Tdri เผย 4 เมกะเทรนด์ สร้างโอกาสขับเคลื่อนธุรกิจ

Leo Migdal
-
tdri เผย 4 เมกะเทรนด์ สร้างโอกาสขับเคลื่อนธุรกิจ

ดร.กิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการวิจัยนโยบายเศรษฐกิจระห่างประเทศและการพัฒนา และผู้อำนวยการโครงการวิเคราะห์เศรษฐกิจเชิงลึก สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวในงานสัมมนา THAILAND ECONOMIC DRIVES หัวข้อเรื่อง “NEW BUSINESS กับการขับเคลื่อน” ว่า แม้ว่าประเทศไทยยังเผชิญกับความไม่แน่นอน แต่เรายังมีโอกาสจากการปรับโมเดลธุรกิจ หรือการสร้างธุรกิจใหม่ๆ โดยมองว่าเมกะเทรนด์ที่จะมีในโลก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อีก 10 -20 ปี เทรนด์เหล่านั้นก็ยังอยู่กับเรา แบ่งเป็น 4 เทรนด์ ได้แก่ 1.ภูมิรัฐศาสตร์ ปัจจุบันยังเผชิญกับ การเมืองโลก ซึ่งนำมาซึ่งความเสี่ยงต่างๆ เช่น สงคราม การกีดกันการค้า โดยอเมริกา ก็ยังมีความขัดแย้งกับจีน ฉะนั้น ซับพลายเชนในโลกกำลังปรับ ไปยังประเทศต่างๆ ที่เป็นเพื่อนเขา บางส่วนย้ายกลับไปประเทศแม่ บางส่วนมองการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่เป็นมิตร สำหรับการย้ายฐานการลงทุนอย่างมหาศาลในครั้งนี้ไม่ได้มีมาบ่อย 50 ปีมาครั้ง ถือเป็นโอกาสของไทย โดยการย้ายฐานการลงทุนมีมา 4-5 ปีที่ผ่านมา ทั้งจากสงครามการค้า และหนีการดิสรัปชั่นที่มาประเทศไทยมีจำนวนไม่น้อย ทั้งนี้ มองว่าเทรนด์นี้จะไม่จบง่ายๆ ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมที่ย้ายฐานการผลิตมาไทยก็ไม่ใช่สินค้าที่ใช้แรงงานเข้มข้น ส่วนใหญ่ไทยจะได้สินค้าเป็นธุรกิจใหม่ เช่น อีวี อิเล็กทรอนิกส์ และดาต้าเซ็นเตอร์ เป็นต้น ทั้งนี้ จากข้อมูลการลงทุนที่มาขอสิทธิประโยชน์จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) พบว่า เทรนด์ที่ผ่านมา ประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไต้หวัน และจีน ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ล่าสุด สำนักข่าว PostToday จัดสัมมนา “PostToday Thailand Economic Drive 2024 ฝ่ามรสุมเศรษฐกิจปี 2567 เพื่อให้เห็นมุมมองเศรษฐกิจ การปรับตัว และโอกาสของภาคธุรกิจไทย เพื่อรอดพ้นจากวิกฤติที่กำลังจะเกิดขึ้นในระยะข้างหน้า

“กิริฎา เภาพิจิตร” ผู้อำนวยการวิจัยนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศและการพัฒนา และผู้อำนวยการโครงการวิเคราะห์เศรษฐกิจเชิงลึก ทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า แม้ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่เล็ก สูงวัย และกำลังซื้อในประเทศไม่ได้มากนัก แต่ไทยสามารถฉกฉวยโอกาสจากตลาดโลกได้ จาก 4 เมกะเทรนด์ เมกะเทรนด์แรก ภูมิรัฐศาสตร์ ที่นำมาสู่ความเสี่ยงมากขึ้น ทำให้เกิดทั้งสงครามระหว่างประเทศ การกีดกันทางการค้า ในช่วงซัพพลายเชนโลกกำลังปรับเปลี่ยน ทำให้เกิดการย้ายฐานการผลิตการลงทุนอย่างมหาศาล ในรอบ 50 ปี เหล่านี้คือ โอกาสของธุรกิจประเทศไทยในการปรับตัว เพื่อทำให้ดึงดูดการลงทุนเหล่านี้เข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะ สินค้าที่เป็นนิวบิซิเนส เช่น สินค้าไฮเทค เช่น ยานยนต์อีวี อิเล็กทรอนิกส์ ดาต้าเซ็นเตอร์ ดิจิทัลเทคโนโลยี เหล่านี้มีโอกาสย้ายเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น เมกะเทรนด์ที่สอง สินค้าที่เกี่ยวกับ Low carbon การลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ การไปสู่สังคมโลกคาร์บอนจึงเป็นการสร้างโอกาสสำหรับนิวบิซิเนสมากขึ้น กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – เวทีสัมมนา “Future Forum 2025: – Great Transformation” ซึ่งมีนักวิชาการและผู้นำภาคธุรกิจเข้าร่วมกว่า 250 คน บรรยากาศเต็มไปด้วยการตื่นตัวต่อสภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังเผชิญกับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาและได้รับการยอมรับตรงกันคือ ทุกภาคส่วนจำเป็นต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วนเพื่อรับมือกับ “The Great Transformation” ครั้งนี้ นายเฮง สวี เกียต อดีตรองนายกรัฐมนตรีและประธานมูลนิธิวิจัยแห่งชาติของสิงคโปร์ (National Research Foundation, Singapore) ได้ให้ทรรศนะที่น่าสนใจในหัวข้อ “Economic Transformation for Peoples, For Planet” โดยระบุว่า โลกได้ผ่านวิกฤตการณ์สำคัญมาแล้ว 2 รูปแบบในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา คือวิกฤตเศรษฐกิจ (วิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 และวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ปี 2551) และวิกฤตโรคระบาด (โควิด-19) แม้วิกฤตเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบ แต่เศรษฐกิจโลกยังคงเติบโตต่อไปได้แม้จะในอัตราที่ชะลอตัวลง ทว่า วิกฤตโควิด-19 ได้กลายเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งมโหฬาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้ามาของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนภูมิทัศน์โลกไปอย่างสิ้นเชิง

นายเฮง สวี เกียต ได้สรุปเมกะเทรนด์ที่กำลังขับเคลื่อนโลกในปัจจุบันภายใต้แนวคิด “4D” ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “สิงคโปร์ได้นำเทรนด์ทั้ง 4 มาเป็นแกนหลักในการวางกลยุทธ์บริหารประเทศ โดยเน้นการพัฒนาบุคลากรให้ก้าวทันเทคโนโลยี, การทำข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ซึ่งปัจจุบันมีถึง 28 ฉบับ, การบริหารจัดการด้วยหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) และการปรับใช้เทคโนโลยีในทุกภาคส่วน” นายเฮง สวี เกียต กล่าว เขายังเน้นย้ำว่า “ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงนี้ AI จะเป็นขุมพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ แต่หัวใจหลักคือการพัฒนาศักยภาพของประชากรให้สามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีได้ ภาคเอกชนต้องเปลี่ยนวิธีคิด ปรับกลยุทธ์ และเปิดกว้างในการร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตท่ามกลางความผันผวน” "กิริฎา" ทีดีอาร์ไอ ย้ำกลางเวที Posttoday Thailand Economic Drive 2024 ชี้ 4 เมกะเทรนด์โลก ช่วยดันไทยสู่เวทีโลก เผยโอกาสไทยมีเพียบ พร้อมนำวิจัยไปต่อยอดธุรกิจใหม่ แนะใช้พลังสร้างสรรค์ควบคู่ซอฟต์พาวเวอร์ ชดันเศรษฐกิจไทยโต ควันหลงเวที Posttoday Thailand ECONOMIC DRIVE 2024 "ฝ่ามรสุมเศรษฐกิจ 2567" ในหัวข้อ New Business กับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ยังมีมุมมองจากหลายท่านที่น่าสนใจ ตอนหนึ่ง ดร.กิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการวิจัยนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศและการพัฒนา และผู้อำนวยการโครงการวิเคราะห์เศรษฐกิจเชิงลึก TDRI กล่าวว่า ธุรกิจใหม่ที่ประเทศไทยน่าจะมีโอกาสในเวทีโลก ทั้งเรื่องสินค้า บริการ อย่างที่เราทราบ Mega Trend(เมกะเทรนด์) ในโลกอนาคต จะยังอยู่กับเราอีกนาน โดยแต่ละเรื่องล้วนเป็นโอกาสของประเทศและธุรกิจใหม่ๆ ดังนี้ 1.ภูมิรัฐศาสตร์ การเมืองโลก แม้จะนำมาซึ่งความเสี่ยงสงคราม การกีดกันทางการค้า Supply Chain ในโลกกำลังปรับ มีทั้งย้ายการลงทุน ย้ายออกจากประเทศแม่ ไปหาประเทศที่เป็นมิตร ประเทศไทยไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ยินดีต้อนรับการลงทุน โดยเฉพาะในธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนด์ ธุรกิจใหม่เกี่ยวกับ ชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า ดาต้าเซ็นเตอร์ เมื่อดูตัวเลขลงทุนขอสิทธิประโยชน์จาก บีโอไอ ช่วง2-3ปีที่ผ่านมา ได้รับสิทธิบัตรจากบีโอไอไปมากมาย ประเทศที่มาส่วนใหญ่เกี่ยวกับ อิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ทางชีวภาพ อาหารในอนาคต ผงโปรตีนมาจากแมลง บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ ถือว่าโอกาสของประเทศมาแล้ว ในท่ามกลางการเมืองโลก

2.เมกกะเทรนด์ เกี่ยวกับการลดคาร์บอน ในทุกธุรกิจที่จะมาลงทุนในประเทศ ต้องนำไปสู่สังคม โลว์คาร์บอนให้ได้ ไม่ว่าจะเป็น การจัดหาพลังงานสะอาด การเก็บกักพลังงานแบตเตอร์รี่ ชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงชิ้นส่วนเครื่องขนส่งทางอากาศ น้ำมันเติมเครื่องบินสีเขียว ที่มาจากน้ำมันทำกับข้าวใช้แล้ว เศษอาหาร สินค้าเกษตร นำมากลั่นใหม่กลายเป็น น้ำมันสีเขียวสำหรับเครื่องบิน โปรตีนไม่ได้มาจากเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์มาจากผงแมลง ทั้งนี้แต่ละบริษัทที่จะมาลงทุน ภายในปี2050 จะต้องลด Carbon Footprint ให้ได้ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่จะมากับธุรกิจและสังคมสีเขียว 3.เทคโนโลยีกับเอไอ ได้ดึงดูดการลงทุนให้เข้ามาในประเทศ ในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แทบเล็ต มือถือ Tele Medicine ที่ประเทศไทยสามารถใช้โอกาสเทคโนโลยีแพร่กระจายไปทั่วโลก ในการนำไปต่อยอดทางธุรกิจใหม่ๆ ในส่วนของการใช้ เอไอ มากที่สุดพบว่าเป็นธุรกิจเกี่ยวกับ สุขภาพ รองลงไปเกี่ยวกับธุรกิจการจัดการข้อมูล การเงิน การค้าปลีก ขณะเดียวกันการเข้ามาตั้งบริษัทดาต้า เซ็นเตอร์ ที่เข้ามาตั้งในประเทศไทย เมื่อมาตั้งแล้ว จะต้องลดคาร์บอนได้ แต่ละอุตสาหกรรมล้วนผูกกัน ซึ่งถือเป็นโอกาส การใช้เทคโนโลยีเอไอ ในการนำไปต่อยอดเป็นธุรกิจใหม่ได้เช่นกัน ที่โรงแรมอีสตินแกรนด์ พญาไท ดร.กิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการวิจัยนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศและการพัฒนา และผู้อำนวยการโครงการวิเคราะห์เศรษฐกิจเชิงลึก TDRI กล่าวในงาน Posttoday Thailand ECONOMIC DRIVE 2024 "ฝ่ามรสุมเศรษฐกิจ 2567" ในหัวข้อ New Business กับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ตอนหนึ่งว่า จะมานำเสนองานวิจัย วิเคราะห์เกี่ยวกับธุรกิจใหม่ ที่ประเทศไทยน่าจะมีโอกาสในเวทีโลก ทั้งเรื่องสินค้า บริการ อย่างที่เราทราบ Mega Trend(เมกะเทรนด์) ในโลกอนาคต จะยังอยู่กับเราอีกนาน โดยแต่ละเรื่องล้วนเป็นโอกาสของประเทศและธุรกิจใหม่ๆ 1.ภูมิรัฐศาสตร์ การเมืองโลก แม้จะนำมาซึ่งความเสี่ยงสงคราม การกีดกันทางการค้า Supply Chain ในโลกกำลังปรับ มีทั้งย้ายการลงทุน ย้ายออกจากประเทศแม่ ไปหาประเทศที่เป็นมิตร ประเทศไทยไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ยินดีต้อนรับการลงทุน โดยเฉพาะในธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนด์ ธุรกิจใหม่เกี่ยวกับ ชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า ดาต้าเซ็นเตอร์ เมื่อดูตัวเลขลงทุนขอสิทธิประโยชน์จาก บีโอไอ ช่วง2-3ปีที่ผ่านมา ได้รับสิทธิบัตรจากบีโอไอไปมากมาย ประเทศที่มาส่วนใหญ่เกี่ยวกับ อิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ทางชีวภาพ อาหารในอนาคต ผงโปรตีนมาจากแมลง บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ ถือว่าโอกาสของประเทศมาแล้ว ในท่ามกลางการเมืองโลก 2. เมกกะเทรนด์ เกี่ยวกับการลดคาร์บอน ในทุกธุรกิจที่จะมาลงทุนในประเทศ ต้องนำไปสู่สังคม โลว์คาร์บอนให้ได้ ไม่ว่าจะเป็น การจัดหาพลังงานสะอาด การเก็บกักพลังงานแบตเตอรี่ ชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงชิ้นส่วนเครื่องขนส่งทางอากาศ น้ำมันเติมเครื่องบินสีเขียว ที่มาจากน้ำมันทำกับข้าวใช้แล้ว เศษอาหาร สินค้าเกษตร นำมากลั่นใหม่กลายเป็น น้ำมันสีเขียวสำหรับเครื่องบิน โปรตีนไม่ได้มาจากเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์มาจากผงแมลง ทั้งนี้แต่ละบริษัทที่จะมาลงทุน ภายในปี2050 จะต้องลด Carbon Footprint ให้ได้ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่จะมากับธุรกิจและสังคมสีเขียว

3. เทคโนโลยีกับเอไอ ได้ดึงดูดการลงทุนให้เข้ามาในประเทศ ในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิสก์ แทบเล็ต มือถือ Tele Medicine ที่ประเทศไทยสามารถใช้โอกาสเทคโนโลยีแพร่กระจายไปทั่วโลก ในการนำไปต่อยอดทางธุรกิจใหม่ๆ ในส่วนของการใช้ เอไอ มากที่สุดพบว่าเป็นธุรกิจเกี่ยวกับ สุขภาพ รองลงไปเกี่ยวกับธุรกิจการจัดการข้อมูล การเงิน การค้าปลีก ขณะเดียวกันการเข้ามาตั้งบริษัทดาต้า เซ็นเตอร์ ที่เข้ามาตั้งในประเทศไทย เมื่อมาตั้งแล้ว จะต้องลดคาร์บอนได้ แต่ละอุตสาหกรรมล้วนผูกกัน ซึ่งถือเป็นโอกาส การใช้เทคโนโลยีเอไอ ในการนำไปต่อยอดเป็นธุรกิจใหม่ได้เช่นกัน 4.สังคมผู้สูงวัย ที่คนอายุ65ปี จะมีมากขึ้น ต่างต้องการสินค้า บริการแตกต่างทางสังคม แม้ส่วนใหญ่จะอยู่ในประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่ไทยก็รวมอยู่ในนั้นด้วยที่มีประชากรสูงวัยจำนวนมากด้วย ดังนั้น ธุรกิจเกี่ยวอาหารที่เป็นสีเขียว ดีต่อสุขภาพ การจัดชั้นในร้านค้าปลีก ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่เอื้อต่อคนสูงวัย Health Care บ้านที่ต้องปรับปรุงเป็นสมาร์ทโฮม การท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัย ผลิตภัณฑ์การเงินใหม่ที่จะแปรเปลี่ยนสินทรัพย์เป็นเงิน เป็นเรื่องที่ตอบโจทย์ในวันข้างหน้าและเป็นโอกาส หลังจากเวที COP28 (Conference of the Parties ครั้งที่ 28) ณ ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) มีบทสรุปทิศทางการเคลื่อนทุน นโยบาย และสังคมทั่วโลก ไปสู่การเพิ่มความเข้มข้นมากกว่าสัญญาทางใจ หรือ แค่ภาคสมัครใจ มาสู่พันธสัญญาแห่งการต้องลงมือทำ (In Action) มีกลไกการติดตาม และมีเงื่อนไขเวลา เพื่อร่วมมือกันควบคุมอุณหภูมิบนโลกไม่เพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศา มีความเข้มข้น ลงมือปฏิบัติสร้างกรอบการทำงานให้สมาชิกกลับไปวางแผนเส้นทางไปสู่การลดคาร์บอน 45-50% ภายในปี 2030 จนคาร์บอนเป็นศูนย์(Net Zero) ภายในปี... ปี 2024 จึงเป็นจุดเปลี่ยน !! เรากำลังก้าวข้ามสิ่งที่สร้างปัญหาในอดีต ธุรกิจได้เคยทำไว้ จนนำไปสู่การสร้างปัญหาวิกฤติสภาพภูมิอากาศ

ก้าวขึ้นสู่ปี 2024 เทรนด์ธุรกิจจึงมาพร้อมกันกับการพาองค์กรปรับโครงสร้าง โมเดลธุรกิจ ยืดหยุ่น สร้างความยั่งยืนจากภายใน รองรับปัจจัยซับซ้อนหลากหลายด้าน ต้องออกแบบภูมิทัศน์ใหม่ สร้างโอกาสการพัฒนา ให้ยืดหยุ่น ปรับกลยุทธ์ และลงมือทำให้สอดคล้องกันกับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน ที่มีความไม่แน่นอนคาดเดายาก และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้น เพื่อปิดช่องว่างของการแปลงกลยุทธ์ธุรกิจให้มีข้อพิสูจน์การดำเนินงานอยู่บนหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ตามพันธสัญญา ทั้งการลดคาร์บอน การขับเคลื่อนเพื่อความยั่งยืนได้ เพื่อนำมาสู่การดำเนินธุรกิจให้เติบโต ก้าวข้ามข้อครหาของการฟอกเขียว (Green Washing) ทำดีแค่สร้างภาพ พูดอย่างทำอย่าง ไม่จริงใจแก้ไขปัญหา จึงต้องมีวิธีการหลอมรวมความยั่งยืนเข้าไปสู่กระบวนการทำธุรกิจในทุกระดับ แสดงให้โลกเห็นว่าสิ่งที่ทำนั้นมาจากความเข้าใจสิ่งแวดล้อม สังคม เชิงลึกที่แท้จริง

People Also Search

ดร.กิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการวิจัยนโยบายเศรษฐกิจระห่างประเทศและการพัฒนา และผู้อำนวยการโครงการวิเคราะห์เศรษฐกิจเชิงลึก สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวในงานสัมมนา THAILAND ECONOMIC DRIVES

ดร.กิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการวิจัยนโยบายเศรษฐกิจระห่างประเทศและการพัฒนา และผู้อำนวยการโครงการวิเคราะห์เศรษฐกิจเชิงลึก สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวในงานสัมมนา THAILAND ECONOMIC DRIVES หัวข้อเรื่อง “NEW BUSINESS กับการขับเคลื่อน” ว่า แม้ว่าประเทศไทยยังเผชิญกับความไม่แน่นอน แต่เรายังมีโอกาสจากการปรับโมเดลธุรกิจ หรือการสร้างธุรกิจใหม่ๆ โดยมองว่าเมกะเทรนด์ที่จะมีในโลก ไม่ว่าจะเกิดอะ...

“กิริฎา เภาพิจิตร” ผู้อำนวยการวิจัยนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศและการพัฒนา และผู้อำนวยการโครงการวิเคราะห์เศรษฐกิจเชิงลึก ทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า แม้ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่เล็ก สูงวัย และกำลังซื้อในประเทศไม่ได้มากนัก แต่ไทยสามารถฉกฉวยโอกาสจากตลาดโลกได้

“กิริฎา เภาพิจิตร” ผู้อำนวยการวิจัยนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศและการพัฒนา และผู้อำนวยการโครงการวิเคราะห์เศรษฐกิจเชิงลึก ทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า แม้ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่เล็ก สูงวัย และกำลังซื้อในประเทศไม่ได้มากนัก แต่ไทยสามารถฉกฉวยโอกาสจากตลาดโลกได้ จาก 4 เมกะเทรนด์ เมกะเทรนด์แรก ภูมิรัฐศาสตร์ ที่นำมาสู่ความเสี่ยงมากขึ้น ทำให้เกิดทั้งสงครามระหว่างประเทศ การกีดกันทางการค้า ในช่วงซัพพลายเชนโลกกำลังปรั...

นายเฮง สวี เกียต ได้สรุปเมกะเทรนด์ที่กำลังขับเคลื่อนโลกในปัจจุบันภายใต้แนวคิด “4D” ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “สิงคโปร์ได้นำเทรนด์ทั้ง 4 มาเป็นแกนหลักในการวางกลยุทธ์บริหารประเทศ โดยเน้นการพัฒนาบุคลากรให้ก้าวทันเทคโนโลยี,

นายเฮง สวี เกียต ได้สรุปเมกะเทรนด์ที่กำลังขับเคลื่อนโลกในปัจจุบันภายใต้แนวคิด “4D” ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “สิงคโปร์ได้นำเทรนด์ทั้ง 4 มาเป็นแกนหลักในการวางกลยุทธ์บริหารประเทศ โดยเน้นการพัฒนาบุคลากรให้ก้าวทันเทคโนโลยี, การทำข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ซึ่งปัจจุบันมีถึง 28 ฉบับ, การบริหารจัดการด้วยหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) และการปรับใช้เทคโนโลยีใ...

2.เมกกะเทรนด์ เกี่ยวกับการลดคาร์บอน ในทุกธุรกิจที่จะมาลงทุนในประเทศ ต้องนำไปสู่สังคม โลว์คาร์บอนให้ได้ ไม่ว่าจะเป็น การจัดหาพลังงานสะอาด การเก็บกักพลังงานแบตเตอร์รี่ ชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงชิ้นส่วนเครื่องขนส่งทางอากาศ

2.เมกกะเทรนด์ เกี่ยวกับการลดคาร์บอน ในทุกธุรกิจที่จะมาลงทุนในประเทศ ต้องนำไปสู่สังคม โลว์คาร์บอนให้ได้ ไม่ว่าจะเป็น การจัดหาพลังงานสะอาด การเก็บกักพลังงานแบตเตอร์รี่ ชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงชิ้นส่วนเครื่องขนส่งทางอากาศ น้ำมันเติมเครื่องบินสีเขียว ที่มาจากน้ำมันทำกับข้าวใช้แล้ว เศษอาหาร สินค้าเกษตร นำมากลั่นใหม่กลายเป็น น้ำมันสีเขียวสำหรับเครื่องบิน โปรตีนไม่ได้มาจากเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์มาจากผง...

3. เทคโนโลยีกับเอไอ ได้ดึงดูดการลงทุนให้เข้ามาในประเทศ ในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิสก์ แทบเล็ต มือถือ Tele Medicine ที่ประเทศไทยสามารถใช้โอกาสเทคโนโลยีแพร่กระจายไปทั่วโลก ในการนำไปต่อยอดทางธุรกิจใหม่ๆ

3. เทคโนโลยีกับเอไอ ได้ดึงดูดการลงทุนให้เข้ามาในประเทศ ในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิสก์ แทบเล็ต มือถือ Tele Medicine ที่ประเทศไทยสามารถใช้โอกาสเทคโนโลยีแพร่กระจายไปทั่วโลก ในการนำไปต่อยอดทางธุรกิจใหม่ๆ ในส่วนของการใช้ เอไอ มากที่สุดพบว่าเป็นธุรกิจเกี่ยวกับ สุขภาพ รองลงไปเกี่ยวกับธุรกิจการจัดการข้อมูล การเงิน การค้าปลีก ขณะเดียวกันการเข้ามาตั้งบริษัทดาต้า เซ็นเตอร์ ที่เข้ามาตั้งในประเทศไทย เมื่อม...