองค์กรได้เพิ่มขึ้นจาก 27% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 32% ในปีนี้ สถิตินี้สะท้อนความตื่นตัวในระดับที่ว่า ในทุก ๆ 3 นาที จะมีบริษัทไทย 1 แห่ง เริ่มต้นนำ AI มาใช้งาน อย่างไรก็ตาม หากวิเคราะห์ในเชิงคุณภาพ ภายใต้ตัวเลขการเติบโตนี้กลับพบว่า การใช้งาน AI ส่วนใหญ่ยังคงจำกัดอยู่ในระดับพื้นฐาน ผลสำรวจชี้ชัดว่า องค์กรไทยถึง 72% ยังคงอยู่ในช่วงการสำรวจ (Explore) ซึ่งหมายถึงการทดลองใช้ AI สำหรับ Use case ง่ายๆ เช่น การทำรายงาน หรือการช่วยสรุปข้อมูล ขณะที่มีเพียง 18% เท่านั้น ที่ก้าวไปสู่ขั้นการบูรณาการ (Integrate) หรือการนำ AI ไปผนวกเข้ากับกระบวนการทำงานที่เฉพาะทางมากขึ้น เช่น ระบบงานด้านการเงิน หรือการขายและการตลาด และมีองค์กรเพียง 10% ที่สามารถใช้ AI เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนโมเดลธุรกิจใหม่ (Business Model) ตลอดจนสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ขึ้นมาได้จริง ภาพที่สะท้อนออกมานี้จึงชี้ให้เห็นว่า แม้ภาคธุรกิจไทยจะมีความตื่นตัวอย่างสูง แต่การนำ AI ไปใช้งานเชิงลึกเพื่อปลดล็อกศักยภาพของเทคโนโลยีอย่างเต็มที่นั้น ยังคงเป็นความท้าทายสำคัญ ฉัตรชัย กำลังเดช Head of Technology, AWS Thailand กล่าวภายในงาน Bitkub Summit 2025 ว่า จากรายงานสามารถวิเคราะห์ถึง 3 อุปสรรคสำคัญ ที่ขัดขวางไม่ให้องค์กรไทยส่วนใหญ่สามารถก้าวข้ามจากการทดลองใช้ AI ในระดับพื้นฐาน ไปสู่การใช้งานในระดับที่ซับซ้อนหรือขั้นสูงได้

อุปสรรคประการแรก คือ ช่องว่างด้านทักษะ (Skill Gap) ซึ่งยังคงเป็นปัญหาสำคัญ ผู้ประกอบการจำนวนมากมองว่าบุคลากรที่มีอยู่ในปัจจุบันยังขาดทักษะที่เพียงพอต่อการใช้งานเทคโนโลยีใหม่ สะท้อนจากข้อเท็จจริงที่ว่า ในปีที่ผ่านมา มีพนักงานเพียง 34% เท่านั้นที่ได้รับโอกาสในการเข้าอบรมด้าน AI ท่ามกลางกระแสความตื่นตัวของ Generative AI ที่ถาโถมเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจ ประเทศไทยเองก็กำลังเผชิญกับจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ ผลการศึกษาล่าสุด ‘Unlocking Thailand's AI Potential’ จาก Amazon Web Services (AWS) และ Strand Partners ทำให้เห็นถึงสิ่งที่น่าตื่นเต้นและน่ากังวลไปพร้อมกัน นั่นคือการนำ AI มาใช้ในภาคธุรกิจไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่ในขณะเดียวกันก็กำลังเกิดรอยแยกที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนอาจนำไปสู่สภาวะ 'เศรษฐกิจ AI สองระดับ (Two-Tier AI Economy)' ที่กลุ่มสตาร์ทอัพผู้มีความคล่องตัวสูงกำลังเร่งสปีดนวัตกรรมทิ้งห่างองค์กรขนาดใหญ่และธุรกิจ SME แบบดั้งเดิมไปไกล คุณ Nick Bonstow ผู้อำนวยการจาก Strand Partners และคุณวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager ของ AWS ประเทศไทย ได้ร่วมกันเจาะลึกถึงภาพรวมการใช้ AI ในไทย พร้อมชี้ให้เห็นถึงโอกาสมหาศาลและความท้าทายเร่งด่วนที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันแก้ไข ก่อนที่ช่องว่างนี้จะกว้างเกินกว่าจะตามทัน ผลการศึกษาชี้ให้เห็นถึงการเติบโตของการใช้ AI ในประเทศไทยที่น่าทึ่ง โดยสถิติระบุว่า ในปี 2567 เพียงปีเดียว มีธุรกิจกว่า 150,000 ราย ที่เริ่มนำ AI เข้ามาปรับใช้ หรือเฉลี่ยแล้ว เกือบทุก 3 นาทีจะมีธุรกิจใหม่ 1 แห่งในไทยเริ่มใช้ AI ส่งผลให้ปัจจุบัน อัตราการใช้ AI ในภาคธุรกิจ (AI Adoption) เพิ่มขึ้นเป็น 32% จาก 24% ในปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่สูงถึง 33% 'นี่คืออัตราการเติบโตที่สำคัญอย่างยิ่ง (a really significant growth rate) และเป็นหนึ่งในอัตราที่สูงเมื่อเทียบกับทั่วโลก' คุณนิค บอนสโตว์ กล่าวในงานแถลงข่าว พร้อมชี้ให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมต่อธุรกิจ โดย 81% ของธุรกิจที่ใช้ AI ระบุว่ามีประสิทธิภาพการทำงาน (Productivity) เพิ่มขึ้น และ 67% มีรายได้เพิ่มขึ้นตามมา อย่างไรก็ตาม แม้ตัวเลขการใช้งานจะดูสวยหรู แต่เมื่อเจาะลึกถึง 'คุณภาพ' ของการใช้งานกลับพบว่าธุรกิจไทยส่วนใหญ่ยังคงวนเวียนอยู่กับการใช้งานในระดับพื้นฐานเท่านั้น สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพที่ยังไม่ถูกปลดล็อกอีกมหาศาล:

People Also Search

นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager ของ บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส ประเทศไทย

นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager ของ บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส ประเทศไทย (Amazon Web Services: AWS) บริษัทในเครือของ Amazon.com เปิดเผยว่าธุรกิจในประเทศไทยมีความตื่นตัวและมุ่งมั่น อย่างมากในการพัฒนานวัตกรรมด้วยเทคโนโลยี AI โดยระดับการนำไปใช้ที่สูงสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดชี้ให้เห็นว่ายังมีอุปสรรคสำคัญหลายประการ โดยเฉพาะในองค์กรขนาดใหญ่ที่...

ไม่นานมานี้ เทคซอสมีโอกาสสัมภาษณ์ คุณวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager, AWS ประเทศไทย ในด้านการสนับสนุนสตาร์ทอัพ คุณวัตสันเล่าว่า

ไม่นานมานี้ เทคซอสมีโอกาสสัมภาษณ์ คุณวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager, AWS ประเทศไทย ในด้านการสนับสนุนสตาร์ทอัพ คุณวัตสันเล่าว่า หลังจากที่ Amazon เริ่มให้บริการเทคโนโลยีคลาวด์ ผู้ใช้งานกลุ่มแรก ๆ ที่ให้การตอบรับอย่างดีก็คือ กลุ่มสตาร์ทอัพ ซึ่งมีรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างจากองค์กรขนาดใหญ่ และตั้งแต่ตอนนั้น Amazon ก็ให้ความสำคัญและปักธงสนับสนุนสตาร์ทอัพทั่วโลก สำหรับประเทศไทย Amazon จัดตั้งท...

กรุงเทพฯ 6 ตุลาคม 2568 – อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web

กรุงเทพฯ 6 ตุลาคม 2568 – อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) บริษัทในเครือของ Amazon.com เปิดเผยผลการศึกษาพบว่า แม้การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในไทยจะเติบโตต่อเนื่อง แต่เกิดช่องว่างที่กว้างขึ้นระหว่างบริษัทสตาร์ทอัพและบริษัทขนาดใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจมานาน ในด้านการประยุกต์ใช้ AI ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดเศรษฐกิจสองระดับ โดยสตาร์ทอัพที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีสามารถพัฒนานวัตกรรมได้เร็วกว่าและแ...

ส่วนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) มีเพียง 9% ที่ใช้ในระดับก้าวหน้าที่สุด ช่องว่างด้านนวัตกรรม AI นี้อาจส่งผลสำคัญต่ออนาคตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย คุณวัตสัน ถิรภัทรพงศ์

ส่วนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) มีเพียง 9% ที่ใช้ในระดับก้าวหน้าที่สุด ช่องว่างด้านนวัตกรรม AI นี้อาจส่งผลสำคัญต่ออนาคตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย คุณวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager ของ AWS ประเทศไทย กล่าวว่า “ธุรกิจในประเทศไทยมีความตื่นตัวและมุ่งมั่น อย่างมากในการพัฒนานวัตกรรมด้วยเทคโนโลยี AI โดยระดับการนำไปใช้ที่สูงสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดนี้ ...

อุปสรรคประการแรก คือ ช่องว่างด้านทักษะ (Skill Gap) ซึ่งยังคงเป็นปัญหาสำคัญ ผู้ประกอบการจำนวนมากมองว่าบุคลากรที่มีอยู่ในปัจจุบันยังขาดทักษะที่เพียงพอต่อการใช้งานเทคโนโลยีใหม่ สะท้อนจากข้อเท็จจริงที่ว่า ในปีที่ผ่านมา มีพนักงานเพียง

อุปสรรคประการแรก คือ ช่องว่างด้านทักษะ (Skill Gap) ซึ่งยังคงเป็นปัญหาสำคัญ ผู้ประกอบการจำนวนมากมองว่าบุคลากรที่มีอยู่ในปัจจุบันยังขาดทักษะที่เพียงพอต่อการใช้งานเทคโนโลยีใหม่ สะท้อนจากข้อเท็จจริงที่ว่า ในปีที่ผ่านมา มีพนักงานเพียง 34% เท่านั้นที่ได้รับโอกาสในการเข้าอบรมด้าน AI ท่ามกลางกระแสความตื่นตัวของ Generative AI ที่ถาโถมเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจ ประเทศไทยเองก็กำลังเผชิญกับจุดเปลี่ยนครั้งสำคั...