ภาวะโลกร้อน ทําให้ระดับออกซิเจนในทะเลสาบทั่วโลกกําลังลดลงอย่างน่าเป็นห

Leo Migdal
-
ภาวะโลกร้อน ทําให้ระดับออกซิเจนในทะเลสาบทั่วโลกกําลังลดลงอย่างน่าเป็นห

ในการศึกษาใหม่ล่าสุดที่นำโดยศาสตราจารย์ชือ คุน (Shi Kun) และศาสตราจารย์จาง หยุนหลิน (Zhang Yunlin) จากสถาบันภูมิศาสตร์และธรณีวิทยาหนานจิง ประเทศจีน ได้สำรวจผลกระทบของภาวะโลกร้อนต่อทะเลสาบมากกว่า 1,500 แห่งทั่วโลกและพบว่า ปริมาณออกซิเจนที่ละลายน้ำกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว “พบการลดลงอย่างกว้างของปริมาณออกซิเจนที่ละลายน้ำในแม่น้ำ ทะเลสาบในเขตอบอุ่น และมหาสมุทร แต่ผลกระทบของภาวะโลกร้อนต่อภาวะขาดออกซิเจนในทะเลสาบทั่วโลกนั้นยังคงไม่ชัดเจน” ทีมวิจัยระบุ โดยทั่วไปแล้วออกซิเจนในแหล่งน้ำนั้นเป็นที่ต้องการของสิ่งมีชีวิตจำนวนากที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นปลา พืช และแม้แต่สัตว์เล็ก ๆ อย่างแพลงก์ตอนเองก็ต้องการออกซิเจน ทำให้ระบบนิเวศเหล่านั้นจำเป็นต้องมีระดับออกซิเจน ‘ขั้นต่ำ’ เพื่อให้ทุกอย่างยังคงดำเนินต่อไปได้ อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์เริ่มสังเกตเห็นว่ามหาสมุทรของโลกกำลังสูญเสียออกซิเจนอย่างน่ากังวล หรือกล่าวอีกอย่างคือ ปริมาณออกซิเจนที่ละลายน้ำ (dissolved oxygen; DO) นั้นละลายได้น้อยลง ดังนั้นพวกเขาจึงสงสัยว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นกับแหล่งน้ำจืดอื่น ๆ บนโลกด้วยหรือไม่? ทีมวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์จีน จึงได้ใช้ภาพถ่ายดาวเทียม ร่วมกับข้อมูลทางภูมิศาสตร์และภูมิอากาศเพื่อสร้างสถานการณ์ที่เป็นไปได้ว่าเหตุการณ์ใดบ้างที่จะนำไปสู่การสูญเสียออกซิเจนเหล่านี้ขึ้นมาใหม่ สิ่งที่พวกเขาพบนั้นมันกำลังเกิดขึ้นแล้ว ระดับออกซิเจนในทะเลสาบทั่วโลกลดลงจากภาวะโลกร้อน คลื่นความร้อน และมลพิษทางเกษตร ทำลายระบบนิเวศจนเกิด "โซนมรณะ" นักวิจัยเตือนอาจสูญเสียออกซิเจนถึง 9%

ผลการวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science Advances ระบุว่า ระดับออกซิเจนในทะเลสาบแห่งต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังลดลงอย่างน่าเป็นกังวล นอกจากนี้ยังพบแนวโน้มลักษณะเดียวกันนี้กับแม่น้ำและทะเลอีกหลายแห่งด้วย แต่ทะเลสาบบางแห่งสูญเสียออกซิเจนเร็วกว่ามหาสมุทรถึง 9 เท่า งานวิจัยใหม่สามารถระบุได้ว่ากลไกต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุของการสูญเสียออกซิเจนในทะเลสาบทั่วโลกนั้นมีส่วนร่วมในระดับใดบ้าง โดยในช่วงระหว่างปี 1980 ถึงปี 2017 ที่ผ่านมา พบว่า ปริมาณออกซิเจนลดลง 5.5% ในชั้นผิวน้ำ และ 18.6% ในน้ำลึก “อี้ป๋อ จาง” (Yibo Zhang) นักภูมิศาสตร์และทีมงานจากสถาบัน Chinese Academy of Sciences (CAS) ของจีน ใช้ภาพถ่ายดาวเทียมร่วมกับการศึกษาข้อมูลทางภูมิศาสตร์และภมิอากาศ เพื่อสร้างเหตุการณ์ที่นำไปสู่การสูญเสียออกซิเจนเหล่านี้ขึ้นมาใหม่ โดยพบว่า ทะเลสาบกว่า 80% จากทั้งหมด 15,535 แห่งที่ดำเนินการตรวจสอบนั้นมีระดับออกซิเจนที่ลดลง “คลื่นความร้อน” ที่เกิดขึ้นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ และ “ภาวะโลกร้อน” ที่จะอยู่ระยะยาว ส่งผลให้ “ระดับออกซิเจนที่ละลายในน้ำ” (Dissolved Oxygen: DO) บนพื้นผิวทะเลสาบทั่วโลกลดลง ตามผลการศึกษาใหม่ที่ตีพิมพ์ใน Science Advances งานวิจัยของนักวิจัยสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์ (CAS) เปิดเผยถึงการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของระดับออกซิเจนในทะเลสาบต่าง ๆ ทั่วโลก โดยบางแห่งสูญเสียออกซิเจนเร็วกว่าในมหาสมุทรถึง 9 เท่า ซึ่งระหว่างปี 1980-2017 ระดับออกซิเจนในน้ำผิวดินในทะเลสาบทั่วโลกลดลง 5.5% แต่ถ้าเป็นเขตน้ำลึกจะลดลงถึง 18.6%

อัตราการคายออกซิเจนโดยเฉลี่ยในทะเลสาบทั่วโลกเร็วกว่าที่สังเกตได้ในมหาสมุทรและแม่น้ำ การวิเคราะห์บ่งชี้ว่า 83% ของทะเลสาบที่ทำการศึกษาเกิดภาวะคายออกซิเจนอย่างต่อเนื่อง และคลื่นความร้อนยังทำให้ออกซิเจนลดลง 7.7% หากแนวโน้มภาวะโลกร้อนนี้ยังคงดำเนินต่อไป ทะเลสาบทั่วโลกอาจประสบกับการลดลงของออกซิเจนอีก 9% ภายในสิ้นศตวรรษนี้ การศึกษาพบว่า ภาวะโลกร้อนเป็นสาเหตุของการสูญเสียออกซิเจนบนพื้นผิวทะเลสาบทั่วโลกถึง 55% ในขณะที่ “ภาวะยูโทรฟิเคชั่น” ที่รู้จักในนามแพลงก์ตอนบลูม หรือ ปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ เป็นสาเหตุของการสูญเสียออกซิเจน 10% ซึ่งปรากฏการณ์นี้เกิดจากสารอาหารส่วนเกินจากปุ๋ยที่ไหลบ่าและของเสียจากปศุสัตว์ ใช้พลังงานออกซิเจนจำนวนมาก ส่งผลให้ระบบนิเวศในทะเลสาบลดลง นอกจากนี้ นักวิจัยดูข้อมูลจาก ERA5 เครื่องมือการวิเคราะห์ชั้นบรรยากาศของสภาพภูมิอากาศทั่วโลก พบว่าคลื่นความร้อนในชั้นบรรยากาศเหนือทะเลสาบทั่วโลกในช่วงปี 2003–2023 มีระยะเวลาเฉลี่ย 15 วันต่อปี และ 85% ของทะเลสาบที่ศึกษาทั่วโลกมีวันที่ร้อนเพิ่มขึ้นทุกปี ระดับออกซิเจนในทะเลสาบทั่วโลกลดลงจากภาวะโลกร้อน คลื่นความร้อน และมลพิษทางเกษตร ทำลายระบบนิเวศจนเกิด “โซนมรณะ” นักวิจัยเตือนอาจสูญเสียออกซิเจนถึง 9% นอกจากนี้ยังพบแนวโน้มลักษณะเดียวกันนี้กับแม่น้ำและทะเลอีกหลายแห่งด้วย แต่ทะเลสาบบางแห่งสูญเสียออกซิเจนเร็วกว่ามหาสมุทรถึง 9 เท่า งานวิจัยใหม่สามารถระบุได้ว่ากลไกต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุของการสูญเสียออกซิเจน ในทะเลสาบทั่วโลกนั้นมีส่วนร่วมในระดับใดบ้าง โดยในช่วงระหว่างปี 1980 ถึงปี 2017 ที่ผ่านมา พบว่า ปริมาณออกซิเจนลดลง 5.5% ในชั้นผิวน้ำ และ 18.6% ในน้ำลึก

นักวิจัยยังระบุว่า การแพร่พันธุ์และการจับตัวกันเป็นแพของสาหร่ายเซลล์เดียว (Algae Blooms) ที่รุนแรงขึ้น มีส่วนถึง 10% ของการสูญเสียออกซิเจน ขณะเดียวกันสถานการณ์นี้ ยังรุนแรงขึ้นจากทั้งการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และปริมาณสารอาหารที่เพิ่มขึ้นในน้ำ เช่น ปุ๋ยเคมีและมูลสัตว์ที่ไหลลงสู่แหล่งน้ำ ที่มา : https://www.springnews.co.th/keep-the-world/environment/857084 การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศทำให้ออกซิเจนในมหาสมุทรลดลงได้อย่างไร? เมื่อนักวิทยาศาสตร์พบว่าทะเลทั่วโลกกำลัง ‘ขาดอากาศหายใจ’ นับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960 โลกมีระดับออกซิเจนในมหาสมุทรลดลงประมาณ 2% แล้ว แม้อาจจะฟังดูไม่มาก แต่ปริมาณที่ลดลงอย่างต่อเนื่องนี้กำลังให้สัตว์น้ำหลายชนิด ‘ขาดอากาศหายใจ’ และนั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เกิด ‘หายนะ’ ทางระบบนิเวศ พร้อมกับลดความหลากหลายทางชีวภาพ โดยทั้งหมดนี้มาจากสาเหตุหลักเพียงอย่างเดียวคือ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ “เรากำลังนั่งอยู่ท่ามกลางออกซิเจนจำนวนมาก และเราไม่คิดว่าการสูญเสียออกซิเจนเพียงเล็กน้อยจะส่งผลกับเรา” Dan Laffoley ที่ปรึกษาหลักในโครงการทางทะเลและขั้วโลกของสหภาพเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) กล่าว “แต่ถ้าเราไปอยู่ใกล้ ๆ ยอดเขาเอเวอเรสต์ที่มีออกซิเจนน้อย เราก็จะอยู่ในจุดที่ว่า การสูญเสียออกซิเจนเพียง 2% จะมีนัยสำคัญมาก”

การสูญเสียออกซิเจนไม่เพียงแต่จะทำให้ชีวิตในทะเลต้องดิ้นรน แต่ยังส่งผลกระทบต่อการหมุนเวียนของธาตุต่าง ๆ ในโลกเช่น ไนโตรเจนหรือฟอสฟอรัส ซึ่งธาตุเหล่านั้นมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมหาสมุทร และอาจทำให้เกิดโรคที่เรียกว่า ‘โรคกระดูกพรุนในทะเล’ การศึกษาบางชิ้นในเวลาต่อมาได้รายงานไว้ว่าระดับออกซิเจนอาจลดลงได้มากถึง 40-50% ในบางพื้นที่โดยเฉพาะเขตร้อน ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นตามข่าวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่ปลานับหมื่นนับแสนตัวตายเพราะขาดอากาศหายใจ แต่สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อนหรือการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้อย่างไร? ทะเลสาบเป็นตัวบ่งชี้การเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมและภัยคุกคามต่อสิ่งแวดล้อม เพราะมันตอบสนองต่อสัญญาณจากภูมิทัศน์และบรรยากาศโดยรอบ ล่าสุด มีรายงานในวารสารเนเจอร์เผยว่าระดับออกซิเจนในทะเลสาบน้ำจืดที่มีอุณหภูมิปานกลางของโลกกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว โดยเร็วกว่าในมหาสมุทร 2.75-9.3 เท่า นักวิจัยจากสถาบันโพลิเทคนิคเรนส์ซเลียร์ ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เผยว่าระดับออกซิเจนในทะเลสาบที่สำรวจทั่วเขตอบอุ่นมาตั้งแต่ พ.ศ.2523 ได้ลดลง 5.5% ที่พื้นผิวน้ำ และ 18.6% ที่ในน้ำลึก ขณะเดียวกันในส่วนย่อยขนาดใหญ่ของทะเลสาบส่วนใหญ่ที่ปนเปื้อนสารอาหารระดับออกซิเจนบนพื้นผิวก็เพิ่มขึ้น อุณหภูมิน้ำก็อยู่ในเกณฑ์ที่เอื้อต่อการเติบโตของไซยาโนแบคทีเรียหรือสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน ที่สามารถสร้างสารพิษได้เมื่อพวกมันเจริญเพิ่มจำนวนมหาศาลอย่างรวดเร็ว สิ่งต่างๆ เหล่านี้ขับเคลื่อน มาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่คุกคามความหลากหลายทางชีวภาพของ น้ำจืดและคุณภาพน้ำดื่ม ที่น่าจับตาก็คือสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนทั้งหมดขึ้นอยู่กับออกซิเจน ซึ่งเป็นระบบสนับสนุนด้านอาหารของสัตว์น้ำ เมื่อพวกมันเริ่มสูญเสียออกซิเจน ก็มีโอกาสที่จะสูญเสียสายพันธุ์ตามมา การวิจัยนี้ยังพิสูจน์ให้เห็นว่าปัญหาในน้ำจืดมีความรุนแรงมากขึ้น คุกคามแหล่งน้ำดื่มของมนุษย์และความสมดุลที่ละเอียดอ่อน นักวิจัยได้แต่คาดหวังว่างานวิจัยชิ้นนี้จะทำให้เกิดความเร่งด่วนมากขึ้นในการรับมือและจัดการกับผลกระทบที่เป็นอันตรายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ. ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกนำมาซึ่งภัยคุกคามที่มากกว่าการละลายของน้ำแข็งแถบขั้วโลก หลังงานวิจัยระบุว่า ปริมาณออกซิเจนในทะเลทั่วโลกระหว่างปี 1960 – 2010 ได้ลดลงเฉลี่ยร้อยละ 2 ซึ่งเป็นผลจากภาวะโลกร้อน

วานนี้ (16 ก.พ. 60) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า งานวิจัยของศูนย์จีโอมาร์ เฮล์มโฮลท์ซ เพื่อการวิจัยมหาสมุทร (GEOMAR Helmholtz Centre for Ocean Research) ในเมืองคีล ประเทศเยอรมนี ซึ่งเผยแพร่ในวารสารวิทยาศาสตร์ “เนเจอร์ (Nature)” เมื่อวานนี้ พบว่า ในช่วงระยะเวลา 50 ปี ตั้งแต่ปี 1960 จนถึงปี 2010 ปริมาณอ็อกซิเจนในมหาสมุทรทั่วโลกได้ลดลงเฉลี่ย ร้อยละ 2 โดยในบางพื้นที่ระดับออกซิเจนในมหาสมุทรลดลงมากกว่าพื้นที่อื่นๆ เช่น มหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือ และมหาสมุทรอาร์กติก สาเหตุที่ทำให้ระดับออกซิเจนลดลง งานวิจัยระบุว่า ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน โดยอุณหภูมิที่สูงขึ้นน้ำทะเลสูญเสียออกซิเจนได้ง่าย ขณะเดียวกันออกซิเจนก็ไม่สามารถลงไปถึงชั้นน้ำที่อยู่ลึกลงไป นอกจากนี้ ปริมาณทะเลน้ำแข็งที่ลดลงยังทำให้แพลงก์ตอนมีจำนวนมากขึ้น ซึ่งเมื่อย่อยสลายก็จะทำให้ระดับออกซิเจนในน้ำลดลงยิ่งไปอีก รวมถึงยังปล่อยก๊าซไนตรัสออกไซด์ ที่เป็นก๊าซเรือนกระจกออกมาด้วย ทีมนักวิจัยเตือนว่า ผลของระดับออกซิเจนที่ลดลงแม้จะดูเป็นสัดส่วนที่เล็กน้อย อาจส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางได้ โดยเฉพาะในพื้นที่แถบชายฝั่ง ที่ระบบนิเวศอาจเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

People Also Search

ในการศึกษาใหม่ล่าสุดที่นำโดยศาสตราจารย์ชือ คุน (Shi Kun) และศาสตราจารย์จาง หยุนหลิน (Zhang Yunlin) จากสถาบันภูมิศาสตร์และธรณีวิทยาหนานจิง ประเทศจีน

ในการศึกษาใหม่ล่าสุดที่นำโดยศาสตราจารย์ชือ คุน (Shi Kun) และศาสตราจารย์จาง หยุนหลิน (Zhang Yunlin) จากสถาบันภูมิศาสตร์และธรณีวิทยาหนานจิง ประเทศจีน ได้สำรวจผลกระทบของภาวะโลกร้อนต่อทะเลสาบมากกว่า 1,500 แห่งทั่วโลกและพบว่า ปริมาณออกซิเจนที่ละลายน้ำกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว “พบการลดลงอย่างกว้างของปริมาณออกซิเจนที่ละลายน้ำในแม่น้ำ ทะเลสาบในเขตอบอุ่น และมหาสมุทร แต่ผลกระทบของภาวะโลกร้อนต่อภาวะขาดออกซิเจนใน...

ผลการวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science Advances ระบุว่า ระดับออกซิเจนในทะเลสาบแห่งต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังลดลงอย่างน่าเป็นกังวล นอกจากนี้ยังพบแนวโน้มลักษณะเดียวกันนี้กับแม่น้ำและทะเลอีกหลายแห่งด้วย แต่ทะเลสาบบางแห่งสูญเสียออกซิเจนเร็วกว่ามหาสมุทรถึง 9

ผลการวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science Advances ระบุว่า ระดับออกซิเจนในทะเลสาบแห่งต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังลดลงอย่างน่าเป็นกังวล นอกจากนี้ยังพบแนวโน้มลักษณะเดียวกันนี้กับแม่น้ำและทะเลอีกหลายแห่งด้วย แต่ทะเลสาบบางแห่งสูญเสียออกซิเจนเร็วกว่ามหาสมุทรถึง 9 เท่า งานวิจัยใหม่สามารถระบุได้ว่ากลไกต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุของการสูญเสียออกซิเจนในทะเลสาบทั่วโลกนั้นมีส่วนร่วมในระดับใดบ้าง โดยในช่วงระหว่างปี 1980 ถึงปี...

อัตราการคายออกซิเจนโดยเฉลี่ยในทะเลสาบทั่วโลกเร็วกว่าที่สังเกตได้ในมหาสมุทรและแม่น้ำ การวิเคราะห์บ่งชี้ว่า 83% ของทะเลสาบที่ทำการศึกษาเกิดภาวะคายออกซิเจนอย่างต่อเนื่อง และคลื่นความร้อนยังทำให้ออกซิเจนลดลง 7.7% หากแนวโน้มภาวะโลกร้อนนี้ยังคงดำเนินต่อไป ทะเลสาบทั่วโลกอาจประสบกับการลดลงของออกซิเจนอีก 9% ภายในสิ้นศตวรรษนี้

อัตราการคายออกซิเจนโดยเฉลี่ยในทะเลสาบทั่วโลกเร็วกว่าที่สังเกตได้ในมหาสมุทรและแม่น้ำ การวิเคราะห์บ่งชี้ว่า 83% ของทะเลสาบที่ทำการศึกษาเกิดภาวะคายออกซิเจนอย่างต่อเนื่อง และคลื่นความร้อนยังทำให้ออกซิเจนลดลง 7.7% หากแนวโน้มภาวะโลกร้อนนี้ยังคงดำเนินต่อไป ทะเลสาบทั่วโลกอาจประสบกับการลดลงของออกซิเจนอีก 9% ภายในสิ้นศตวรรษนี้ การศึกษาพบว่า ภาวะโลกร้อนเป็นสาเหตุของการสูญเสียออกซิเจนบนพื้นผิวทะเลสาบทั่วโลกถึ...

นักวิจัยยังระบุว่า การแพร่พันธุ์และการจับตัวกันเป็นแพของสาหร่ายเซลล์เดียว (Algae Blooms) ที่รุนแรงขึ้น มีส่วนถึง 10% ของการสูญเสียออกซิเจน ขณะเดียวกันสถานการณ์นี้ ยังรุนแรงขึ้นจากทั้งการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

นักวิจัยยังระบุว่า การแพร่พันธุ์และการจับตัวกันเป็นแพของสาหร่ายเซลล์เดียว (Algae Blooms) ที่รุนแรงขึ้น มีส่วนถึง 10% ของการสูญเสียออกซิเจน ขณะเดียวกันสถานการณ์นี้ ยังรุนแรงขึ้นจากทั้งการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และปริมาณสารอาหารที่เพิ่มขึ้นในน้ำ เช่น ปุ๋ยเคมีและมูลสัตว์ที่ไหลลงสู่แหล่งน้ำ ที่มา : https://www.springnews.co.th/keep-the-world/environment/857084 การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศทำให้ออกซิเจน...

การสูญเสียออกซิเจนไม่เพียงแต่จะทำให้ชีวิตในทะเลต้องดิ้นรน แต่ยังส่งผลกระทบต่อการหมุนเวียนของธาตุต่าง ๆ ในโลกเช่น ไนโตรเจนหรือฟอสฟอรัส ซึ่งธาตุเหล่านั้นมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมหาสมุทร และอาจทำให้เกิดโรคที่เรียกว่า ‘โรคกระดูกพรุนในทะเล’ การศึกษาบางชิ้นในเวลาต่อมาได้รายงานไว้ว่าระดับออกซิเจนอาจลดลงได้มากถึง 40-50%

การสูญเสียออกซิเจนไม่เพียงแต่จะทำให้ชีวิตในทะเลต้องดิ้นรน แต่ยังส่งผลกระทบต่อการหมุนเวียนของธาตุต่าง ๆ ในโลกเช่น ไนโตรเจนหรือฟอสฟอรัส ซึ่งธาตุเหล่านั้นมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมหาสมุทร และอาจทำให้เกิดโรคที่เรียกว่า ‘โรคกระดูกพรุนในทะเล’ การศึกษาบางชิ้นในเวลาต่อมาได้รายงานไว้ว่าระดับออกซิเจนอาจลดลงได้มากถึง 40-50% ในบางพื้นที่โดยเฉพาะเขตร้อน ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นตามข่าวในช่วงหลายปีที่ผ...