เส้นบางของ Greenwashing เมื่อความยั่งยืนต้องพิสูจน์ด้วยตัวเลขและข้อมูล
กรุงเทพธุรกิจศุภกร เอกชัยไพบูลย์ฝ่ายพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน 1ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การฟอกเขียวธุรกิจ หรือ Green Washing คือ การเปิดเผยข้อมูลหรือข้อความที่แสดงความเป็นมิตรต่อสังคมและ/หรือสิ่งแวดล้อมของธุรกิจที่เกินความเป็นจริง เพื่อหวังจะให้ธุรกิจสามารถขายของหรือสร้างกำไรบนความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม ผมเชื่อว่าผู้บริโภคยุคนี้รับรู้ได้ว่าข้อมูลแบบไหนที่เน้นขายบนความรู้สึกคนมากเกินไป และเมื่อบริษัทประพฤติไม่เหมาะสมหรือสร้างความเดือดร้อนให้ผู้มีส่วนได้เสีย เช่น การรั่วไหลของน้ำมันใน Deepwater Horizon ของ BP หรือเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการรายงานข้อมูลคาร์บอนและการปล่อยมลพิษของ Volkswagen ก็ทำให้เห็นแล้วว่า Green Wash เป็นความเสี่ยงที่ลบทุกความเชื่อมั่นจากธุรกิจ จนสร้างอิมแพคต่อเงินในกระเป๋าบริษัท สอดคล้องกับงานสำรวจของ Harvard Business Review (HBR)[1] ที่แสดงให้เห็นว่าผู้มีส่วนได้เสียจะลงโทษธุรกิจโดยการไม่ลงทุนหรือไม่ซื้อสินค้า และตีตราบริษัทนั้นว่าเป็นธุรกิจ Green Washing หากบริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามนโยบายและเป้าหมายที่สัญญาไว้ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ส่งผลเสียต่อทัศนคติทางสังคมที่มีต่อสินค้าและบริการของบริษัทในระยะยาว ในมิติการลงทุน ข้อมูล ESG ไม่ใช่ผงซักฟอกธุรกิจให้ขาวสะอาดใส ที่ทำให้ท่านมั่นใจว่าธุรกิจเก่ง ดี และพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในพอร์ตการลงทุนของท่าน การที่ทุกฝ่ายลุกขึ้นมาบอกให้ธุรกิจก็ต้องเปิดเผยข้อมูลที่เป็นด้านบวกและลบอย่างสมดุล โดยไม่มีกระบวนการตรวจสอบอย่างเป็นกลาง ยิ่งทับถมปัญหาการใช้ข้อมูล ESG ในการฟอกธุรกิจ ขณะที่คนเปิดเผยข้อมูลก็มองเป็นดาบสองคม เพราะถ้าเปิดข้อมูลที่ลบเกินไป คนก็ไม่กล้าลงทุนเพราะเสี่ยงสูง แต่ถ้าเปิดข้อมูลที่เป็นบวกเกินไป คนก็ไม่กล้าลงทุนอีกเพราะเห็นข้อมูลแค่ด้านเดียว มิหนำซ้ำการมีกระบวนการตรวจสอบทำให้ต้นทุนธุรกิจสูงขึ้นไปอีก ดังนั้น ถ้าต้องเลือก ธุรกิจก็จะเปิดเผยข้อมูลเท่าที่ทำได้ และรายงานแบบ propaganda “โปร ปะ กัน (โดน) ด่า” มากกว่า เราต้องมาขบคิดกันว่าจะจัดการปัญหา Green Washing แบบไหนที่ตอบโจทย์ทั้งธุรกิจและผู้บริโภคข้อมูล ผมอ่านแนวทางหลีกเลี่ยงปัญหาเบื้องต้น พบว่ามีหลากหลายวิธี เช่น การอ้างสิทธิ์ในสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ควรตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับของที่มาสินค้าได้ด้วย หรือบริษัทควรพิสูจน์ได้ว่าข้อมูลของสินค้า บริการ หรือการดำเนินธุรกิจมีหน่วยงานหรือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือเป็นผู้รับรองข้อมูลที่เป็นวิชาการ เป็นต้น ความยั่งยืนยังคงสำคัญ...
แต่ผู้บริโภคกำลังจับตา "Greenwashing"ในโลกธุรกิจปัจจุบัน ความยั่งยืน ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำศัพท์ที่น่าสนใจอีกต่อไป แต่กลายเป็นแกนหลักในการดำเนินธุรกิจที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางกระแสความตื่นตัวนี้ ผู้บริโภคก็มีความระมัดระวังและเริ่มตั้งคำถามกับสิ่งที่เรียกว่า "Greenwashing" หรือการที่ธุรกิจอ้างว่าตนเองเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือมีความยั่งยืน โดยปราศจากหลักฐานที่แท้จริง ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งแนวโน้ม: ทำไมความยั่งยืนจึงสำคัญ และ Greenwashing กำลังถูกจับตา?* ความตระหนักรู้ของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น: ผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z และ Millennials มีความตระหนักเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมและสังคมมากขึ้น พวกเขาพร้อมที่จะสนับสนุนแบรนด์ที่มีความรับผิดชอบต่อโลกและชุมชน และคาดหวังให้ธุรกิจทำมากกว่าแค่แสวงหาผลกำไร* การเข้าถึงข้อมูลที่ง่ายขึ้น: ด้วยอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และแนวปฏิบัติของบริษัทได้ง่ายขึ้น พวกเขาสามารถเปรียบเทียบข้อมูล, อ่านรีวิว, หรือแม้กระทั่งสืบค้นเบื้องหลังการผลิต* แรงกดดันจากสังคมและกฎหมาย: ทั้งองค์กรภาคประชาสังคมและหน่วยงานภาครัฐเริ่มให้ความสำคัญกับประเด็นความยั่งยืนมากขึ้น... ผู้บริโภคยุคปัจจุบันมีความใส่ใจในสิ่งแวดล้อมมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ตามรายงานของเอเจนซี่ Kantar ในเมืองลอนดอน ประมาณ 60% ของผู้บริโภคชาวเอเชียยินดีที่จะลงทุนเวลาและเงินมากขึ้นสำหรับบริษัทที่สนับสนุนสังคมและสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจเพิ่มเติมของ Bain and Company เผยให้เห็นว่าความท้าทายหลักๆของการใช้จ่ายอย่างยั่งยืนสำหรับผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกก็คือการที่มีข้อมูลไม่เพียงพอและความไม่เชื่อใจในคำกล่าวอ้างของแบรนด์ แบรนด์ที่ทำให้ผู้บริโภคเกิดความรู้สึกผิดเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติ หรือที่เรียกว่า greenwashing สามารถทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากต่อชื่อเสียงของแบรนด์ และที่แย่ไปกว่านั้นคือมันอาจจะไม่ใช่เจตนาของธุรกิจเสมอไป และสิ่งนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งกับธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยผลกระทบ แล้วองค์กรต่างๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะหลีกเลี่ยงหลุมพรางของ greenwashing และยึดมั่นในคำพูดของพวกเราได้อย่างไร การร่วมมือกับเอเจนซี่การตลาดที่ยั่งยืนที่มีประสบการณ์เป็นหนึ่งในวิธีที่คุณสามารถให้ความไว้วางไจได้ แต่ก็มีขั้นตอนพื้นฐานบางข้อที่คุณสามารถนำไปใช้เพื่อป้องกันก่อนได้เช่นกัน Greenwashing หรือ การฟอกเขียว มีต้นแบบมาจากคำว่า “whitewashing” เป็นคำที่เกี่ยวข้องกับการกล่าวอ้างที่เป็นเท็จหรือคลุมเครือเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์หรือบริการ สิ่งนี้จึงกลายเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดยอดนิยมสำหรับธุรกิจต่างๆ ซึ่งเริ่มมาจากการที่ผู้บริโภคมีความรักษ์โลกมากขึ้น ตัวอย่างเช่น กรณีของ Singapore Grand Prix (SGP) ที่ถูกกล่าวหาเรื่อง greenwashing เมื่อผู้จัดงานอ้างว่าการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนของพวกเขายังดำเนินการอยู่ตามที่วางแผนไว้ นักวิจารณ์ได้แย้งว่า SGP เพิกเฉยต่อปริมาณคาร์บอนจำนวนมหาศาลจากการแข่งขันรถเอง และในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ให้ข้อมูลใดๆเกี่ยวกับปริมาณก๊าซคาร์บอนที่ถูกปล่อยจริงระหว่างการแข่งขัน
ที่มา : https://www.wealthythai.com/en/updates/sustainability/15439 Greenwashing หรือ การฟอกเขียว คือ การอ้างเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่รับผิดชอบต่อสังคมและใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่อาจไม่ได้มีการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจริง โดยมีการให้ข้อมูลเท็จหรือเกินจริงหรือไม่ครบตามความเป็นจริง Greenwashing จึงเป็นอุปสรรคที่สำคัญอย่างหนึ่งของพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน รวมถึงการลงทุนอย่างยั่งยืน Greenwashing เป็นเรื่องสำคัญและเป็นเรื่องที่ต้องระวัง เนื่องจาก -การให้ข้อมูลเท็จและบิดเบือนจะทำลายความน่าเชื่อถือของระบบการเปิดเผยข้อมูล ความถูกต้องและแม่นยำของข้อมูล ซึ่งล้วนเป็นกลไกที่แสดงถึงประสิทธิภาพของตลาดในการกำหนดราคา -เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของผู้บริโภคทำให้เชื่อว่าบริษัทได้ตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และปัญหากำลังได้รับการแก้ไขที่ถูกต้องซึ่งอาจไม่ได้ลดผลกระทบจริง ความยั่งยืนกลายเป็น จุดโฟกัสที่สำคัญ สำหรับธุรกิจทั่วโลก โดยมีองค์กรที่ลงทุนใน ความคิดริเริ่มเชิงบวกต่อสภาพภูมิอากาศ แนวทางแก้ปัญหาเชิงบวกต่อธรรมชาติ และการได้รับการรับรองด้านสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลก อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มที่น่าแปลกใจเกิดขึ้น นั่นคือ บริษัทหลายแห่งเลือกที่จะ นิ่งเงียบเกี่ยวกับความพยายามเพื่อความยั่งยืนของตน.
ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “การกระซิบสีเขียว” หมายถึงบริษัทโดยเจตนา การลดความสำคัญหรือหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ความก้าวหน้าด้านสิ่งแวดล้อมของพวกเขาแม้ว่าสิ่งนี้อาจดูขัดกับสัญชาตญาณ แต่ก็มักเกิดจาก: แม้จะมีข้อกังวลเหล่านี้ แต่ธุรกิจที่ยอมรับ การสื่อสารด้านความยั่งยืนที่แท้จริงและโปร่งใส ไม่เพียงแต่สร้าง ความไว้วางใจของผู้บริโภค แต่ยัง วางตำแหน่งตัวเองเป็นผู้นำ ในการเปลี่ยนแปลงระดับโลก แนวทางแก้ไขเชิงบวกต่อสภาพอากาศและธรรมชาติ. สำหรับอุตสาหกรรมเช่น การเดินทางและการท่องเที่ยวที่นี่มี ความยั่งยืนและ การท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟู กำลังกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของนักเดินทางที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซ่อนเร้นความคิดริเริ่มด้านสิ่งแวดล้อม สามารถหมายถึง พลาดโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจและความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม. ปัจจัยหลายประการก่อให้เกิดความไม่เต็มใจที่จะสื่อสารถึงความสำเร็จด้านความยั่งยืน: “ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100%” “เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” “บรรจุภัณฑ์รีไซเคิลได้” ในยุคที่ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ใส่ใจปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แบรนด์ต่าง ๆ ก็พยายามปรับตัวและสื่อสารว่า พวกเขาก็เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา แต่เคยสงสัยไหมว่าแบรนด์ที่บอกว่ารักษ์โลกนั้น… จริงใจแค่ไหน? เบื้องหลังคำโฆษณาสวยหรู อาจมี “กับดัก” ที่เรียกว่า Greenwashing ซ่อนอยู่ ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้เข้าใจผิด แต่ยังสามารถทำลายความเชื่อมั่น ที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์จนหมดสิ้นได้ในพริบตา The BusinessSauce จะพาไปทำความรู้จักว่า Greenwashing คืออะไร พร้อมเปิด 7 สัญญาณเตือน “การฟอกเขียว” ที่ผู้บริโภคยุคใหม่ต้องรู้ทัน!
Greenwashing หรือที่หลายคนเรียกว่า “การฟอกเขียว” คือกลยุทธ์ทางการตลาด ที่บริษัทใช้เวลา ทรัพยากร และงบประมาณไปกับการสร้างภาพ ให้ตัวเองดูเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มากกว่าการลงมือทำจริง เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ในเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม หรือพูดให้ดูดี แต่ทำจริงน้อยมาก (หรือไม่ได้ทำเลย) คือการใช้คำพูดหรือรูปภาพ ที่ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด ว่าผลิตภัณฑ์หรือองค์กรนั้น ๆ มีความยั่งยืนและใส่ใจโลก ทั้งที่ความจริงแล้ว อาจจะยังคงสร้างผลกระทบทางลบ ต่อสิ่งแวดล้อมเหมือนเดิม หรือทำดีเพียงเล็กน้อยแต่โฆษณาเกินจริงไปมาก เพราะในระยะสั้น Greenwashing อาจช่วยเพิ่มยอดขายได้ แต่ในระยะยาว เมื่อผู้บริโภคจับได้ว่า สิ่งที่แบรนด์สื่อสารไม่ใช่ความจริง ความไว้วางใจที่เคยมีจะพังทลายลง การกู้คืนชื่อเสียงนั้น ยากและแพงกว่าการทำธุรกิจอย่างโปร่งใส ตั้งแต่แรกหลายเท่านัก
People Also Search
- เส้นบางของ Greenwashing: เมื่อความยั่งยืนต้องพิสูจน์ด้วยตัวเลขและข้อมูล ...
- Green Washing ข้อมูลอันตราย ทำลายระบบนิเวศความยั่งยืน
- ความยั่งยืนยังคงสำคัญ... แต่ผู้บริโภคกำลังจับตา "Greenwashing"
- Greenwashing เมื่อ ESG กลายเป็นเครื่องมือทางการตลาด เจาะลึกปัญหาองค์กร ...
- 4 วิธีในการหลีกเลี่ยง Greenwashing | PAPER & PAGE
- 11 กุมภาพันธ์ 2566 รักษ์โลกจริง…ต้องหยุด Greenwashing
- การลงทุนยั่งยืน (ESG) 4/4: "Greenwashing" คืออะไร? วิธีดูว่า "หุ้น ...
- 8 เรื่องที่ EU แบน Greenwashing & เน้นปรับปรุงข้อมูลความทนทานผลิตภัณฑ์ ...
- Greenhushing - เหตุใดบริษัทบางแห่งจึงยังคงนิ่งเฉยเกี่ยวกับความยั่งยืน ...
- Greenwashing คืออะไร? 7 สัญญาณ "ฟอกเขียว" ทำลายความแบรนด์
กรุงเทพธุรกิจศุภกร เอกชัยไพบูลย์ฝ่ายพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน 1ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การฟอกเขียวธุรกิจ หรือ Green Washing คือ การเปิดเผยข้อมูลหรือข้อความที่แสดงความเป็นมิตรต่อสังคมและ/หรือสิ่งแวดล้อมของธุรกิจที่เกินความเป็นจริง เพื่อหวังจะให้ธุรกิจสามารถขายของหรือสร้างกำไรบนความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม
กรุงเทพธุรกิจศุภกร เอกชัยไพบูลย์ฝ่ายพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน 1ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การฟอกเขียวธุรกิจ หรือ Green Washing คือ การเปิดเผยข้อมูลหรือข้อความที่แสดงความเป็นมิตรต่อสังคมและ/หรือสิ่งแวดล้อมของธุรกิจที่เกินความเป็นจริง เพื่อหวังจะให้ธุรกิจสามารถขายของหรือสร้างกำไรบนความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม ผมเชื่อว่าผู้บริโภคยุคนี้รับรู้ได้ว่าข้อมูลแบบไหนที่เน้นขายบนค...
แต่ผู้บริโภคกำลังจับตา "Greenwashing"ในโลกธุรกิจปัจจุบัน ความยั่งยืน ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำศัพท์ที่น่าสนใจอีกต่อไป แต่กลายเป็นแกนหลักในการดำเนินธุรกิจที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางกระแสความตื่นตัวนี้ ผู้บริโภคก็มีความระมัดระวังและเริ่มตั้งคำถามกับสิ่งที่เรียกว่า "Greenwashing" หรือการที่ธุรกิจอ้างว่าตนเองเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือมีความยั่งยืน
แต่ผู้บริโภคกำลังจับตา "Greenwashing"ในโลกธุรกิจปัจจุบัน ความยั่งยืน ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำศัพท์ที่น่าสนใจอีกต่อไป แต่กลายเป็นแกนหลักในการดำเนินธุรกิจที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางกระแสความตื่นตัวนี้ ผู้บริโภคก็มีความระมัดระวังและเริ่มตั้งคำถามกับสิ่งที่เรียกว่า "Greenwashing" หรือการที่ธุรกิจอ้างว่าตนเองเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือมีความยั่งยืน โดยปราศจากหลักฐานที่แท้จริง ...
ที่มา : Https://www.wealthythai.com/en/updates/sustainability/15439 Greenwashing หรือ การฟอกเขียว คือ การอ้างเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่รับผิดชอบต่อสังคมและใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่อาจไม่ได้มีการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจริง โดยมีการให้ข้อมูลเท็จหรือเกินจริงหรือไม่ครบตามความเป็นจริง
ที่มา : https://www.wealthythai.com/en/updates/sustainability/15439 Greenwashing หรือ การฟอกเขียว คือ การอ้างเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่รับผิดชอบต่อสังคมและใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่อาจไม่ได้มีการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจริง โดยมีการให้ข้อมูลเท็จหรือเกินจริงหรือไม่ครบตามความเป็นจริง Greenwashing จึงเป็นอุปสรรคที่สำคัญอย่างหนึ่งของพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน รวมถึงการลงทุนอย่างยั่งยืน Greenwashing เป็นเรื่องสำคัญแ...
ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “การกระซิบสีเขียว” หมายถึงบริษัทโดยเจตนา การลดความสำคัญหรือหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ความก้าวหน้าด้านสิ่งแวดล้อมของพวกเขาแม้ว่าสิ่งนี้อาจดูขัดกับสัญชาตญาณ แต่ก็มักเกิดจาก: แม้จะมีข้อกังวลเหล่านี้ แต่ธุรกิจที่ยอมรับ การสื่อสารด้านความยั่งยืนที่แท้จริงและโปร่งใส ไม่เพียงแต่สร้าง ความไว้วางใจของผู้บริโภค
ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “การกระซิบสีเขียว” หมายถึงบริษัทโดยเจตนา การลดความสำคัญหรือหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ความก้าวหน้าด้านสิ่งแวดล้อมของพวกเขาแม้ว่าสิ่งนี้อาจดูขัดกับสัญชาตญาณ แต่ก็มักเกิดจาก: แม้จะมีข้อกังวลเหล่านี้ แต่ธุรกิจที่ยอมรับ การสื่อสารด้านความยั่งยืนที่แท้จริงและโปร่งใส ไม่เพียงแต่สร้าง ความไว้วางใจของผู้บริโภค แต่ยัง วางตำแหน่งตัวเองเป็นผู้นำ ในการเปลี่ยนแปลงระดับโลก แนวทางแก้ไขเชิงบวกต่อสภ...
Greenwashing หรือที่หลายคนเรียกว่า “การฟอกเขียว” คือกลยุทธ์ทางการตลาด ที่บริษัทใช้เวลา ทรัพยากร และงบประมาณไปกับการสร้างภาพ ให้ตัวเองดูเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มากกว่าการลงมือทำจริง เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
Greenwashing หรือที่หลายคนเรียกว่า “การฟอกเขียว” คือกลยุทธ์ทางการตลาด ที่บริษัทใช้เวลา ทรัพยากร และงบประมาณไปกับการสร้างภาพ ให้ตัวเองดูเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มากกว่าการลงมือทำจริง เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ในเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม หรือพูดให้ดูดี แต่ทำจริงน้อยมาก (หรือไม่ได้ทำเลย) คือการใช้คำพูดหรือรูปภาพ ที่ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด ว่าผลิตภัณฑ์หรือองค์กรนั้น ๆ มีความยั่งยืนและใส่ใจโลก ทั้งที่ความจร...