การจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active Learning Flip Ebook Pages 1 29

Leo Migdal
-
การจัดการเรียนรู้เชิงรุก active learning flip ebook pages 1 29

Important AnnouncementPubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am. PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated! สาํ นกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ แนวทางการนเิ ทศ เพือ่ พัฒนาและส่งเสริม การจดั การเรียนรู้เชิงรกุ (Active Learning) ตามนโยบายลดเวลาเรยี น เพ่ิมเวลารู้ หน่วยศึกษานเิ ทศก์ สาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน f esdc.go.th เอกสารหมายเลข 1/2562 http://www.esdc.go.th (+66) 02 628 5324, 02 288... การกาหนดหัวขอ้ เร่ือง (Theme) หัวข้อเรื่อง (Theme) เป็นข้อความที่เป็นประเด็นของเรือ่ ง ท่ีผู้เรียนจะทาการศึกษา โดยเปน็ มโนทัศน์กวา้ ง ๆ ทีเ่ อื้อต่อการใช้ความรู้ และมุมมองหลายวชิ ารวมกัน สอ่ื ความหมายเป็นแนวคิดหรือความคิด รวบยอด (Concept) แก่ผู้เรียน ควรเป็นหัวข้อเร่ืองท่ีทันสมัย น่าสนใจ และมีความหมายสาหรับผู้เรียน ทาให้ เกดิ ความกระหาย อยากจะเรยี นรู้ และพรอ้ มท่ีจะสืบสวน (Inquiry) แสวงหาคาตอบด้วยตนเอง ซึ่งผูอ้... การออกแบบกจิ กรรมการเรียนรู้เชงิ รกุ (Active Learning) การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรกุ (Active Learning) เปน็ กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ ผ้เู รียนได้ลงมือกระทา และได้ใช้กระบวนการคิดเกี่ยวกับสิ่งท่ีเขาได้กระทาลงไป (Bonwell, 1991) โดยผู้เรียน จะเปล่ียนบทบาทจากผู้รับความรู้ (receive) ไปสู่การมีส่วนร่วมในการสร้างความรู้ (Co-Creators) ความรู้ที่ เกิดขึ้นเป็นความรู้ที่ได้จากประสบการณ์ ดังนั้น กระบวนการในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ผู้เรียนต้องมีโอกาส ลงมือกระทามากกว่าการฟังเพียงอย่างเดียว การจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยการอ่าน การเขียน การ อภิปรายกับเพื่อน การวิเคราะห์ปัญหา และใช้กระบวนการคิดข้ันสูง ได้แก่... การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้เชิงรุก (Active Learning) กิจกรรมการเรยี นรู้ เป็นกระบวนการปฏบิ ตั ติ า่ ง ๆ ของผูเ้ รียนทีก่ ่อใหเ้ กิดการเรยี นร้อู ยา่ งมี ประสิทธิภาพ ได้แก่ วิธีการ/กิจกรรมที่ครูหรือผู้เก่ียวข้อง นามาใช้เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ ตามเป้าหมาย วัตถุประสงค์ สอดคลอ้ งเชื่อมโยงกับมาตรฐานตัวชวี้ ดั ทีก่ าหนดไว้ในหลักสูตรสถานศึกษา โดยมอี งค์ประกอบท่ี สาคัญของการจดั การเรยี...

การวัดและประเมินผลการจัดการเรียนรู้เชิงรกุ (Active Learning) การวัดและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ เป็นกระบวนการในการตรวจสอบผลการดาเนิน กจิ กรรมวา่ บรรลุตามเป้าหมาย ทกี่ าหนดไว้หรือไม่ มสี ว่ นใดต้องปรบั ปรุงแก้ไขเพื่อพัฒนาต่อไป โดยประเมนิ ท้ัง กระบวนการในการจัดกิจกรรม และประเมินคุณภาพของผู้เรียน ใช้การประเมินหลากหลายวิธี ให้ทุกฝ่ายได้มี โอกาสในการประเมิน เช่น ครูประเมินผู้เรียน ผู้เรียนประเมินเพื่อน ผู้เรียนประเมินตนเอง วิธีการในการ ประเมินควรถูกต้องเหมาะสมกับความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะของผู้เรียนท่ีกาหนดไว้ในเป้าหมายของการจัด กิจกรรมน้ัน ๆ แนวทางการนเิ ทศเพื่อพฒั นาและสง่... การประเมินตามสภาพจรงิ (Authentic Assessment) เปน็ การประเมินด้วยวธิ กี ารที่ หลากหลายเพื่อให้ได้ผลการประเมินที่สะท้อนความสามารถท่ีแท้จริงของผู้เรียน จึงควรใช้การประเมินการ ปฏิบัติ (Performance Assessment) ร่วมกับการประเมินด้วยวิธีการอ่ืน และกาหนดเกณฑ์ในการประเมิน (Rrubrics) ใหส้ อดคลอ้ งหรอื ใกลเ้ คยี งกับชีวติ จรงิ 2. การประเมินการปฏิบัติ (Performance Assessment) เป็นวิธีการประเมินงานหรือ กจิ กรรมท่ีผสู้ อนมอบหมายให้ผเู้ รยี นปฏบิ ัติงานเพ่ือให้ทราบถงึ ผลการพฒั นาของผู้เรียน การประเมนิ ลักษณะน้ี ผู้สอนต้องเตรียมส่ิงสาคัญ 2 ประการ คือ ภาระงาน (Tasks) หรือเกณฑ์การประเมินกิจกรรมที่จะให้ผู้เรียน ปฏิบัติ (Scoring Rubrics) การประเมินการปฏิบัติ จะช่วยตอบคาถามท่ีทาให้เรารู้ว่า “ผู้เรียนสามารถนาส่ิง ทเี่ รยี นรู้ไปใช้ไดด้ เี พยี งใด” ดงั... การประเมนิ โดยการใช้คาถาม (Questioning) คาถามเปน็ วธิ หี น่งึ ในการกระต้นุ /ชแ้ี นะให้ ผู้เรียนแสดงออกถึงพัฒนาการการเรียนรู้ของตนเอง รวมถึงเป็นเครื่องมือวดั และประเมินเพ่ือพัฒนาการเรียนรู้ ดังน้ัน เทคนิคการต้ังคาถามเพ่ือส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน จึงเป็นเร่ืองสาคัญยิ่งท่ีผู้สอนต้องเรียนรู้และ นาไปใช้ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การตั้งคาถามเพื่อพัฒนาผู้เรียนจึงเป็นกลวิธีสาคัญที่ผู้สอนใช้ประเมินการ เรยี นรู้ของผูเ้ รียนรวมทงั้ เป็นเครอ่ื งสะทอ้ นให้ผู้สอนสามารถชว่ ยเหลือผูเ้ รยี นให้บรรลจุ ดุ มุ่งหมายของการเรียนรู้ 4. การประเมนิ โดยการการสนทนา( Communication) เป็นการส่ือสาร 2 ทางอกี ประเภทหนง่ึ ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน สามารถดาเนินการเป็นกลุ่มหรือรายบุคคลก็ได้ โดยท่ัวไปมักใช้อย่างไม่เป็นทางการ เพื่อติดตามตรวจสอบว่า ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้เพียงใด เป็นข้อมูลสาหรับพัฒนา วิธีการนี้อาจใช้เวลา แต่มี ประโยชน์ต่อการค้นหา วินิจฉัย ข้อปัญหา ตลอดจนเรื่องอื่นๆ ที่อาจเป็นปัญหา อุปสรรคต่อการเรียนรู้ เช่น วิธีการเรียนร้ทู ่แี ตกต่างกนั เป็นตน้ 5. การประเมนิ การสงั เกตพฤตกิ รรม (Behavioral Observation) เป็นการเกบ็ ขอ้ มูลจากการดู การปฏบิ ัติกิจกรรมของผู้เรียนโดยไม่ขัดจังหวะการทางานหรือการคิดของผู้เรียน การสงั เกตพฤติกรรมเป็นส่ิงท่ี ทาได้ตลอดเวลา แต่ควรมีกระบวนการและจุดประสงค์ที่ชัดเจนว่าต้องการประเมินอะไร โดยอาจใช้เคร่ืองมือ เช่น แบบมาตรประมาณค่า แบบตรวจสอบรายการ สมุดจดบันทึก เพ่ือประเมินผู้เรียนตามตัวช้ีวัด และควร สังเกตหลายคร้ัง หลายสถานการณ์ และหลายช่วงเวลา เพ่ือขจดั ความลาเอยี ง 6.

การประเมินตนเองของผเู้ รียน (Student Self-assessment) การประเมินตนเอง นบั เป็นทั้ง เคร่ืองมือประเมินและเครื่องมือพัฒนาการเรียนรู้ เพราะทาให้ผู้เรียนได้คิดใคร่ครวญว่า ได้เรียนรู้อะไร เรียนรู้ อย่างไร และผลงานท่ีทาน้ันดแี ล้วหรือยัง การประเมนิ ตนเองจงึ เปน็ วิธีหนึง่ ทีจ่ ะช่วยพัฒนาผเู้ รียนใหเ้ ป็นผู้เรียน ทส่ี ามารถเรียนร้ดู ้วยตนเอง 7. การประเมินโดยเพื่อน (Peer Assessment) เป็นเทคนิคการประเมินอีกรูปแบบหนึ่งท่ีน่าจะ นาใช้เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เข้าถึงคุณลักษณะของงานที่มีคุณภาพ เพราะการท่ีผู้เรียนจะบอกได้ว่าช้ินงานน้ัน เป็นเช่นไร ผู้เรียนต้องมีความเข้าใจอย่างชัดเจนก่อนว่าเขากาลังตรวจสอบอะไรในงานของเพ่ือน ฉะนั้นผู้สอน ต้องอธิบายผลที่คาดหวังให้ผู้เรียนทราบก่อนท่ีจะลงมือประเมิน การที่จะสร้างความมั่นใจว่าผู้เรียนเข้าใจการ ประเมนิ รูปแบบนี้ ควรมกี ารฝกึ ผู้เรียน แนวทางการนิเทศเพอื่ พัฒนาและส่งเสรมิ การจดั การเรยี นรู้เชงิ รกุ (Active Learning) ตามนโยบายลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลารู้39 การออกแบบหน่วยการเรียนรู้และแผนการจดั การเรยี นรู้ ทเี่ น้นการจัดการเรยี นรเู้ ชิงรกุ (Active... งานเขียน เชน่ เรยี งความ จดหมาย โคลงกลอน การบรรยาย การเขยี นตอบ ฯลฯ 2. ภาพ / แผนภมู ิ เช่น แผนผัง แผนภูมิ ภาพวาด กราฟ ตาราง ฯลฯ 3. สงิ่ ประดษิ ฐ์ เช่น งานประดษิ ฐ์ งานแสดงนิทรรศการ หนุ่ จาลอง ฯลฯ ภาระงาน ไดแ้ ก่ การพดู /รายงานปากเปล่า เช่น การอ่าน กล่าวรายงาน โตว้ าที รอ้ งเพลง สัมภาษณ์ บทบาทสมมติ เล่นดนตรี การเคล่อื นไหวร่างกาย ฯลฯ งานทม่ี ีลกั ษณะผสมผสานกันระหวา่ งชิ้นงาน ภาระงาน ได้แก่... ดูจากมาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้ีวดั ในหนว่ ยการเรยี นรู้ ระบไุ วช้ ดั เจนหรอื ไม่ 2.

ภาระงานหรอื ชน้ิ งานครอบคลุมตวั ช้วี ัดทร่ี ะบไุ ว้หรอื ไม่ อาจระดมความคิดจากเพ่ือนครู หรอื ผู้เรียน หรืออาจปรบั เพ่ิมกจิ กรรมให้เกดิ ชิ้นงานหรือภาระงานท่ีครอบคลมุ 3. ชิ้นงานช้ินหนง่ึ หรือภาระงาน 1 อยา่ ง อาจเชอื่ มโยงกับมาตรฐานการเรยี นรเู้ ดยี วกนั และ/หรือตัวชี้วัดตา่ งมาตรฐานการเรยี นรู้กันได้ 4. ควรเลือกตวั ชี้วดั ท่ีจะให้เกิดงานทจี่ ะสง่ เสรมิ ให้ผเู้ รยี นไดพ้ ัฒนาสตปิ ัญญาหลาย ๆ ดา้ นไป พรอ้ มกัน เช่น การแสดงละคร บทบาทสมมติ เคล่ือนไหวร่างกาย ดนตรี เปน็ ตน้ 5. เลอื กงานท่ผี เู้ รยี นมโี อกาสเรยี นรแู้ ละทางานท่ชี อบใชว้ ธิ ีทาทหี่ ลากหลาย 6. เป็นงานทใี่ ห้ทางเลอื กในการประเมนิ ผลท่ีหลากหลาย โดยบุคคลต่าง ๆ เชน่ ผู้ปกครอง ผ้สู อน ตนเอง เปน็ ต้น ชิ้นงานและหรือภาระงานท่ีแสดงใหเ้ ห็นถึงพัฒนาการของผเู้ รยี นท่ีได้รับการพัฒนาการเรียนรู้ ของแต่ละเรอ่ื ง หรือแต่ละขน้ั ตอนของการจัดกิจกรรมการเรียนรนู้ าสู่การประเมนิ เพ่ือปรับปรงุ เพิ่มพูนคุณภาพ ผ้เู รียน/วธิ สี อนสงู ขนึ้ อยา่ งต่อเนอื่ ง การประเมนิ ผลการเรยี... หลักในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1.1 เปน็ กิจกรรมทพี่ ัฒนานักเรียนไปสูม่ าตรฐานการเรียนรู้ และตวั ชวี้ ัดช้นั ปที ีก่ าหนดไวใ้ น หน่วยการเรยี นรู้ 1.2 นาไปสู่การเกิดหลักฐานการเรียนรู้ ช้ินงานหรือภาระงานที่แสดงถึงการบรรลุมาตรฐาน การเรยี นรูแ้ ละตวั ช้ีวดั ชั้นปขี องนักเรยี น 1.3 นกั เรยี นมสี ว่ นร่วมในการออกแบบและจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1.4 เป็นกิจกรรมที่เนน้...

ขั้นตอนในการจดั กจิ กรรม การจัดกจิ กรรมการเรียนรูเ้ พื่อพัฒนานักเรยี นใหม้ ีศักยภาพ ตามมาตรฐานการเรียนรู้/ ตวั ชว้ี ัดท่ีกาหนดเป้าหมายการเรยี นร้ทู พี่ ึงประสงค์ไว้แล้วน้ัน ครผู ู้สอนต้องคดิ ทบทวนย้อนกลับวา่ มี กระบวนการ หรือขน้ั ตอนกิจกรรม ตั้งแต่ตน้ จนจบอยา่ งไร จึงจะทาใหผ้ เู้ รยี นมีขัน้ ตอนการพฒั นาความรู้ความ เขา้ ใจ ทักษะ... 50 แนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เพื่อพัฒนาทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ ๒๑ จังหวัดก�ำแพงเพชร ก แนวทางการจัดการเรียนรูเชิงรุก (Active Learning) เพื่อพัฒนาทักษะผูเรียนในศตวรรษที่ 21 จังหวัดกําแพงเพชร กลุมนิเทศ ติดตามและประเมินผล สํานักงานศก ึ ษาธิการจังหวัดกําแพงเพชร ข คํานํา สํานักงานศึกษาธิการจังหวัดกําแพงเพชร ไดจัดทําแนวทางการจัดการเรียนรูเชิงรุก (Active Learning) เพื่อพัฒนาทักษะผูเรียนในศตวรรษที่ 21 จังหวัดกําแพงเพชร ภายใตความรวมมือจาก หนวยงานการศึกษาของจังหวัดกําแพงเพชร โดยมุงหวังเพื่อใชเปนแนวทางการจัดการเรียนรูเชิงรุก (Active Learning) และพัฒนานวัตกรรมแนวทางการจัดการเรียนรูเชิงรุก (Active Learning) เพื่อพัฒนาทักษะผูเรียนในศตวรรษที่ 21 จังหวัดกําแพงเพชร สํานักงานศึกษาธิการจังหวัดกําแพงเพชร หวังเปนอยางยิ่งวาแนวทางการจัดการเรียนรูเชิงรุก (Active Learning) เพื่อพัฒนาทักษะผูเรียนในศตวรรษที่ 21 จังหวัดกําแพงเพชร ฉบับนี้ จะเปน แนวทางการจัดการเรียนรูเชิงรุก (Active Learning) ที่มีประสิทธิภาพขอขอบคุณหนวยงานการศึกษา ของจังหวัดกําแพงเพชรทุกหนวยงาน... ค สารบัญ หนา สวนที่ 1 บทนํา.................................................................................................................................... 1 หลักการและเหตุผล………………………………………………………………………………………………… 1 วัตถุประสงค…………………………………………………………………………………………………………..

3 นิยามศัพท…………………………………………………………………………………………………….………. 3 ประโยชนที่คาดวาจะไดรับ…………………………………………………………………………………….... 4 สวนที่ 2 แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการเรียนรูเชิงรุก (Active Learning)…………………………………………. 5 ความหมายการจัดการเรียนรูเชิงรุก (Active Learning)……………………………………………… 5 ลักษณะการจัดการเรียนรูเชิงรุก (Active Learning)………………………………………………….. 6 กลยุทธการจัดการเรียนรูเชิงรุก (Active Learning)…………………………………………………… 8 วิธีการจัดการเรียนรูเชิงรุก (Active Learning)………………………………………………………….. 13 ทักษะผูเรียนในศตวรรษที่ 21………………………………………………………………………………….

20 สวนที่ 3 การออกแบบการจัดการเรียนรูเชิงรุก (Active Learning)…………………………………………….. 23 หลักการออกแบบการจัดการเรียนรูเชิงรุก(Active Learning)............................................. 24 บทบาทของผูสอนในการจัดการเรียนรูเชิงรุก (Active Learning)………………………………… 28 บทบาทผูเรียนในการจัดการเรียนรูเชิงรุก (Active Learning)……………………………………… 28 การจัดการเรียนรูเชิงรุก (Active Learning) สูการปฏิบัติ …………………………………………… 29 การออกแบบการจัดการเรียนรูเชิงรุก (Active Learning)…………………………………………….... 30 การวัดและประเมินผลการจัดการเรียนรูเชิงรุก(Active Learning)...................................... 32 สวนที่ 4 การคัดเลือกนวัตกรรมการจัดการเรียนรูเชิงรุก (Active Learning)………………………………… 34 รางวัลที่ไดรับ………………………………………………………………………………………………………….. 34 ประเภทรางวัล ……………………………………………………………………………………………………….

34 คณุสมบัติของผูมีสิทธิ์ไดรับรางวัล……………………………………………………………………………. 34 หลักเกณฑการพิจารณา…………………………………………………………………………………………… 35 การเสนอแบบเสนอผลงาน……………………………………………………………………………………….. 35 วิธีการดําเนินการคัดเลือก…………………………………………………………………………………………. 35 เกณฑ/ตัวบงชี้การคดัเลือกรางวัล………………………………………………………………………………. 35 คําอธิบายระดับคุณภาพเกณฑ/ตัวบงชี้การคัดเลือกรางวัล……………………………………………. 37 บรรณานุกรม.......................................................................................................................................

43 ภาคผนวก............................................................................................................................................ 45 ใบสมัครเขารับการคัดเลือกรางวัลนวัตกรรมการจัดการเรียนรูเชิงรุก (Active Learning)… 46 คณะทํางาน......................................................................................................................................... 48 ๑ ๑ ๓ ๓ ๔ ๕ ๕ ๖ ๘ ๑๓ ๒๐ ๒๓ ๒๔ ๒๘ ๒๘ ๒๙ ๓๐ ๓๒ ๓๔ ๓๔ ๓๔ ๓๔ ๓๕ ๓๕ ๓๕ ๓๕ ๓๗ ๔๓ ๔๕ ๔๖ ๔๘ ง สารบัญตาราง หนา ตารางที่ ๑ กลยุทธการจัดการเรียนรูเชิงรุกดานสติปญญา………………………………………………………. 9 ตารางที่ ๒ กลยุทธการจัดการเรียนรูเชิงรุกดานสังคม……………………………………………………………. 10 ตารางที่ ๓ กลยุทธการจัดการเรียนรูเชิงรุกดานอารมณ………………………………………………………….

11 ตารางที่ ๔ กลยุทธการจัดการเรียนรูเชิงรุกดานรางกาย…………………………………………………………. 12 ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ กก คำนำ การพฒั นาการจัดการเรยี นรเู้ ชงิ รุก (Active Learning) ส่งเสริมทกั ษะผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21 โดยใช้โมเดล CHNY เป็นนวัตกรรมที่ส่งเสริมให้คณะครูและบุคลากรทางการศึกษาได้มีความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะในการจัดการเรียนการสอน การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ และการวัดประเมินผลการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 4 ได้กำหนดขึ้น ตามนโยบาย “ สพท.วิถีใหม่ นักเรียนอ่านออกเขียนได้ปลอดภัยทุกคน” และสอดคลอ้ งกับบริบทของโรงเรียนที่มีความตระหนักในเรอื่ งการปรับเปลยี่ นบทบาทครู... 2560 24การพัฒนาการจดั การเรยี นร้เู ชิงรกุ (Active Learning) 25ส่งเสรมิ ทกั ษะผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21 โดยใชโ้ มเดล CHNY 26C (Communication Skills) ทกั ษะในการสื่อสาร 27 28 - แบบประเมนิ ทักษะในการส่อื สารรายบคุ คล 29H (Hand – on Skills) ทักษะการปฏบิ ัติจรงิ... Active Learning ส่งเสริมการมีอิสระทางด้านความคิด และการกระทำของผู้เรียน การมีวิจารณญาณ และการคิดสร้างสรรค์ ผู้เรียนจะมีโอกาส มีส่วนร่วมในการปฏิบัติจรงิ และมีการใช้วิจารณญาณในการคิด และตัดสินใจในการปฏิบัตกิ ิจกรรมน้ัน มุ่งสร้างให้ผู้เรียนเป็นผู้กำกับทิศทางการเรียนรู้ ค้นหาสไตล์การเรยี นรู้ของตนเอง สกู่ ารเปน็ ผูร้ ู้คิด ร้ตู ดั สินใจด้วยตนเอง (Metacognition) เพราะฉะน้นั Active Learningจึงเป็นแนวทางการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาความคิดขั้นสูง (Higher Order Thinking) ในการมวี ิจารณญาณ การวเิ คราะห์ การคดิ แกป้... Active Leaning สนับสนุนส่งเสรมิ ใหเ้ กิดความรว่ มมอื กันอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ซึ่งความร่วมมือในการปฏิบัติงานกลุ่มจะน าไปสคู่ วามสำเร็จในภาพรวม 3.

Active Learning ทำให้ผู้เรียนทุ่มเทในการเรียน จูงใจในการเรียน และทำให้ผู้เรียนแสดงออกถึงความรู้ความสามารถ เมื่อผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติกิจกรรมอย่างกระตือรือร้นในสภาพแวดล้อมที่๒เอื้ออำนวย ผ่านการใช้กิจกรรมที่ครูจัดเตรียมไว้ให้อย่างหลากหลาย ผู้เรียนเลือกเรียนรู้กิจกรรมต่างๆ ตามความสนใจและความถนดั ของตนเอง เกิดความรบั ผดิ ชอบ และทุ่มเทเพอ่ื ม่งุ ส่คู วามสำเรจ็ 4. Active Learning ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ที่ก่อให้เกิดการพัฒนาเชิงบวกทั้งตัวผู้เรียน และตัวครูเป็นการปรบั การเรียนเปลี่ยนการสอน ผู้เรียนจะมีโอกาสได้เลือกใช้ความถนดั ความสนใจ ความสามารถ ที่เป็นความแตกต่างระหว่างบุคคล (Individual Different) สอดรับกับแนวคิดพหุปัญญา (MultipleIntelligence) เพื่อแสดงออกถึงตัวตนและศักยภาพของตัวเอง ส่วนครูผู้สอนตอ้ งมีความตระหนักแนวทางการนิเทศเพ่อื พัฒนาและสง่ เสริมการจดั การเรียนร้เู ชิงรุก (Active Learning) ตามนโยบายลดเวลาเรยี น เพิ่มเวลารู้ที่จะปรับเปลี่ยนบทบาท แสวงหาวิธีการ กิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อช่วยเสริมสร้างศักยภาพของผู้เรียนแต่ละคน สิ่งเหล่านี้จะทำให้ครูเกิดทักษะในการสอน และมีความเชี่ยวชาญในบทบาท หน้าที่ ที่รับผิดชอบ เป็นการพัฒนาตน พฒั... กระบวนการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) สามารถรักษาผลการเรียนรู้ให้อยู่คงทน และนานกว่ากระบวนการเรียนรู้ Passive Learning เพราะกระบวนการเรียนรู้ Active Learning สอดคล้องกับการทำงานของสมองทเ่ี กยี่ วข้องกับความจำ โดยสามารถเก็บและจำสิ่งท่ีผู้เรียนเรียนรู้อย่างมสี ว่ นรว่ ม มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน ผู้สอน สิ่งแวดล้อม การเรียนรู้ได้ผ่านการปฏิบัติจริง จะสามารถเก็บจำในระบบความจำระยะยาว(Long Term Memory) ทำใหผ้ ลการเรียนรู้ ยงั คงอยู่ได้ในปรมิ าณทมี่ ากกวา่ ระยะยาวกวา่ ซึ่งอธิบายไว้ ดังรูป๓จากรปู จะเห็นไดว้... กระบวนการเรยี นรู้ Passive Learning - กระบวนการเรยี นรูโ้ ดยการอ่านทอ่ งจำผูเ้ รียนจะจำได้ในสงิ่ ทเ่ี รยี นไดเ้ พยี ง 10% - การเรียนรู้โดยการฟังบรรยายเพียงอย่างเดียวโดยที่ผู้เรียนไม่มีโอกาสได้มีส่วนร่วมในการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมอื่นในขณะที่อาจารย์สอนเมื่อเวลาผ่านไปผู้เรียนจะจำได้เพียง 20% หากในการเรียนการสอนผเู้ รยี นมโี อกาสได้เหน็ ภาพประกอบด้วยก็จะทำให้ผลการเรียนรูค้ งอยไู่ ด้เพม่ิ ขึน้ เป็น 30% - กระบวนการเรียนรู้ที่ผู้สอนจัดประสบการณ์ให้กับผู้เรียนเพิ่มขึ้น เช่น การให้ดูภาพยนตร์การสาธิต จัดนิทรรศการให้ผู้เรียนได้ดู... กระบวนการเรียนรู้ Active Learning - การให้ผู้เรียนมีบทบาทในการแสวงหาความรู้และเรียนรู้อย่างมีปฏิสัมพันธ์จนเกิดความรู้ความเข้าใจนำไปประยุกต์ใช้สามารถวิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมินค่าหรือ สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ และ พัฒนาตนเองเต็มความสามารถ รวมถึงการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้เขาได้มีโอกาสร่วมอภิปรายให้มีโอกาสฝึกทกั ษะการสื่อสารทำให้ผลการเรยี นรู้เพม่ิ ข้นึ 70% - การนำเสนองานทางวิชาการ เรียนรู้ในสถานการณ์จำลอง ทั้งมีการฝึกปฏิบัติ ในสภาพจรงิมกี ารเชือ่ มโยงกับสถานการณต์ ่างๆ ซ่ึงจะทำใหผ้ ลการเรยี นรเู้ กิดขน้ึ ถงึ 90%ลกั ษณะการเรียนรเู้ ชิงรุก 1. เป็นการพฒั นาศกั ยภาพการคิด การแก้ปญั หา และการนำความรไู้ ปประยกุ ต์ใช้ 2.

ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการจัดระบบการเรียนรู้ และสร้างองค์ความรู้โดยมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันในรูปแบบของความร่วมมือมากกวา่ การแข่งขนั 3. เปดิ โอกาสให้ผูเ้ รยี นมีสว่ นร่วมในกระบวนการเรียนรู้สูงสุด 4. เปน็ กิจกรรมทใี่ หผ้ ูเ้ รียนบูรณาการข้อมูล ข่าวสาร สารสนเทศ สู่ทักษะการคิดวิเคราะห์และประเมินค่า 5. ผเู้ รียนไดเ้ รยี นร้คู วามมวี ินยั ในการทำงานรว่ มกับผอู้ น่ื 6. ความรู้เกิดจากประสบการณ์ และการสรปุ ของผเู้ รียน 7. ผสู้ อนเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการจดั การเรยี นรู้ เพ่ือให้ผู้เรยี นเปน็ ผปู้ ฏิบัตดิ ้วยตนเอง๔ลักษณะของการจัดกระบวนการเรียนรู้ 1.

จัดการเรียนรู้ที่พัฒนาศักยภาพทางสมอง ได้แก่ การคิด การแก้ปัญหาและการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ 2. จดั การเรยี นร้ทู ่ีเปดิ โอกาสใหผ้ เู้ รียนมสี ่วนรว่ มในกระบวนการเรียนร้สู ูงสุด 3. จดั ใหผ้ ู้เรยี นสรา้ งองค์ความรแู้ ละจัดกระบวนการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง 4. จัดให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ทั้งในด้านการสร้างองค์ความรู้ การสร้างปฏิสัมพันธ์ร่วมกันสร้างร่วมมอื กันมากกว่าการแขง่ ขนั 5. จัดให้ผู้เรียนเรียนรู้เรื่องความรับผิดชอบร่วมกัน การมีวินัยในการทำงาน และการแบ่งหน้าที่ความรบั ผิดชอบในภารกจิ ต่าง ๆ 6. จัดกระบวนการเรียนที่สร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนอ่าน พูด ฟัง คิดอย่างลุ่มลึก ผู้เรียนจะเป็นผู้จดั ระบบการเรยี นรูด้ ้วยตนเอง 7.

จัดกิจกรรมการจดั การเรยี นรทู้ เ่ี นน้ ทกั ษะการคดิ ขน้ั สูง 8. จัดกิจกรรมท่ีเปิดโอกาสให้ผูเ้ รียนบูรณาการขอ้ มูล ข่าวสาร หรือสารสนเทศ และหลักการความคิดรวบยอด 9. ผ้สู อนจะเป็นผูอ้ ำนวยความสะดวกในการจดั การเรยี นรู้ เพ่อื ให้ผ้เู รยี นเป็นผู้ปฏบิ ัติด้วยตนเอง 10. จัดกระบวนการสร้างความรู้ที่เกิดจากประสบการณ์ การสร้างองค์ความรู้และการสรุปทบทวนของผ้เู รียนลักษณะกิจกรรมที่เป็นการเรยี นรูเ้ ชงิ รุก 1. กระบวนการเรยี นรทู้ ่ลี ดบทบาทการสอน และการใหค้ วามร้โู ดยตรงของครู แต่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมสี ว่ นรว่ มสรา้ งองค์ความรู้ และจัดระบบการเรียนรดู้ ้วยตนเอง 2. กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนให้นำความรู้ ความเข้าใจไปประยุกต์ใช้ สามารถวิเคราะห์สงั เคราะห์ ประเมนิ คา่ คดิ สร้างสรรค์ส่งิ ตา่ งๆ พฒั นาทกั ษะกระบวนการคดิ ไปสู่ระดับทีส่ ูงขึ้น 3.

กิจกรรมเชอ่ื มโยงกับนักเรยี น กบั สภาพแวดลอ้ มใกลต้ ัว ปญั หาของชมุ ชน สงั คม หรือประเทศชาติ 4. กจิ กรรมเปน็ การนำความรู้ทไี่ ด้ไปใชแ้ ก้ปญั หาใหม่ หรอื ใชใ้ นสถานการณใ์ หม่ 5. กิจกรรมเน้นใหผ้ ู้เรยี นไดใ้ ช้ความคิดของตนเองอย่างมเี หตุมีผล มีโอกาสรว่ มอภิปราย และนำเสนอผลงาน๕ 6. กิจกรรมเน้นการมีปฏิสัมพันธ์กันระหว่างผู้เรียนกับผู้สอน และปฏิสัมพันธ์กันระหว่างผู้เรียนด้วยกันรปู แบบการจดั เรียนรเู้ ชงิ รุก 1. การเรยี นรูเ้ ชิงประสบการณ์ (Experiential Learning) เป็นการสอนท่สี ่งเสริมใหผ้ ู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากประสบการณ์ที่เป็นรูปธรรมเพื่อนำไปสู่ความรู้ความเข้าใจเชิงนามธรรม เหมาะกับรายวิชาที่เน้นปฏบิ ตั ิ หรอื เนน้ การฝึกทักษะ สามารถใช้จดั การเรียนการสอนไดท้ ้ังเปน็ กลุ่ม และเปน็ รายบุคคล หลักการสอนคือ ผู้สอนวางแผนจัดสถานการณ์ให้ผู้เรียนมีประสบการณ์จำเป็นต่อการเรียนรู้กระตุ้นให้ผู้เรียนสะท้อนความคิด อภิปราย สิ่งที่ได้รับจากสถานการณ์ ตัวอย่างเทคนิคการสอนที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ ได้แก่ เทคนคิ การสาธติ และเทคนคิ เนน้ การฝกึ ปฏิบตั ิ มขี... การจดั การเรยี นรู้โดยใช้เกมเป็นฐาน (GBL) การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้เกม คือ เกมการศึกษา เป็นวิธีการจัดการเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เป็นเกมที่มีลักษณะการเล่นเพื่อการเรียนรู้ “Play to learning” มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ในขณะหรือหลังจากการเล่นเกม เรียนไปด้วยและก็สนุกไปด้วยพร้อมกัน ทำให้ผู้เรียนมีการเรียนรู้อย่างมีความหมาย ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้เกมมีประโยชน์ช่วยให้ผู้เรียน ผู้เรยี นเกดิ การเรยี นรคู้ วบคู่ไปกบั ความสนุกสนาน เกดิ ความคิดรวบยอดเก่ียวกับสิ่งท่ีเรยี น และเปน็ การพฒั นากระบวนการคิดของผู้เรยี นไปโดยท่ีผู้เรยี นไม่รตู้ ัว รวมท้ังส่งเสริมกระบวนการทำงานและอยรู่ ว่...

การสอนแบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem Based Learning) เป็นการสอนทีส่ ่งเสรมิ ให้ผู้เรียนเกิดจากเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด ด้วยการศึกษาปัญหาที่สมมุตขิ ึ้นจากความจริง แล้วผู้สอนกับผู้เรียนร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาเสนอวิธีแก้ปัญหา หลักของการสอนแบบใช้ปัญหาเป็นฐานคือการเลือกปัญหาที่สอดคล้องกับเนื้อหาการสอนและกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดคำถาม วิเคราะห์ วางแผนกำหนดวิธีแก้ปัญหาด้วยตนเอง โดยผู้สอนมีบทบาทให้คำแนะนำแก่ผู้เรียนขณะลงมือแก้ปัญหาสุดท้ายเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการแก้ปัญหาผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปผลการแก้ปัญหา และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถึงสิ่งที่ได้จากการลงมือแก้ปญั หา โดยโรงเรียนขุมขนบ้านนาเยียได้ให้ความสำคัญกับการสอนโดยใช้เทคนิ คการสอนแบบใช้ปัญหาเป็นฐาน ซึ่งเป็นการสอนโดยการสร้างปัญหาหรือตั้งคำถามให้ผู้เรียนได้ร่วมกันวิเคราะห์ปัญหา และเสนอวิธีการแก้ปัญหา สามารถนำไปบูรณาการเข้ากับวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม วิชาต้านทุกจริตศึกษา เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนได้เกิดกระบวนการคิดอย่างเปน็ ระบบ สามารถแบ่งกลุ่มเพื่อวิเคราะห์ วางแผน กำหนดวิธีการแก้ปัญหา และนำเสนอได้ ผู้สอนจะเป็นผู้แนะนำวิธีการแก้ปัญหาดังกล่าวเพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ของกิจกรรม 4. การสอนที่เน้นทักษะกระบวนการคิด (Thinking Based Learning) เป็นกระบวนการสอนท่ีผู้สอนใชเ้ ทคนคิ วิธีการกระตนุ้ ให้ผู้เรียน คดิ เป็นลำดบั ข้นั แลว้ ขยายความคิดต่อเนื่องจากความคิดเดิมพิจารณาแยกแยะอย่างรอบด้าน ด้วยให้เหตุผล และเชื่อมโยงกับความรู้เดิมที่มี จนสามารถสร้างสิ่งใหม่หรือตัดสินประเมนิ หาขอ้ สรุปแลว้ นำไปแกป้ ัญหาอย่างมีหลักการ๘ 4.1 การคิดวิเคราะห์ หมายถึง การพิจารณาสิ่งต่างๆ ในส่วนย่อย ๆ ซึ่งประกอบด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา ด้านความสัมพันธ์และด้านหลักการจัดการโครงสร้างของการสื่อความหมาย และสอดคล้องกับกระบวนการคิดวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ คือ การคิดจำแนก รวบรวมเปน็ หมวดหมู่ และจับประเด็นตา่... แสวงหาขอ้ บกพรอ่ ง (Mess Finding) 2. รวบรวมข้อมูล (Data Finding) 3. มองปัญหาทกุ ดา้ น (Problem Finding)๙ 4. แสวงหาความคดิ ท่ีหลากหลาย (Idea Finding) 5.

หาคำตอบทร่ี อบด้าน (Solution Finding) 6. หาขอ้ สรปุ ที่เหมาะสม (Acceptance Finding) กระบวนการของความคิดสร้างสรรค์ อาจเกิดขึ้นโดยบงั เอิญหรอื โดยความต้ังใจ ซึ่งสามารถทำไดด้ ้วยการศึกษา การอบรมฝึกฝน การระดมสมอง (brain-storming) มากกว่าครึ่งหนึ่งของการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ของโลก เกิดจากการค้นพบโดยบังเอิญ (serenity) หรือการค้นพบส่ิงหนึง่ ซึ่งใหม่ ในขณะที่กำลังต้องการค้นพบส่งิอืน่ มากกวา่ โรงเรียนชุมชนบ้านนาเยีย ได้ให้บูรณาการเทคนิคการสอนที่เน้นทักษะกระบวนการคิดน้ีเข้ากับวิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาภาษาไทย เป็นต้น โดยผู้สอนจะตอ้ งกระตุ้นให้ผู้เรยี น คิดเป็นลำดับขั้นแลว้ขยายความคิดต่อเนื่องจากความคิดเดิมพิจารณา แยกแยะอย่างรอบด้าน ด้วยให้เหตุผล และเชื่อมโยงกับความรู้เดมิ ทีม่... จัดให้ผู้เรยี นเป็นศูนย์กลางของการเรียนการสอน กิจกรรมต้องสะท้อนความต้องการในการพัฒนาผู้เรียนและเนน้ การนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจรงิ ของผู้เรยี น 2. สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผ้สู อน และเพ่ือนในชน้ั เรียน 3. จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้เป็นพลวัต ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมรวมท้ังกระตนุ้ ให้ผ้เู รยี นประสบความสำเรจ็ ในการเรียนรู้ 4. จดั สภาพการเรยี นรแู้ บบร่วมมอื ส่งเสริมใหเ้ กิดการรว่ มมือในกล่มุ ผู้เรียน 5.

People Also Search

Important AnnouncementPubHTML5 Scheduled Server Maintenance On (GMT) Sunday, June 26th,

Important AnnouncementPubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am. PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated! สาํ นกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ แนวทางการนเิ ทศ เพือ่ พัฒนาและส่งเสริม การจดั การเรียนรู้เชิงรกุ (Active Learning) ตามนโยบายลดเวลาเรยี น เพ่ิมเวลารู้ หน่วยศึกษานเิ ทศก์ สาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั...

การวัดและประเมินผลการจัดการเรียนรู้เชิงรกุ (Active Learning) การวัดและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ เป็นกระบวนการในการตรวจสอบผลการดาเนิน กจิ กรรมวา่ บรรลุตามเป้าหมาย ทกี่ าหนดไว้หรือไม่

การวัดและประเมินผลการจัดการเรียนรู้เชิงรกุ (Active Learning) การวัดและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ เป็นกระบวนการในการตรวจสอบผลการดาเนิน กจิ กรรมวา่ บรรลุตามเป้าหมาย ทกี่ าหนดไว้หรือไม่ มสี ว่ นใดต้องปรบั ปรุงแก้ไขเพื่อพัฒนาต่อไป โดยประเมนิ ท้ัง กระบวนการในการจัดกิจกรรม และประเมินคุณภาพของผู้เรียน ใช้การประเมินหลากหลายวิธี ให้ทุกฝ่ายได้มี โอกาสในการประเมิน เช่น ครูประเมินผู้เรียน ผู้เรียนประเมินเพื่อ...

การประเมินตนเองของผเู้ รียน (Student Self-assessment) การประเมินตนเอง นบั เป็นทั้ง เคร่ืองมือประเมินและเครื่องมือพัฒนาการเรียนรู้ เพราะทาให้ผู้เรียนได้คิดใคร่ครวญว่า ได้เรียนรู้อะไร

การประเมินตนเองของผเู้ รียน (Student Self-assessment) การประเมินตนเอง นบั เป็นทั้ง เคร่ืองมือประเมินและเครื่องมือพัฒนาการเรียนรู้ เพราะทาให้ผู้เรียนได้คิดใคร่ครวญว่า ได้เรียนรู้อะไร เรียนรู้ อย่างไร และผลงานท่ีทาน้ันดแี ล้วหรือยัง การประเมนิ ตนเองจงึ เปน็ วิธีหนึง่ ทีจ่ ะช่วยพัฒนาผเู้ รียนใหเ้ ป็นผู้เรียน ทส่ี ามารถเรียนร้ดู ้วยตนเอง 7. การประเมินโดยเพื่อน (Peer Assessment) เป็นเทคนิคการประเมินอีก...

ภาระงานหรอื ชน้ิ งานครอบคลุมตวั ช้วี ัดทร่ี ะบไุ ว้หรอื ไม่ อาจระดมความคิดจากเพ่ือนครู หรอื

ภาระงานหรอื ชน้ิ งานครอบคลุมตวั ช้วี ัดทร่ี ะบไุ ว้หรอื ไม่ อาจระดมความคิดจากเพ่ือนครู หรอื ผู้เรียน หรืออาจปรบั เพ่ิมกจิ กรรมให้เกดิ ชิ้นงานหรือภาระงานท่ีครอบคลมุ 3. ชิ้นงานช้ินหนง่ึ หรือภาระงาน 1 อยา่ ง อาจเชอื่ มโยงกับมาตรฐานการเรยี นรเู้ ดยี วกนั และ/หรือตัวชี้วัดตา่ งมาตรฐานการเรยี นรู้กันได้ 4. ควรเลือกตวั ชี้วดั ท่ีจะให้เกิดงานทจี่ ะสง่ เสรมิ ให้ผเู้ รยี นไดพ้ ัฒนาสตปิ ัญญาหลาย ๆ ดา้ นไป พร...

ขั้นตอนในการจดั กจิ กรรม การจัดกจิ กรรมการเรียนรูเ้ พื่อพัฒนานักเรยี นใหม้ ีศักยภาพ ตามมาตรฐานการเรียนรู้/ ตวั

ขั้นตอนในการจดั กจิ กรรม การจัดกจิ กรรมการเรียนรูเ้ พื่อพัฒนานักเรยี นใหม้ ีศักยภาพ ตามมาตรฐานการเรียนรู้/ ตวั ชว้ี ัดท่ีกาหนดเป้าหมายการเรยี นร้ทู พี่ ึงประสงค์ไว้แล้วน้ัน ครผู ู้สอนต้องคดิ ทบทวนย้อนกลับวา่ มี กระบวนการ หรือขน้ั ตอนกิจกรรม ตั้งแต่ตน้ จนจบอยา่ งไร จึงจะทาใหผ้ เู้ รยี นมีขัน้ ตอนการพฒั นาความรู้ความ เขา้ ใจ ทักษะ... 50 แนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เพื่อพัฒนาทักษ...