โลกร้อนทําให้ระดับออกซิเจนในทะเลสาบทั่วโลก ลดลงอย่างรวดเร็ว

Leo Migdal
-
โลกร้อนทําให้ระดับออกซิเจนในทะเลสาบทั่วโลก ลดลงอย่างรวดเร็ว

ระดับออกซิเจนในทะเลสาบทั่วโลกลดลงจากภาวะโลกร้อน คลื่นความร้อน และมลพิษทางเกษตร ทำลายระบบนิเวศจนเกิด "โซนมรณะ" นักวิจัยเตือนอาจสูญเสียออกซิเจนถึง 9% ผลการวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science Advances ระบุว่า ระดับออกซิเจนในทะเลสาบแห่งต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังลดลงอย่างน่าเป็นกังวล นอกจากนี้ยังพบแนวโน้มลักษณะเดียวกันนี้กับแม่น้ำและทะเลอีกหลายแห่งด้วย แต่ทะเลสาบบางแห่งสูญเสียออกซิเจนเร็วกว่ามหาสมุทรถึง 9 เท่า งานวิจัยใหม่สามารถระบุได้ว่ากลไกต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุของการสูญเสียออกซิเจนในทะเลสาบทั่วโลกนั้นมีส่วนร่วมในระดับใดบ้าง โดยในช่วงระหว่างปี 1980 ถึงปี 2017 ที่ผ่านมา พบว่า ปริมาณออกซิเจนลดลง 5.5% ในชั้นผิวน้ำ และ 18.6% ในน้ำลึก “อี้ป๋อ จาง” (Yibo Zhang) นักภูมิศาสตร์และทีมงานจากสถาบัน Chinese Academy of Sciences (CAS) ของจีน ใช้ภาพถ่ายดาวเทียมร่วมกับการศึกษาข้อมูลทางภูมิศาสตร์และภมิอากาศ เพื่อสร้างเหตุการณ์ที่นำไปสู่การสูญเสียออกซิเจนเหล่านี้ขึ้นมาใหม่ โดยพบว่า ทะเลสาบกว่า 80% จากทั้งหมด 15,535 แห่งที่ดำเนินการตรวจสอบนั้นมีระดับออกซิเจนที่ลดลง ในการศึกษาใหม่ล่าสุดที่นำโดยศาสตราจารย์ชือ คุน (Shi Kun) และศาสตราจารย์จาง หยุนหลิน (Zhang Yunlin) จากสถาบันภูมิศาสตร์และธรณีวิทยาหนานจิง ประเทศจีน ได้สำรวจผลกระทบของภาวะโลกร้อนต่อทะเลสาบมากกว่า 1,500 แห่งทั่วโลกและพบว่า ปริมาณออกซิเจนที่ละลายน้ำกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว

“พบการลดลงอย่างกว้างของปริมาณออกซิเจนที่ละลายน้ำในแม่น้ำ ทะเลสาบในเขตอบอุ่น และมหาสมุทร แต่ผลกระทบของภาวะโลกร้อนต่อภาวะขาดออกซิเจนในทะเลสาบทั่วโลกนั้นยังคงไม่ชัดเจน” ทีมวิจัยระบุ โดยทั่วไปแล้วออกซิเจนในแหล่งน้ำนั้นเป็นที่ต้องการของสิ่งมีชีวิตจำนวนากที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นปลา พืช และแม้แต่สัตว์เล็ก ๆ อย่างแพลงก์ตอนเองก็ต้องการออกซิเจน ทำให้ระบบนิเวศเหล่านั้นจำเป็นต้องมีระดับออกซิเจน ‘ขั้นต่ำ’ เพื่อให้ทุกอย่างยังคงดำเนินต่อไปได้ อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์เริ่มสังเกตเห็นว่ามหาสมุทรของโลกกำลังสูญเสียออกซิเจนอย่างน่ากังวล หรือกล่าวอีกอย่างคือ ปริมาณออกซิเจนที่ละลายน้ำ (dissolved oxygen; DO) นั้นละลายได้น้อยลง ดังนั้นพวกเขาจึงสงสัยว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นกับแหล่งน้ำจืดอื่น ๆ บนโลกด้วยหรือไม่? ทีมวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์จีน จึงได้ใช้ภาพถ่ายดาวเทียม ร่วมกับข้อมูลทางภูมิศาสตร์และภูมิอากาศเพื่อสร้างสถานการณ์ที่เป็นไปได้ว่าเหตุการณ์ใดบ้างที่จะนำไปสู่การสูญเสียออกซิเจนเหล่านี้ขึ้นมาใหม่ สิ่งที่พวกเขาพบนั้นมันกำลังเกิดขึ้นแล้ว ระดับออกซิเจนในทะเลสาบทั่วโลกลดลงจากภาวะโลกร้อน คลื่นความร้อน และมลพิษทางเกษตร ทำลายระบบนิเวศจนเกิด “โซนมรณะ” นักวิจัยเตือนอาจสูญเสียออกซิเจนถึง 9% นอกจากนี้ยังพบแนวโน้มลักษณะเดียวกันนี้กับแม่น้ำและทะเลอีกหลายแห่งด้วย แต่ทะเลสาบบางแห่งสูญเสียออกซิเจนเร็วกว่ามหาสมุทรถึง 9 เท่า

งานวิจัยใหม่สามารถระบุได้ว่ากลไกต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุของการสูญเสียออกซิเจน ในทะเลสาบทั่วโลกนั้นมีส่วนร่วมในระดับใดบ้าง โดยในช่วงระหว่างปี 1980 ถึงปี 2017 ที่ผ่านมา พบว่า ปริมาณออกซิเจนลดลง 5.5% ในชั้นผิวน้ำ และ 18.6% ในน้ำลึก นักวิจัยยังระบุว่า การแพร่พันธุ์และการจับตัวกันเป็นแพของสาหร่ายเซลล์เดียว (Algae Blooms) ที่รุนแรงขึ้น มีส่วนถึง 10% ของการสูญเสียออกซิเจน ขณะเดียวกันสถานการณ์นี้ ยังรุนแรงขึ้นจากทั้งการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และปริมาณสารอาหารที่เพิ่มขึ้นในน้ำ เช่น ปุ๋ยเคมีและมูลสัตว์ที่ไหลลงสู่แหล่งน้ำ ที่มา : https://www.springnews.co.th/keep-the-world/environment/857084 “คลื่นความร้อน” ที่เกิดขึ้นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ และ “ภาวะโลกร้อน” ที่จะอยู่ระยะยาว ส่งผลให้ “ระดับออกซิเจนที่ละลายในน้ำ” (Dissolved Oxygen: DO) บนพื้นผิวทะเลสาบทั่วโลกลดลง ตามผลการศึกษาใหม่ที่ตีพิมพ์ใน Science Advances งานวิจัยของนักวิจัยสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์ (CAS) เปิดเผยถึงการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของระดับออกซิเจนในทะเลสาบต่าง ๆ ทั่วโลก โดยบางแห่งสูญเสียออกซิเจนเร็วกว่าในมหาสมุทรถึง 9 เท่า ซึ่งระหว่างปี 1980-2017 ระดับออกซิเจนในน้ำผิวดินในทะเลสาบทั่วโลกลดลง 5.5% แต่ถ้าเป็นเขตน้ำลึกจะลดลงถึง 18.6% อัตราการคายออกซิเจนโดยเฉลี่ยในทะเลสาบทั่วโลกเร็วกว่าที่สังเกตได้ในมหาสมุทรและแม่น้ำ การวิเคราะห์บ่งชี้ว่า 83% ของทะเลสาบที่ทำการศึกษาเกิดภาวะคายออกซิเจนอย่างต่อเนื่อง และคลื่นความร้อนยังทำให้ออกซิเจนลดลง 7.7% หากแนวโน้มภาวะโลกร้อนนี้ยังคงดำเนินต่อไป ทะเลสาบทั่วโลกอาจประสบกับการลดลงของออกซิเจนอีก 9% ภายในสิ้นศตวรรษนี้

การศึกษาพบว่า ภาวะโลกร้อนเป็นสาเหตุของการสูญเสียออกซิเจนบนพื้นผิวทะเลสาบทั่วโลกถึง 55% ในขณะที่ “ภาวะยูโทรฟิเคชั่น” ที่รู้จักในนามแพลงก์ตอนบลูม หรือ ปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ เป็นสาเหตุของการสูญเสียออกซิเจน 10% ซึ่งปรากฏการณ์นี้เกิดจากสารอาหารส่วนเกินจากปุ๋ยที่ไหลบ่าและของเสียจากปศุสัตว์ ใช้พลังงานออกซิเจนจำนวนมาก ส่งผลให้ระบบนิเวศในทะเลสาบลดลง นอกจากนี้ นักวิจัยดูข้อมูลจาก ERA5 เครื่องมือการวิเคราะห์ชั้นบรรยากาศของสภาพภูมิอากาศทั่วโลก พบว่าคลื่นความร้อนในชั้นบรรยากาศเหนือทะเลสาบทั่วโลกในช่วงปี 2003–2023 มีระยะเวลาเฉลี่ย 15 วันต่อปี และ 85% ของทะเลสาบที่ศึกษาทั่วโลกมีวันที่ร้อนเพิ่มขึ้นทุกปี ทะเลสาบทั่วโลกประสบปัญหา ‘ออกซิเจน’ ลดลง บางแห่งสูญเสียออกซิเจนเร็วกว่ามหาสมุทรถึง 9 เท่า ตามรายงานใหม่ที่เผยแพร่บนวารสาร Science Advances ซึ่งนำการวิจัยโดย Yibo Zhang นักภูมิศาสตร์ของสถาบันวิทยาศาสตร์จีน (CAS) และเพื่อนร่วมงาน ได้ใช้ภาพถ่ายดาวเทียมร่วมกับข้อมูลทางภูมิศาสตร์และภูมิอากาศในการตรวจสอบสุขภาพทะเลสาบกับแม่น้ำต่าง ๆ ทั่วโลกซึ่งให้ผลลัพธ์ที่น่าตกใจ ทีมวิจัยระบุว่าจากทะเลสาบทั้งหมด 15,535 แห่งทั่วโลกที่พวกเขาตรวจสอบ มากกว่า 80% มีระดับออกซิจนลดลง โดยเชื่อว่ามีสาเหตุหลักมาจากคลื่นความร้อนรุนแรงที่มีแนวโน้มเกิดบ่อยขึ้นในแต่ละปี อุณหภูมิที่สูงนี้ทำให้ออกซิเจนละลายน้ำได้น้อยลง “การวิเคราะห์ของเราบ่งชี้ว่ามีการขาดแคลนออกซิเจนอย่างต่อเนื่องในทะเลสาบที่ศึกษา โดยกว่า 83% มีอัตราการสูญเสียออกซิเจนเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ −0.049 มิลลิกรัมต่อลิตรต่อทศวรรษ ซึ่งเร็วกว่าที่สังเกตได้ในมหาสมุทรและแม่น้ำ” ทีมวิจัย ระบุ

กล่าวให้ละเอียดก็คือในช่วง 20 ปีที่ผ่านมานี้ทั้ง 6 ทวีปทั่วโลกมีจำนวนวันที่มีคลื่นความร้อนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น 1.2 วันต่อปีในแอฟริกา 0.7 วันต่อปีในเอเชีย 0.6 วันต่อปีในยุโรป 0.5 วันต่อปีในอเมริกาเหนือ 1.4 วันต่อปีในโอเชียเนีย และ 0.6 วันต่อปีในอเมริกาใต้ ทะเลสาบเป็นตัวบ่งชี้การเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมและภัยคุกคามต่อสิ่งแวดล้อม เพราะมันตอบสนองต่อสัญญาณจากภูมิทัศน์และบรรยากาศโดยรอบ ล่าสุด มีรายงานในวารสารเนเจอร์เผยว่าระดับออกซิเจนในทะเลสาบน้ำจืดที่มีอุณหภูมิปานกลางของโลกกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว โดยเร็วกว่าในมหาสมุทร 2.75-9.3 เท่า นักวิจัยจากสถาบันโพลิเทคนิคเรนส์ซเลียร์ ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เผยว่าระดับออกซิเจนในทะเลสาบที่สำรวจทั่วเขตอบอุ่นมาตั้งแต่ พ.ศ.2523 ได้ลดลง 5.5% ที่พื้นผิวน้ำ และ 18.6% ที่ในน้ำลึก ขณะเดียวกันในส่วนย่อยขนาดใหญ่ของทะเลสาบส่วนใหญ่ที่ปนเปื้อนสารอาหารระดับออกซิเจนบนพื้นผิวก็เพิ่มขึ้น อุณหภูมิน้ำก็อยู่ในเกณฑ์ที่เอื้อต่อการเติบโตของไซยาโนแบคทีเรียหรือสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน ที่สามารถสร้างสารพิษได้เมื่อพวกมันเจริญเพิ่มจำนวนมหาศาลอย่างรวดเร็ว สิ่งต่างๆ เหล่านี้ขับเคลื่อน มาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่คุกคามความหลากหลายทางชีวภาพของ น้ำจืดและคุณภาพน้ำดื่ม ที่น่าจับตาก็คือสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนทั้งหมดขึ้นอยู่กับออกซิเจน ซึ่งเป็นระบบสนับสนุนด้านอาหารของสัตว์น้ำ เมื่อพวกมันเริ่มสูญเสียออกซิเจน ก็มีโอกาสที่จะสูญเสียสายพันธุ์ตามมา การวิจัยนี้ยังพิสูจน์ให้เห็นว่าปัญหาในน้ำจืดมีความรุนแรงมากขึ้น คุกคามแหล่งน้ำดื่มของมนุษย์และความสมดุลที่ละเอียดอ่อน นักวิจัยได้แต่คาดหวังว่างานวิจัยชิ้นนี้จะทำให้เกิดความเร่งด่วนมากขึ้นในการรับมือและจัดการกับผลกระทบที่เป็นอันตรายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ.

People Also Search

ระดับออกซิเจนในทะเลสาบทั่วโลกลดลงจากภาวะโลกร้อน คลื่นความร้อน และมลพิษทางเกษตร ทำลายระบบนิเวศจนเกิด "โซนมรณะ" นักวิจัยเตือนอาจสูญเสียออกซิเจนถึง 9% ผลการวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science Advances

ระดับออกซิเจนในทะเลสาบทั่วโลกลดลงจากภาวะโลกร้อน คลื่นความร้อน และมลพิษทางเกษตร ทำลายระบบนิเวศจนเกิด "โซนมรณะ" นักวิจัยเตือนอาจสูญเสียออกซิเจนถึง 9% ผลการวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science Advances ระบุว่า ระดับออกซิเจนในทะเลสาบแห่งต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังลดลงอย่างน่าเป็นกังวล นอกจากนี้ยังพบแนวโน้มลักษณะเดียวกันนี้กับแม่น้ำและทะเลอีกหลายแห่งด้วย แต่ทะเลสาบบางแห่งสูญเสียออกซิเจนเร็วกว่ามหาสมุทรถึง 9 เท่...

“พบการลดลงอย่างกว้างของปริมาณออกซิเจนที่ละลายน้ำในแม่น้ำ ทะเลสาบในเขตอบอุ่น และมหาสมุทร แต่ผลกระทบของภาวะโลกร้อนต่อภาวะขาดออกซิเจนในทะเลสาบทั่วโลกนั้นยังคงไม่ชัดเจน” ทีมวิจัยระบุ โดยทั่วไปแล้วออกซิเจนในแหล่งน้ำนั้นเป็นที่ต้องการของสิ่งมีชีวิตจำนวนากที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นปลา พืช และแม้แต่สัตว์เล็ก ๆ

“พบการลดลงอย่างกว้างของปริมาณออกซิเจนที่ละลายน้ำในแม่น้ำ ทะเลสาบในเขตอบอุ่น และมหาสมุทร แต่ผลกระทบของภาวะโลกร้อนต่อภาวะขาดออกซิเจนในทะเลสาบทั่วโลกนั้นยังคงไม่ชัดเจน” ทีมวิจัยระบุ โดยทั่วไปแล้วออกซิเจนในแหล่งน้ำนั้นเป็นที่ต้องการของสิ่งมีชีวิตจำนวนากที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นปลา พืช และแม้แต่สัตว์เล็ก ๆ อย่างแพลงก์ตอนเองก็ต้องการออกซิเจน ทำให้ระบบนิเวศเหล่านั้นจำเป็นต้องมีระดับออกซิ...

งานวิจัยใหม่สามารถระบุได้ว่ากลไกต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุของการสูญเสียออกซิเจน ในทะเลสาบทั่วโลกนั้นมีส่วนร่วมในระดับใดบ้าง โดยในช่วงระหว่างปี 1980 ถึงปี 2017 ที่ผ่านมา พบว่า

งานวิจัยใหม่สามารถระบุได้ว่ากลไกต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุของการสูญเสียออกซิเจน ในทะเลสาบทั่วโลกนั้นมีส่วนร่วมในระดับใดบ้าง โดยในช่วงระหว่างปี 1980 ถึงปี 2017 ที่ผ่านมา พบว่า ปริมาณออกซิเจนลดลง 5.5% ในชั้นผิวน้ำ และ 18.6% ในน้ำลึก นักวิจัยยังระบุว่า การแพร่พันธุ์และการจับตัวกันเป็นแพของสาหร่ายเซลล์เดียว (Algae Blooms) ที่รุนแรงขึ้น มีส่วนถึง 10% ของการสูญเสียออกซิเจน ขณะเดียวกันสถานการณ์นี้ ยังรุนแรงขึ้...

การศึกษาพบว่า ภาวะโลกร้อนเป็นสาเหตุของการสูญเสียออกซิเจนบนพื้นผิวทะเลสาบทั่วโลกถึง 55% ในขณะที่ “ภาวะยูโทรฟิเคชั่น” ที่รู้จักในนามแพลงก์ตอนบลูม หรือ ปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ เป็นสาเหตุของการสูญเสียออกซิเจน 10%

การศึกษาพบว่า ภาวะโลกร้อนเป็นสาเหตุของการสูญเสียออกซิเจนบนพื้นผิวทะเลสาบทั่วโลกถึง 55% ในขณะที่ “ภาวะยูโทรฟิเคชั่น” ที่รู้จักในนามแพลงก์ตอนบลูม หรือ ปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ เป็นสาเหตุของการสูญเสียออกซิเจน 10% ซึ่งปรากฏการณ์นี้เกิดจากสารอาหารส่วนเกินจากปุ๋ยที่ไหลบ่าและของเสียจากปศุสัตว์ ใช้พลังงานออกซิเจนจำนวนมาก ส่งผลให้ระบบนิเวศในทะเลสาบลดลง นอกจากนี้ นักวิจัยดูข้อมูลจาก ERA5 เครื่องมือการวิเคราะห์ชั...

กล่าวให้ละเอียดก็คือในช่วง 20 ปีที่ผ่านมานี้ทั้ง 6 ทวีปทั่วโลกมีจำนวนวันที่มีคลื่นความร้อนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น 1.2 วันต่อปีในแอฟริกา 0.7 วันต่อปีในเอเชีย 0.6

กล่าวให้ละเอียดก็คือในช่วง 20 ปีที่ผ่านมานี้ทั้ง 6 ทวีปทั่วโลกมีจำนวนวันที่มีคลื่นความร้อนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น 1.2 วันต่อปีในแอฟริกา 0.7 วันต่อปีในเอเชีย 0.6 วันต่อปีในยุโรป 0.5 วันต่อปีในอเมริกาเหนือ 1.4 วันต่อปีในโอเชียเนีย และ 0.6 วันต่อปีในอเมริกาใต้ ทะเลสาบเป็นตัวบ่งชี้การเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมและภัยคุกคามต่อสิ่งแวดล้อม เพราะมันตอบสนองต่อสัญญาณจากภูมิทัศน์และบรรยากาศโดยรอบ ล่าส...