ไอยูซีเอ็น เตือนโลกร้อน ทําให้มหาสมุทรขาดออกซิเจน

Leo Migdal
-
ไอยูซีเอ็น เตือนโลกร้อน ทําให้มหาสมุทรขาดออกซิเจน

ภาวะโลกร้อนและการปนเปื้อนของสารเคมีจากภาคการเกษตรและอุตสาหกรรม กำลังทำให้ออกซิเจนหายไปจากมหาสมุทรและคุกคามชีวิตของสัตว์ทะเลหลายชนิด รายงานการศึกษาของสหภาพระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือ ไอยูซีเอ็น (IUCN) ซึ่งเปิดเผยที่การประชุมโลกร้อน COP25 ระบุว่า ภาวะโลกร้อนและการปนเปื้อนของสารเคมี เช่น ไนโตเจนและฟอสฟอรัส จากฟาร์มและภาคอุตสาหกรรม กำลังส่งผลกระทบต่อระดับออกซิเจนในทะเลรุนแรงขึ้น โดยปัจจุบัน พบว่าบริเวณในทะเล 700 แห่ง มีระดับออกซิเจนต่ำ เทียบกับช่วงทศวรรษ 1960 ที่พบเพียง 45 แห่ง ขณะที่ผลกระทบจากปรากฎการณ์เรือนกระจกรุนแรงมากขึ้นตามการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ความร้อนส่วนหนึ่งจะถูกดูดซับโดยมหาสมุทร ซึ่งน้ำทะเลที่อุ่นขึ้นนี้จะกักเก็บออกซิเจนได้น้อยลง โดยนักวิทยาศาสตร์คาดว่าระหว่างปี 1960 ถึง 2010 ปริมาณก๊าซออกซิเจนที่ละลายอยู่ในมหาสมุทรทั่วโลกลดลงโดยเฉลี่ย 2 เปอร์เซ็นต์ ตัวเลขดังกล่าวอาจดูไม่สูงเพราะเป็นค่าเฉลี่ย แต่ในทะเลเขตร้อนบางแห่ง อัตราการสูญเสียออกซิเจนอาจสูงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ระดับออกซิเจนในทะเลสาบทั่วโลกลดลงจากภาวะโลกร้อน คลื่นความร้อน และมลพิษทางเกษตร ทำลายระบบนิเวศจนเกิด "โซนมรณะ" นักวิจัยเตือนอาจสูญเสียออกซิเจนถึง 9%

ผลการวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science Advances ระบุว่า ระดับออกซิเจนในทะเลสาบแห่งต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังลดลงอย่างน่าเป็นกังวล นอกจากนี้ยังพบแนวโน้มลักษณะเดียวกันนี้กับแม่น้ำและทะเลอีกหลายแห่งด้วย แต่ทะเลสาบบางแห่งสูญเสียออกซิเจนเร็วกว่ามหาสมุทรถึง 9 เท่า งานวิจัยใหม่สามารถระบุได้ว่ากลไกต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุของการสูญเสียออกซิเจนในทะเลสาบทั่วโลกนั้นมีส่วนร่วมในระดับใดบ้าง โดยในช่วงระหว่างปี 1980 ถึงปี 2017 ที่ผ่านมา พบว่า ปริมาณออกซิเจนลดลง 5.5% ในชั้นผิวน้ำ และ 18.6% ในน้ำลึก “อี้ป๋อ จาง” (Yibo Zhang) นักภูมิศาสตร์และทีมงานจากสถาบัน Chinese Academy of Sciences (CAS) ของจีน ใช้ภาพถ่ายดาวเทียมร่วมกับการศึกษาข้อมูลทางภูมิศาสตร์และภมิอากาศ เพื่อสร้างเหตุการณ์ที่นำไปสู่การสูญเสียออกซิเจนเหล่านี้ขึ้นมาใหม่ โดยพบว่า ทะเลสาบกว่า 80% จากทั้งหมด 15,535 แห่งที่ดำเนินการตรวจสอบนั้นมีระดับออกซิเจนที่ลดลง 8 มิถุนายน ของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น “วันทะเลโลก” หรือ “วันมหาสมุทรโลก” (World Ocean Day) ตามมติที่ 63/111 เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2551 สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยว กับความสำคัญของท้องทะเล และร่วมกันอนุรักษ์มหาสมุทร แต่ปัจจุบันสภาพมหาสมุทรของเรากำลังประสบปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งสหพันธ์สวิสซูริค หรือ ETH Zurich ตีพิมพ์ใน AGU Advances พบว่า มหาสมุทรทั่วโลกกำลังเผชิญกับ “ภัยคุกคามใหญ่” ถึง 3 อย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น จากความร้อนจัด การสูญเสียออกซิเจน และความเป็นกรด

สภาพอากาศสุดขั้วเริ่มรุนแรงมากขึ้นในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา และสร้างความเครียดอย่างมหาศาลต่อสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลจำนวนมากทั่วโลก ปัจจุบันประมาณ 20% ของพื้นผิวมหาสมุทรในโลก มีความเสี่ยงต่อภัยคุกคามทั้ง 3 ประการ ซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล และการตัดไม้ทำลายป่า โดยช่วงบริเวณ 300 เมตรจากผิวน้ำจะได้รับผลกระทบมากที่สุด โจเอล หว่อง นักวิจัยจาก ETH Zurich ผู้เขียนหลักของการศึกษานี้ เตือนว่ามหาสมุทรในโลกกำลังถูกผลักให้เข้าสู่สภาวะใหม่ที่รุนแรงกว่าเดิมจากวิกฤติสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเรากำลังเผชิญหน้ากับผลกระทบของปรกฏการณ์นี้แล้วโดยที่เราไม่รู้ตัว โดยหว่องได้ยกตัวอย่างถึง “ก้อนความร้อน” (Heat Bolb) พื้นที่ความร้อนขนาดใหญ่เกิดขึ้นในมหาสมุทรที่ทำให้สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกต้องสูญพันธุ์ ออกซิเจน โมเลกุลสำคัญที่สิ่งมีชีวิตหายใจเข้าไปเพื่อนำไปใช้ในกระบวนการสร้างพลังงาน ซึ่งเรามักเรียนรู้ว่าออกซิเจนเหล่านั้นเกิดจากต้นไม้หรือพืชใบเขียวที่ทำการสังเคราะห์แสงจนได้อากาศสดชื่นนี้ออกมา แต่อันที่จริงแล้ว ป่าฝนอย่างแอมะซอน ไม่ได้เป็นปอดของโลกที่แท้จริง ผู้ที่สมควรได้รับคำขอบคุณก็คือแบคทีเรียในมหาสมุทรและเหล่าแพลงก์ตอนพืชตามผิวน้ำที่เป็นผู้ผลิตออกซิเจนรายใหญ่ของโลกซึ่งมากถึงร้อยละ 60-80 ของออกซิเจนในชั้นบรรยากาศทั้งหมด สิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ เหล่านี้สังเคราะห์แสงและสร้างอาหารหล่อเลี้ยงทั้งชีวิตในน้ำและชีวิตบนแผ่นดิน “สิ่งมีชีวิตเหล่านี้เป็นสิ่งมีชีวิตหลักที่สำคัญมาก” ฟรองซัวส์ ริบาเลต์ (François Ribalet) รองศาสตราจารย์วิจัยประจำคณะสมุทรศาสตร์ มหาวิทยาลัยวอชิงตัน และผู้เขียนงานวิจัยใหม่ที่เผยแพร่บนวารสาร Nature Microbiology กล่าว

โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิตที่ชื่อว่า โปรคลอโรค็อกคัส (Prochlorococcus) ซึ่งเป็นแบคทีเรียในกลุ่มไซยาโนแบคทีเรีย และได้ฉายาว่าเครื่องผลิตออกซิเจนระดับจิ๋ว โดยเชื่อว่ามีอยู่มากกว่า 3 × 10²⁷ เซลล์ในมหาสมุทร มีการประเมินกันว่าแค่โปรคลอโรค็อกคัสเพียงอย่างเดียวก็ผลิตออกซิเจนประมาณร้อยละ 20 ของออกซิเจนทั้งหมด หรือเปรียบง่าย ๆ ว่า ‘ทุก ๆ 5 ลมหายใจที่หายใจเข้านั้น เป็นหนึ่งลมหายใจที่มาจาก โปรคลอโรค็อกคัส ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ริบาเลตกล่าวว่า พวกมันเปลี่ยนแสงอาทิตย์และคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นอาหารที่ฐานของระบบนิเวศทางทะเล ภาวะดังกล่าวย่อมส่งผลต่อระบบนิเวศทางทะเลทั่วโลก แบบจำลองใหม่พบว่ามหาสมุทรความลึกระดับกลางซึ่งเป็นทรัพยากรทางทะเลสำคัญของอุตสาหกรรมประมงเริ่มเผชิญกับภาวะสูญเสียออกซิเจนในอัตราเร็วที่ผิดธรรมชาติ และพ้นปริมาณวิกฤติของการสูญเสียออกซิเจนในปี พ.ศ. 2564 มหาสมุทรมีออกซิเจนละลายในรูปของแก๊ส สัตว์น้ำก็ไม่ต่างจากสัตว์บกที่ต้องพึ่งพาออกซิเจนในการหายใจ แต่ยิ่งมหาสมุทรอุ่นขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ น้ำทะเลก็มีปริมาณออกซิเจนละลายได้น้อยลง นักวิทยาศาสตร์ติดตามการลดลงของออกซิเจนในมหาสมุทรต่อเนื่องหลายปี แต่งานวิจัยชิ้นใหม่นี้เน้นให้เห็นถึงเหตุผลที่เราควรกังวลและหาทางแก้ไขปัญหาก่อนที่จะสายเกินแก้ งานวิจัยชิ้นใหม่คืองานชิ้นแรกที่ใช้แบบจำลองการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อทำนายภาวะการลดลงของออกซิเจนซึ่งหมายถึงปริมาณออกซิเจนละลายในน้ำลดลงในมหาสมุทรทั่วโลกเกินกว่าวัฏจักรตามธรรมชาติ ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่และอย่างไร

ผลการวิจัยพบว่าการลดลงซึ่งไม่อาจฟื้นฟูได้ของปริมาณออกซิเจนในมหาสมุทร ณ ระดับความลึกระดับกลางซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของปลาหลากหลายชนิดพันธุ์เริ่มต้นเมื่อ พ.ศ. 2564 และอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมประมงทั่วโลก แบบจำลองใหม่นี้คาดว่าภาวะขาดออกซิเจนจะเริ่มส่งผลกระทบเป็นวงกว้างภายในปี พ.ศ. 2623 ผลการศึกษาดังกล่าวตีพิมพ์ในวารสาร Geophysical Research Letters ความลึกระดับกลางของมหาสุมทร (ตั้งแต่ 200 เมตรถึง 1,000 เมตร) หรือที่เรียกว่าเขตสนธยา (mesopelagic zones) จะเป็นพื้นที่แรกซึ่งสูญเสียปริมาณออกซิเจนอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พื้นที่ดังกล่าวคือแหล่งอาศัยสำคัญของปลาเศรษฐกิจหลากชนิดพันธุ์ ความสูญเสียนั้นอาจส่งผลกระทบเลวร้ายต่อเศรษฐกิจ การขาดแคลนอาหารทะเล และนิเวศทางทะเลที่ถูกทำลาย

People Also Search

ภาวะโลกร้อนและการปนเปื้อนของสารเคมีจากภาคการเกษตรและอุตสาหกรรม กำลังทำให้ออกซิเจนหายไปจากมหาสมุทรและคุกคามชีวิตของสัตว์ทะเลหลายชนิด รายงานการศึกษาของสหภาพระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือ ไอยูซีเอ็น (IUCN) ซึ่งเปิดเผยที่การประชุมโลกร้อน COP25 ระบุว่า ภาวะโลกร้อนและการปนเปื้อนของสารเคมี

ภาวะโลกร้อนและการปนเปื้อนของสารเคมีจากภาคการเกษตรและอุตสาหกรรม กำลังทำให้ออกซิเจนหายไปจากมหาสมุทรและคุกคามชีวิตของสัตว์ทะเลหลายชนิด รายงานการศึกษาของสหภาพระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือ ไอยูซีเอ็น (IUCN) ซึ่งเปิดเผยที่การประชุมโลกร้อน COP25 ระบุว่า ภาวะโลกร้อนและการปนเปื้อนของสารเคมี เช่น ไนโตเจนและฟอสฟอรัส จากฟาร์มและภาคอุตสาหกรรม กำลังส่งผลกระทบต่อระดับออกซิเจนในทะเลรุนแรงขึ้น โดยปัจจ...

ผลการวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science Advances ระบุว่า ระดับออกซิเจนในทะเลสาบแห่งต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังลดลงอย่างน่าเป็นกังวล นอกจากนี้ยังพบแนวโน้มลักษณะเดียวกันนี้กับแม่น้ำและทะเลอีกหลายแห่งด้วย แต่ทะเลสาบบางแห่งสูญเสียออกซิเจนเร็วกว่ามหาสมุทรถึง 9

ผลการวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science Advances ระบุว่า ระดับออกซิเจนในทะเลสาบแห่งต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังลดลงอย่างน่าเป็นกังวล นอกจากนี้ยังพบแนวโน้มลักษณะเดียวกันนี้กับแม่น้ำและทะเลอีกหลายแห่งด้วย แต่ทะเลสาบบางแห่งสูญเสียออกซิเจนเร็วกว่ามหาสมุทรถึง 9 เท่า งานวิจัยใหม่สามารถระบุได้ว่ากลไกต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุของการสูญเสียออกซิเจนในทะเลสาบทั่วโลกนั้นมีส่วนร่วมในระดับใดบ้าง โดยในช่วงระหว่างปี 1980 ถึงปี...

สภาพอากาศสุดขั้วเริ่มรุนแรงมากขึ้นในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา และสร้างความเครียดอย่างมหาศาลต่อสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลจำนวนมากทั่วโลก ปัจจุบันประมาณ 20% ของพื้นผิวมหาสมุทรในโลก มีความเสี่ยงต่อภัยคุกคามทั้ง 3 ประการ ซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น

สภาพอากาศสุดขั้วเริ่มรุนแรงมากขึ้นในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา และสร้างความเครียดอย่างมหาศาลต่อสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลจำนวนมากทั่วโลก ปัจจุบันประมาณ 20% ของพื้นผิวมหาสมุทรในโลก มีความเสี่ยงต่อภัยคุกคามทั้ง 3 ประการ ซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล และการตัดไม้ทำลายป่า โดยช่วงบริเวณ 300 เมตรจากผิวน้ำจะได้รับผลกระทบมากที่สุด โจเอล หว่อง นักวิจัยจาก ETH Zurich ผู้เข...

โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิตที่ชื่อว่า โปรคลอโรค็อกคัส (Prochlorococcus) ซึ่งเป็นแบคทีเรียในกลุ่มไซยาโนแบคทีเรีย และได้ฉายาว่าเครื่องผลิตออกซิเจนระดับจิ๋ว โดยเชื่อว่ามีอยู่มากกว่า 3 × 10²⁷ เซลล์ในมหาสมุทร

โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิตที่ชื่อว่า โปรคลอโรค็อกคัส (Prochlorococcus) ซึ่งเป็นแบคทีเรียในกลุ่มไซยาโนแบคทีเรีย และได้ฉายาว่าเครื่องผลิตออกซิเจนระดับจิ๋ว โดยเชื่อว่ามีอยู่มากกว่า 3 × 10²⁷ เซลล์ในมหาสมุทร มีการประเมินกันว่าแค่โปรคลอโรค็อกคัสเพียงอย่างเดียวก็ผลิตออกซิเจนประมาณร้อยละ 20 ของออกซิเจนทั้งหมด หรือเปรียบง่าย ๆ ว่า ‘ทุก ๆ 5 ลมหายใจที่หายใจเข้านั้น เป็นหนึ่งลมหายใจที่มาจาก โปรคลอโรค็อกคัส ที่สำคัญย...

ผลการวิจัยพบว่าการลดลงซึ่งไม่อาจฟื้นฟูได้ของปริมาณออกซิเจนในมหาสมุทร ณ ระดับความลึกระดับกลางซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของปลาหลากหลายชนิดพันธุ์เริ่มต้นเมื่อ พ.ศ. 2564 และอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมประมงทั่วโลก แบบจำลองใหม่นี้คาดว่าภาวะขาดออกซิเจนจะเริ่มส่งผลกระทบเป็นวงกว้างภายในปี พ.ศ. 2623 ผลการศึกษาดังกล่าวตีพิมพ์ในวารสาร

ผลการวิจัยพบว่าการลดลงซึ่งไม่อาจฟื้นฟูได้ของปริมาณออกซิเจนในมหาสมุทร ณ ระดับความลึกระดับกลางซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของปลาหลากหลายชนิดพันธุ์เริ่มต้นเมื่อ พ.ศ. 2564 และอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมประมงทั่วโลก แบบจำลองใหม่นี้คาดว่าภาวะขาดออกซิเจนจะเริ่มส่งผลกระทบเป็นวงกว้างภายในปี พ.ศ. 2623 ผลการศึกษาดังกล่าวตีพิมพ์ในวารสาร Geophysical Research Letters ความลึกระดับกลางของมหาสุมทร (ตั้งแต่ 200 เมตรถึง 1,00...