Aws ชี้ สตาร์ทอัพไทยใช้ Ai พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่มากถึง 40 ส่วนบริษัทใหญ่
อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) บริษัทในเครือของ Amazon.com เผยผลการศึกษาล่าสุด “Unlocking Thailand's AI Potential” ซึ่งจัดทำร่วมกับ Strand Partners พบว่า แม้การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในไทยจะเติบโตต่อเนื่อง ทว่าเกิดช่องว่างที่กว้างขึ้นระหว่างสตาร์ทอัพและบริษัทขนาดใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจมานาน ในด้านการประยุกต์ใช้ AI ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดเศรษฐกิจสองระดับ สตาร์ทอัพที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีสามารถพัฒนานวัตกรรมได้เร็วกว่าและแซงหน้าธุรกิจดั้งเดิม การสำรวจพบว่า การใช้ AI ในไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีธุรกิจ 150,000 รายนำ AI มาใช้ในปี 2567 หรือเฉลี่ยเกือบทุก 3 นาทีที่จะมีธุรกิจใหม่นำ AI มาใช้ ปัจจุบัน มีธุรกิจ 600,000 ราย หรือ 32% ของธุรกิจทั้งประเทศที่นำ AI มาใช้แล้ว เพิ่มขึ้น 33% จากปีก่อน ด้านผลลัพธ์ทางธุรกิจ 67% ของธุรกิจที่ใช้ AI มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 17% ในขณะที่ 78% คาดว่าจะสามารถประหยัดต้นทุนได้เฉลี่ย 17% นิค บอนสโตว์ ผู้อำนวยการบริษัท สแตรนด์ พาร์ทเนอร์ส เผยว่า ได้เห็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจมากเกี่ยวกับการนำ AI มาใช้ในประเทศไทย ทว่าการใช้ AI ในธุรกิจไทยแพร่หลาย แต่ส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับพื้นฐาน ถ้าย้อนมอง Amazon Web Services (AWS) ไปที่ต้นทางของธุรกิจ ภาพของ Amazon.com อดีตร้านหนังสือออนไลน์ที่จัดเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพยุคบุกเบิก ขยายสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และวิวัฒนาการเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ จนขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในเจ็ดหุ้นนางฟ้า หรือ Magnificent 7 ที่ทั้งโลกรู้จัก และไม่ว่าจะมาไกลแค่ไหน หรือมูลค่าหุ้น Amazon (AMZN) จะอยู่ที่เท่าไหร่ ยักษ์ใหญ่รายนี้ก็ยังคงให้ความสำคัญและทุ่มเงินทุนสนับสนุนเทคสตาร์ทอัพเรื่อยมา
ไม่นานมานี้ เทคซอสมีโอกาสสัมภาษณ์ คุณวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager, AWS ประเทศไทย ในด้านการสนับสนุนสตาร์ทอัพ คุณวัตสันเล่าว่า หลังจากที่ Amazon เริ่มให้บริการเทคโนโลยีคลาวด์ ผู้ใช้งานกลุ่มแรก ๆ ที่ให้การตอบรับอย่างดีก็คือ กลุ่มสตาร์ทอัพ ซึ่งมีรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างจากองค์กรขนาดใหญ่ และตั้งแต่ตอนนั้น Amazon ก็ให้ความสำคัญและปักธงสนับสนุนสตาร์ทอัพทั่วโลก สำหรับประเทศไทย Amazon จัดตั้งทีมงานเพื่อดูแลสตาร์ทอัพโดยเฉพาะ ทั้งยังจัดหาบุคลากรจาก AWS ทั้งในและต่างประเทศ กับเชิญรุ่นพี่สตาร์ทอัพมาแชร์ Success Story และ Case Study โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจฟินเทค โดยให้ผู้มีประสบการณ์จากอุตสาหกรรมในประเทศและต่างประเทศ จับคู่แบ่งปันประสบการณ์การเติบโตจากสตาร์ทอัพสู่องค์กรระดับบิ๊ก รวมถึงบทเรียนที่ได้ ไม่ว่าจะมาจากความสำเร็จหรือล้มเหลว คุณวัตสันให้รายละเอียดว่า 'สตาร์ทอัพในระยะเริ่มต้น' ต้องการความช่วยเหลือทั้งด้านเงินทุน เทคนิค เทคโนโลยี และการเชื่อมต่อกับเครือข่ายเพื่อช่วยให้ประสบความสำเร็จ ทาง AWS จึงสร้างทางเชื่อมให้สตาร์ทอัพพบปะนักลงทุน (VC) และผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ผ่าน AWS Activate โครงการที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2556 โดยสตาร์ทอัพที่เข้าโครงการจะได้ AWS Credits เพื่อใช้ทดลองและพัฒนาไอเดียเป็นรูปธรรม จนปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมโครงการแล้วราว 330,000 รายทั่วโลก "ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา เราให้การสนับสนุนโครงการ AWS Activate ทั่วโลกไปแล้วกว่า 7,000 ล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะปีที่แล้วเพียงปีเดียว เราสนับสนุนไป 2,000 ล้านดอลลาร์ แสดงให้เห็นถึงการเร่งการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดคือ มากกว่า 80% ของบริษัทระดับยูนิคอร์นทั่วโลกใช้บริการ AWS" คุณวัตสันให้ข้อมูลตัวเลข นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager ของ บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส ประเทศไทย (Amazon Web Services: AWS) บริษัทในเครือของ Amazon.com เปิดเผยว่าธุรกิจในประเทศไทยมีความตื่นตัวและมุ่งมั่น อย่างมากในการพัฒนานวัตกรรมด้วยเทคโนโลยี AI โดยระดับการนำไปใช้ที่สูงสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดชี้ให้เห็นว่ายังมีอุปสรรคสำคัญหลายประการ โดยเฉพาะในองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการพัฒนาการใช้งาน AI ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น เพื่อรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันของประเทศไทยบนเวทีด้าน AI ระดับโลก ทั้งภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมจำเป็นต้องร่วมมือกันแก้ไขอุปสรรคที่ภาคธุรกิจกำลังเผชิญอยู่อย่างเป็นระบบ ทาง AWS ยังคงมุ่งมั่นสนับสนุนการใช้งาน Generative AI อย่างแพร่หลาย ผ่านการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและโครงการพัฒนาทักษะบุคลากรอย่างต่อเนื่อง
โดยผลการศึกษา “Unlocking Thailand’s AI Potential” AWS ล่าสุดพบว่า แม้การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในไทยจะเติบโตต่อเนื่อง แต่เกิดช่องว่างที่กว้างขึ้นระหว่างบริษัทสตาร์ทอัพและบริษัทขนาดใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจมานาน ในด้านการประยุกต์ใช้ AI ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดเศรษฐกิจสองระดับ โดยสตาร์ทอัพที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีสามารถพัฒนานวัตกรรมได้เร็วกว่าและแซงหน้าธุรกิจดั้งเดิม การใช้ AI ในไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีธุรกิจ 150,000 รายนำ AI มาใช้ในปี 2567 หรือเฉลี่ยเกือบทุก 3 นาทีจะมีธุรกิจใหม่นำ AI มาใช้ ปัจจุบันมีธุรกิจ 600,000 ราย หรือ 32% ของธุรกิจทั้งประเทศที่นำ AI มาใช้แล้ว เพิ่มขึ้น 33% จากปีก่อน ด้านผลลัพธ์ทางธุรกิจ 67% ของธุรกิจที่ใช้ AI มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 17% ในขณะที่ 78% คาดว่าจะสามารถประหยัดต้นทุนได้เฉลี่ย... แม้การใช้ AI ในไทยจะแพร่หลายขึ้น แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ในระดับก้าวหน้า สะท้อนถึงความจำเป็นในการพัฒนาการใช้ AI ให้ลึกซึ้งขึ้นเพื่อปลดล็อกศักยภาพของประเทศ โดย 72% ของธุรกิจยังใช้ AI เพียงขั้นพื้นฐาน เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงกระบวนการทำงาน มากกว่าการสร้างนวัตกรรมใหม่ มีเพียง 18% ที่ใช้ในระดับกลาง และ 10% ที่ผสาน AI เข้าเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตัดสินใจ และโมเดลธุรกิจ อัตราการใช้ AI ในภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 33% จากปีที่ผ่านมา โดยมีเพียง 16% ของบริษัทขนาดใหญ่ที่นำ AI มาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ เทียบกับสตาร์ทอัพที่มีสัดส่วนสูงถึง 40% 47% ของธุรกิจระบุว่า การขาดทักษะดิจิทัลเป็นอุปสรรคสำคัญในการขยายการใช้ AI กรุงเทพฯ 6 ตุลาคม 2568 – อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) บริษัทในเครือของ Amazon.com เปิดเผยผลการศึกษาพบว่า แม้การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในไทยจะเติบโตต่อเนื่อง แต่เกิดช่องว่างที่กว้างขึ้นระหว่างบริษัทสตาร์ทอัพและบริษัทขนาดใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจมานาน ในด้านการประยุกต์ใช้ AI ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดเศรษฐกิจสองระดับ โดยสตาร์ทอัพที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีสามารถพัฒนานวัตกรรมได้เร็วกว่าและแซงหน้าธุรกิจดั้งเดิม
การใช้ AI ในไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีธุรกิจ 150,000 รายนำ AI มาใช้ในปี 2567 หรือเฉลี่ยเกือบทุก 3 นาทีจะมีธุรกิจใหม่นำ AI มาใช้ ปัจจุบันมีธุรกิจ 600,000 ราย หรือ 32% ของธุรกิจทั้งประเทศที่นำ AI มาใช้แล้ว เพิ่มขึ้น 33% จากปีก่อน ด้านผลลัพธ์ทางธุรกิจ 67% ของธุรกิจที่ใช้ AI มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 17% ในขณะที่ 78% คาดว่าจะสามารถประหยัดต้นทุนได้เฉลี่ย... AWS ร่วมกับ Strand Partners สำรวจการใช้ AI ในไทยผ่านการศึกษา “Unlocking Thailand's AI Potential” โดยเก็บข้อมูลจากผู้นำธุรกิจและประชาชนทั่วไป กลุ่มละ 1,000 รายในประเทศไทย [น่ากังวล] เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา Amazon Web Services (AWS) ประเทศไทย ได้เผยผลการสำรวจน่าสนใจ พบไทยมีการใช้ AI ในภาคธุรกิจพุ่งสูงขึ้นถึง 33% ในปีเดียว โดยเฉพาะกลุ่มสตาร์ทอัพที่มีความคล่องตัวสูง แต่ขณะเดียวกัน ฝั่งบริษัทขนาดใหญ่กลับปรับตัวได้ช้ากว่า อาจนำไปสู่ “เศรษฐกิจสองระดับ” ที่นวัตกรรมกระจุกตัวอยู่แค่ในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแทน แม้ภาพรวมการใช้ AI ในไทยจะดูสดใส โดยมีธุรกิจกว่า 600,000 รายนำ AI มาปรับใช้แล้ว แต่เมื่อเจาะลึกลงไปกลับพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ ผลการศึกษาชี้ว่าธุรกิจส่วนใหญ่ 72% ยังคงใช้ AI ในระดับพื้นฐาน เช่น การปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อลดต้นทุน มากกว่าการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ แต่ในทางกลับกัน กลุ่มสตาร์ทอัพกลับมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจกว่ามาก โดยมีสตาร์ทอัพ 40% กำลังพัฒนานวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใหม่ ๆ ที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างเต็มรูปแบบ ส่วนฝั่งบริษัทขนาดใหญ่กลับมีเพียง 16% ที่ทำในสิ่งเดียวกัน SME ก็อยู่ที่ 9% เท่านั้น นิค บอนสโตว์ (Nick Bonstow) ผู้อำนวยการจาก Strand Partners ที่ได้ร่วมศึกษาผลสำรวจนี้ ก็ชี้เลยว่าการเกิดขึ้นของเศรษฐกิจ AI แบบสองระดับนี้ อาจส่งผลกระทบระยะยาวต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย เราไม่ควรพิจารณาเพียงตัวเลขการนำ AI มาใช้เท่านั้น เพราะอาจทำให้มองข้ามความท้าทายที่แท้จริงที่ธุรกิจไทยจำนวนมากกำลังเผชิญอยู่
สำหรับอุปสรรคใหญ่ของช่องว่างนี้ ก็เกิดจาก ‘ทักษะรายบุคคลคน’ และ ‘ความไม่แน่นอนด้านกฎหมาย’ โดยผลการศึกษาได้ชี้ไปที่ 2 อุปสรรคหลักตามนี้ อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) บริษัทในเครือของ Amazon.com เปิดเผยผลการศึกษาพบว่า แม้การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในไทยจะเติบโตต่อเนื่อง แต่เกิดช่องว่างที่กว้างขึ้นระหว่างบริษัทสตาร์ทอัพและบริษัทขนาดใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจมานาน ในด้านการประยุกต์ใช้ AI ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดเศรษฐกิจสองระดับ โดยสตาร์ทอัพที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีสามารถพัฒนานวัตกรรมได้เร็วกว่าและแซงหน้าธุรกิจดั้งเดิม การใช้ AI ในไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีธุรกิจ 150,000 รายนำ AI มาใช้ในปี 2567 หรือเฉลี่ยเกือบทุก 3 นาทีจะมีธุรกิจใหม่นำ AI มาใช้ ปัจจุบันมีธุรกิจ 600,000 ราย หรือ 32% ของธุรกิจทั้งประเทศที่นำ AI มาใช้แล้ว เพิ่มขึ้น 33% จากปีก่อน ด้านผลลัพธ์ทางธุรกิจ 67% ของธุรกิจที่ใช้ AI มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 17% ในขณะที่ 78% คาดว่าจะสามารถประหยัดต้นทุนได้เฉลี่ย... AWS ร่วมกับ Strand Partners สำรวจการใช้ AI ในไทยผ่านการศึกษา “Unlocking Thailand’s AI Potential” โดยเก็บข้อมูลจากผู้นำธุรกิจและประชาชนทั่วไป กลุ่มละ 1,000 รายในประเทศไทย การใช้ AI ในธุรกิจไทยแพร่หลาย แต่ส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับพื้นฐาน แม้การใช้ AI ในไทยจะแพร่หลายขึ้น แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ในระดับก้าวหน้า สะท้อนถึงความจำเป็นในการพัฒนาการใช้ AI ให้ลึกซึ้งขึ้นเพื่อปลดล็อกศักยภาพของประเทศ โดย 72% ของธุรกิจยังใช้ AI เพียงขั้นพื้นฐาน เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงกระบวนการทำงาน มากกว่าการสร้างนวัตกรรมใหม่ มีเพียง 18% ที่ใช้ในระดับกลาง และ 10% ที่ผสาน AI เข้าเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตัดสินใจ และโมเดลธุรกิจ
AWS ร่วมกับ Strand Partners สำรวจการใช้ AI ในไทยผ่านการศึกษา “Unlocking Thailand’s AI Potential” โดยเก็บข้อมูลจากผู้นำธุรกิจและประชาชนทั่วไป พบว่า แม้การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในไทยจะเติบโตต่อเนื่อง แต่เกิดช่องว่างที่กว้างขึ้นระหว่างบริษัทสตาร์ทอัพและบริษัทขนาดใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจมานานในด้านการประยุกต์ใช้ AI สตาร์ทอัพไทยมีความกระตือรือร้นและสร้างสรรค์ในการใช้ AI โดยนำ AI ขั้นสูงมาใช้เร็วกว่าบริษัทที่มีมานาน โดย 50% ของสตาร์ทอัพใช้ AI ในรูปแบบต่าง ๆ และ 40% กำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างเต็มศักยภาพ ในขณะที่บริษัทขนาดใหญ่จะใช้ AI แต่กว่า 75% ยังใช้แค่ระดับพื้นฐาน มีเพียง 16% ที่สร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ด้วย AI และ 18% ที่มีกลยุทธ์ AI ครอบคลุม ส่วนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) มีเพียง 9% ที่ใช้ในระดับก้าวหน้าที่สุด ช่องว่างด้านนวัตกรรม AI นี้อาจส่งผลสำคัญต่ออนาคตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย คุณวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager ของ AWS ประเทศไทย กล่าวว่า “ธุรกิจในประเทศไทยมีความตื่นตัวและมุ่งมั่น อย่างมากในการพัฒนานวัตกรรมด้วยเทคโนโลยี AI โดยระดับการนำไปใช้ที่สูงสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดนี้ ชี้ให้เห็นว่ายังมีอุปสรรคสำคัญหลายประการ โดยเฉพาะในองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการพัฒนาการใช้งาน AI ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น” กระแสการปรับใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในภาคธุรกิจไทยปี 2025 กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ผลสำรวจล่าสุดที่ทาง AWS (Amazon Web Services) ทำร่วมกับพันธมิตร ซึ่งระบุว่า อัตราการนำ AI ไปใช้ในองค์กรได้เพิ่มขึ้นจาก 27% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 32% ในปีนี้ สถิตินี้สะท้อนความตื่นตัวในระดับที่ว่า ในทุก ๆ 3 นาที จะมีบริษัทไทย 1 แห่ง เริ่มต้นนำ AI มาใช้งาน
อย่างไรก็ตาม หากวิเคราะห์ในเชิงคุณภาพ ภายใต้ตัวเลขการเติบโตนี้กลับพบว่า การใช้งาน AI ส่วนใหญ่ยังคงจำกัดอยู่ในระดับพื้นฐาน ผลสำรวจชี้ชัดว่า องค์กรไทยถึง 72% ยังคงอยู่ในช่วงการสำรวจ (Explore) ซึ่งหมายถึงการทดลองใช้ AI สำหรับ Use case ง่ายๆ เช่น การทำรายงาน หรือการช่วยสรุปข้อมูล ขณะที่มีเพียง 18% เท่านั้น ที่ก้าวไปสู่ขั้นการบูรณาการ (Integrate) หรือการนำ AI ไปผนวกเข้ากับกระบวนการทำงานที่เฉพาะทางมากขึ้น เช่น ระบบงานด้านการเงิน หรือการขายและการตลาด และมีองค์กรเพียง 10% ที่สามารถใช้ AI เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนโมเดลธุรกิจใหม่ (Business Model) ตลอดจนสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ขึ้นมาได้จริง ภาพที่สะท้อนออกมานี้จึงชี้ให้เห็นว่า แม้ภาคธุรกิจไทยจะมีความตื่นตัวอย่างสูง แต่การนำ AI ไปใช้งานเชิงลึกเพื่อปลดล็อกศักยภาพของเทคโนโลยีอย่างเต็มที่นั้น ยังคงเป็นความท้าทายสำคัญ ฉัตรชัย กำลังเดช Head of Technology, AWS Thailand กล่าวภายในงาน Bitkub Summit 2025 ว่า จากรายงานสามารถวิเคราะห์ถึง 3 อุปสรรคสำคัญ ที่ขัดขวางไม่ให้องค์กรไทยส่วนใหญ่สามารถก้าวข้ามจากการทดลองใช้ AI ในระดับพื้นฐาน ไปสู่การใช้งานในระดับที่ซับซ้อนหรือขั้นสูงได้ อุปสรรคประการแรก คือ ช่องว่างด้านทักษะ (Skill Gap) ซึ่งยังคงเป็นปัญหาสำคัญ ผู้ประกอบการจำนวนมากมองว่าบุคลากรที่มีอยู่ในปัจจุบันยังขาดทักษะที่เพียงพอต่อการใช้งานเทคโนโลยีใหม่ สะท้อนจากข้อเท็จจริงที่ว่า ในปีที่ผ่านมา มีพนักงานเพียง 34% เท่านั้นที่ได้รับโอกาสในการเข้าอบรมด้าน AI
People Also Search
- Aws ชี้ สตาร์ทอัพไทยใช้ Ai พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่มากถึง 40% ส่วนบริษัทใหญ่ ...
- 'Ai' ไทยยังร้อนแรง จับตา! สตาร์ทอัพแซงองค์กรใหญ่ในสนามนวัตกรรม
- บทบาท AWS ต่อธุรกิจสตาร์ทอัพ และการสนับสนุน SCB 10X พัฒนา 'Typhoon ...
- Ai ไทย โตแรง สตาร์ทอัพนำโด่ง พัฒนานวัตกรรมเร็วกว่าองค์กรใหญ่ 2 เท่า
- ผลการศึกษาล่าสุดจาก Aws ชี้ว่า การใช้ Ai ในไทยเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ...
- ไทยใช้ Ai พุ่ง สตาร์ทอัพขึ้นแท่น ทิ้งห่างบริษัทใหญ่
- Aws ชี้ไทยใช้ Ai เติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มสตาร์ทอัพ
- Aws เผยผลการศึกษา องค์กรใหญ่ในไทย มักบอกว่าตัวเองใช้ Ai แต่ 75% ใช้แค่ ...
- Ai ไทยโตเร็ว แต่ตื้นเขิน Aws ชี้ 72% ยังแค่ลองของ
อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) บริษัทในเครือของ Amazon.com เผยผลการศึกษาล่าสุด
อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) บริษัทในเครือของ Amazon.com เผยผลการศึกษาล่าสุด “Unlocking Thailand's AI Potential” ซึ่งจัดทำร่วมกับ Strand Partners พบว่า แม้การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในไทยจะเติบโตต่อเนื่อง ทว่าเกิดช่องว่างที่กว้างขึ้นระหว่างสตาร์ทอัพและบริษัทขนาดใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจมานาน ในด้านการประยุกต์ใช้ AI ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดเศรษฐกิจสองระดับ สตาร์ทอัพที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโ...
ไม่นานมานี้ เทคซอสมีโอกาสสัมภาษณ์ คุณวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager, AWS ประเทศไทย ในด้านการสนับสนุนสตาร์ทอัพ คุณวัตสันเล่าว่า
ไม่นานมานี้ เทคซอสมีโอกาสสัมภาษณ์ คุณวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager, AWS ประเทศไทย ในด้านการสนับสนุนสตาร์ทอัพ คุณวัตสันเล่าว่า หลังจากที่ Amazon เริ่มให้บริการเทคโนโลยีคลาวด์ ผู้ใช้งานกลุ่มแรก ๆ ที่ให้การตอบรับอย่างดีก็คือ กลุ่มสตาร์ทอัพ ซึ่งมีรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างจากองค์กรขนาดใหญ่ และตั้งแต่ตอนนั้น Amazon ก็ให้ความสำคัญและปักธงสนับสนุนสตาร์ทอัพทั่วโลก สำหรับประเทศไทย Amazon จัดตั้งท...
โดยผลการศึกษา “Unlocking Thailand’s AI Potential” AWS ล่าสุดพบว่า แม้การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในไทยจะเติบโตต่อเนื่อง
โดยผลการศึกษา “Unlocking Thailand’s AI Potential” AWS ล่าสุดพบว่า แม้การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในไทยจะเติบโตต่อเนื่อง แต่เกิดช่องว่างที่กว้างขึ้นระหว่างบริษัทสตาร์ทอัพและบริษัทขนาดใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจมานาน ในด้านการประยุกต์ใช้ AI ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดเศรษฐกิจสองระดับ โดยสตาร์ทอัพที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีสามารถพัฒนานวัตกรรมได้เร็วกว่าและแซงหน้าธุรกิจดั้งเดิม การใช้ AI ในไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีธุ...
การใช้ AI ในไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีธุรกิจ 150,000 รายนำ AI มาใช้ในปี 2567 หรือเฉลี่ยเกือบทุก
การใช้ AI ในไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีธุรกิจ 150,000 รายนำ AI มาใช้ในปี 2567 หรือเฉลี่ยเกือบทุก 3 นาทีจะมีธุรกิจใหม่นำ AI มาใช้ ปัจจุบันมีธุรกิจ 600,000 ราย หรือ 32% ของธุรกิจทั้งประเทศที่นำ AI มาใช้แล้ว เพิ่มขึ้น 33% จากปีก่อน ด้านผลลัพธ์ทางธุรกิจ 67% ของธุรกิจที่ใช้ AI มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 17% ในขณะที่ 78% คาดว่าจะสามารถประหยัดต้นทุนได้เฉลี่ย... AWS ร่วมกับ Strand Partners สำรวจการใช้ AI ในไ...
สำหรับอุปสรรคใหญ่ของช่องว่างนี้ ก็เกิดจาก ‘ทักษะรายบุคคลคน’ และ ‘ความไม่แน่นอนด้านกฎหมาย’ โดยผลการศึกษาได้ชี้ไปที่ 2 อุปสรรคหลักตามนี้ อะเมซอน เว็บ
สำหรับอุปสรรคใหญ่ของช่องว่างนี้ ก็เกิดจาก ‘ทักษะรายบุคคลคน’ และ ‘ความไม่แน่นอนด้านกฎหมาย’ โดยผลการศึกษาได้ชี้ไปที่ 2 อุปสรรคหลักตามนี้ อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) บริษัทในเครือของ Amazon.com เปิดเผยผลการศึกษาพบว่า แม้การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในไทยจะเติบโตต่อเนื่อง แต่เกิดช่องว่างที่กว้างขึ้นระหว่างบริษัทสตาร์ทอัพและบริษัทขนาดใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจมานาน ในด้านการประยุกต์ใช้ AI ...