สัตว์น้ําขนาดใหญ่กําลังขาดอากาศหายใจ นักวิจัยเผยปริมาณออกซิเจนในทะเลต่

Leo Migdal
-
สัตว์น้ําขนาดใหญ่กําลังขาดอากาศหายใจ นักวิจัยเผยปริมาณออกซิเจนในทะเลต่

ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดไหนบนโลกใบนี้ ต่างก็ใช้ก๊าซออกซิเจนเป็นอากาศหายใจกันทั้งนั้น แต่ถ้าวันนึง ออกซิเจนที่เราใช้หายใจเกิดหมดขึ้นมาล่ะ เราจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร? ปัญหานี้กำลังเกิดขึ้นกับมหาสมุทร เมื่อออกซิเจนในท้องทะเลกำลังหมดลง เพราะการทำเกษตรกรรมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัจจุบัน พื้นที่มหาสมุทรประมาณ 700 แห่ง มีปริมาณออกซิเจนอยู่ในระดับต่ำจนอันตราย เมื่อเทียบกับอีก 45 แห่งในช่วงทศวรรษ 1960 ซึ่งนักวิจัยระบุว่า การสูญเสียออกซิเจนในทะเลนี้ เป็นภัยคุกคามต่อสัตว์ทะเลหลายสปีชีส์ โดยเฉพาะสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ เช่น ฉลาม ปลาทูน่า และปลากระโทงทั้งหลาย เกรเทล อากิลา (Grethel Aguilar) รักษาการผู้อำนวยการของสหภาพระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (The International Union for the Conservation of Nature – IUCN) กล่าวในงานประชุม COP25 ว่า สุขภาพของมหาสมุทรควรเป็นข้อพิจารณาที่สำคัญในการประชุมครั้งนี้ และอุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้น ทำให้ออกซิเจนขาดแคลนอย่างหนัก ทั้งยังส่งผลให้ความสมดุลอันเปราะบางของสัตว์น้ำเกิดความยุ่งเหยิงอีกด้วย ภาวะโลกร้อนทำให้อุณหภูมิของน้ำทะเลสูงขึ้น ส่งผลให้ปริมาณออกซิเจนต่ำลง ซึ่งตอนนี้ มหาสมุทรจะสูญเสียปริมาณออกซิเจนไปอีก 3-4% ภายในปี ค.ศ.2100 และจะเกิดผลกระทบต่อระดับน้ำทะเลที่ 1,000 เมตรจากผิวน้ำ ซึ่งเป็นระดับที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงสุด รวมถึงแนวทะเลที่อยู่บริเวณกลางเส้นละติจูดถึงเหนือขึ้นไป ระดับออกซิเจนที่ลดต่ำลงนี้ ทำให้ปลาทั้งหลายต้องอพยพไปยังผิวน้ำและพื้นที่ทะเลตื้น ซึ่งยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกจับปลาโดยชาวประมงมากขึ้น ขณะเดียวกัน บางพื้นที่ที่มีระดับออกซิเจนต่ำว่าจุดอื่นอยู่แล้ว แต่เมื่อออกซิเจนลดลง ก็อาจจะเพิ่มความเสียหายให้เกิดขึ้นกับพื้นที่ดังกล่าวหนักขึ้นไปอีก

ภาวะดังกล่าวย่อมส่งผลต่อระบบนิเวศทางทะเลทั่วโลก แบบจำลองใหม่พบว่ามหาสมุทรความลึกระดับกลางซึ่งเป็นทรัพยากรทางทะเลสำคัญของอุตสาหกรรมประมงเริ่มเผชิญกับภาวะสูญเสียออกซิเจนในอัตราเร็วที่ผิดธรรมชาติ และพ้นปริมาณวิกฤติของการสูญเสียออกซิเจนในปี พ.ศ. 2564 มหาสมุทรมีออกซิเจนละลายในรูปของแก๊ส สัตว์น้ำก็ไม่ต่างจากสัตว์บกที่ต้องพึ่งพาออกซิเจนในการหายใจ แต่ยิ่งมหาสมุทรอุ่นขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ น้ำทะเลก็มีปริมาณออกซิเจนละลายได้น้อยลง นักวิทยาศาสตร์ติดตามการลดลงของออกซิเจนในมหาสมุทรต่อเนื่องหลายปี แต่งานวิจัยชิ้นใหม่นี้เน้นให้เห็นถึงเหตุผลที่เราควรกังวลและหาทางแก้ไขปัญหาก่อนที่จะสายเกินแก้ งานวิจัยชิ้นใหม่คืองานชิ้นแรกที่ใช้แบบจำลองการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อทำนายภาวะการลดลงของออกซิเจนซึ่งหมายถึงปริมาณออกซิเจนละลายในน้ำลดลงในมหาสมุทรทั่วโลกเกินกว่าวัฏจักรตามธรรมชาติ ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่และอย่างไร ผลการวิจัยพบว่าการลดลงซึ่งไม่อาจฟื้นฟูได้ของปริมาณออกซิเจนในมหาสมุทร ณ ระดับความลึกระดับกลางซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของปลาหลากหลายชนิดพันธุ์เริ่มต้นเมื่อ พ.ศ. 2564 และอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมประมงทั่วโลก แบบจำลองใหม่นี้คาดว่าภาวะขาดออกซิเจนจะเริ่มส่งผลกระทบเป็นวงกว้างภายในปี พ.ศ.

2623 ผลการศึกษาดังกล่าวตีพิมพ์ในวารสาร Geophysical Research Letters ความลึกระดับกลางของมหาสุมทร (ตั้งแต่ 200 เมตรถึง 1,000 เมตร) หรือที่เรียกว่าเขตสนธยา (mesopelagic zones) จะเป็นพื้นที่แรกซึ่งสูญเสียปริมาณออกซิเจนอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พื้นที่ดังกล่าวคือแหล่งอาศัยสำคัญของปลาเศรษฐกิจหลากชนิดพันธุ์ ความสูญเสียนั้นอาจส่งผลกระทบเลวร้ายต่อเศรษฐกิจ การขาดแคลนอาหารทะเล และนิเวศทางทะเลที่ถูกทำลาย ผลกระทบจากวิกฤตโลกร้อนเรื่องใหญ่ที่สุดที่เกิดในปี 2021 ที่ผ่านมา คือ อุณหภูมิของน้ำมหาสมุทรร้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนถูกบันทึกว่าอยู่ในระดับ ‘สูงที่สุดนับตั้งแต่มีบันทึกเอาไว้ตั้งแต่หกทศวรรษก่อน’ ผลที่จะตามมาจากการดูดซับ ‘ความร้อน’ ของมหาสมุทร และเกิดขึ้นในอัตราที่เร่งเร็วขึ้นเช่นนี้ สามารถทำให้มหาสมุทรกลายเป็นกรด ทำระดับน้ำเพิ่มสูง และก่อให้เกิดภาวะสภาพภูมิอากาศแบบสุดขั้วขึ้นได้ และอีกเรื่องที่นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพภูมิอากาศดูจะเป็นกังวลกันมากๆ คือประเด็นที่ว่าออกซิเจนในมหาสมุทรดูท่าว่าจะลดต่ำลงเรื่อยๆ ซึ่งผลการวิจัยใหม่ของศูนย์วิจัยบรรยากาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (National Center for Atmospheric Research) ระบุว่า เป็นภาวะสูญเสียออกซิเจนในอัตราเร็วที่แบบผิดธรรมชาติ สัตว์น้ำก็ไม่ต่างจากสัตว์บกที่ต้องพึ่งพาออกซิเจนในการหายใจ ซึ่งตามปกติมหาสมุทรมีออกซิเจนละลายในรูปของแก๊ส แต่ยิ่งมหาสมุทรมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น (เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) น้ำทะเลก็มีปริมาณออกซิเจนละลายได้น้อยลงตามไป

ในงานวิจัยชิ้นล่าสุดว่าด้วยเรื่องการลดลงของออกซิเจนในมหาสมุทรนี้ พบว่าการลดลงในรูปแบบที่ ‘ไม่อาจฟื้นฟูได้’ ของปริมาณออกซิเจนในมหาสมุทรได้เกิดขึ้นแล้วในปีที่ผ่านมา ในความลึกระดับกลาง ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของปลาหลากหลายชนิดพันธุ์ ในการศึกษาใหม่ล่าสุดที่นำโดยศาสตราจารย์ชือ คุน (Shi Kun) และศาสตราจารย์จาง หยุนหลิน (Zhang Yunlin) จากสถาบันภูมิศาสตร์และธรณีวิทยาหนานจิง ประเทศจีน ได้สำรวจผลกระทบของภาวะโลกร้อนต่อทะเลสาบมากกว่า 1,500 แห่งทั่วโลกและพบว่า ปริมาณออกซิเจนที่ละลายน้ำกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว “พบการลดลงอย่างกว้างของปริมาณออกซิเจนที่ละลายน้ำในแม่น้ำ ทะเลสาบในเขตอบอุ่น และมหาสมุทร แต่ผลกระทบของภาวะโลกร้อนต่อภาวะขาดออกซิเจนในทะเลสาบทั่วโลกนั้นยังคงไม่ชัดเจน” ทีมวิจัยระบุ โดยทั่วไปแล้วออกซิเจนในแหล่งน้ำนั้นเป็นที่ต้องการของสิ่งมีชีวิตจำนวนากที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นปลา พืช และแม้แต่สัตว์เล็ก ๆ อย่างแพลงก์ตอนเองก็ต้องการออกซิเจน ทำให้ระบบนิเวศเหล่านั้นจำเป็นต้องมีระดับออกซิเจน ‘ขั้นต่ำ’ เพื่อให้ทุกอย่างยังคงดำเนินต่อไปได้ อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์เริ่มสังเกตเห็นว่ามหาสมุทรของโลกกำลังสูญเสียออกซิเจนอย่างน่ากังวล หรือกล่าวอีกอย่างคือ ปริมาณออกซิเจนที่ละลายน้ำ (dissolved oxygen; DO) นั้นละลายได้น้อยลง ดังนั้นพวกเขาจึงสงสัยว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นกับแหล่งน้ำจืดอื่น ๆ บนโลกด้วยหรือไม่? ทีมวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์จีน จึงได้ใช้ภาพถ่ายดาวเทียม ร่วมกับข้อมูลทางภูมิศาสตร์และภูมิอากาศเพื่อสร้างสถานการณ์ที่เป็นไปได้ว่าเหตุการณ์ใดบ้างที่จะนำไปสู่การสูญเสียออกซิเจนเหล่านี้ขึ้นมาใหม่ สิ่งที่พวกเขาพบนั้นมันกำลังเกิดขึ้นแล้ว

8 มิถุนายน ของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น “วันทะเลโลก” หรือ “วันมหาสมุทรโลก” (World Ocean Day) ตามมติที่ 63/111 เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2551 สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยว กับความสำคัญของท้องทะเล และร่วมกันอนุรักษ์มหาสมุทร แต่ปัจจุบันสภาพมหาสมุทรของเรากำลังประสบปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งสหพันธ์สวิสซูริค หรือ ETH Zurich ตีพิมพ์ใน AGU Advances พบว่า มหาสมุทรทั่วโลกกำลังเผชิญกับ “ภัยคุกคามใหญ่” ถึง 3 อย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น จากความร้อนจัด การสูญเสียออกซิเจน และความเป็นกรด สภาพอากาศสุดขั้วเริ่มรุนแรงมากขึ้นในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา และสร้างความเครียดอย่างมหาศาลต่อสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลจำนวนมากทั่วโลก ปัจจุบันประมาณ 20% ของพื้นผิวมหาสมุทรในโลก มีความเสี่ยงต่อภัยคุกคามทั้ง 3 ประการ ซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล และการตัดไม้ทำลายป่า โดยช่วงบริเวณ 300 เมตรจากผิวน้ำจะได้รับผลกระทบมากที่สุด โจเอล หว่อง นักวิจัยจาก ETH Zurich ผู้เขียนหลักของการศึกษานี้ เตือนว่ามหาสมุทรในโลกกำลังถูกผลักให้เข้าสู่สภาวะใหม่ที่รุนแรงกว่าเดิมจากวิกฤติสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเรากำลังเผชิญหน้ากับผลกระทบของปรกฏการณ์นี้แล้วโดยที่เราไม่รู้ตัว โดยหว่องได้ยกตัวอย่างถึง “ก้อนความร้อน” (Heat Bolb) พื้นที่ความร้อนขนาดใหญ่เกิดขึ้นในมหาสมุทรที่ทำให้สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกต้องสูญพันธุ์ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศทำให้ออกซิเจนในมหาสมุทรลดลงได้อย่างไร?

เมื่อนักวิทยาศาสตร์พบว่าทะเลทั่วโลกกำลัง ‘ขาดอากาศหายใจ’ นับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960 โลกมีระดับออกซิเจนในมหาสมุทรลดลงประมาณ 2% แล้ว แม้อาจจะฟังดูไม่มาก แต่ปริมาณที่ลดลงอย่างต่อเนื่องนี้กำลังให้สัตว์น้ำหลายชนิด ‘ขาดอากาศหายใจ’ และนั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เกิด ‘หายนะ’ ทางระบบนิเวศ พร้อมกับลดความหลากหลายทางชีวภาพ โดยทั้งหมดนี้มาจากสาเหตุหลักเพียงอย่างเดียวคือ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ “เรากำลังนั่งอยู่ท่ามกลางออกซิเจนจำนวนมาก และเราไม่คิดว่าการสูญเสียออกซิเจนเพียงเล็กน้อยจะส่งผลกับเรา” Dan Laffoley ที่ปรึกษาหลักในโครงการทางทะเลและขั้วโลกของสหภาพเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) กล่าว “แต่ถ้าเราไปอยู่ใกล้ ๆ ยอดเขาเอเวอเรสต์ที่มีออกซิเจนน้อย เราก็จะอยู่ในจุดที่ว่า การสูญเสียออกซิเจนเพียง 2% จะมีนัยสำคัญมาก” การสูญเสียออกซิเจนไม่เพียงแต่จะทำให้ชีวิตในทะเลต้องดิ้นรน แต่ยังส่งผลกระทบต่อการหมุนเวียนของธาตุต่าง ๆ ในโลกเช่น ไนโตรเจนหรือฟอสฟอรัส ซึ่งธาตุเหล่านั้นมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมหาสมุทร และอาจทำให้เกิดโรคที่เรียกว่า ‘โรคกระดูกพรุนในทะเล’ การศึกษาบางชิ้นในเวลาต่อมาได้รายงานไว้ว่าระดับออกซิเจนอาจลดลงได้มากถึง 40-50% ในบางพื้นที่โดยเฉพาะเขตร้อน ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นตามข่าวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่ปลานับหมื่นนับแสนตัวตายเพราะขาดอากาศหายใจ แต่สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อนหรือการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้อย่างไร?

People Also Search

ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดไหนบนโลกใบนี้ ต่างก็ใช้ก๊าซออกซิเจนเป็นอากาศหายใจกันทั้งนั้น แต่ถ้าวันนึง ออกซิเจนที่เราใช้หายใจเกิดหมดขึ้นมาล่ะ เราจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร? ปัญหานี้กำลังเกิดขึ้นกับมหาสมุทร เมื่อออกซิเจนในท้องทะเลกำลังหมดลง เพราะการทำเกษตรกรรมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัจจุบัน พื้นที่มหาสมุทรประมาณ

ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดไหนบนโลกใบนี้ ต่างก็ใช้ก๊าซออกซิเจนเป็นอากาศหายใจกันทั้งนั้น แต่ถ้าวันนึง ออกซิเจนที่เราใช้หายใจเกิดหมดขึ้นมาล่ะ เราจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร? ปัญหานี้กำลังเกิดขึ้นกับมหาสมุทร เมื่อออกซิเจนในท้องทะเลกำลังหมดลง เพราะการทำเกษตรกรรมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัจจุบัน พื้นที่มหาสมุทรประมาณ 700 แห่ง มีปริมาณออกซิเจนอยู่ในระดับต่ำจนอันตราย เมื่อเทียบกับอีก 45 แห่งในช่วงทศวรร...

ภาวะดังกล่าวย่อมส่งผลต่อระบบนิเวศทางทะเลทั่วโลก แบบจำลองใหม่พบว่ามหาสมุทรความลึกระดับกลางซึ่งเป็นทรัพยากรทางทะเลสำคัญของอุตสาหกรรมประมงเริ่มเผชิญกับภาวะสูญเสียออกซิเจนในอัตราเร็วที่ผิดธรรมชาติ และพ้นปริมาณวิกฤติของการสูญเสียออกซิเจนในปี พ.ศ. 2564 มหาสมุทรมีออกซิเจนละลายในรูปของแก๊ส สัตว์น้ำก็ไม่ต่างจากสัตว์บกที่ต้องพึ่งพาออกซิเจนในการหายใจ แต่ยิ่งมหาสมุทรอุ่นขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ น้ำทะเลก็มีปริมาณออกซิเจนละลายได้น้อยลง นักวิทยาศาสตร์ติดตามการลดลงของออกซิเจนในมหาสมุทรต่อเนื่องหลายปี

ภาวะดังกล่าวย่อมส่งผลต่อระบบนิเวศทางทะเลทั่วโลก แบบจำลองใหม่พบว่ามหาสมุทรความลึกระดับกลางซึ่งเป็นทรัพยากรทางทะเลสำคัญของอุตสาหกรรมประมงเริ่มเผชิญกับภาวะสูญเสียออกซิเจนในอัตราเร็วที่ผิดธรรมชาติ และพ้นปริมาณวิกฤติของการสูญเสียออกซิเจนในปี พ.ศ. 2564 มหาสมุทรมีออกซิเจนละลายในรูปของแก๊ส สัตว์น้ำก็ไม่ต่างจากสัตว์บกที่ต้องพึ่งพาออกซิเจนในการหายใจ แต่ยิ่งมหาสมุทรอุ่นขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากา...

2623 ผลการศึกษาดังกล่าวตีพิมพ์ในวารสาร Geophysical Research Letters ความลึกระดับกลางของมหาสุมทร (ตั้งแต่ 200 เมตรถึง 1,000

2623 ผลการศึกษาดังกล่าวตีพิมพ์ในวารสาร Geophysical Research Letters ความลึกระดับกลางของมหาสุมทร (ตั้งแต่ 200 เมตรถึง 1,000 เมตร) หรือที่เรียกว่าเขตสนธยา (mesopelagic zones) จะเป็นพื้นที่แรกซึ่งสูญเสียปริมาณออกซิเจนอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พื้นที่ดังกล่าวคือแหล่งอาศัยสำคัญของปลาเศรษฐกิจหลากชนิดพันธุ์ ความสูญเสียนั้นอาจส่งผลกระทบเลวร้ายต่อเศรษฐกิจ การขาดแคลนอาหารทะเล และนิ...

ในงานวิจัยชิ้นล่าสุดว่าด้วยเรื่องการลดลงของออกซิเจนในมหาสมุทรนี้ พบว่าการลดลงในรูปแบบที่ ‘ไม่อาจฟื้นฟูได้’ ของปริมาณออกซิเจนในมหาสมุทรได้เกิดขึ้นแล้วในปีที่ผ่านมา ในความลึกระดับกลาง ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของปลาหลากหลายชนิดพันธุ์ ในการศึกษาใหม่ล่าสุดที่นำโดยศาสตราจารย์ชือ คุน (Shi Kun)

ในงานวิจัยชิ้นล่าสุดว่าด้วยเรื่องการลดลงของออกซิเจนในมหาสมุทรนี้ พบว่าการลดลงในรูปแบบที่ ‘ไม่อาจฟื้นฟูได้’ ของปริมาณออกซิเจนในมหาสมุทรได้เกิดขึ้นแล้วในปีที่ผ่านมา ในความลึกระดับกลาง ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของปลาหลากหลายชนิดพันธุ์ ในการศึกษาใหม่ล่าสุดที่นำโดยศาสตราจารย์ชือ คุน (Shi Kun) และศาสตราจารย์จาง หยุนหลิน (Zhang Yunlin) จากสถาบันภูมิศาสตร์และธรณีวิทยาหนานจิง ประเทศจีน ได้สำรวจผลกระทบของภาวะโลก...

8 มิถุนายน ของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น “วันทะเลโลก” หรือ “วันมหาสมุทรโลก” (World Ocean Day)

8 มิถุนายน ของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น “วันทะเลโลก” หรือ “วันมหาสมุทรโลก” (World Ocean Day) ตามมติที่ 63/111 เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2551 สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยว กับความสำคัญของท้องทะเล และร่วมกันอนุรักษ์มหาสมุทร แต่ปัจจุบันสภาพมหาสมุทรของเรากำลังประสบปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งสหพันธ์สวิสซูริค หรือ ETH Zurich ตีพิมพ์ใน AGU Advance...