โลกร้อน ทํา น้ําแข็งขั้วโลก ละลายเร็วกว่าเดิม ระดับน้ําทะเล พุ่งสูง

Leo Migdal
-
โลกร้อน ทํา น้ําแข็งขั้วโลก ละลายเร็วกว่าเดิม ระดับน้ําทะเล พุ่งสูง

“ภาวะโลกร้อน” ทำให้ “น้ำแข็งขั้วโลก” ละลายอย่างรวดเร็วขึ้นไปทุกขณะ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อ “ระดับน้ำทะเล” ที่พุ่งสูงขึ้น และดูเหมือนว่าการประเมินการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลจะต่ำความเป็นจริงอยู่เรื่อยมา ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์พบปัจจัยใหม่ที่ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายอย่างรวดเร็ว และระดับน้ำทะเลพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย จากการศึกษาใหม่จากคณะสำรวจทวีปแอนตาร์ติกาของสหราชอาณาจักร หรือ BAS ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Geoscience พบว่า มีน้ำทะเลอุ่นแทรกซึมอยู่ระหว่างแผ่นน้ำแข็งชายฝั่งและพื้นดินอยู่ ซึ่งน้ำอุ่นละลายช่องน้ำแข็ง ยิ่งทำให้น้ำไหลเข้าไปในน้ำแข็งได้มากขึ้น และเมื่อน้ำแข็งละลายสู่มหาสมุทร ส่งผลให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น การศึกษาครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่ “เขตกราวดิง” (grounding zones) เป็นบริเวณที่น้ำแข็งจากพื้นดินมาบรรจบกับทะเล เมื่อเวลาผ่านไป น้ำแข็งบนบกจะเคลื่อนตัวลงสู่มหาสมุทรโดยรอบและละลายในที่สุด ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ชายฝั่งแอนตาร์กติกาและกรีนแลนด์ และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น นักวิทยาศาสตร์สร้างแบบจำลอง เพื่อหาว่าน้ำทะเลสามารถซึมระหว่างพื้นดินกับแผ่นน้ำแข็งได้อย่างไร ส่งผลต่อการละลายน้ำแข็งเฉพาะจุดและเร่งให้ละลายเร็วขึ้นอย่างไร ซึ่งพบว่ากระบวนการนี้เกิดขึ้นจาก น้ำทะเลอุ่นเข้ามาละลายน้ำแข็งบริเวณกราวดิงจนเป็นโพรงใหญ่ และทำให้น้ำอุ่นไหลเข้ามาในแผ่นน้ำแข็ง ซึ่งจะเร่งให้น้ำแข็งละลายมากขึ้นและรวดเร็วขึ้น ดังนั้นหากน้ำทะเลมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นแม้เพียงนิดเดียวก็จะส่งผลกระทบอย่างมากต่ออัตราการละลายของน้ำแข็ง ซึ่งจะเปลี่ยนจากระยะทางไม่กี่เมตรให้กลายเป็นหลาย 10 กิโลเมตร ได้ในระยะเวลาไม่นาน นักวิทยาศาสตร์นานาชาติ คาดการณ์ว่าปัญหาโลกร้อนมีผลทำให้น้ำแข็งขั้วโลกมีปริมาณลดลงและอาจหายไปหมดในอีก 100 ปีข้างหน้า ซึ่งจะส่งผลให้ระบบนิเวศได้รับผลกระทบรุนแรง เพราะเมื่อน้ำแข็งขั้วโลกละลาย น้ำจืดจะเพิ่มขึ้น การไหลเวียนของกระแสน้ำในมหาสมุทรจะเปลี่ยนไป ซึ่งนำมาสู่ภัยพิบัติในอนาคตที่อาจรุนแรงกว่าเดิม

โดยนักวิทยาศาสตร์ NASA พบว่า น้ำแข็งในขั้วโลกเหนืออย่างกรีนแลนด์ และขั้วโลกใต้แอนตาร์กติกา ละลายเร็วขึ้นน้ำแข็งในกรีนแลนด์ละลายไวขึ้น 6-7 เท่า เมื่อเทียบกับ 25 ปีก่อน และ น้ำแข็งกรีนแลนด์ได้หายไปถึง 4,700 ล้านตัน มีส่วนทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 1.2 เซนติเมตร สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งฝั่งทะเลจีนใต้และทะเลอันดามัน ก็มีผลกระทบเช่นกัน เช่นปัจจุบันมีงานวิจัยพบว่า ลมมรสุมที่มีกำลังแรงขึ้น และทำให้ระดับน้ำทะเลบริเวณชายฝั่งเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งอุณหภูมิที่สูงขึ้นจากภาวะโลกร้อนจะทำให้มวลอากาศชื้นจากทะเลสูง และพัดเข้าชายฝั่งมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณฝนตกสูง มีการคาดการณ์กันว่า จะทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นกว่า 40 เซนติเมตร ในอีก 100 ปีข้างหน้า ซึ่งประชากรในภูมิภาคนี้ร้อยละ 10 ที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งทะเล ประมาณร้อยละ 70 ของประเทศในเอเชีย-แปซิฟิก มีความเสี่ยงสูงต่อปัญหาน้ำท่วมและไร้ที่อยู่อาศัยหรือแม้แต่ เกาะขนาดเล็กเสี่ยงจมใต้ทะเล ซึ่งอาจทำให้คนประมาณ 200 ล้านคน ในภูมิภาคนี้ต้องหาที่อยู่ใหม่ในอีกไม่เกิน 50 ปีข้างหน้า ขณะที่ กทม. เป็น 1 ใน 7 เมืองเสี่ยงจะจมน้ำในอีกไม่กี่ปีด้วย จากข้อมูลของ กรีนพีซ พบว่า 7 เมืองในเอเชีย ที่อาจได้รับผลกระทบ จากการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล หรือมีความเสี่ยงจมน้ำ ภายในปี 2573 สำหรับ 3 อันดับแรก เสี่ยงสุด คือ กรุงเทพมหานคร คือ ร้อยละ 96 อาจถูกน้ำท่วมจากอุทกภัยใน 10 ปี มีการคาดการณ์ถึงพื้นที่ ที่จะได้รับผลกระทบ 1,512.94 ตารางกิโลเมตร ซึ่งอาจมีประชากรที่จะได้รับผลกระทบ 10.45 ล้านคน รองลงมาเป็นกรุงจาการ์ตา จะได้รับผลกระทบ 109.38 ตารางกิโลเมตร ประชาชนอาจได้รับผลกระทบ... ธารน้ำแข็งบนโลกกำลังละลายอย่างรวดเร็วเกินควบคุม ทำให้น้ำทะเลสูงขึ้นหลายฟุต และอาจบีบให้หลายชีวิตตามแนวชายฝั่งต้องอพยพ และแม้โลกจะพยายามควบคุมอุณหภูมิให้ไม่สูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียส แต่ตอนนี้ก็สายเกินแก้แล้ว

เพราะการละลายอย่างรวดเร็วของธารน้ำแข็ง ที่เริ่มละลายด้วยอัตรารวดเร็วขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 1940 และเร็วขึ้นอีกในทศวรรษที่ 1970 (ตามการศึกษาและติดตามธารน้ำแข็ง Doomsday Glacier ในแอนตาร์กติกา) กลุ่มนักวิทยาศาสตร์นานาชาติจึงรวมกันตั้ง “ขีดจำกัดความปลอดภัย” หรือจุดเซฟสำหรับอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นของภาวะโลกร้อนขึ้น ขีดจำกัดดังกล่าวชี้ถึงอุณหภูมิที่จะทำให้แผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์และแอนตาร์กติกายังสามารถอยู่รอดได้ พวกเขาได้ขุดค้นงานวิจัยต่าง ๆ ที่ใช้ข้อมูลจากดาวเทียม แบบจำลองสภาพภูมิอากาศ และหลักฐานจากอดีต เช่น แกนน้ำแข็ง ตะกอนในทะเลลึก และแม้แต่ดีเอ็นเอของหมึกยักษ์ จริงอยู่ที่ว่ามีการรณรงค์ให้ประชากรโลกช่วยกันควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียสจากอุณหภูมิเฉลี่ยโลกในยุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม แต่การค้นพบชี้ว่า หากโลกเรารักษาอุณหภูมิไว้ได้อย่างนั้นจริง (ซึ่งคงต้องอาศัยปาฎิหารย์อยู่) ก็ยังไม่พอจะช่วยธารน้ำแข็งขั้วโลกอยู่ดี เพียงแค่กรีนแลนด์และแอนตาร์กติการวมกัน ก็โอบอุ้มน้ำแข็งเอาไว้มากมายเสียจนถ้าละลายพร้อมกันหมดก็เพียงพอจะเพิ่มระดับน้ำทะเลให้สูงขึ้น 213 ฟุตแล้ว โลกที่ร้อนขึ้นกำลังส่งผลกระทบกับสิ่งมีชีวิต ระบบนิเวศต่างๆ รวมถึงเวลา นี่เป็นสิ่งที่คนคาดไม่ถึงว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการละลายของน้ำแข็งขั้วโลกอาจส่งผลกระทบเวลาของโลกด้วย เฝ้าระวัง แม่น้ำโขง - น้ำประปา หลังรถบรรทุก กรดซัลฟิวริก พลิกคว่ำ ไหลลงแม่น้ำ

ทช. จับมือ UNDP ร่อนแผนรับมือผลกระทบ ​"โลกร้อน" ใน 4 จังหวัดติดชายฝั่งอ่าวไทย เพ้นท์กระดองเต่า ความสวยงามที่แลกมาด้วยความพิการตลอดชีวิต งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยรัทเกอร์ส ของสหรัฐอเมริกา ได้ศึกษาพื้นที่แนวปะการังโบราณและป่าชายเลนซึ่งเปรียบเสมือนกับสมุดบันทึกการเปลี่ยนแปลงจากธรรมชาติของระดับน้ำทะเลในอดีต โดยสามารถสร้างแบบจำลองย้อนกลับไปได้เกือบ 12,000 ปี พบว่า ระดับน้ำทะเลในปัจจุบันเพิ่มสูงขึ้นในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 4,000 ปี โดยมี 2 ปัจจัยหลักด้วยกัน คือ การขยายตัวของน้ำทะเล และการละลายของธารน้ำแข็ง ทั้งหมดล้วนเป็นผลจากอุณหภูมิโลกและอุณหภูมิในมหาสมุทรเพิ่มสูงขึ้น เมื่อโลกร้อนขึ้น มหาสมุทรจะดูดซับความร้อนมากขึ้นและขยายตัว ขณะที่ธารน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็วผิดปกติ ทำให้น้ำจืดจำนวนมหาศาลไหลลงสู่ทะเล แผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์ เป็นแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จากข้อมูลระบุว่า ในช่วงเดือนกันยายน 2023 - สิงหาคม 2024 กรีนแลนด์สูญเสียน้ำแข็งไปกว่า 80,000 ล้านตัน นับเป็นปีที่ 28 ที่ธารน้ำแข็งละลายมากกว่าปริมาณน้ำแข็งที่ก่อตัวขึ้นใหม่ และหากแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์ละลายหมดก็จะทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นถึง 7.4 เมตร ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ เตือนว่า ทุกๆ 1 เซนติเมตรของระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลกระทบต่อประชากรกว่า 6 ล้านคนในทั่วโลกเผชิญกับความเสี่ยงน้ำท่วมจากการกัดเซาะชายฝั่ง ปัญหาระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชายฝั่งเท่านั้น แต่ยังกระทบไปถึงพื้นที่เพาะปลูก และพื้นที่ทำการเกษตร ซึ่งเป็นแหล่งอาหารของมนุษย์จนอาจนำไปสู่ภาวะอดอยากและความมั่นคงด้านอาหารของโลกได้

People Also Search

“ภาวะโลกร้อน” ทำให้ “น้ำแข็งขั้วโลก” ละลายอย่างรวดเร็วขึ้นไปทุกขณะ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อ “ระดับน้ำทะเล” ที่พุ่งสูงขึ้น และดูเหมือนว่าการประเมินการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลจะต่ำความเป็นจริงอยู่เรื่อยมา ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์พบปัจจัยใหม่ที่ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายอย่างรวดเร็ว และระดับน้ำทะเลพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย

“ภาวะโลกร้อน” ทำให้ “น้ำแข็งขั้วโลก” ละลายอย่างรวดเร็วขึ้นไปทุกขณะ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อ “ระดับน้ำทะเล” ที่พุ่งสูงขึ้น และดูเหมือนว่าการประเมินการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลจะต่ำความเป็นจริงอยู่เรื่อยมา ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์พบปัจจัยใหม่ที่ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายอย่างรวดเร็ว และระดับน้ำทะเลพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย จากการศึกษาใหม่จากคณะสำรวจทวีปแอนตาร์ติกาของสหราชอาณาจักร หรือ BAS ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Natu...

โดยนักวิทยาศาสตร์ NASA พบว่า น้ำแข็งในขั้วโลกเหนืออย่างกรีนแลนด์ และขั้วโลกใต้แอนตาร์กติกา ละลายเร็วขึ้นน้ำแข็งในกรีนแลนด์ละลายไวขึ้น 6-7 เท่า เมื่อเทียบกับ 25

โดยนักวิทยาศาสตร์ NASA พบว่า น้ำแข็งในขั้วโลกเหนืออย่างกรีนแลนด์ และขั้วโลกใต้แอนตาร์กติกา ละลายเร็วขึ้นน้ำแข็งในกรีนแลนด์ละลายไวขึ้น 6-7 เท่า เมื่อเทียบกับ 25 ปีก่อน และ น้ำแข็งกรีนแลนด์ได้หายไปถึง 4,700 ล้านตัน มีส่วนทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 1.2 เซนติเมตร สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งฝั่งทะเลจีนใต้และทะเลอันดามัน ก็มีผลกระทบเช่นกัน เช่นปัจจุบันมีงานวิจัยพบว่า ลมมรสุมที่มีกำลังแรงขึ้น ...

เพราะการละลายอย่างรวดเร็วของธารน้ำแข็ง ที่เริ่มละลายด้วยอัตรารวดเร็วขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 1940 และเร็วขึ้นอีกในทศวรรษที่ 1970 (ตามการศึกษาและติดตามธารน้ำแข็ง Doomsday Glacier ในแอนตาร์กติกา) กลุ่มนักวิทยาศาสตร์นานาชาติจึงรวมกันตั้ง

เพราะการละลายอย่างรวดเร็วของธารน้ำแข็ง ที่เริ่มละลายด้วยอัตรารวดเร็วขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 1940 และเร็วขึ้นอีกในทศวรรษที่ 1970 (ตามการศึกษาและติดตามธารน้ำแข็ง Doomsday Glacier ในแอนตาร์กติกา) กลุ่มนักวิทยาศาสตร์นานาชาติจึงรวมกันตั้ง “ขีดจำกัดความปลอดภัย” หรือจุดเซฟสำหรับอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นของภาวะโลกร้อนขึ้น ขีดจำกัดดังกล่าวชี้ถึงอุณหภูมิที่จะทำให้แผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์และแอนตาร์กติกายังสามารถอยู่รอดไ...

ทช. จับมือ UNDP ร่อนแผนรับมือผลกระทบ ​"โลกร้อน" ใน 4 จังหวัดติดชายฝั่งอ่าวไทย เพ้นท์กระดองเต่า ความสวยงามที่แลกมาด้วยความพิการตลอดชีวิต

ทช. จับมือ UNDP ร่อนแผนรับมือผลกระทบ ​"โลกร้อน" ใน 4 จังหวัดติดชายฝั่งอ่าวไทย เพ้นท์กระดองเต่า ความสวยงามที่แลกมาด้วยความพิการตลอดชีวิต งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยรัทเกอร์ส ของสหรัฐอเมริกา ได้ศึกษาพื้นที่แนวปะการังโบราณและป่าชายเลนซึ่งเปรียบเสมือนกับสมุดบันทึกการเปลี่ยนแปลงจากธรรมชาติของระดับน้ำทะเลในอดีต โดยสามารถสร้างแบบจำลองย้อนกลับไปได้เกือบ 12,000 ปี พบว่า ระดับน้ำทะเลในปัจจุบันเพิ่มสูงขึ้นใ...